เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร - ตอนที่ 41
“แน่นอนว่าฉันมีวิธีของฉันเองแล้ว แต่ฉันมีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าคุณรับปากฉันแล้ว ฉันจะรีบบอกคุณว่าทำยังไง”เหอเสี่ยวหย่าพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน ดุจดั่งสายน้ำ มันทำให้คนยากที่จะปฏิเสธได้
เซี่ยหยางเกาหัวแกรกๆ แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เหอเสี่ยวหย่ามีความรู้ความเชี่ยวชาญ ตนเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากโลกแผ่นหยก เขาก็ไม่สามารถปลูกอะไรได้เลย ถ้าหากได้รับความช่วยเหลือจากเธอด้วย มันก็จะเหมือนเสือติดปีก
“คุณมีเงื่อนไขอะไร บอกมาได้เลยครับ”
เหอเสี่ยวหย่ากะพริบตาปริบๆ ในความเห็นของเธอนั้น แปลงผักของเซี่ยหยางปลูกพืชได้ค่อนข้างรก ช่องว่างระหว่างแถวและระยะห่างของพืชผักที่เพาะปลูกเป็นปัญหาใหญ่ แน่นอนว่าปัญหาอื่นๆก็มีไม่ใช่น้อย เธอคิดมาเสมอว่า เมล็ดพันธุ์ของเซี่ยหยางต้องมีความพิเศษเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงยิ้มอย่างร่าเริง“ยังคงเป็นข้อตกลงเดิม คุณต้องเอาเมล็ดพันธุ์ของคุณมาให้ฉันดูก่อน”
“ได้ครับ ผมจะรีบบอกให้คนไปเอามาให้คุณดูเลย”เซี่ยหยางยักไหล่ แล้วโทรศัพท์ไปให้เอ้อนิ้ว
เอ้อนิ้วรีบบึ่งมาอย่างรวดเร็ว หยิบถุงมาหลายใบ มองดูเหอเสี่ยวหย่า แล้วกระซิบข้างๆหูของเซี่ยหยาง“พี่หยาง โรแมนติกจังเลยนะครับ มากุ๊กกิ๊กจีบกันที่นี่ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ผมยินดีช่วยน้า”
“ไปซะ อย่าพูดมั่วๆนะ มันจะเป็นไปได้ยังไง”เซี่ยหยางกลอกตาใส่เอ้อนิ้ว
เอ้อนิ้วกลับพูดเสียงต่ำ“ผมพูดจริงๆนะ พ่อของพี่เคยแอบถามผมว่า ระหว่างเถ้าแก่เนี้ยร้านฝูหมั่นโหลวกับผู้เชี่ยวชาญสาวคนนี้ พี่ชอบใครมากกว่ากัน บอกให้พี่ทำอะไรให้คล่องหน่อย ทางที่ดีรีบแต่งเมียกลับบ้านให้ได้ภายในปีนี้ได้ยิ่งดี พ่อของพี่อยากอุ้มหลานแล้วนะ”
เซี่ยหยางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่ผลักเอ้อนิ้วออก“ไอ้บ้า เบาเสียงหน่อย รีบกลับไปทำงานของนายซะ อย่ามัวแต่เล่นได้ยินไหม?”
“ก็ได้ พี่หยางทำธุระของพี่ไปเถอะ อาซ้อครับ อย่าเหนื่อยเกินไปนะครับ”เอ้อนิ้วพูดจบ ก็วิ่งออกไปทันที
“เมื่อกี้เขาเรียกฉันว่าอาซ้องั้นเหรอ?”เหอเสี่ยวหย่าหน้าแดงก่ำ และมองเซี่ยหยางอย่างโกรธเคือง
เซี่ยหยางจนปัญญาไม่รู้จะทำยังไง เอ้อนิ้วก็จริงๆเลย เรียกมั่วซั่ว ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด จะพานคิดว่าผมเป็นคนสั่งการน่ะสิ จึงรีบพูดอธิบาย“เขาเป็นคนชอบพูดจาล้อเล่นน่ะครับ คุณอย่าสนใจเลย”
“แต่ เขาจะเรียกฉันว่าอาซ้อไม่ได้นะ”เหอเสี่ยวหย่าหน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
“นี่เป็นการเรียกขายของคนบ้านนอกของเราน่ะครับ เห็นผู้หญิงสวยๆ ก็จะเรียกว่าอาซ้อกัน มันมีความหมายเหมือนคำว่าพี่สาวไง”เซี่ยหยางรู้สึกผิด เลยหาเหตุผลพูดกลบเกลื่อน
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”ดวงตาของเหอเสี่ยวหย่าเป็นประกาย ยื่นมือไปรับเมล็ดพันธุ์มาดู
ในที่สุดเซี่ยหยางก็พูดจนผ่านพ้นไปได้ มันวางลงมาไม่น้อย แต่ในตอนที่เขาเห็นสายตาประหลาดใจของเหอเสี่ยวหย่านั้น เขาก็กลับมาไม่เป็นปกติอีกครั้ง
“เมล็ดพันธุ์ของคุณเป็นเมล็ดพันธุ์ธรรมดานี่นา มันสามารถโตมาแบบนี้ได้เนี่ยนะ?”เหอเสี่ยวหย่ามีสีหน้าสงสัย
“ผมบอกแล้วคุณไม่เชื่อเอง ผมสาบานได้ ว่าเป็นเมล็ดพันธุ์พวกนี้อยู่แล้ว”เซี่ยหยางทำท่าสาบาน เรื่องของโลกแผ่นหยก จะบอกกับใครไม่ได้เด็ดขาด แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความงามที่อ่อนโยนและสง่างามอย่างเหอเสี่ยวหย่าก็ตาม
เหอเสี่ยวหย่าขมวดคิ้วเป็นปม แล้วพูดด้วยความสงสัย“เซี่ยหยาง คุณโกหก ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของกินหรืออากาศของหมู่บ้านของคุณ มันไม่สามารถให้ผลผลิตแบบนี้ได้”
“ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ทำอะไรไม่ได้ ความจริงมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เมื่อกี้คุณก็พูดแล้ว ว่าจะช่วยยกระดับผลผลิตของที่นี่ ตอนนี้เมล็ดพันธุ์คุณก็ได้ดูไปแล้ว เราเริ่มกันได้รึยัง?”เซี่ยหยางรู้สึกว่าตอนนี้เหอเสี่ยวหย่าต้องมุนงงเป็นอย่างมากแน่ แต่ก็ไม่อาจพูดออกไปได้
“แต่ว่า นี่……”เห็นได้ชัดว่าเหอเสี่ยวหย่าไม่พอใจกับคำตอบ
“ลำบากใจก็ชไม่เป็นไร ไม่บังคับคุณแล้วละกัน”เซี่ยหยางโบกมือไปมา ท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะ โอเค ก็ได้ คุณตามฉันมา”ถึงแม้ว่าเหอเสี่ยวหย่าจะไม่ค่อยพอใจ แต่เธอมีแผนการของตนเอง เรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ ไม่ว่าเซี่ยหยางจะใช่วิธีอะไรก็ตาม เธอจะต้องหาโอกาสหาคำตอบให้ได้ เพราะฉะนั้นจะอยู่ที่นี่ช่วยเขาแล้วกัน
เซี่ยหยางตามเหอเสี่ยวหย่ามาที่ห้อง เหอเสี่ยวหย่าพูดถึงเรื่องความรู้เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ เรื่องระยะห่าง ความหนาแน่น สภาพอากาศและอื่นๆ สิ่งนี้มันทำให้เซี่ยหยางไม่เข้าใจสถานการณ์ เขาฟังจนมึนงงไปหมด
“คุณพูดอะไรผมไม่เข้าใจหรอกนะครับ ไม่อย่างนั้นคุณช่วยผมจัดการได้ไหม?”เซี่ยหยางเสนอความเห็น
เหอเสี่ยวหย่าตะลึงไปชั่วครู่ จริงด้วย เขาไม่รู้อะไรแต่กลับปลูกออกดอกออกผลได้ขนาดนี้ นี่มันไม่มีเหตุผลเลย แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ยิ่งรู้สึกว่าเซี่ยหยางต้องมีความลับอะไรปิดบังไว้เป็นแน่ ความสงสัยในใจของเธอมีมากขึ้นไปอีก
“ได้ค่ะ ฉันสามารถช่วยคุณจัดการได้ แต่ฉันมีคำแนะนำ หวังว่าคุณจะเห็นด้วย นั่นก็คือการปลูกพืชในป่า คุณเคยได้ยินไหม?”เหอเสี่ยวหย่าแนะนำ
เซี่ยหยางไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำศัพท์ เลยอธิบายคำศัพท์ได้อย่างผิดพลาดไปตามหนังสือที่ได้ดูมา“ปลูกพืชใต้ต้นไม้ในป่าใช่ไหมล่ะ คุณหมายความว่าให้ผมปลูกต้นไม้เพิ่มในไร่งั้นเหรอ?”
“อืม ก็พูดได้ว่าเป็นไม้ผล ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่พื้นที่จะใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เท่านั้นแต่ยังให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกด้วยซึ่งเป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกัน”เหอเสี่ยวหย่าอธิบาย
“งั้นผมปลูกต้นอะไรดีล่ะ?”เซี่ยหยางตัดสินใจไม่ได้
“แน่นอนว่าเป็นพวกของที่มีมูลค่าสูงในท้องตลาด แอปเปิลกับพวกส้มมันธรรมดาเกินไป ฉันคิดว่าไม่ต้องปลุกดีกว่า คุณสามารถลองปลูกพวกต้นกล้วย หรือลิ้นจี่อะไรทำนองนี้ก็ได้”
“ความคิดนี้ไม่เลวเลย แต่ผมไม่ต้นกล้าแบบนี้น่ะสิ ที่คุณพอมีไหม?”
เหอเสี่ยวหย่าพยักหน้า เธอรีบติดต่อคนของไร่เพาะปลูกของตนเอง โทรศัพท์ไปตอนเที่ยง ตอนบ่ายส่งมาถึงทันที อีกทั้งไม่เห็นเงินแม้แต่น้อย สิ่งนี้มันมีประโยชน์ต่อเซี่ยหยางมากจริงๆ แต่เหอเสี่ยวหย่าบอกว่า ถือเสียว่าเป็นการใช้หนี้ เนื่องจากเหอฟู่เสวผู้เป็นพ่อของเธอเอาโสมของเซี่ยหยางไปหนึ่งต้น
เพื่อผลลัพธ์ทางการวิจัย เซี่ยหยางปลูกกล้าไม้ลงไปบางส่วน เหอเสี่ยวหย่าชี้สั่งการชาวบ้านเพาะปลูก และยังสอนวิธีไปไม่น้อยเลย ล้วนเป็นสิ่งที่เซี่ยหยางฟังไม่เข้าใจ
แน่นอนว่า เหอเสี่ยวหย่ามีเป้าหมายของตนเอง เธอไม่สนใจแดด และไม่กลัวเหนื่อย แทบจะตัวไม่ห่างกับเซี่ยหยาง ไม่ว่าจะทำการปลูกหรือใส่ปุ๋ย เธอก็ดูแลอย่างละเอียด ไม่มีวิธีพิเศษอะไร
เธอรู้สึกงุนงงมาก แต่ทำไมผลไม้ที่ออกมาถึงได้ใหญ่และมีรสชาติอร่อยได้เพียงนี้ แน่นอนว่าเธอไม่มีวันคิดถึงเป็นแน่ ว่าความลับจะอยู่ในบ่อน้ำข้างไร่ น้ำตรงนั้นเป็นน้ำที่แบกมาจากโลกแผ่นหยก มันถูกเซี่ยหยางแบกหามออกมา ดูไปแล้วเหมือนจะไม่ต่างจากน้ำธรรมดาเลย
ในตอนนี้ที่ดินที่อยู่ในมือของเซี่ยหยาง มีประมาณยี่สิบหมู่ เป็นที่ดินที่ชาวบ้านเช่าให้กับเขา ก่อนหน้านี้ออกผลไม้ไปแล้วล็อตหนึ่ง ผลผลิตต่อหมู่ ประมาณหนึ่งพันห้าร้อยกิโลเห็นจะได้
เพราะว่าก่อนหน้านี้คาดไม่ถึงว่าแตงโมจะขายได้ราคาสูงขนาดนี้ เพราะฉะนั้นจึงมีแตงโมที่ปลูกไว้แค่สองหมู่เท่านั้น แปลงอื่นๆปลูกแต่พวกมะเขือพริกมะเขือเทศและอื่นๆ
มาวันนี้ ภายใต้คำแนะนำของเหอเสี่ยวหย่า เขาได้ใช้ที่ดินสอบหมู่ ปลูกกล้าผลไม้ และทำการวางแผนใหม่ทั้งหมด ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นระเบียบสะอาดตามากยิ่งขึ้น แต่ก่อนเขาใช้วิธีหว่านเมล็ดมั่วๆ ตอนนี้มันเหมือนจะมีระเบียบขึ้นมามาก
ไม่รู้ว่าวิธีของเหอเสี่ยวหย่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ เซี่ยหยางรู้สึกว่ามันไม่เลวเลย แต่เหอเสี่ยวหย่าพูดแล้ว ผลไม้พวกนี้ต้องอย่างเร็วที่สุดต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะออกดอกออกผล ถึงเวลานั้นจะเห็นคำตอบเอง
ทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว เหอเสี่ยวหย่ารู้สึกเหนื่อยมาก เธอพักผ่อนอยู่ในห้อง ปวดเอวเอวหลังเป็นอย่างมาก ถึงว่า ทุกอย่างทำเองหมด แม้แต่ผู้ชายยังทนไม่ได้เลย
แต่เหอเสี่ยวหย่าทำด้วยความเต็มใจ เพราะว่าเธอตัดสินใจแล้ว ว่าจะต้องหาความลับการเพาะปลูกของเซี่ยหยางให้ได้
เซี่ยหยางรู้สึกตื่นเต้นมาก ในขณะเดียวกันก็รู้สึกรักหยกถนอมบุปผา(บุรุษควรทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี)เธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ แถมยังเป็นนักศึกษาสาวสวยเกียรตินิยม เธอทุ่มเททำงานให้กับเขาอย่างสุดใจ และยังไม่เอาค่าตอบแทนอีกด้วย
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการอยากรู้ความลับ แต่เรื่องของโลกแผ่นหยก เขาจะไม่ยอมพูดเด็ดขาด เหอเสี่ยวหย่าร้อนใจก็ไม่มีประโยชน์
ไม่กี่วันต่อมา เซี่ยหยางได้รับโทรศัพท์จากหญิงอ้วนในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตร เธอบอกว่ากุ้งป่าเตรียมไว้แล้ว และถามว่าจะให้ส่งเมื่อไหร่
เซี่ยหยางไม่สามารถรอได้ จึงรีบเหมามาทั้งหมด หญิงอ้วนเดินทางมาด้วยตัวเอง จัดการขนมาเต็มคันรถ
บ่อปลาในหมู่บ้านมีสี่ห้าบ่อ ชาวบ้านเป็นคนเช่าให้เซี่ยหยางทั้งหมด นอกจากปลาธรรมชาติที่เลี้ยงไว้ เซี่ยหยางยังได้จัดตั้งบ่อปลาไว้สำหรับเลี้ยงตะพาบและเต่าไว้อีกด้วย ตอนนี้เขาแบ่งบ่อปลาออกมาหนึ่งบ่อ เขาเอากุ้งป่ามาเลี้ยงไว้ในนี้
กุ้งพวกนี้เป็นกุ้งที่สว่างไสวเป็นประกาย คนในหมู่บ้านต่างเรียกว่ากุ้งแก้ว มันมีขนาดนิ้วโป้งเท่านั้น กุ้งที่โตเต็มวัยส่วนมากจะมีขนาดสองนิ้ว ความจริงในแม่น้ำของหมู่บ้านก็มี แต่มันมีจำนวนไม่มาก จับยาก กุ้งแบบนี้มีรสชาติเยี่ยมยอดมาก เมื่อเทียบกับกุ้งมังกรในภัตตาคาร มันดูจะนุ่มกว่ามาก
เซี่ยหยางเห็นในจุดนี้ จึงให้หญิงอ้วนส่งมาให้ ความจริงกุ้งพวกนี้ค่อนข้างบอบบาง เลี้ยงดูยาก ตามท้องตลาดคนที่ขายจะเป็นร้านแผงเล็กๆ จำนวนไม่เยอะมาก ส่วนมากจะสามารถหาจับได้ตามแม่น้ำและบ่อปลา ขายได้ราคาครึ่งกิโลละสิบกว่าหยวน
ในตอนที่หญิงอ้วนให้คนช่วยนำกุ้งขนลงมา ถึงได้พบว่าตายไปไม่น้อยเลย นี่เป็นสาเหตุจากการขนส่ง กุ้งพวกนี้เมื่อห่างน้ำจะตายง่ายมาก หญิงอ้วนรู้สึกอายเล็กน้อย เดิมทีตอนส่งมามีน้ำหนักถึงหนึ่งร้อยห้าสิบกิโล แต่ตอนนี้มันก็ตายไปหลายโลกแล้วเช่นกัน
เนื่องจากเป็นลูกค้าประจำ เซี่ยหยางจึงจ่ายเงินในหนึ่งร้อยห้าสิบกิโลเหมือนในตอนที่ตกลงกันไว้แต่แรก หญิงอ้วนขอบคุณเขา และสัญญาว่า จากนี้ไปต้องการอะไรขอให้บอกกับเธอได้เลย เรียกปุ๊บมาปั๊บ ยังบอกอีกว่าเถ้าแก่แบบเซี่ยหยางพบเห็นได้ไม่มาก
หลังจากที่ส่งหญิงอ้วนไปแล้ว เซี่ยหยางก็ขอให้เอ้อนิ้วไปหาคนมาหลายคน นำกุ้งแก้วมาปล่อยไว้ในบ่ออย่างระมัดระวัง หรืออาจจะเป็นเพราะถนนหนทางที่กระแทกไปมา กุ้งพวกนี้จึงไร้ซึ่งชีวิตชีวา ขี้เกียจขยับในน้ำ อ่อนแรงอ่อนล้าเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ยังมีอีกจำนวนมากที่ลอยอยู่เหนือน้ำ จะตายไม่ตายแหล่
“พี่หยาง นี่มันอะไรเนี่ย ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้หลอกเราหรอกนะ พี่ลงทุนไปหลายหมื่นเลยนะ ผมจะไปหาหล่อน”เอ้อนิ้วบ่นพึมพำ อย่างไม่พอใจ
“ไม่เป็นไรหรอก พวกนายไปทำงานอย่างอื่นเถอะ เดี๋ยวที่นี่ฉันจัดการเองก็พอ”เซี่ยหยางรู้ดีอยู่แก่ใจ จึงให้พวกเอ้อนิ้วจากไป
คราวนี้ไม่มีคนแล้ว เซี่ยหยางรีบไปหาถังน้ำมาสองใบ แล้วแอบย่องเข้าไปในโลกแผ่นหยก เริ่มหาบน้ำในสระออกมา ตอนแรกเขาอยากจะให้เอ้อนิ้วพาคนไปหาบน้ำจากในบ่อมาเติม แต่กังวลว่าจะถูกพวกเขาพบเข้ากับความผิดปกติ เพราะฉะนั้นจึงทำได้เพียงแค่ลงมือทำด้วยตัวเอง
เป็นไปตามคาด แค่น้ำใส่เข้าไปในสระเพียงแค่สองถังเท่านั้น กุ้งแก้วพวกนี้ก็เริ่มมีปฏิกิริยา หนวดเริ่มกระดิกไปมา เริ่มรวมตัวเข้ามาทางฝั่งของเซี่ยหยาง
พอเห็นว่าได้ผล เซี่ยหยางก็เข้าไปตักน้ำในโลกแผ่นหยกไม่หยุดหย่อน ครั้งนี้ผลลัพธ์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น กุ้งพวกนี้เริ่มกระโดดโลดเต้นขึ้นมาอีกครั้ง กระโดดไปมาในน้ำ แย่งกินน้ำที่อยู่ข้างๆ
ไม่เพียงแต่เท่านี้ แม้แต่กบและแมลงที่อยู่ในโพรงหญ้าต่างพากันกระโดดลงน้ำ ยังมีงูที่ชูคอลอยออกมาจากในน้ำ มุดตรงเข้าไปในน้ำ แต่ถูกเซี่ยหยางโยนไม้ไล่
เป็นเรื่องที่ผ่านไปแค่สิบนาทีกว่าๆ บรรดากุ้งที่กำลังจะตายในตอนแรก ตอนนี้กลับกระโดดโลดเต้นอย่างเริงร่า และเริ่มสู้แย่งชิงกัน ยื่นก้ามไปตรงหน้าเพื่อเข้าห้ำหั่นกัน สู้กันอย่างฮึกเหิม
เพราะว่าจะเลี้ยงแบบธรรมชาติ เซี่ยหยางจึงไม่ได้ให้อาหาร เขาเด็ดหญ้าสดๆจากในตะกร้ามา พึ่งกลับมาถึง ก็พบกับภาพแห่งความประทับใจ มีแมลงบินลอยอยู่เหนือน้ำเป็นแพ กุ้งแก้วที่อยู่ในน้ำต่างพากันแย่งอาหารกันอย่างหิวโหย
สิ่งที่ทำให้เซี่ยหยางรู้สึกดีใจมากนั่นก็คือ มีแมลงบินมาไม่หยุดหย่อน กระโดดลงไป และก็เป็นอาหารอันโอชะให้กับบรรดากุ้งฝอยไปเรียบร้อย