เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร - ตอนที่ 33
ภายในกระท่อมกลางป่า ตอนนี้จางหมาจื่อกำลังนอนกอดกับสาวสวยคนหนึ่ง เอาหน้าซุกเข้าไปข้างๆข้อหล่อน แล้วยิ้มตาหยีเอ่ย“เสี่ยวชุ่ยจ๋า คิดถึงจะตายแล้วเนี่ย เธอคิดถึงฉันไหม?”
“ตาบ้า ใครจะไปคิดถึงผู้ชายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงอย่างนายล่ะ ไปเลยนะ”เสี่ยชุ่ยใช้นิ้วจิ้มไปที่จางหมาจื่อหนึ่งที แล้วผลักเขาออกไปอย่างเหนียมอาย
จางหมาจื่อดึงตัวเธอไว้ แล้วพูดอย่างหน้าด้าน“ฉันล้อเล่นกับความรู้สึกผู้หญิงยังไง ขอแค่ต่อจากนี้ไปเธอยอมคบกับฉัน ฉันรับประกันว่าเธอจะได้กินอยู่อย่างอิ่มหนำสำราญแน่”
“นายเนี่ยนะ จนก็จน ตกยังไม่มีกลิ่นเลย สักแต่พูดไพเราะแต่ไม่จริงใจ ฉันไม่หลงกลนายหรอกนะ นายดูผู้ชายคนอื่นสิ หน้าที่การงานก้าวหน้าขนาดไหน อยากจะให้ฉันคบกับนาย นายก็ต้องทำให้ฉันดูก่อนสิ”เสี่ยวชุ่ยทำปากมุ่ย อย่างกล่าวโทษ
จางหมาจื่อไม่คิดอย่างนั้น เขาทุบหน้าอกแล้วพูดออกไปว่า“ล้อเล่นหน่า นั่นมันเป็นเมื่อก่อนต่างหาก ตอนนี้กูไม่ได้เป็นเหมือนเดิมแล้วนะเว่ย แค่เงินเองไม่ใช่หรอ กูมีอยู่แล้ว”
พูดจบ จางหมาจื่อก็ล้วงเงินเป็นฟ่อนออกมา แล้วสะบัดไปมา“เธอดูสิว่านี่คืออะไร?”
เสี่ยวชุ่ยที่เห็นดังนั้น ดวงตาเบิกกว้าง ยื่นมือไปรับไว้ จางหมาจื่อรีบดึงกลับไป
“โอ้โห นายให้ฉันดูก่อนสิว่ามันมีเท่าไหร่”เสี่ยวชุ่ยใช้มือทุบไปที่จางหมาจื่อ
“ให้เธอก็ได้ แต่ต้องให้กูจูบให้พอใจก่อน นี่จะเป็นของเธอทั้งหมด”จางหมาจื่อเริ่มได้ใจขึ้นมา ขยับปากเข้าไปใกล้
เสี่ยวชุ่ยครั้งนี้ไม่ได้ปฏิเสธ ยินยอมให้เขากระทำทั้งหมด เอาเปรียบแต๊ะอั๋งเธอไม่ใช่น้อย มองดูเงินแล้วพูดขึ้นมาว่า“ผู้ชายบ้า นายไปเอาเงินเยอะขนาดนี้มาได้ยังไง?ไม่ได้ไปปล้นหรือแย่งมาใช่ไหม?”
“กูเป็นคนแบบนั้นหรอวะ นี่มันแค่เล็กน้อย จากนี้ไปจะมีเยอะกว่านี้อีก ช่วงนี้กูโชคดีน่ะ ทำงานกับเถ้าแก่ใหญ่ นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น มาสิ มาให้ฉันจุ๊บอีกทีหนึ่ง”จางหมาจื่อพูดจบก็กัดไปที่เธอหนึ่งคำ หลังจากนั้นก็ยัดเงินเข้าไปในคอเสื้อของเสี่ยวชุ่ย ยังอาศัยจังหวะนี้ล้วงจับด้วย
เสี่ยวชุ่ยใบหน้าแดงก่ำ ล้วงเอาเงินออกมา แล้วปล่อยตัวให้จางหมาจื่อล้วงจับแตะต้องได้เต็มที่ อีกด้านก็เงินออกมานับ แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างตกใจ“มีอนาคตจริงๆด้วยแฮะ แต่นี่มันก็ไม่ได้เยอะเลยนะ จากนี้ไปคงจะหาเงินได้เยอะจริงๆใช่ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว นี่เป็นแค่เงินค่าขนม เถ้าแก่ฉันพูดมาแล้ว ว่าถ้ากูทำงานเรียบร้อย ยังจะได้รางวัลมากกว่านี้อีก หยุดพูดเรื่องพวกนี้ได้แล้วหน่า ฉันคิดถึงเธอจะตายอยู่แล้ว”จางหมาจื่อรั้งเอวของเสี่ยวชุ่ยเข้ามากอดไว้ แล้วจัดการมุดเข้าไปในผ้าห่ม เริ่มกิจกรรมกันทันที
เวลานี้เองมีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องอยู่ตรงหน้าต่าง คือเอ้อนิ้วนั่นเอง เขากะพริบตาปริบๆ มองเห็นแกนี้ แล้วยิ้มอย่างชั่วร้ายหันหลังกลับไปวิ่งไปข้างนอกทันที
“พี่หยาง ผมเห็นแล้ว ไอ้หมาจางหมาจื่อกำลังบรรเลงเพลงรักกับคนรู้จักของมันอย่างสนุกสนาน ทำยังไงดีครับ?”เอ้อนิ้วพูดอย่างขำขัน
เซี่ยหยางดับบุหรี่ พูดประโยคหนึ่งแล้วเดินจากไป พุ่งตัวออกไปทันที
ปึ้ง……
เสียงดังลั่น ประตูไม้บานนั้นถูกเซี่ยหยางถีบออกอย่างแรง หลังจากนั้นก็เห็นจางหมาจื่อกับเสี่ยวชุ่ยโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มอย่างทำอะไรไม่ถูก หลังจากนั้นก็มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้น
จางหมาจื่อเบิกตากว้าง แล้วพูดขึ้นอย่างกราดเกรี้ยว“แม่งเอ่ยให้ตายสิ พวกแกมาได้ยังไงวะ ไสหัวไปเลยนะเว่ย ไม่เห็นรึไงว่ากูกำลังทำภารกิจน่ะฮ่ะ ไม่มีตารึไง?”
เซี่ยหยางที่มองออกไปข้างนอกแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย“จางหมาจื่อ รีบไปกับพวกเราเถอะ เดี๋ยวจะเจ็บตัวเปล่าๆ”
“แม่งเอ้ย กูเอามึงตายแน่”จางหมาจื่อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คว้าแก้วใบหนึ่งที่อยู่ตรงหัวเตียงโยนไปทางเซี่ยหยางทันที เซี่ยหยางหลบเล็กน้อย แก้วถูกปาลงพื้นจนแตก
จางหมาจื่อรีบกระโดดขึ้นมาจากเตียง ทั้งเนื้อทั้งตัวเปลือยเปล่า ไม่สนใจอะไรอีก กัดฟันกรอด แล้วพุ่งตรงไปยังเซี่ยหยาง
เซี่ยหยางที่ยังไม่ได้ใช้กำลัง ได้ยินแค่เสียงอื้ออึง เอ้อนิ้วพุ่งชนเข้าไป จางหมาจื่อกระเด็นไปไกลหลายโยด ชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง เซไปเซมาหลายที จากนั้นก็ฟุบไปกับพื้นทันที
“หมาเxด กูจะสู้กับมึงให้รู้ดำรู้แดงไปเลย”จางหมาจื่อด่ากราด ในตอนที่กำลังจะลุกขึ้นมานั้น เอ้อนิ้วกระโดดตัวเข้าไป แล้วนั่งลงบนตัวของเขา จัดการตบไปที่หน้าเขาหลายครั้ง
“ยังจะอวดดีอีก ให้มันรู้ไปว่าฉันเป็นใคร จะได้รู้ว่าผิดใจกับพี่หยางจะมีสภาพยังไง แกบอกมาสิว่าพี่หยางปฏิบัติกับแกยังไง แกถึงทำร้ายเขา วันนี้แกได้กินไม่หมดแอบห่อกลับแน่(เปรียบเทียบกับการ ก่อเรื่องไม่ดีหรือทำให้เกิดเรื่องไม่ดี จำต้องแบกรับ รับผลที่ตามมา)”เอ้อนิ้วที่ต่อยไปด้วยกล่าวโทษไปด้วย ศีรษะของจางหมาจื่อสั่นคลอนไม่หยุด ผ่านไปไม่นานใบหน้าจมูกก็บวมเป่ง
“หยุดต่อยได้แล้ว พวกนายอย่าทำร้ายเขานะ”เสี่ยวชุ่ยเอาผ้าห่มมาปิดบังร่างกาย ทำให้เผยให้เห็นถึงไหล่อันขาวเนียน เธอกรีดร้องขึ้นมาด้วยความอับอายและกระวนกระวาย
“ทำไม ปวดใจหรอ นังผู้หญิงหน้าไม่อาย อยู่ดีๆ เป็นแม่หม้ายดีๆไม่ชอบ แต่มาหว่านเสน่ห์ผู้ชายเส็งเคร็งแบบนี้เนี่ยนะ?น่าสงสารจริงๆเลย”เอ้อนิ้วกล่าวตำหนิ และถอนหายใจ
เสี่ยวชุ่ยกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อล้น และเริ่มเอาหน้าซุกผ้าห่มและร้องไห้อย่างหนัก
“นี่ๆ ร้องไห้ทำไม?”เอ้อนิ้วเกาหัวแกรกๆ แล้วมองไปทางเซี่ยหยาง“พี่หยาง ผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญชะมัด ผมพูดผิดตรงไหน?”
เซี่ยหยางอดที่จะขมวดคิ้วเป็นผมไม่ได้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วกลอกตาให้กับเสี่ยวชุ่ย โยนเสื้อผ้าไปที่เตียง พลางพูดขึ้นมาว่า“สวมซะ เราไปคุยกันข้างนอก”
จางหมาจื่อทั้งเกรงทั้งกลัว ร่างสั่นเทา กว่าจะใส่เสื้อผ้าได้ เขามองไปที่เสี่ยวชุ่ยที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ อ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พูดอะไรไม่ออก ดึงประตูแล้วปิดลง จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอก
“อย่าขยับนะยืนนิ่งๆ อย่าตุกติกล่ะ”เอ้อนิ้วถีบจางหมาจื่อไปหนึ่งครั้ง
“พะ พวกแกจะทำอะไรห้ะ อย่าทำร้ายฉันนะ”จางหมาจื่อกุมหัวไว้ แล้วตะโกนนขึ้นมาอย่างร้อนรน
“ไม่ตีแกก็ได้ พูดสิ่งที่แกทำมาให้หมด ฉันถึงจะคิดดูอีกครั้ง”เซี่ยหยางพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน
จางหมาจื่อยังแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง พูดขึ้นมาว่า“ฉันทำอะไร?พวกแกซ้อมฉันทำไมฉันยังไม่รู้เลย”
“แม่งเอ้ย มึงยังจะแถอีก”สิ้นเสียงของเอ้อนิ้ว เขาก็ได้ส่งข้อศอกกระแทกออกไป จางหมาจื่อถึงกับล้มหัวปักพื้น หลังจากนั้นเอ้อนิ้วก็กระชากเขาขึ้นมา ต่อยไปที่ท้องหลายหมัด จางหมาจื่อร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด
เซี่ยหยางคิดไม่ถึงว่าเอ้อนิ้วจะโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ มองดูจางหมาจื่อที่น่าสงสาร พลางพูดขึ้นมาว่า“จางหมาจื่อ เอ้อนิ้วโกรธขึ้นมา แม้แต่วัวสองตัวก็ฉุดไม่อยู่นะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้ชื่อว่าเอ้อนิ้วหรอก นายบอกความจริงมาดีกว่า ถ้าถูกซ้อมสาหัสกว่านี้คงไม่ไหวหรอก ผู้หญิงของนายยังรอในห้องอยู่นะ”
“ฉะ ฉันพูดก็ได้ ฉันขอร้องพวกนายล่ะ ฉันเจ็บมากจริงๆ”ในที่สุดจางหมาจื่อก็พ่ายแพ้ แล้วเริ่มขอร้องอ้อนวอน
เซี่ยหยางส่งสายตาให้เอ้อนิ้ว เอ้อนิ้วรีบปล่อยจางหมาจื่อทันที แล้วถีบเขาไปหนึ่งครั้ง พลางพูดขึ้นมาว่า“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นกูจะฉีกปากมึงให้ขาดแน่”
“ฉันรู้ว่าพวกนายมาเพราะเรื่องเมล็ดพันธุ์ ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนทำเอง”จางหมาจื่อยอมปริปาก
“ยอมรับก็ดี นายคงไม่มีความกล้านี้หรอก ใครเป็นคนสั่งการนาย?”เซี่ยหยางพูดอย่างโกรธเคือง
จางหมาจื่อเงยหน้าขึ้นมามองเซี่ยหยาง สายตาหลอกแหลก แล้วพูดอย่างอ้ำอึ้ง“ฉันเป็นคนทำเองทั้งหมด”
“กูบอกให้มึงพูดความจริงไงวะ อยากตายรึไง”เอ้อนิ้วเงื้อมือขึ้นเตรียมตบลงไป
จางหมาจื่อกลัวจนหัวหด แล้วพูด“ฉันเป็นคนทำเองจริงๆ ไม่มีใครสั่งทั้งนั้น ฉันแค่เห็นพวกแกมีเงิน แล้วเกิดอิจฉาริษยา เลยจัดการกับเมล็ดพันธุ์พวกนั้น ถ้าไม่เชื่อ ที่บ้านฉันยังมียานะ”
“ฉันไม่เชื่อ ว่าคนอย่างนาย จะรู้ว่าสารเคมีคืออะไร?”เซี่ยหยางส่ายหัวไปมา
เอ้อนิ้วพูดบ้าง“จริงด้วย มึงอ่านหนังสือไม่เป็นสักตัว จะไปรู้อะไรห้ะ พี่หยางของฉันเรียนหนังสือมานะเว่ย แกหลากเขาไม่ได้หรอก”
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม จางหมาจื่อดูเหมือนจะปิดปากแน่น ไม่ยอมรับว่าใครเป็นคนสั่งการ
เวลานี้เองเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเสี่ยวชุ่ยดังลั่นออกมา เธอสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว จึงรีบพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจ“พวกนายปล่อยเขาไปเถอะ อย่ากดดันเขาอีกเลยนะ?”
เซี่ยหยางมองไปที่เสี่ยวชุ่ย จึงคิดแผนการขึ้นมา ส่งสายตาไปที่เอ้อนิ้ว
เอ้อนิ้วเข้าใจในทันที ดูเหมือนจะโหดเหี้ยมขึ้นมาเรื่อยๆ หยิบก้อนหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง กดไว้บนตัวของจางหมาจื่อ แล้วพูดพลางเล็งไปที่เป้ากางเกง“ถ้าแกไม่พูด กูจะจัดการน้องมึงซะ ดูสิว่าต่อไปแกจะมีความสุขกับเสี่ยวชุ่ยยังไง”
“พะ พวกแกจะทำอะไรน่ะ?”จางหมาจื่อตื่นตระหนก รีบยื่นมือมากุมไว้
“ทำอะไรน่ะเหรอ?กูดูในทีวีไม่รู้ว่าขันทีเขาทำกันยังไง กูรู้สึกสงสัยมาก วันนี้กูจะทำให้มึงเป็นขันทีเดี๋ยวนี้แหละ แกว่ายังไงล่ะ?”เอ้อนิ้วพูดพลางเงื้อก้อนหินที่อยู่ในมือขึ้นเตรียมจะทุบลงไป
จางหมาจื่อร้องตกใจอย่างโหยหวน รีบตะโกนขึ้นมาอย่างรีบร้อน ปัสสาวะกับอุจจาระโพยพุ่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว“ฉันพูดแล้ว ฉันจะพูดทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนจู้เป็นคนทำ เขาเป็นคนสั่งการฉันเอง”
“หวังหยุนจู้อีกแล้วเหรอ พี่หยาง ไอ้ผู้ใหญ่บ้านหมาเxดอยากตายใช่ไหม”เอ้อนิ้วพูดอย่างโกรธเคือง
เซี่ยหยางหัวเราะ แล้วส่ายหน้าพูดขึ้นมาว่า“กลัวว่าหวังหยุนจู้คงจะไม่มีกำลังหรอก จางหมาจื่อแกยังไม่ยอมพูดความจริงอีกใช่ไหม?เอ้อนิ้ว ทุบต่อ”
เอ้อนิ้วไม่เกรงใจอีกต่อไป สายตามองไปที่ก้อนหินแล้วจัดการทุบลงไป จางหมาจื่อร้องตะโกนเหมือนหมูโดนเชือด“ฉันผิดไปแล้ว ไม่ใช่หวังหยุนจู้มันเป็นจางฝู้กุ้ยเศรษฐีในหมู่บ้าน เขาเอาเงินให้ฉัน ให้ฉันไปทำเรื่องพวกนั้น ฉันพูดไปหมดแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ?”
“ปล่อยแกไป ไม่มีทาง ใครเป็นคนคิดแผนนี้?”เอ้อนิ้วถาม
จางหมาจื่อพูดอ้ำอึ้ง“เฉียงจื่อ ไอ้เหี้ยนั่นบอกว่าถ้าทำแบบนี้จะทำลายพวกแกได้ ฉันผิดไปแล้ว พี่หยาง ไม่สิ เถ้าแก่หยาง ในฐานะที่เราเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ปล่อยฉันไปเถอะนะ?”
เป็นไปตามคาดคนพวกนี้ เซี่ยหยางคาดเดาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแค่มีพยานบุคคล เรื่องแบบนี้ก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น คนพวกนี้ เป็นพวกที่น้ำนิ่งไหลลึก ไม่ช้าก็เร็วจะต้องจัดการพวกมันให้ราบคาบ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้ถ้าอยากยืนหยัดอยู่ในหมู่บ้าน ก็จะเป็นการยาก
“เป็นไปตามคาดแกโหดเหี้ยมจริงๆ แค้นนี้ต้องชำระ เอ้อนิ้ว จับเขามัดไว้ เอาไฟเผามันให้ตาย”เซี่ยหยางแสร้งพูดออกไปแบบนั้น
เอ้อนิ้วจับจางหมาจื่อมัดไว้ แล้วหยิบฟืนขึ้นมา สาดเหล้าไปไม่น้อย เตรียมจะใช้ไฟแช็กจุด
“เถ้าแก่เซี่ย อย่าฆ่าผมเลย ฆ่าคนมันผิดกฎหมายนะ”จางหมาจื่อตกใจจนหน้าซีดเหมือนกระดาษ
“ที่นี่ไม่มีใครเห็น เสี่ยวชุ่ยเองก็จะตายไปพร้อมกับนาย พวกแกตายไปเป็นผีคู่ผัวเมียซะเถอะ”เซี่ยหยางตั้งใจขู่
“อย่านะ ผมยอมทำทุกอย่างเลย ขอแค่คุณปล่อยฉันไป”จางหมาจื่อตัวสั่นเทา เสี่ยวชุ่ยเองก็คุกเข่าลงกับพื้น ราวกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน(เปรียบเทียบดอกสาลี่กับใบหน้าของสตรีที่เมื่อร้องไห้ก็ยังดูงดงาม)พลางพูดขึ้นมาว่า“ขอร้องพวกนายล่ะ ปล่อยพวกเราไปได้ไหม?”
“ยอมทำทุกอย่างจริงๆหรอ?ไม่ขัดขืนแน่นะ?”เซี่ยหยางถาม
“รีบตอบมาสิ”เสี่ยวชุ่ยรีบพูดกล่อม
จางหมาจื่อกัดฟันกรอดแล้วรีบพยักหน้า“ฉันยอมทำทุกอย่างเลย ฉันยอมบุกน้ำลุยเพื่อนายเลย ขอแค่นายยอมปล่อยฉันไป”
“งั้นก็ได้ แกฟังให้ดีนะ……”เซี่ยหยางพูดให้เขาฟังไปหนึ่งรอบ แล้วเอ่ยถาม“แกจำได้รึยัง?”
“จำได้แล้ว ฉันจะทำตาม ฉันกลัวตาย……”จางหมาจื่อร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีอนาคต ลับตาลงไม่กล้ามองออกไป
เซี่ยหยางแอบหัวเราะ แล้วพูดขึ้นมาว่า“ก็ได้ ฉันจะรอดูนายแล้วกัน ไม่อย่างนั้นนายคงจะรู้ผลลัพธ์ใช่ไหม”
พูดจบ เซี่ยหยางก็พาเอ้อนิ้วเดินจากไป แต่จางหมาจื่อกลับไม่กล้าลืมตาขึ้นอยู่นาน จนกระทั่งเสี่ยวชุ่ยแกะเชือกที่มัดอยู่บนตัวเขาออก เขาถึงค่อยๆเอาสติกลับมา พบว่าพวกของเซี่ยหยางได้เดินจากไปแล้ว เขาร้อนรนจนเหงื่อท่วม แล้วทรุดตัวลงกับพื้นอย่างเข่าอ่อน เสี่ยวชุ่ยรีบกอดเขาไว้พลางร้องไห้ขึ้นมา
“ไอ้ตัวอัปมงคลเอ้ย ทำไมถึงไปหาเรื่องเดือดร้อนแบบนี้เนี่ยห้ะ ไอ้ผู้ชายบ้า ฉันตาบอดจริงๆ”เสี่ยวชุ่ยกรีดร้อง
จางหมาจื่อกระชากปมตัวเอง สายตาเหม่อลอย ผ่านไปนานถึงได้พูดขึ้นมาว่า“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ฉันตาบอดจริงๆ ฉันน่าจะทำงานกับเซี่ยหยางดีๆ ฉันตามคนผิดไปแล้วจริงๆ……