เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร - ตอนที่ 40
“เอาล่ะ วันนี้ไม่ขายแตงโมแล้ว ทุกคนค่อยมากกันวันหลังนะครับ”เซี่ยหยางเก็บแผงตั้งร้าน แล้วร้องเรียกออกไป
แต่ลูกค้าไม่ยอม ต่างพากันพูดว่า“คุณยังมีอีกหลายลูกไม่ใช่หรอ ขายให้พวกเราเถอะนะ”
“ของพวกนี้มีคนจองไว้แล้วครับ ต้องขอโทษจริงๆนะครับ”เซี่ยหยางรีบปิดประตูรถ ล็อกประตูรถเสร็จ แล้วโบกมือไปมา
คนที่ซื้อไม่ได้เสียดายกันมาก เสียดายที่ตนเองมาช้าไป หลังจากนั้นก็เดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ ยังมีคนกำชับให้เซี่ยหยางว่า ครั้งหน้าต้องมาให้ได้นะ และยังได้ขอเบอร์โทรติดต่อเซี่ยหยางด้วย
เซี่ยหยางบอกหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองไป แล้วรอให้คนเดินจากไป พบว่าเชฟเหลียนตกใจที่เห็นตนเองมาก เซี่ยหยางหัวเราะแล้วพูดว่า“คุณเองหรอเนี่ย มีเรื่องอะไรครับ?”
“คุณคือเซี่ยหยางคนในหมู่บ้านตงเจียวที่อยู่ตำบลเฮยถู่ใช่ไหม?แตงโมนี่เป็นของคุณสินะ?”เชฟเหลียนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
“ครับ มีอะไรหรอครับ?”เซี่ยหยางกล่าวอย่างใจเย็น
“แตงโมนี่คุณยังจะขายอีกไหม?เถ้าแก่ของผมอยากคุยธุรกิจกับคุณน่ะครับ ครั้งก่อนคุณเคยเจอเขาแล้ว เขาคือเถ้าแก่เฮ่อเซ่าฉุนครับ เราเคยทานอาหารกันที่ฟาร์มสเตย์ของคุณมาก่อน”เชฟเหลียนแสดงตัวตนของเขา
เซี่ยหยางขานรับอ๋อ แล้วยักไหล่“ขอโทษด้วยครับ แตงโมนี่มีคนจองไว้แล้วครับ ผมขายหมดเกลี้ยงแล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่สามารถค้าขายกับพวกคุณได้แล้วครับ ขอตัวก่อนนะผมมีธุระต้องรีบไปทำ”
“เดี๋ยวก่อน หมายความว่าไง คุณดูถูกร้านดินทั่วเมืองของเรางั้นเหรอ?ใครจองแตงโมของคุณไว้งั้นเหรอ ใครก็ตามที่สั่งแตงโมของคุณ บอกเขาซะว่าคุณจะขายให้เรา”เชฟเหลียนรู้สึกอับอายมาก
“เราต้องมีความซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจไม่ใช่หรอ?จะกลับคำได้ยังไง ถึงคุณจะให้เงินเยอะเท่าไหร่ผมก็ไม่ขายให้คุณหรอก คุณกลับไปเถอะ”เซี่ยหยางต้องการที่จะจับให้อยู่หมัดก็เลยแสร้งทำเป็นปล่อยไปก่อน โดยเตรียมจะขับรถออกไป
เชฟเหลียนร้อนใจมาก เรื่องนี้ถ้าทำพลาด เฮ่อเซ่าฉุนจะต้องดูถูกตัวเองเป็นแน่ จึงรีบพูดขึ้นมาว่า“เอางี้นะ คนอื่นให้เท่าไหร่ ผมจะให้มากกว่าคุณว่าไง?”
“ไม่ได้หรอกครับ แบบนี้มันคือการไม่มีความซื่อสัตย์”เซี่ยหยางส่ายหัว
“ผมจะขอซื้อครึ่งกิโลสองร้อย คุณคิดดูดีๆนะ”เชฟเหลียนตะโกนอย่างสุดเสียง
เซี่ยหยางขำในใจ แล้วหันกลับไปพูดว่า“คุณพูดจริงหรอ?”
“ผมเหมือนคนพูดล้อเล่นรึไง?แต่คุณต้องไปกับผมก่อน ไปคุยกับเถ้าแก่ผม”เชฟเหลียนออกเงื่อนไข
เชฟเหลียนร้อนใจมาก เขาไม่สามารถบังคับลากตัวเซี่ยหยางไปได้ แต่ก็ไม่กล้าไปเรียกเฮ่อเซ่าฉุนมาด้วยตัวเอง ภายใต้ความร้อนรน เขาทำได้เพียงแค่พูดด้วยดีๆ“ก็ได้ ทั้งหมดนี้ครึ่งกิโลสองร้อย เอามาให้ผมหมดเลย”
เซี่ยหยางรีบไปชั่งน้ำหนัก แตงโมที่เหลืออยู่นั้นเกือบร้อยโลได้ เขาคิดเงินทุกบาททุกสตางค์กับเชฟเหลียน เชฟเหลียนที่ควักเงินออกมาจ่ายเสร็จ ยังอยากพูดอะไรอีกเล็กน้อย เซี่ยหยางก็ขึ้นรถจากไปแล้ว
ควันดำทำให้ใบหน้าของเชฟเหลียนดำเป็นตะโก เขาโบกมือพัดไปมา แล้วให้คนยกแตงโมกลับไป
“เซี่ยหยางหรอ?ครึ่งโลสองร้อย?อีกทั้งยังไม่อยากพบหน้าฉัน?”หลังจากที่เฮ่อเซ่าฉุนได้ยินเชฟเหลียนรายงาน มันจึงทำให้เขาเกินคำถามมากมาย แล้วตบโต๊ะด้วยความโกรธ กล่าวอย่างกราดเกรี้ยว“ไอ้เซี่ยหยาง จองหองเกินไปแล้วนะ ดูท่าครั้งก่อนเรียกไอ้คนนั้นไปจัดการมัน คงจะไม่ได้ผล”
“ชื่อซวนจื่อครับ ผมให้คนไปเช็กแล้ว กำลังจะรายงานเรื่องนี้กับคุณอยู่พอดี ซวนจื่อให้เอาเงินคืนกลับมาครับ ดูท่าเรื่องนี้จะทำไม่สำเร็จ เขากล้าไปเบา และฟาร์มสเตย์ของเซี่ยหยางเหมือนจะไม่ได้รับการกระทบเท่าไหร่นัก”เชฟเหลียนพูดอย่างจริงจัง
เฮ่อเซ่าฉุนที่มองดูแตงโมพวกนั้น ก็พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์“เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากัน คุณลองเอาแตงโมนี่ไปขายดูสิ ถ้ากำไรงาม ค่อยคิดหาวิธีจัดการเซี่ยหยาง”
ตอนนี้เซี่ยหยางเดินทางจากมาได้สักพักแล้ว สำหรับร้านกินทั่วเมืองแล้ว เขามีแผนการของตัวเองอยู่แล้ว นี่คือการตกปลาใหญ่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องรีบก็ได้
เขาพึ่งมาถึงทางแยก จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามา แล้วบีบแตรใส่รถของเขา
“เซี่ยหยาง จอดรถเดี๋ยวนี้นะ ได้ยินไหม?”คนที่ขับรถไม่ใช่ใครอื่น เธอคือเฉินเจียเถ้าแก่เนี้ยของร้านฝูหมั่นโหลว เธอเปิดหน้าต่างออกมาแล้วตะโกนเรียกอย่างบ้าคลั่ง
เซี่ยหยางยังไม่ทันรู้ตัว เฉินเจียก็หมุนพวงมาลัยเข้ามาขวางรถของเขาเอาไว้แล้ว เซี่ยหยางจึงทำได้เพียงแค่รีบเหยียบเบรก แล้วจอดรถไว้ข้างทาง
“คุณกำลังทำอะไรน่ะ ไม่มีใครเล่นแบบคุณหรอกนะ เมื่อกี้มันอันตรายมากเลยนะ”เซี่ยหยางที่ลงจากรถมา แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วแต่ในใจยังคงหวาดกลัวอยู่ เดิมทีเขาพึ่งได้ใบขับขี่มา หญิงสาวคนนี้ก็เล่นกับเขาอย่างหวาดเสียวขนาดนี้ เขาไม่สามารถรับได้ไหว
“อันตรายแค่ไหนงั้นเหรอ?ตอนนี้ฉันต่างหากตกอยู่ในอันตราย คุณพูดมาสิ ว่าคุณทำอะไรอยู่?”เฉินเจียเดินปากมุ่ย ลงมาอย่างโกรธเกรี้ยว ดวงตาเบิกตากว้าง แล้วทำการชี้หน้าเซี่ยหยางอย่างกล่าวโทษ
เซี่ยหยางถึงกับมึนงง แล้วพูดอย่างงงๆ“คุณหมายความว่าไง ผมทำอะไร?”
“คุณทำอะไร คุณไม่รู้เหรอ พูดมาสิ คุณเอาแตงโมขายให้ร้านกินทั่วเมืองใช่ไหม?”เฉินเจียพูดอย่างโมโห
“ใช่ครับ แล้วทำไมล่ะ?”เซี่ยหยางเข้าใจแล้ว ที่แท้เฉินเจียก็โกรธเรื่องนี้นี่เอง
เฉินเจียไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินเข้ามายกกำปั้นขึ้นชกไปมา อย่างไม่หยุด“เซี่ยหยาง คุณยังกล้ายอมรับอีก คุณไปตกลงกับเขายังไงห้ะ?”
เซี่ยหยางเห็นว่านี่คือข้างถนน เกรงว่ามันจะไม่เป็นผมดี จึงคว้ามือน้อยของเฉินเจียไว้ แล้วมองดูหน้าแกของเธอที่หายใจเข้าออกอย่างรุนแรงเพราะความโกรธ ความขาวอวบนั้นช่างสะดุดตาเหลือเกิน หัวใจของเขาเต้นแรง แล้วแต่เขาก็รีบหักห้ามมันไว้
“ผมลืมน่ะครับ คุณว่าผมตกลงอะไรไว้งั้นเหรอ?”
“คุณ ไอ้ชั่ว พูดอะไรเชื่อถือไม่ได้”เสียงของเฉินเจียพึ่งพูดจบ เธอก็จัดการกระแทกเท้าไปที่เซี่ยหยางทันที
แน่นอนว่าเซี่ยหยางยืนนิ่งไม่ขยับ เขายกมือขึ้น จับขาเล็กของเฉินเจียไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ทั้งสองจึงอยู่ในท่าของคนชู้สาว
เพราะว่าเฉินเจียสวมกระโปรงสั้น มันจึงเผยให้เห็นเนื้อหนัง ใบหน้าของเธอแดงก่ำ แต่ก็ไม่สามารถดิ้นไปไหนได้ เธอพูดอย่างบิดม้วน“เซี่ยหยางคุณปล่อยฉันนะ คุณมันน่าเกลียด?”
“งั้นผมปล่อยแล้วนะ คุณห้ามโวยวายนะ มีอะไรพูดกันดีๆ”เซี่ยหยางพูดเจรจา
“อืม ฉันรับปากไม่ได้”เฉินเจียพยักหน้า นัยน์ตากลับเผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์
รอตอนที่เซี่ยหยางปล่อยมือแล้ว เฉินเจียก็คว้าไปที่ใบหูของเซี่ยหยาง ในตอนที่กำลังได้ใจอยู่นั้น ใครจะไปรู้กันว่าเซี่ยหยางที่ไหวตัวทัน เขายื่นมือออกไปผลัก ซวยแล้ว มือไปวางอยู่บนหน้าอกพอดี มันนุ่มนิ่มมาก เฉินเจียกระโดดออกไปทันที
ดีที่เซี่ยหยางคว้าเอวของเธอไว้ หลังจากที่ปล่อยเธอไป เฉินเจียก็ใบหน้าแดงไปหมดแล้ว เธอสู้ไม่ไหว แอบจู่โจมยังโดนเอาเปรียบอีก เฉินเจียร้องไห้ไม่มีน้ำตา ได้แต่โกรธจนกระแทกเท้าไปมา เธอจึงตัดสินใจอ่อนข้อ แล้วพูดด้วยเสียงสะอื้น“คุณ ทำร้ายคนอื่น เซี่ยหยางฉันคิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ถือซะว่าฉันดูคนผิดไป ฉันไปก็ได้”
“นี่ รอก่อนสิ คุณพูดมาสิว่าจะเอายังไง?คุณแค่อยากได้แตงโมนั่นไม่ใช่เหรอ คุณคิดว่าผมดูไม่ออกรึไง อย่างมากก็แค่ขายให้คุณเอง”เซี่ยหยางพูดอย่างหน่ายใจ
“คุณพูดแล้วนะ ห้ามกลับคำล่ะ”เฉินเจียที่หยุดร้องไห้แล้วยิ้มออกมา เงยหน้าแล้วชี้ไปที่เซี่ยหยาง
“ไม่กลับคำครับ ดูคุณสิ”เซี่ยหยางที่ขำไม่ออก
“ยังมี คุณห้ามขายแตงโมของร้านกินทั่วเมืองอีกนะ”เฉินเจียพูดอย่างร้อนใจ
“ผมทำไมได้หรอก ผมมีแผนของผม”เซี่ยหยางส่ายหัว
“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ แตงโมนั่นฉันชิมมาแล้วนะ รสชาติดีมาก อีกอย่างพนักงานเราเดินผ่านเลยซื้อเข้ามาด้วย คุณรีบขนมาให้ฉันหมดเลยมีเท่าไหร่ฉันเหมาทั้งหมดดีไหม?”เฉินเจียที่ตามออกมา บังเอิญเห็นเข้ากับเชฟเหลียนกำลังขนแตงโมเข้าร้าน เพราะฉะนั้นจึงตัดสินใจขับรถตามเซี่ยหยางมา
“ขายให้คุณก็ได้ แต่ต้องรออีกหลายวัน”เซี่ยหยางพูดอย่างเคร่งขรึม
“ทำไมต้องรอด้วยล่ะ?ฉันจะเอาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น จะถูกพวกเขาแย่งลูกค้าไปนะ”เฉินเจียพูดด้วยความโกรธ
“อย่างมากก็แค่หนึ่งอาทิตย์ คุณอยากได้เท่าไหร่ผมจะให้คุณทั้งหมดเลย”
“ไอ้บ้า เซี่ยหยางคุณบ้ารึไง น่ารังเกียจ!”เฉินเจียที่เห็นเซี่ยหยางสูบบุหรี่แล้วขับรถออกไป ได้แต่กระทืบเท้าไปมาอย่างเจ็บใจ แต่ไม่ว่ายังไง
เซี่ยหยางที่เหลือบตามองจากกระจกหลัง ขึงได้แต่หัวเราแล้วส่ายหัวไปมา จากนั้นก็หันไปมองร้านกินทั่วเมือง ใช่แล้ว ขอแค่อีกหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้ จะมีอะไรสนุกๆให้ดูแล้วล่ะ
กลับไปถึงหมู่บ้าน คิดเงิน แตงโมชุดนี้เขาขายได้ทั้งหมดเกือบหนึ่งแสนหยวน ดูท่าจะมีตลาดรับซื้อ ตอนนี้คนมีเงินมีอยู่มาก ต่างชอบลิ้มลองของแปลกใหม่ ถึงจะแพงแค่ไหนก็ยอมจ่าย
เขามองไปที่แปลงผักอันเขียวขจี แตงโมพวกนั้นมีเต็มสวน เซี่ยหยางดูเหมือนจะเห็นสีทองอร่ามเต็มทุ่ง แตงโมล็อตนี้ถ้าหากขายออกไปได้ทั้งหมด คาดว่าจะมีรายได้เกือบล้านเลยแหนะ
เข้ากลับเข้าไปในบ้าน อาบน้ำอาบท่า กำลังคิดจะออกไปเดินดูที่แปลงผัก เขาพึ่งไปถึง ก็เห็นร่างสูงโปร่งอยู่ร่างหนึ่ง กำลังมองแปลงผักไปมา เซี่ยหยางมองดูอย่างละเอียด นี่มันเหอเสี่ยวหย่าไม่ใช่หรอ?
เหอเสี่ยวหย่าที่กำลังมองดูแปลงผักอย่างใจจดใจจ่อ เธออ้าปากค้างตาโต นับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาที่แปลงผักมันก็ทำให้เธอตะลึงงันจนถึงตอนนี้
นี่มันผืนดินอะไรกันเนี่ย เหตุใดถึงให้ผลผลิตแบบนี้ออกมาได้ อย่างน้อยตนเองก็เป็นคนที่เรียนจนคณะเกษตรศาสตร์มา ยังถือว่ามีความรู้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่นมะเขือเทศกับแตงกวา มันยาวเทียบเท่ากับฟัก
พระเจ้าช่วย นี่มันพันธุ์อะไรเนี่ย จากประสบการณ์ของฉัน ถึงโลกนี้จะมีการรายงานเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ บอกว่ามีพืชผักประเภทผลมีลักษณะที่ใหญ่มาก แต่นั่นเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นแค่ลูกเดียว และตรงหน้าฉันมันเป็นแบบนี้ทั้งแปลง
เหอเสี่ยวหย่าอดที่จะเด็ดมะเขือเทศขึ้นมากัดกินไม่ได้ แต่กลับไม่สามารถหยุดกินได้ มันอร่อยมากๆ เธออดที่จะร้องออกเสียงไม่ได้ ราวกับเด็กน้อยที่หิวกระหาย
เซี่ยหยางหัวเราะคิกคัก แล้วกระแอมหนึ่งครั้ง เหอเสี่ยวหย่าหันกลับมาด้วยความตกใจอย่างทำอะไรไม่ถูก รีบเช็ดปากเล็กๆของเธอ รสชาติของมันยังคงคละเคล้าอยู่ในปากไม่ลืมเลือน“คุณกลับมาแล้วหรอ?”
“อร่อยใช่ไหมล่ะ?ทำไมถึงออกมาคนเดียวแบบนี้ล่ะ?”เซี่ยหยางถาม
เหอเสี่ยวหย่าพูดขณะกินไปด้วยว่า“ฉันอยู่ในห้องจนว้าวุ่นใจน่ะ เลยอยากจะมาเดินดูรอบๆ คุณค้นคว้าเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์พวกนี้หรอคะ?คุณได้เมล็ดพันธุ์พวกนี้มาจากไหนกัน”
“เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อตามท้องตลาดน่ะ ไม่เคยได้วิจัยอะไรมาก่อนหรอก มันโตของมันเอง มันไม่ได้ซับซ้อนเหมือนที่คุณคิดไว้หรอกนะครับ”เซี่ยหยางแสร้งทำเป็นไม่มีอะไร
เหอเสี่ยวหย่าอยากที่จะเชื่อ ต้องรู้ว่าเธอเคยวิจัยดินที่นี่มาก่อน มันไม่ใช่สาเหตุของดิน เธอคิดไม่ตกว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ จึงถามออกไปว่า“เซี่ยหยาง คุณต้องมีเรื่องปิดบังฉันแน่ๆใช่ไหมคะ?”
“ผมปิดบังอะไรคุณงั้นเหรอ คุณเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเลยนะ ผมจะไปปิดบังคุณได้ยังไง คุณไม่เชื่อก็ไปถามคนในหมู่บ้านสิ ผมไม่มีเทคนิคอะไรจริงๆ อีกทั้งผมเพาะพันธุ์อะไรไม่เป็นจริงๆ คนที่เชิญมาช่วยก็เป็นชาวบ้านเท่านั้น พวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแบบคุณ”เซี่ยหยางพยายามอธิบาย ในใจกำลังคิดว่าเหอเสี่ยวหย่าช่างเป็นเด็กน้อยขี้สงสัยจริงๆ ดูท่าถ้าเธอไม่หาคำตอบไม่ได้คงจะไม่ยอมหยุดเป็นแน่
“ไม่เป็นมืออาชีพจริงๆด้วย แม้ว่าผลผลิตทางการเกษตรของคุณจะเติบโตอย่างมาก หากคุณปรับปรุงวิธีการปลูกเล็กน้อย หรือใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ ฉันคิดว่าคุณจะได้รับผลผลิตมากขึ้น อย่างน้อยสองเท่า”เหอเสี่ยวหย่ายังคงไม่เชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ของเซี่ยหยางเป็นเมล็ดพันธุ์ธรรมดา แต่ในใจของเธอกลับคิดต่างออกไป
“สองเท่า?งั้นผมควรต้องทำยังไง?”เซี่ยหยางเกาหัวแกรกๆ อย่างสนใจ