เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร - ตอนที่ 48
“นี่มันคืออะไรเนี่ย?”ในตอนที่เหอเสี่ยวห
ย่าเห็นในมือของเซี่ยหยางถือสตรอว์เบอร์รีลูกยักษ์ เธอก็ถึงกับอ้าปากค้างตะลึง มองดูอย่างละเอียด แล้วพูดอย่างแปลกใจ“นี่คือสตรอเบอรี่หรอคะ?”
“ใช่แล้วครับ คุณฉลาดมาก”เซี่ยหยางฉีกยิ้มกว้าง
เหอเสี่ยวหย่ารู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก เธอส่ายหัวแล้วพูดไปว่า“ของปลอมมั้ง ตั้งแต่ที่ฉันทำงานมา ไม่เคยเห็นสตรอว์เบอร์รีแบบนี้มาก่อนเลยนะ”
“คุณลองสิเดี๋ยวก็รู้เองแหละ”เซี่ยหยางพูดแล้วหักแบ่งออกมา ยื่นไปให้เหอเสี่ยวหย่าครึ่งหนึ่ง
เหอเสี่ยวหย่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่รสชาติความหอมหวานที่โพยพุ่งออกมานั้น ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะกัดเข้าไปหนึ่งคำเบาๆ ทันใดนั้นเธอก็ถูกรสชาติของมันดึงดูด เธอเบอกตากว้าง แล้วกัดกินอย่างตะกละตะกามจนหมดเกลี้ยง มองไปที่เซี่ยหยางอย่างไม่หายอยาก นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนา
“อร่อยไหมครับ?”เซี่ยหยางหยิบสตรอว์เบอร์รีลูกยักษ์ออกมาจากถุงแล้วยื่นให้กับเหอเสี่ยวหย่าอีกครั้ง
“อืม อร่อยจังเลยค่ะ พระเจ้าช่วย รสชาติของมันไม่สามารถหาอะไรเปรียบได้จริงๆ”เหอเสี่ยวหย่ายัดเข้าไปเต็มปาก แล้วกินอย่างมีความสุข ไม่รักษาภาพลักษณ์ของกุลสตรีของเธออีกต่อไป ของเหลวสีแดงเปื้อนแก้มของเธอเต็มไปหมด เหมือนลูกแมวตัวเล็กก็ไม่ปาน แต่เธอไม่สนใจมันอีกแล้ว เธอกัดกินมันเหมือนกับปีศาจร้าย
รับรู้ได้เพียงว่ารูขุมขนของเธอทั่วทั้งตัวถูกผ่อนคลาย ร่างกายของเธอลอยขึ้นไปบนอากาศ เหมือนได้อาบน้ำจนสดชื่น มันช่างน่าหลงใหลอะไรขนาดนี้
“กินช้าๆก็ได้คุณ ที่นี่ยังมีอีกเยอะนะครับ ดูหน้าของคุณสิเปื้อนเต็มไปหมดเลย”เซี่ยหยางหัวเราะเหอะๆ แล้วอาสาเช็ดใบหน้าของเธออย่างไม่รู้ตัว ความละเอียดนุ่มและความยืดหยุ่น นี่เป็นท่าทางไม่ได้ตั้งใจ เซี่ยหยางไม่ได้คิดว่าจะแต๊ะอั๋งเธอเลย
ทันใดนั้นเหอเสี่ยวหย่าก็แก้แก้มแดงระเรื่อ เธอเลียมุมปากของเธอ แล้วจ้องมองเซี่ยหยางอย่างน่ารัก ดวงตาโตๆมีน้ำใสหล่อลื่นอยู่ภายในนั้น เธอก้มศีรษะลงอย่างเขินอาย
เซี่ยหยางดึงมือกลับอย่างเสียดาย แล้วพูดพลางเอามือเกาหัว“ยังจะเอาอีกไหมครับ?”
“ไม่แล้วค่ะ ถึงจะยังอยากกินอีก แต่อิ่มแล้วนะ?”เหอเสี่ยวหย่าลูบท้องเบาๆ แล้วมองไปที่สตรอว์เบอร์รียักษ์ในถุง เธอพูดอย่างแปลกใจ“คุณไปได้มาจากไหนคะ ทำไมฉันไม่เคยเห็นคุณปลูกต้นสตรอว์เบอร์รีแบบนี้ล่ะ?”
“เป็นที่แห่งความลับน่ะครับ สุดยอดความลับ แน่นอนว่าคุณไม่เห็น มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ คุณว่าสตรอว์เบอร์รีแบบนี้ปลูกในพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ไหม จะมีตลาดรองรับไหม?”
“แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว นี่เป็นของอร่อยที่สุดในโลกเลยนะ ฉันเชื่อว่าพอเข้าถึงท้องตลาดแล้ว ต้องดึงดูดผู้คนมากมายอย่างแน่นอน”เหอเสี่ยวหย่าพูดจบก็ไปมองไปที่เซี่ยหยาง เผยให้เห็นถึงความเหลือเชื่อ
เซี่ยหยางที่ถูกมองจนรู้สึกว้าวุ่นใจ“คุณมองผมทำไมน่ะ หน้าของผมมีอะไรงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตกลงคุณปลูกออกมาได้ยังไงเนี่ย?”เหอเสี่ยวหย่าไม่เข้าใจ คนเองเป็นถึงนักศึกษาเกียรตินิยมของคณะเกษตรศาสตร์ เธอที่อยู่ต่อหน้าของเซี่ยหยาง ราวกับเป็นแม่มดน้อยเห็นแม่มดใหญ่(อุปมาคนหนึ่งด้อยกว่าอีกคนหนึ่งมาก)เมื่อเทียบกับสิ่งที่คล้ายกันแล้วมันกลับต่างกันมาก เมื่อเธอค้นคว้าความรู้ที่อยู่ภายในสมองของเธอนั้น กลับพบว่าไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสตรอว์เบอร์รีแบบนี้เพาะพันธุ์ออกมาได้อย่างไร
เมื่อก่อนสตรอว์เบอร์รีพบได้น้อยมาก เคยเห็นเพียงแค่ภาพถ่ายเท่านั้น มันยังอยู่ในฐานการวิจัยในต่างประเทศ หรือในห้องทดลองอยู่เลย เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ นี่เป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์เลย
แต่ในสายตาของเซี่ยหยาง เขากลับไม่เชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์อะไรเลย เพราะว่าในโลกแผ่นหยก มันเป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้
เห็นเหอเสี่ยวหย่าแปลกใจขนาดนี้ กลัวว่าหญิงสาวตัวน้อยช่างสงสัยคนนี้จะตามสืบให้ได้ เขาจึงพูดกลบเกลื่อนไปว่า“นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่รู้เท่าไหร่ ผมปลูกไปแบบนั้นแหละ”
“คุณโกหก คุณต้องไม่อยากบอกฉันแน่ งั้นคุณพาฉันไปดูต้นสตรอว์เบอร์รีหน่อยได้ไหมล่ะ?”เหอเสี่ยวหย่าเอ่ยถามอย่างคาดหวัง
“ไม่มีแล้ว ถูกผมถอนทิ้งจนหมดแล้วล่ะ ถ้าคุณอยากดูจริงๆ ผมเอามาให้คุณดูก็ได้นะ รอแป๊บ”เซี่ยหยางที่ตอนแรกไม่ยอมให้เหอเสี่ยวหย่าดู เพียงแต่เขาอยากให้เธอช่วยหาเมล็ดพันธุ์มาให้ เนื่องจากตนเองเป็นคนนอกวงการปลูกสตรอว์เบอร์รี
ในตอนที่กลับเข้ามาในโลกแผ่นหยกอีกครั้ง เขาจึงจัดการเด็ดสตรอว์เบอร์รีทั้งต้นจนหมด แล้วถอนออกมา นำกลับไปให้เหอเสี่ยวหย่าดู เขาพึ่งออกมาจากห้อง ก็เห็นเหอเสี่ยวหย่ากำลังมองดูจากบันได
เห็นเซี่ยหยางถือต้นสตรอว์เบอร์รีออกมาจากในห้อง เหอเสี่ยวหย่าจึงถึงกับมึนงง ตรงเข้าไปมองดู แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจ“ทำไม คุณเอาต้นสตรอว์เบอร์รีปลูกในห้องล่ะ?”
“ไม่ใช่นะครับ ผมพึ่งออกไป แล้วกลับเข้ามาเอาโทรศัพท์ในห้องน่ะ”เซี่ยหยางที่รู้สึกกลับ เกือบจะถูกเปิดโปงแล้ว โชคยังดีที่เหอเสี่ยวหย่าไม่ได้สะกดรอยตามตนเองออกมา ดูท่าจากนี้ไปต้องระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้นแล้ว
“อ๋อ นี่คือต้นสตรอว์เบอร์รีงั้นเหรอ?ทำไมสูงจัง?”เหอเสี่ยวหย่าไม่อยากจะเชื่อ มองซ้ายทีขวาที“ยังมีอีกไหม นี่เป็นต้นเดียวงั้นหรอ?”
“ใช่ครับ ผมทิ้งไปแล้ว ก่อนหน้านี้คุณไม่บอก น่าจะถูกวัวแกะกินจนหมดแล้วล่ะ ต้นนี้เป็นต้นที่ผมหามาอย่างยากลำบากเลยนะ”เซี่ยหยางพูดกลบเกลื่อน
เหอเสี่ยวหย่ามองเซี่ยหยางเหมือนคนบ้า ผู้ชายคนนี้ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ตกลงไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่กับตนเองเนี่ย แต่จากการสำรวจตรวจสอบดูในช่วงนี้ เขาเป็นคนที่เพาะปลูกไม่เป็นจริงๆ แต่กลับปลูกอะไรออกมาจนสามารถทำให้คนอื่นอ้าปากตาค้างตกตะลึงได้
“คุณเตรียมจะเพาะปลูกแปลงใหญ่ขนาดไหน ยังมีเมล็ดพันธุ์ของสตรอว์เบอร์รีแบบนี้ไหม?”เหอเสี่ยวหย่าเอ่ยถาม
“ไม่มีแล้วครับ เมล็ดพันธุ์สตรอว์เบอร์รีต้องไปหาจากไหนหรอครับ?”เซี่ยหยางพูดอย่างไม่เข้าใจ
ใบหน้าของเหอเสี่ยวหย่าหมดคำพูดมาก เธอกลอกตาใส่เซี่ยหยาง แล้วหยิบสตรอว์เบอร์รีของเขาไปอย่างโมโห ชี้ไปที่ของที่รูปร่างหน้าตาเหมือนมีสิวเต็มหน้าพลางพูดขึ้นมาว่า“นี่ก็คือเมล็ดพันธุ์ของสตรอว์เบอร์รีไง สามารถผ่านกรรมวิธีทำออกมาได้”
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง?”ถ้าเหอเสี่ยวหย่าไม่บอก เซี่ยหยางคงไม่รู้จริงๆ เขาเอ่ยถามอีกครั้งว่า“แล้วจะทำยังไงล่ะครับ?”
“แน่นอนว่าต้องใช้มือของคนคัดออกมา คุณเด็ดสตรอว์เบอร์รีออกมาจนหมดแล้วใช่ไหม?ฉันกลัวว่าจะเป็นของที่สุกแล้ว คุณเอาสตรอว์เบอร์รีพวกนั้นมาให้ฉันดูทั้งหมดหน่อยสิ”เหอเสี่ยวหย่าพูดไปด้วยก้มหน้าก้มตาศึกษาค้นคว้าวิจัยต้นสตรอว์เบอร์รีไปด้วย
“งั้นคุณรอผมแป๊บนะ”คราวนี้เซี่ยหยางฉลาดแล้ว เขารีบวิ่งออกไป แล้วแอบหยิบถุงออกมา หลังจากนั้นก็มุดเข้าไปในหลังป่าของภูเขา จัดการรีบเข้าไปในโลกแผ่นหยก เด็ดผลสตรอว์เบอร์รีป่าพวกนั้นมาทั้งหมด จนเต็มถุงไปหมด แล้วจัดการหิ้วกลับบ้านมอบให้กับเหอเสี่ยวหย่า
“เยอะขนาดนี้เชียวหรอ ไหนฉันดูหน่อยสิ”เหอเสี่ยวหย่าเหมือนเห็นของล้ำค่า หยิบออกมาทีละลูกอย่างระมัดระวัง
“สุกรึยัง?สามารถปลูกได้ไหม?ไม่อย่างนั้นเราไปหาเมล็ดของผลสตรอว์เบอร์รีธรรมดามาไหม?”เซี่ยหยางคิดว่าในเมื่อสตรอว์เบอร์รีป่ายังสามารถเติบโตได้ขนาดนี้ งั้นสตรอว์เบอร์รีธรรมดาน่าจะต้องใหญ่กว่านี้มั้ง
“สตรอว์เบอร์รีธรรมดาจะไม่มีรสชาติแบบนี้ สตรอว์เบอร์รีของนายรสชาติของมันเหมือนกับสตรอว์เบอร์รีป่า แต่ก็มีจุดที่ต่างออกไป คุณไปได้เมล็ดพันธุ์มาจากไหนหรอ?”เหอเสี่ยวหย่าดูเหมือนจะรู้ว่าเซี่ยหยางกำลังคิดอะไรอยู่
เซี่ยหยางจึงพูดไปว่า“ผมได้สตรอว์เบอร์รีป่ามาน่ะครับ เลยขุดออกมาหลายต้น คิดไม่ถึงว่ามันจะโตมาแล้วเป็นแบบนี้”
“ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณหลอกฉันอีกแล้วนะ ไม่พูดก็ไม่เป็นไร”เหอเสี่ยวหย่าชินแล้ว ดูท่าคงต้องใช้เวลาสักพัก อย่าพึ่งคิดถึงเรื่องความลับการเพาะปลูกของเซี่ยหยางเลย
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ไหนคุณบอกมาสิว่าไปได้เมล็ดพันธุ์มาจากไหน?”เซี่ยหยางรีบเบี่ยงประเด็น ในเมื่อสตรอว์เบอร์รีธรรมดาไม่มีรสชาติแบบนี้ งั้นคงต้องใช้เมล็ดของสตรอว์เบอร์รีป่าแล้วล่ะ
เป็นไปตามคาดเหอเสี่ยวหย่าค่อนข้างเชี่ยวชาญ ฟังตามอธิบายของเธอแล้ว เซี่ยหยางถึงพึ่งรู้ว่า เมล็ดของสตรอว์เบอร์รีสามารถพูดได้เลยว่าเป็นผลไม้ที่พิเศษที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด เพราะว่าเมล็ดของมันส่วนมากอยู่บนเปลือกผิวของเนื้อ อีกครึ่งหนึ่งอยู่ในผลของมัน
ถ้าหากอยากจะได้เมล็ดพันธุ์ของสตรอว์เบอร์รี ก็จะต้องนำสตรอว์เบอร์รีไปตากแดด หลังจากที่ตากจนแห้งแล้ว ต้องใช้กำลังของคนค่อยๆคัดแยกออกมาอย่างระมัดระวัง ตอนนี้มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น
“งั้นสตรอว์เบอร์รีพวกนี้ก็น่าเสียดายแย่น่ะสิ?”เซี่ยหยางเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ
“ไม่มีวิธีอื่นแล้วนะ ทำได้แค่นี้จริงๆ นี่เป็นการทำเพื่อไม่ให้เมล็ดพันธุ์เสียหาย”เหอเสี่ยวหย่าอธิบาย
เซี่ยหยางคิดว่ามีเหตุผล ถึงยังไงอย่ามากก็แค่ไปที่ทุ่งไร่หรือไปขุดมาจากในเขา แล้วค่อยเอาไปปลูกในโลกแผ่นหยก สตรอว์เบอร์รีป่าพวกนี้ มีเยอะมากในหมู่บ้านใกล้เคียง
จากนั้นเขาจึงทำตามวิธีของเหอเสี่ยวหย่า เริ่มลงมือทำ และยังได้ให้เอ้อนิ้วไปเกณฑ์คนมาช่วย แดดที่ภูเขาแรงมาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก็สามารถตากแดดจนแห้ง รอนำเมล็ดพันธุ์กลับมา เหอเสี่ยวหย่าก็พยักหน้าอย่างพอใจ เพราะว่าสตรอว์เบอร์รีมีผลที่ใหญ่ แน่นอนว่าเมล็ดพันธุ์จึงใหญ่ตาม เมล็ดพันธุ์พวกนี้จึงสามารถปลูกได้หลายหมู่
เหอเสี่ยวหย่ายังคงรู้สึกสนใจมาก ค่อยสอนชาวบ้านที่มาช่วยปลูก ว่าจะจัดการกับปัญหาระยะห่างยังไง ยังมีเรื่องให้ปุ๋ยและรดน้ำอีกด้วย
แน่นอนว่า เซี่ยหยางยังคงตักน้ำจากโลกแผ่นหยกมาใช้งาน เขาปลูกสตรอว์เบอร์รีทั้งหมดจำนวนสี่หมู่ หลังจากที่ทำงานเสร็จ เซี่ยหยางก็ไปที่ตัวอำเภออีกครั้ง ไปซื้อพวกเมล็ดพืชผักผลมากรากไม้มาล็อตหนึ่ง เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ขายไปจนหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องเตรียมหน้าดินใหม่ ผลไม้และพืชผักประเภทแตงจำเป็นต้องมีไว้ เนื่องจากกำไรงามพอสมควร
เซี่ยหยางครุ่นคิดไตร่ตรองมาแล้ว ภายใต้การรับประกันผลกำไร เขาต้องคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเขาออกมาให้ได้ ก่อนหน้านี้นอกจากผลไม้ที่ทดลองมาแล้ว ก็มีสตรอว์เบอร์รีในปัจจุบันนั่นแหละ
ต้นกล้าของผลไม้พวกนั้นใช่เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ก็โตเทียบเท่ากับต้นธรรมดาหนึ่งเมตรแล้ว อีกทั้งยังแตกกิ่งก้านสาขาเยอะอีกด้วย เขียวชอุ่มไปหมด มองดูต้นกล้าบางต้นก็เริ่มแตกหน่อออกมาแล้ว แต่ละวันมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
แน่นอนว่า กุ้งแก้วพวกนั้นก็เติบโตได้ดีเช่นกัน เซี่ยหยางไปดูด้วยตัวเองโดยเฉพาะ พบว่ากุ้งแก้วพวกนี้มันใหญ่เทียบเท่ากับกุ้งมังกรแล้ว พวกมันแหวกว่ายแย่งชิงอาหารในน้ำ อย่าดุดัน ถ้าถูกจับขึ้นมาจากผิวน้ำ ก็จะใช้ก้ามของพวกมันสู้โจมตี พร้อมที่จะแทงได้ตลอดเวลา
หากพัฒนาในลักษณะนี้ต่อไป อีกไม่กี่วัน ก็จะสามารถนำไปขายได้แล้ว รอเปลี่ยนเป็นเงิน และเขาก็ได้ลองคิดว่าจะเปลี่ยนไปปลูกปลาชนิดอื่นดู
วันนี้เซี่ยหยางพึ่งกลับมาจากแปลงผัก ก็ได้มีคนคนหนึ่งมาเคาะประตู เซี่ยหยางออกไปดู ก็พบว่าคือจางหม่าจื่อ
เมื่อพูดถึงจางหม่าจื่อ นับตั้งแต่เรื่องที่เขาทำลายเมล็ดพันธุ์พวกนั้น หลังจากที่ถูกเซี่ยหยางกับเอ้อนิ้วจับมากระทืบ เขาก็ได้หายไปช่วงหนึ่ง
“นายมาได้ยังไง?มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”เซี่ยหยางสูบบุหรี่ พลางขมวดคิ้ว
จางหม่าจื่อมองซ้ายแลขวา แล้วรีบปิดประตู ถึงแม้เรื่องนี้จะผ่านไปหลายวันแล้ว แต่เขายังคงกลัวเซี่ยหยางมาก จึงกดเสียงของตัวเองไว้แล้วพูดไปว่า“เถ้าแก่เซี่ยครับ เรื่องที่คุณให้ผมทำ ผมจัดการเกือบเสร็จแล้วนะครับ”
“จริงหรอ ไหนลองว่ามาสิ”เซี่ยหยางที่ให้อภัยจางหม่าจื่อในครั้งก่อน เป็นเพราะความจริงแล้วอยากจะจับผิดใครบางคนผ่านจางหม่าจื่อ เรื่องที่จางหม่าจื่อทำลายเมล็ดพันธุ์ทำให้เสียหายไปไม่น้อยก็จริง แต่ที่ปล่อยเขาไปก็เพื่อให้เขาไถ่บาป
“ช่วงนี้ผมสะกดรอยตามผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนจู้กับจางฝู้กุ้ยตลอด พวกเขาอิจฉาคุณมาก แน่นอนว่ายังมีเฉียงจื่อเพื่อนบ้านของคุณอีก พวกเขาวันๆเอาแต่สุมหัวให้ทางเล่นงานคุณ เอาแต่หาโอกาสอยู่อย่างนั้น”จางหม่าจื่อเหมือนกังวลว่าจะถูกใครได้ยินเข้า จึงมองไปทางประตูอย่างระมัดระวัง แล้วเริ่มพูดต่อ
“เถ้าแก่เซี่ย หลายวันมานี้ผมหวาดระแวงมาก กลัวว่าจะถูกพวกเขาจับสังเกตได้ แต่ผมระวังตัวมาก น่าจะยังไม่ถูกเปิดเผยอะไร พวกเขาปรึกษาหาวิธีจัดการกับคุณอีกแล้ว ผมมาเพื่อบอกคุณแค่นี้แหละ”
เซี่ยหยางหรี่ตาลง แล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น“พวกเขาคิดแผนการชั่วอะไรอีกแล้ว?ไอ้บ้าพวกนี้คงจะว่างมากสินะ กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำสินะ”
“ช่วยไม่ได้จริงๆนิ่ครับ พวกเขาอิจฉาเคียดแค้นคุณ คุณหาเงินได้เยอะเกินไป ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไปหมด ตอนนี้ฐานะของจางฝู้กุ้ยไม่เหมือนกับวันวานแล้ว เมื่อก่อนชาวบ้านต่างเคารพยำเกรงเขากระทั่งยังกลัวและแทบจะอยากประจบประแจงเขา แต่มาวันนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเขาต่างทำงานให้กับคุณ”
จางหม่าจื่อหดหัว ยังคงคิดเสียดายตอนนั้น ถ้ารู้ว่าเซี่ยหยางเก่งกาจขนาดนี้ เขาคงไม่ไปทำร้ายเซี่ยหยางเป็นแน่
“พอแล้ว เรื่องพวกนี้ฉันรู้ดี ไหนนายเล่ามาสิว่าพวกเขาจะจัดการฉันยังไง”เซี่ยหยางที่ระมัดระวังเรื่องนี้มาโดยตลอด คนคนหนึ่งคิดอยากจะประสบความสำเร็จ ต้องทำการรับมือกับคนชั่วไว้ให้ดี