เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่300 ยอมโดนสามดาบก็อย่าแหย่เฉินห้าว
“ประธานเฉินครับ ถอยหลังไปหน่อย พวกเราจะให้ความคุ้มครอง!”
ยามพวกนี้สนิทกับเฉินห้าวมาก ทักทายกันบ่อย พอเห็นว่ามีเรื่องกับคนอื่น ย่อมต้องออกมาปกป้อง
และหัวหน้ายามกำลังใช้วอ ติดต่อยามคนอื่นๆให้มารวมตัว ทั้งตึกมียามมาอยู่เวรยี่สิบกว่าคน และก็พนักงานชายอีกนับร้อย ล้วนเป็นเกราะกำบังอย่างแข็งแรงให้เฉินห้าว ใครกล้าแตะประธานเฉิน ก็ต้องผ่านด่านพวกเขาไปก่อน
“ประธานหลี่ นี่ นี่เราสู้ไม่ได้หรอก”
วัยรุ่นพวกนั้นถูกเรียกรวมตัวมา ไม่ใช่คนเมืองไป๋เหอ เลยไม่รู้จักเฉินห้าว ถ้าเป็นพวกนักเลงท้องถิ่น แค่รถที่เฉินห้าวขับ อาคารโจวซื่อที่อยู่ ก็รู้ถึงสถานภาพของเขาแล้ว บนยุทธภพมีแต่ตำนานของเฉินห้าว
ถึงขนาดมีคำคมที่ว่า“ยอมโดนสามดาบ ก็อย่าแหย่เฉินห้าว” เห็นได้ชัดว่าเป็นความกริ่งเกรงต่อเฉินห้าว เอานักเลงหัวไม้ทั้งเมืองมารวมกัน พี่ชีตาร์ พี่งู พี่วัว เป็นกลุ่มก้อน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะมาต่อกรกับเฉินห้าวได้ น่าเสียดาย คนภายนอกพวกนี้ยังไม่รู้จักชื่อเสียงของเขา
ดูท่าการพังรถคงใช้ไม่ได้แล้ว หลี่ฉางเจียงได้แต่ยอมจำนน พอพวกวัยรุ่นพวกนั้นถอยออกไป เขาจึงแค่นเสียงพูด“แกคิดว่ายามไม่กี่คนนี้ก็หลบได้ตลอดชาติหรือไง เชื่อไหมแค่คำพูดฉันคำเดียวก็ทำให้บริษัทแกไปต่อไม่ได้!”
เฉินห้าวได้ฟัง รู้สึกสนใจ รีบขึ้นหน้ารับ“ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเปิดต่อไม่ได้อย่างไร เริ่มการแสดงของแกเลย!”
เหมือนกับเด็กที่อยากเล่นสงครามกับผู้ใหญ่ เฉินห้าวไม่ได้รู้สึกโดนลบหลู่ แต่รู้สึกเหมือนโดนท้าให้เล่นสนุก ก็อย่ากรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะยังไง อาจจะทำให้เขาขำก็ได้
เพราะงี้ เฉินห้าวเลยยื่นนามบัตรตัวเองให้ ด้านบนเขียนว่า“เฉินห้าวผู้จัดการใหญ่ บริษัทการค้าห้าวหราน”เขาพยายามเปิดเผยตัวตนเต็มที่
“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ รอเดี๋ยว!”
หลี่ฉางเจียงดูเหมือนจะกัดเฉินห้าวไม่ปล่อยแน่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
“เหล่าหู ข้าเอง ช่วยจัดการคนๆหนึ่งให้หน่อย ซื้อบริษัท ชื่อบริษัทการค้าห้าวหราน เถ้าแก่ชื่อเฉินห้าว”
ดูเหมือนเขาจะโทรหาผู้ใหญ่สักคน
เหล่าหูก็ให้ความร่วมมือดี พูดว่า“เรื่องเล็ก ขอที่อยู่ เดี๋ยวข้าไป ไปตรวจสอบการบริหารหน่อย ว่าหนีภาษีอะไรไหม รับรองจะกำให้ตาย”
“อยู่อาคารโจวซื่อ ชั้น18”หลี่ฉางเจียงพูดกับมือถือ
ส่วนเฉินห้าวเหมือนกับดูละครตลก ดูพวกเขาแสดง
“ว่าไงนะ อยู่ไหน พูดอีกที”เหล่าหูถามตะลึง น้ำเสียงสูงไปแปดระดับ
“อาคารโจวซื่อ ดูแล้วค่อนข้างหรูอยู่”หลี่ฉางเจียงพูด
เหล่าหูพูดไม่สบอารมณ์“แกดื่มมากไปป่าววะ ให้ข้าไปตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่อาคารโจวซื่อ ต่อให้เป็นผู้ว่ายังต้องคิดหนัก”
“ข้าก็รู้ว่าบริษัทในโจวซื่อมีแต่บริษัทใหญ่ แต่ไอ้นี่มันแค่เช่าพื้นที่เล็กๆในนั้น ไม่ได้เป็นบริษัทลูกของโจวซื่อ”
“แกยังไม่รู้ตัวอีก ส่วนมากบริษัทที่อยู่ในนั้นมีเส้นทั้งนั้นแหละ พาคนไปเท่ากับตบหน้าโจวซื่อชัดๆ ข้ายังอยากอยู่อีกหลายปีนะว้อย แกไปหายอดฝีมือคนอื่นเถอะ”
เหล่าหูวางสาย คิดว่าคงด่า“เย็ดแม่ง”อยู่ลับหลัง คนเล็กๆคนหนึ่ง เสือกอยากเขย่าต้นไม้ใหญ่ ไม่เจียมตัว
“เฉินห้าว มีอะไรคะ”
จู่ๆ เสียงโจวซีถงก็ดังมาจากข้างหลัง สวมสูทOLสีเทา ดูแล้วอรชร
จุดนี้เฉินห้าวพูดได้มากที่สุด เขาเคยลองหลายครั้งแล้ว ราคาของจริงๆก็เหมือนกับA4
“ประธานโจว!”
ยามยี่สิบกว่ายืนตรงทำความเคารพ การยืนแบบนี้ทำให้สองอาหลานตระกูลหลี่ตกใจ ธุรกิจน้อยๆของพวกเขา ไม่มียามอะไรแบบนี้หรอก
ที่แท้โจวซีถงเห็นตอนที่เฉินห้าวรับโทรศัพท์แล้วจงใจปลีกตัว ก็รู้ว่าต้องมีเรื่อง เลยให้ซูลี่ผู้ช่วยสาวสืบดู ก็เห็นภาพแบบนี้ เธอผู้ไม่วางใจ ต้องมาดูด้วยตนเองแน่นอน
“ไม่มีไร ดูพวกเขาแสดง”เฉินห้าวพูดเสียงเรียบ
นี่ทำให้หลี่ฉางเจียงโกรธแทบบ้า พวกเขาข่มบารมีตั้งนาน ในสายตาเฉินห้าวคือแค่การแสดงเองเหรอ
แต่แผนของเขาผิดคาด ไม่ว่าจะหานักเลงวัยรุ่นหรือเจ้าหน้าที่อาวุโสอย่างเหล่าหู ก็เอาเฉินห้าวไม่อยู่ ตอนนี้เหมือนขี่หลังเสือแล้วลงไม่ได้ ถ้าไม่ขี่ต่อไป ก็ต้องหนีกลับเข้าป่า
แต่วิทยายุทธ์บุ๋นบู๋ที่เขานำมาใช้ได้ เขานำมาใช้หมดแล้ว เฉินห้าวเห็นไปหมดแล้ว ตอนนี้คิดไม่ออกว่าจะใช้ไม้ไหนดี ได้แต่ปล่อยตามสถานการณ์ ทิ่งคำพูดเผ็ดร้อนไว้ เพื่อรักษาหน้า
“งั้นแกคอยดู ช้าเร็วต้องมาจัดการแก ให้บริษัทแกล้มละลาย!”หลี่ฉางเจียงพูดคำชู่
เฉินเจี๋ยหัวเราะ คำพูดนี้ไม่มีน้ำหนัก ถ้าพลิกกลับมาให้เขาเป็นคนพูดค่อยเป็นอีกเรื่อง
เฉินห้าวรังเกียจที่ฝ่ายตรงข้ามรสนิยมต่ำ จึงไม่ใส่ใจ แต่โจวซีถงในฐานะแฟนสาวของเฉินห้าว ประธานบริหารจองโจวซื่อ กลับรู้สึกขวางหูขวางตา
กล้าคุกคามแฟนเธอต่อหน้า เธอทนดูไม่ได้ ความทระนงของผู้บริหารผุดขึ้นในใจ จึงเดินขึ้นหน้าพูด“คุณผู้ชายท่านนี้ เมื่อกี้คุณตอกย้ำบริษัทการค้าห้าวหรานใช่ไหม”
“ใช่ๆ ผมมีความแค้นกับหนุ่มแซ่เฉินคนนั้น ไม่เกี่ยวกับโจวซื่อของคุณ!”
หลี่ฉางเจียงเองก็รู้ว่าโจวซื่อแหย่ไม่ได้ จึงรีบพูดชัดเจน
และแล้วเขาคิดผิด ผิดมหันต์ เขาคิดไม่ถึงว่าโจวซื่อกับห้าวหรานจะเป็นบ้านรั้วเดียวกัน ผู้บริการสองบริษัทเคย“สื่อสาร”ข้ามคืนกันมาก่อน เป็นการร่วมมืออย่าแนบแน่น สะท้านไปทั่วร่าง