เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน - ตอนที่ 6
6.ข้ามิได้
คิดไม่ถึงว่าบริเวณหลังเขาจะสร้างความประหลาด ใจให้ตนได้มากมายปานนี้
เพราะนานมากแล้วที่ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ ใต้ต้นไม้ในป่ามีเห็ดขึ้นหนาแน่นชุกชุม
ซึ่งยังไม่มีคนเก็บเอาไป สำหรับหลิ่วเจิน เรื่องนี้บอกเลยว่า เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อมีรอดชีวิต นางรีบปรี่เข้าไปใต้ต้นไม้อย่างไว นอกจากนี้ มิใช่จะมีแต่เห็ดให้เก็บเท่านั้น ยังมีถั่วฝักยาวแทงต้นอ่อนขึ้นกระจายไปทั่ว รวมทั้งมันฝรั่งที่ขึ้นมาให้เห็นบนผิวดิน นางไม่คิดฝันว่าตนจะได้มาพบเรื่องน่ายินดีเช่นนี้
เท่าที่มองไป
พวกมันมีมากมายจนเก็บไม่หมดในคราวเดียวเป็นแน่
ของพวกนี้มีเพียงพอให้คนสองคนเอาชีวิตรอดผ่า
นพ้นฤดูหนาวนี้อย่างแน่นอน
ซึ่งส่งผลให้หลิ่วเจินถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตระกร้าไม้ไผ่สานที่สะพายอยู่บนหลังหญิงสาว ครานี้อัดแน่นด้วยของกินที่เก็บมาจนเต็ม แผ่นหลังนางหนักอึ้งเสียจนแทบลุกไม่ขึ้นงานหนักในชาติภพก่อนหญิงสาวก็เคยผ่านมาแล้ว
แต่เหตุใดนางถึงต้องมาเหน็ดเหนื่อยเพื่อสิ่งเล็กน้อ ยเช่นนี้ด้วยนะ แม้จะนึกบ่นอยู่ในใจ แต่หญิงสาวก็ยังคงกัดฟันลุกขึ้นยืน และอาจเป็นพราะสวรรค์อยากให้รางวัลแด่คนทำง านหนักด้วยกระมัง ในตอนขากลับ นางได้เจอโสมภูเขาสองต้นอย่างไม่คาดฝัน ของสิ่งนี้ไม่ว่าจะนำไปขายหรือเพื่อบำรุงสุขภาพ ล้วนดีเลิศทั้งนั้น
หลังเดินง่วนอยู่บนเขามาร่วมหนึ่งวันเต็ม ยามสาวลงถึงตีนเขาในตอนขากลับ
ท้องฟ้าก็มืดแล้ว
ข้อดีคือไม่ต้องกลัวคนเห็นที่ตนแบกของกลับมาเป็
นอันมาก มิใช่ว่าหลิ่วเจินจะเป็นคนเห็นแก่ตัว เพียงแต่ของกินเหล่านี้หากถูกผู้คนล่วงรู้เข้า
แล้วเอ่ยปากขอแบ่ง
ชีวิตข้างหน้าของทั้งสองคงลำบากเป็นแน่
และยังอาจถูกผู้คนเพ่งเล็งคอยจับตามองอีกด้วย
กู้หรูเฟิงได้ยินเสียงคนเดินนอกบ้าน
จึงรู้ว่าหลิ่วเจินกลับมาแล้ว หากเป็นเมื่อก่อน เวลามีใครออกจากบ้าน
ชายหนุ่มคงมิมานั่งรอคนกลับมาเป็นแน่แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางกลับมาจากขึ้นเขา เมื่อเห็นคนกลับมาแล้ว จึงคลายใจลง
หลังออกนอกบ้านไปทั้งวัน หลิ่วเจินรู้สึกหิวจนแสบท้อง นางปาดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วเอ่ยขึ้น “ข้าจะไปทำอาหาร ท่านรอสักครู่ ประเดี๋ยวก็ได้กินแล้ว”
กู้หรูเฟิงมีสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย
วันนี้นางไม่ก่นด่า นี่มันต่างจากหลิ่วเจินที่เขารู้จักแบบหน้ามือเป็นหลั งมือ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แต่กลับดูเยือกเย็นและอ่อนโยนที่เดียว
นางกำลังเล่นเล่ห์อันใดกัน?
เมื่อสำรับถูกยกมาถึง ชายหนุ่มมองดูเห็ด
มันฝรั่ง และถั่วฝักยาว
เขามองดูยาพิษทั้งหลายที่วางอยู่เต็มโต๊ะ จึงได้เข้าใจในที่สุด เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาเงียบๆ พลางรำพึงในใจว่า
ท่าทีของนางต่อข้าดีขึ้นอะไรกัน
ก็ดีแก่ช่วงก่อนขึ้นเขาเท่านั้นแหละ
หลิวเจินมิได้สังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายหญิงสาวยอมรับว่าตนเองหิวมาก
จึงรีบลงมือกินโดยพลัน แต่พอเอื้อมมือไปเท่านั้นแหละ กู้หรูเฟิงก็ยึดมือนางไว้ พลางกล่าวเสียงเรียบ “ข้าจะกินอันนี้ เจ้าจะกินอะไรเหรอ ?”
หลิ่วเจินทำหน้างุนงงเล็กน้อย ไฉนเข้าไม่ให้นางกินของที่นางอุตส่าห์บากบั่นไปเ
อามาเล่า?
ชายหนุ่มกินเห็ดเข้าไปคำใหญ่ ซึ่งมีรสชาติคล้ายเนื้ออยู่บ้าง แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงกลืนลงไปไม่ได้สักที แต่ในที่สุดเขาก็ฝืนกลืนมันลงไปได้ จากนั้นจึงยิ้มให้อีกฝ่าย
“ท่านแม่ข้าเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่ในเมืองหล วง ทว่าท่านก็สามารถเข้าครัวปรุงอาหารเป็น นั่นเป็นเพราะนางรักท่านพ่อข้ามาก และบรรดาคุณหนูใหญ่ซึ่งถูกครอบครัวประคบปร ะหงม ก็เข้าครัวปรุงอาหารเป็นด้วย ข้าคิดเสมอว่าสามีภรรยาคงเป็นเช่นนั้น
คงรักใคร่ซึ่งกันและกัน ข้าแต่งกับเจ้า ทว่ามิได้รักเจ้า มันช่างไม่ยุติธรรมกับเจ้าเลย ข้าเคยได้ยินคำกล่าวว่า การเป็นหนี้แค้นต่อกัน จะทำให้คนทั้งสองผูกพันกันต่อไปในชาติหน้า ข้ามิได้ชั่งเจ้า เจ้าก็เลิกชังข้าได้หรือไม่?”
และชาติหน้าฟ้าใด เราสองอย่าได้พบพานกันอีกเลย
หลิ่วเจินพยักหน้ารับคำเงียบๆ นางเอื้อมมือข้างที่ถูกชายหนุ่มยึดไว้ไปที่มันฝรั่ง อีกฝ่ายจึงพูดเสียงขรึม
“อาหารที่เหลือมีเพียงพอให้เจ้ากินตลอดฤดูหนาว ดังนั้นข้าขอให้เจ้าจงมีชีวิตอยู่ต่อไป
หลังจากข้าตาย
เจ้ามีเหตุผลสมควรที่จะแต่งงานใหม่ ก็แต่งได้ จงอย่าได้ละอาย รวมทั้งไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ”
“ท่านเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?”หลิ่วเจินรู้สึกอยู่ ว่า อีกฝ่ายดูแปลกๆไป หญิงสาวปัดมือมือของฝ่ายตรงข้ามโดยไว แล้วคืบมันฝรั่งเข้าปาก