เจ้าพ่อสุดเฟี๊ยวแห่งนคร - ตอนที่ 8
วันที่สอง เซี่ยหยางมาที่หมู่บ้านเกาตี้แปลงผักสิบหมู่ที่ตัวเองเช่าไว้ มองดูคนพวกนี้กำลังเก็บกวาดผักพวกนั้นที่ขายไม่ออกมานาน จึงอดทึ่งกับการทำงานของตาแก่ช่ายเลี่ยงไม่ได้
“แปลงผักจะต้องใช้เวลาสองวันถึงจะย้ายเกลี้ยง เรื่องแบบนี้ใจร้อนไม่ได้”ช่ายเลี่ยงที่เห็นเซี่ยหยางเดินมา ถึงหน้าของตนเอง จึงปั้นหน้าพูด
“ลำบากทุกคนแล้ว”เซี่ยหยางหัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า“ไม่รีบหรอกครับ สองวันนี้ผมจะเข้าไปซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูก”
“เมล็ดพันธุ์?”ช่ายเลี่ยงถามอย่างสงสัย“แกจะปลูกอะไร?”
“ถึงเวลาลุงก็รู้เองนั่นแหละ”เซี่ยหยางทำท่าขายใบตราส่งของ(อุบเรื่องที่สำคัญหรือน่าสนใจที่สุดเอาไว้ แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายรออย่างกระวนกระวาย)ยิ้มตาหยีเดินกลับหมู่บ้านไป
หลังจากกลับมาที่หมู่บ้านแล้ว เขาได้ยินมาว่า ตำบลข้างเคียงมีสถานที่เพาะปลูกต้นกล้าขององุ่น เขาขี่มอเตอร์ไซต์มาดูสถานที่เพาะอนุบาลต้นกล้า รู้สึกค่อนข้างพอใจ จึงซื้อต้นกล้าองุ่นแดงในคราวเดียวหนึ่งหมื่นต้น อีกฝ่ายทำการจัดส่งถึงบ้านในสามวันให้หลัง
พอจัดการเรื่องนี้เสร็จ เขาก็ไปซื้อเมล็ดพันธุ์มันฝรั่งกับบรรดาผักใบเขียวรวมถึงแตงกวา กลับมาถึงหมู่บ้านในช่วงค่ำมืด ระหว่างทางเจอเข้ากับรถกระบะขนผักของร้านฝูหมั่นโหลว ครั้งนี้มาด้วยกันทั้งหมดสามคัน
“พรุ่งนี้เช้าค่อยมาขนไม่ใช่หรอครับ?ทำไมถึงมาอีกแล้วล่ะ?”เซี่ยหยางถามอย่างสงสัย
“พรุ่งนี้มีคนจัดงานแต่งที่ร้านฝูหมั่นโหลวครับ กลัวว่าพวกผักจะส่งมาทัน ฉะนั้นจึงถือโอกาสมาขนไปให้มันจบๆ!”คนขับรถพูดอย่างสุภาพ“เถ้าแก่เซี่ยครับ รบกวนคุณหน่อยนะครับ”
“เห้อ เถ้าแก่อะไรกัน”เซี่ยหยางแก้มแดงเล็กน้อย ไม่คุ้นชินที่ถูกคนอื่นเรียกแบบนี้“เรียกผมว่าเสี่ยวเซี่ยหรือเซี่ยหยางก็พอครับ”
นี่เป็นผักและเห็ดชุดที่สองที่เซี่ยหยางปลูกในบ้านของตัวเอง ปลูกสองหมู่เต็มๆ รถกระบะทั้งสามคันต้องขนกันสามรอบถึงจะขนกันหมด ดูตามราคาใน ณ วันนี้ ครั้งนี้เขาได้เงินมาทั้งหมดหกแสนกว่า เพราะว่าจำนวนเยอะเกินไป จึงใช้วิธีการโอนเงินโดยอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หลังจากที่เงินเข้าบัญชีแล้ว เซี่ยหยางก็ส่งบรรดาคนขับ แล้วผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
เช้าวันที่สอง หลังจากที่เขาตื่นนอนก็เข้าไปรดน้ำให้กับโสมในโลกแผ่นหยก แล้วจึงไปเรียกหลี่เอ้อนิ้วมา
“มีเรื่องอะไรหรอครับพี่หยาง?”เมื่อคืนทำเอาหลี่เอ้อนิ้วเหนื่อยมาก เช้ามาจึงยังไม่ได้ตื่นเต็มที่ เขาเอ่ยถามด้วยตาที่ยังสะลึมสะลืออยู่
“เราเช่าที่ดินที่อยู่ตรงข้ามของช่ายเลี่ยงมาสิบหมู่ อีกทั้งยังไปเซ็นสัญญาทุกอาทิตย์ต้องส่งผักให้ร้านฝูหมั่นโหลวหนึ่งครั้ง ลำพังเราสองพี่น้องก็ทำไม่ไหวกันแล้ว”เซี่ยหยางยื่นบุหรี่ให้เขาสูบหนึ่งม้วน แล้วพูดขึ้นมาว่า“เราต้องหาคนมาช่วย เพราะฉะนั้นที่เรียกนายมาตั้งแต่เช้า จะให้นายช่วยไปหาบ้านที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับเรา ขอแค่ไม่มีผลกระทบอะไรกับการทำเกษตรของพวกเขา ทุกบ้านเรียกมาคนสองคนก็พอแล้ว ฉันจะให้คนละสามพันต่อเดือน”
“สามพัน?”หลี่เอ้อนิ้วถลึงตาโต แล้วพูดขึ้นมาว่า“พวกเขาปลูกผักขายได้ปีละแค่เจ็ดแปดพันหยวน เดือนหนึ่งให้สามพัน ไม่แย่งกันมาเลยหรอ?ฉันคาดว่าคงจะมากันคราวเดียวเป็นสิบคนแน่ เราเลี้ยงไม่ไหวหรอกมั้ง?”
“ไม่มีปัญหา”เซี่ยหยางหัวเราะเสียงดัง“กำนันบอกแล้วไม่ใช่หรอ ว่าให้ฉันพาชาวบ้านรวย อีกทั้ง เดือนหนึ่งเอาเงินออกมาสามถึงห้าหมื่นไม่มีปัญหาหรอก”
“อิๆ งั้นผมก็วางใจไปเรียกคนมาแล้วนะ!”หลี่เอ้อนิ้วถูมือ“คราวนี้ผมว่าชื่อเสียงร่ำรวยของจางฝู้กุ้ยคงจะรักษาไว้ไม่ได้แล้วล่ะ คงจะอิจฉาพี่แน่ๆ!”
เวลาช่วงกลางวัน เซี่ยหยางที่กินข้าวเที่ยงแล้ว หญิงชายประมาณสิบห้าสิบหกคนรวมกลุ่มกันเดินเข้ามาที่ลานหน้าบ้านของตนเอง เป็นญาติพี่น้องที่อายุมากกว่า เป็นพวกบรรดาลุงป้าน้าอา ต่างเข้ามาเพื่อถามยืนยันว่าพวกเขาทำงานให้จะได้ค่าตอบแทนจริงหรือไม่
“แน่นอนครับ!”หลังจากที่ทุกคนคลายข้อสงสัยแล้ว เซี่ยหยางก็พูดเสียงดังว่า“ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนบ้านญาติพี่น้องกัน ผมฐานะดีขึ้นมาแล้วเลยคิดถึงพวกคุณ ถ้าหากทุกคนไม่เชื่อ ตอนนี้ผมสามารถเอาเงินเดือนให้ทุกคนก่อนได้!”
“โอ้โห งั้นนายจ่ายมาสิ!”
“พูดบ้าอะไรน่ะ!เซี่ยหยางไม่ได้เป็นคนชอบพูดเรื่อยเปื่อยนะ!”
“เซี่ยหยาง ป้าจะทำกับเธอเอง!”
“ได้ครับ!”เซี่ยหยางตบโต๊ะ แล้วพูดขึ้นอย่างใจป้ำ“ในทุกเดือนมีวันหยุดสองวัน ทำงานวันละแปดชั่วโมง เงินเดือนจะออกทุกสิ้นเดือน จากนี้ไปการทำงานของทุกคนฟังคำสั่งจากเอ้อนิ้ว ตอนนี้เขาคือผู้ช่วยของผม!”
“โอ้ เอ้อนิ้วเป็นถึงผู้ช่วยแล้วหรอ!”
“อิๆ”หลี่เอ้อนิ้วฉีกยิ้มกว้าง แล้วเริ่มย้ำคำพูดของเขา“ทำงานกับพี่หยางได้เงินแน่ๆ!”
การรับสมัครหาคนงานใช้เวลาคุยไปสองชั่วโมง ตัดสินให้ทุกคนเริ่มทำงานกันพรุ่งนี้
ทุกคนต่างแยกย้ายกันออกไป เซี่ยหยางเริ่มแบ่งงานให้กับหลี่เอ้อนิ้ว
แปลงผักของตนที่ดินทั้งหมดสองหมู่จะใช้ปลูกแตงกวา ที่ดินสิบหมู่ที่เช่ามาจะทำการปลูกองุ่นกับมันฝรั่ง และพืชผัก
ข้อกำหนดที่สำคัญที่สุดคือ การใช้น้ำในอ่างเก็บน้ำถัดจากแปลงผักเพื่อการชลประทาน!ปริมาณการรดน้ำต้องสม่ำเสมอที่สุด!!
หลังจากที่หลี่เอ้นิ้วเข้าใจแล้ว เซี่ยหยางก็ยื่นเงินสามหมื่นให้กับเขา แล้วพูดขึ้นมาว่า“เอ้อนิ้ว ลำบากหน่อยนะ หลังจากนี้ไปถ้าได้เงินมานายได้ส่วนแบ่งแน่ เงินนี่นายเอาไปก่อน ค่าใช้จ่ายในการทำงาน นายใช้จ่ายอะไรไป ใช้ได้เลยนะ ไม่ต้องทำบัญชี”
“เห้อ!”หลี่เอ้อนิ้วตบหน้าอกของตัวเองเป็นการยืนยัน“พี่หยาง ผมรับรองว่าต้องทำงานให้เสร็จเรียบร้อยครับ!”
ตอนนี้เซี่ยหยางแทบจะชี้นิ้วในการบังคับสั่งการ เขานอนกลางวันอย่างสบายใจ รอจนถึงตอนกลางคืน ค่อยไปเริ่มทำงานของตนเอง
ในคืนนี้ เขารดน้ำให้บรรดาผักที่อยู่ข้างๆอ่างเก็บน้ำ โดยทั้งหมดใช้น้ำที่หาบมาจากโลกแผ่นหยก ผ่านการทำงานมาสองคืน เขาใช้แรงของเขาเพียงคนเดียวกามารถหาบน้ำมาใส่อ่างเก็บน้ำสองสามอ่างมาจนเต็ม น้ำแร่น่าจะราวๆสามสิบตันได้
เช้าของวันที่สาม หลังจากที่เขามองดูทุกคนเริ่มทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง เซี่ยหยางรู้สึกพอใจมาก คิดว่าได้เวลาปลูกของที่ล้ำค่าแล้ว
เซี่ยหยางขี่รถเข้ามาในตัวอำเภอ วิ่งไปทางร้านขายพันธุ์พืชของยาจีน อยากจะซื้อเมล็ดโสมกับชายชราเพื่อกลับไปปลูกทุ่งสวรรค์ รถจอดนิ่ง เขาเดินเข้าไปด้านใน ไม่เห็นชายชราคนก่อนแล้ว เห็นเพียงสาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง
“สวัสดีครับ”เซี่ยหยางเดินเข้าไป แล้วถามอย่างแปลกใจไปว่า“ขอโทษนะครับเถ้าแก่อยู่ไหมครับ?”
“คุณมีอะไรหรอคะ?”หญิงสาวสวยในชุดกระโปรงยาวสีขาวเหลือบมองกลับมา เหลือบมองที่เซี่ยหยางแล้วก้มศีรษะลงเพื่อยุ่งกับตัวเองต่อไป และพูดไปว่า“พ่อไม่สบายน่ะค่ะ คุณต้องการซื้ออะไรบอกกับฉันก็พอค่ะ แต่ทางที่ดีเร็วหน่อยนะคะ ฉันจะรีบปิดร้านแล้ว”
“ตาแก่นั่นเป็นพ่อของคุณหรอครับ?”เซี่ยหยางมองไปที่สาวสวยตรงหน้าที่อายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี แล้วพูดอย่างตกตะลึง“ครั้งก่อนตอนที่ผมมาแกยังดีๆอยู่เลย อาการดีขึ้นมาบ้างไหมครับ?เป็นหนักไหม?”
ที่เป็นห่วงขนาดนี้ เป็นเพราะเซี่ยหยางจำได้ว่าน้ำแร่ในโลกแผ่นหยกของเขาสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้
“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”เห็นได้ชัดว่าสาวสวยกำลังหาของในลิ้นชักอย่างรีบร้อน“เขาแก่แล้ว ต้องดูแลตัวเองหน่อย ฉันจำได้ว่าในร้านมีโสมหนุ่มอยู่ ทำไมหาไม่เจอนะ?”
พอนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองสนทนากับเด็กหนุ่มแปลกหน้ามากขนาดนี้ในขณะที่กำลังวุ่นๆอยู่ เหอเสี่ยวหย่ารู้สึกรำคาญใจมาก เธอขมวดคิ้วเป็นปมแล้วพูดขึ้นมาว่า“ขอโทษนะคะ ตอนนี้ฉันต้องการความเงียบ คุณยังมีธุระอะไรอีกไหมคะ?ถ้าไม่มีก็เชิญค่ะ”
เซี่ยหยางเมินเฉยต่อกิริยาท่าทางของเธอ มองดูสมบัติล้ำค่าของตำบลที่อยู่ภายในร้านแวบหนึ่ง หลินจือดอกนั้นคงจะมีอายุหลายร้อยปีแล้ว จึงพูดขึ้นมาว่า“พวกคุณขายพันธุ์พืชยาจีนไม่ใช่หรอครับ?ทำไมถึงไม่มีโสมหนุ่มล่ะ?”
“พูดไปนายก็ไม่เข้าใจ”เหอเสี่ยวหย่าหาโสมไม่เจอ จึงหยิบยาจีนล้ำค่าออกมาอย่างละนิดหน่อย ใส่เข้าไปในกล่องหรู แล้วพูดขึ้นมาว่า“ตอนนี้พ่อของฉันกำลังรักษาอยู่ที่บ้านของปรมาจารย์แพทย์แผนจีนท่านหนึ่ง ต้องการโสมมาก ฉันต้องรีบเข้าไปดูในตัวจังหวัดว่าจะพอหาได้ไหม ถ้าคุณสามารถหาให้ฉันได้ เงินไม่ใช่ปัญหา”
“นี่เป็นเบอร์มือถือของฉัน”เหอเสี่ยวหย่ายืนนามบัตรหรูใบหนึ่งให้กับเซี่ยหยาง หลังจากนั้นก็ปิดร้านไป หยิบกุญแจรถเตรียมจะออกไป
เหอเสี่ยวหยา?
“ชื่อนิสัยเหมือนเจ้าตัวเลยแหะ!”เซี่ยหยางที่มองดูรูปร่างเพรียวสูงอยู่หลายครั้ง กิริยาท่าทางหวานหยดย้อยของเหอเสี่ยวหย่า เขาพูดมันในใจ
หลังจากนั้น เขาพลิกกลับไปอีกด้านหนึ่ง ก็เห็นเพียงผู้อำนวยการบริษัทแห่งหนึ่ง
เยสเข้ ขาว สวย รวย อายุน้อย!
“เฮ้ คนสวย ผมมีโสมครับ!”เซี่ยหยางที่รู้สึกตัวได้ก็รีบเรียกเธอไว้ แล้วพูดขึ้นมาว่า“ผมมีโสมหนุ่มครับ คุณต้องการใช้เท่าไหร่!”
“คุณมีจริงๆหรอครับ?”เหอเสี่ยวหย่าที่มองประเมินดูเซี่ยหยาง แล้วพูด“มีเท่าไหร่รับซื้อเท่านั้น?”
เซี่ยหยางพยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วพูด“ครับ!”
“เอาให้ฉันมาก่อนสิบราก!”เหอเสี่ยวหย่าลูบมือถือ แล้วเอ่ยถามว่า“จะเอามาให้เมื่อไหร่คะ?ขายยังไง?”
“เรื่องราคาเราค่อยว่ากัน”เซี่ยหยางแอบปาดเหงื่อ โชคยังดีที่เธอเอาแค่สิบราก“ภายในยี่สิบนาทีเดี๋ยวผมเอามาให้ครับ”
“ได้!เดี๋ยวฉันจะรอคุณยี่สิบนาที!”เหอเสี่ยวหย่ากลับมาที่ร้าน หลังจากนั้นก็เริ่มโทรศัพท์
“แต่ผมมีข้อแม้ ผมอยากได้เมล็ดพันธุ์ที่มีค่านิดหน่อย อย่างเช่นเห็ดหลินจือ?”เซี่ยหยางตามเข้ามา แล้วชี้ไปที่เห็ดลิ้นจือดอกนั้น แล้วพูดขึ้นมาว่า“ผมสนใจกับเมล็ดเห็ดหลินจืออะไรพวกนี้”
“ถ้าไม่เห็นโสมหนุ่มสิบรากก่อน งดคุยทุกเรื่อง!”เหอเสี่ยวหย่าพูดด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ
“ได้ครับๆ ผมจะไปเอาตอนนี้แหละ”เซี่ยหยางทิ้งไว้หนึ่งประโยค จากนั้นก็รีบขี่มอเตอร์ไซต์ของตัวเองจากไป หาที่ที่ไม่มีคนพบเห็นเข้าไปในโลกแผ่นหยก หลังจากนั้นก็ขุดรากโสมอันอ้วนท้วมสมบูรณ์อย่างระมัดระวังออกมา
“น่าเสียดาย ที่มันมีขนาดใหญ่แค่แครอทหนึ่งหัว ถ้าหากปลุกต่ออีกสักสองสามเดือน พวกคุณจะต้องเจออภิมหาจักรพรรดิโสมในโลกปัจจุบันแน่”เซี่ยหยางถอนหายใจแล้วหยิบโสมใส่เข้าไปในกระเป๋า หลังจากนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซต์อย่างสบายใจเฉิบไปที่ร้านขายยาจีน
“อ่ะ คุณดูคุณภาพก่อน”เซี่ยหยางยืนโสมไปวางไว้ตรงหน้าของเหอเสี่ยวหย่า หลังจากนั้นก็จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ เดินมองสำรวจไปมาที่เห็ดหลินจือดอกนั้น
เหอเสี่ยวหย่าถ่ายรูปเห็ดหลินจือ หลังจากนั้นก็ส่งให้กับเลขาของปรมาจารย์แพทย์แผนจีน ผ่านไปไม่นาน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา
“คนสวย ว่ายังไง?”เซี่ยหยางตรวจสอบว่าหลินจือเป็นของแท้หรือไม่ เดินไปที่ข้างๆเหอเสี่ยวหย่าเพื่อเชยชมกับรูปร่างอันสวยสะพรั่งของเธอ พอเห็นเธอวางสายลง ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้
“ฉันชื่อเหอเสี่ยวหย่า คุณเรียกชื่อฉันก็พอ”เหอเสี่ยวหย่าพูดอย่างเรียบเฉย“คุณไม่รู้สึกหรอว่าการเรียกคนสวยมันเฉยน่ะ?รออีกเดี๋ยวเถอะ ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนจะมาดูด้วยตัวเอง”
พูดถึงตรงนี้ เหอเสี่ยวหย่าก็อดที่จะประเมินดูเด็กหนุ่มตรงหน้าหลายครั้ง สวมเสื้อผ้าธรรมดา ขี่มอเตอร์ไซต์ จะมองแนวนอนหรือแนวตั้งก็ไม่เหมือนคนที่เหนือกว่าแต่อย่างใด
โสมที่ล้ำค่าขนาดนี้ อีกทั้งยังยากที่จะรวมกันให้ได้สิบราก เขาไปเอามาจากไหนกัน?