เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 110
บทที่ 110 หัวใจของหญิงสาว
คนที่เดินเข้ามา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นฉางเซ่าเฟิง!
นี่เป็นเรื่องที่หลินจ้าวหยูนกับซูเซี่ยคิดไม่ถึง พวกเธอคิดว่า นี่เป็นแค่พวกนักเลงธรรมดาทั่วไป อันที่จริงความสวยของพวกเธอสองคน เดินไปกลุ่มคนที่ไหนก็เป็นจุดเด่น เจอเหตุการณ์ที่ยุ่งยากบ้างก็เป็นเรื่องปกติ
แต่คิดไม่ถึงว่า คนที่อยู่เบื้องหลังกับเป็นฉางเซ่าเฟิง!
“ ฉาง ฉางเซ่า … ”
ทั้งกลุ่มเฮียเก่ามองฉางเซ่าเฟิงที่เดินเข้ามา ก้มหน้าลงอย่างละอายใจ “ขอโทษครับ พวกเราล้มเหลว”
“ไอ้กองขยะ! ไสหัวไป!”
ฉางเซ่าเฟิงสีหน้าเรียบเฉยมองดูพวกเขา แล้วตะโกนด่า
เฮียเก่าและคนอื่นๆ เดินกะเผลกออกจากร้านหม้อไฟ
ฉางเซ่าเฟิงก็ไม่ได้เกรงกลัว เดินมาอยู่ต่อหน้าถังเฉาด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วพูดว่า “ถังเฉา คุณจะเอายังไง?!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเฉายิ้มเล็กน้อยขึ้นมา “คำพูดนี้ตรงกันข้าม ไม่ใช่ผมจะเอายังไง คุณต่างหากที่จะเอายังไง”
ฉางเซ่าเฟิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สายตาของเขายิ่งมืดมน
เขายืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนข้างนอกตามองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เดิมทีเขาคิดว่าจะปรากฏตัว หลังจากพวกเฮียเก่าพาหลินจ้าวหยูนและซูเซียไปแล้ว แต่สถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างไปจากที่เขาคิดไว้
ถังเฉา!
ถังเฉาอีกละ!
เปลวไฟแห่งความเกลียดชังกำลังลุกไหม้ในดวงตาของฉางเซ่าเฟิง เกลียดจนอยากจะใช้มีดแทงเขาเป็นพันครั้ง
เพื่อที่จะได้หลินจ้าวหยูน เขาอุตส่าห์วางแผนใช้ทุกวิถีทาง ทุ่มเทแรงใจทุกอย่าง แต่กลับถูกถังเฉาทำลาย
นี่ก็ถือว่าแล้วไป แต่ยังถูกทำลายส่วนสำคัญในชีวิต ถ่ายคลิปวิดีโอ ทำลายชื่อเสียง สุดท้ายก็ต้องไปคุกเข่าต่อหน้าหลินจ้าวหยูนครึ่งค่อนวัน จนอับอายขายหน้า
ฉางเซ่าเฟิงอย่างเขา เคยเสียเปรียบเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ดังนั้นเขาจึงกลับมา และยังต้องการลงมือกับหลินจ้าวหยูน ไม่ใช่เพื่อคุณธรรม แต่เพียงเพื่อ—-ทรมาน
สุดท้าย ไม่เพียงแต่เขาไม่ประสบความสำเร็จเท่านั้น เขายังถูกถังเฉาสั่งสอนอย่างโหดร้าย
“ไม่ผิด”
ฉางเซ่าเฟิงยอมรับแบบเปิดเผย แต่ว่าใบหน้ากลับเปลี่ยนเป็นความน่ากลัว “ถังเฉา คุณทำให้ผมเป็นอย่างนี้ ผมจะไม่มีวันเลิกลา! ยังมีคุณ หลินจ้าวหยูน!”
เขาชี้ไปที่หลินจ้าวหยูน พูดอย่างหนักแน่น “ผมจะไม่ปล่อยคุณแน่ ถึงแม้ครั้งนี้จะล้มเหลว แต่ยังมีครั้งต่อไป และครั้งต่อๆๆๆๆไป—-จนกว่าพวกคุณจะตกอยู่ในกำมือของผม”
หลินจ้าวหยูนเบิกตาโตจ้องไปที่ฉางเซ่าเฟิง และค่อยๆดึงชายเสื้อของถังเฉาเบาๆ “พี่เขยเขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”
ถังเฉาสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็มีสีหน้าเยาะเย้ย “คุณคิดว่า คุณยังมีครั้งต่อไปหรอ?”
ประโยคนี้ทำให้ฉางเซ่าเฟิง รู้สึกได้ถึงความอันตราย และเขามองไปที่ถังเฉาอย่างระแวดระวัง “คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง คุณเป็นแค่ขยะของตระกูลหลิน หรือจะกล้าลงมือกับผม?”
ครั้งที่แล้วก็เกือบทำให้ชื่อเสียงของบริษัทผลิตยาหงเทียนเสีย เพราะฉะนั้นถังเซ่าเฟิงจึงเลือกที่จะอดทน แต่ว่าครั้งนี้ เขาไม่กลัวว่าถังเฉาจะลงมือกับตัวเอง
“ยังต้องการให้ผมลงมือใช่ไหม? บริษัทผลิตยาหงเทียนของพวกคุณยังเอาตัวไม่รอด” ถังเฉาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ฉางเซ่าเฟิงเหมือนได้ยินเรื่องที่น่าขำ หัวเราะขึ้นมา “คุณว่าบริษัทผลิตยาหงเทียนของเรายังเอาตัวไม่รอด? ไหนนายลองพูดมาสิ เอาตัวไม่รอดยังไง?”
พูดเป็นเล่น บริษัทผลิตยาหงเทียนติดอันดับหนึ่งในห้าสิบบริษัทชั้นนำของเมืองหมิงจู พ่อของเขาฉางหงเทียนยิ่งเป็นสมาชิกในสมาคมการค้าหงยิง ใครจะกล้าลงมือกับบริษัทผลิตยาหงเทียน? !
“ใช่แล้ว แม้ว่าตอนนี้บริษัทผลิตยาหงเทียนจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับล้มละลายมั้ง?” หลินจ้าวหยูนถามอย่างแปลก ๆ
แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนในเมืองหมิงจู แต่เธอก็เคยได้ยินชื่อเสียงของบริษัทผลิตยาหงเทียน ว่ากันว่าธุรกิจนี้ขยายออกไปนอกเมืองหมิงจูแล้ว
ระดับธุรกิจยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ บอกจะล้มก็ล้มได้หรอ?
ถังเฉายิ้มๆ ไม่ได้โต้แย้ง เพียงพูดดอย่างเฉยเมยว่า “อย่างมากก็หนึ่งสัปดาห์ บริษัทผลิตยาหงเทียนถึงจุดจบแน่นอน!”
ฉางเซ่าเฟิงมองไปที่ถังเฉาเหมือนกับกำลังมองคนปัญญาอ่อน “ผมว่าคุณกินหม้อไฟกินจนโง่แล้วมั้ง บริษัทของพ่อผม จะจบได้ไง? กลับเป็นตระกูลหลินพวกคุณต่างหาก พ่อผมกำลังลงมือจัดการกับตระกูลหลินแล้ว รีบสร้างบุญไว้มากๆเถอะ”
พูดจบ เขาก็หัวเราะแล้วเดินจากไป
ถังเฉาไม่ได้ขัดขวาง ปล่อยเขาเดินจากไป
หลินจ้าวหยูนถามอย่างสงสัย “ พี่เขยปล่อยเขาไปแบบนี้เหรอ?”
“ ไม่ต้องห่วง เขาหนีไม่พ้นหรอก”
ถังเฉากุมทุกอย่างไว้ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “เรื่องในคืนนี้ อันที่จริงเขาเป็นผู้บงการ แต่ไม่ใช่ผู้ดำเนินการ ลงมือกับเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพ้นข้อหา”
“พี่ว่าบริษัทผลิตยาหงเทียนต้องจบ เขาก็ต้องจบแน่นอน !”
คำพูดนี้ทั้งเย่อหยิ่งและทำตามอำเภอใจ ทันใดนั้น หลินเจ้าหยูนชะงัก มองถังเฉาอย่างมึนงง
ถ้าเป็นมีคนอื่นพูดประโยคนี้ หลินจ้าวหยูนไม่เชื่อแน่นอน แต่เพี่เขยตัวเองเป็นคนพูด เธอกลับมีภาพจินตนาการ บริษัทผลิตยาหงเทียน จะจบเห่จริงๆแล้ว
หลังกินอาหารค่ำ ถังเฉาไปส่งซูเซี่ยกลับบ้านลุงเหลี่ยงก่อน ค่อยส่งหลินจ้าวหยูนที่มหาลัยหมิงจู
ทั้งสองนั่งอยู่ด้านหลังของรถแท็กซี่ด้วยกัน ถังเฉามองไปข้างๆทิวทัศน์ที่ถอยหลัง สายตาคมลึก
หลินจ่าวหยูนแกล้งทำเป็นว่าเล่นมือถือ แอบมองด้านข้างของถังเฉา
ในตอนแรกเธอไม่คิดว่าถังเฉามีอะไรพิเศษ ก็แค่คนธรรมดา แต่ช่วงระยะนี้ที่ได้ใกล้ชิด หน้าตาของถังเฉาตราตรึงอยู่ในสมองของเธอ
โครงร่างของเขา ชัดเจนมาก อยู่ด้วยแล้วมีความรู้สึกปลอดภัย
นอกจากพ่อแล้ว เป็นคนที่สองที่ทำให้หลินจ้าวหยูนรู้สึกรับรู้ได้ถึงความปลอดภัย
แชะ—-
จับผลัดจับพลู เธอกดชัตเตอร์ไปทางถังเฉา
ถังเฉาได้สติ สีหน้าประหลาดใจ “เธอแอบถ่ายพี่?”
“ ไม่ได้หรอ?”
หลินจ้าวหยูนหัวเราะเหอเหอ เชยคางขึ้น พูดอย่างยั่วยุ
“ไม่ใช่ไม่ได้ เธอจะถ่ายก็บอกพี่ได้ ไม่เห็นต้องแอบถ่ายเลย —-”
หลินจ้าวหยูนราวกับได้เจอสิ่งใหม่ๆ รีบนั่งเข้ามาใกล้ แววตากระพริบๆ “ ได้จริงๆเหรอ?”
ถังเฉาชะงักไปครู่หนึ่ง และพยักหน้าอย่างมึนงง
“ งั้นพี่เขยมา พวกเราถ่ายรูปกัน!”
หลินจ้าวหยูนตะโกนด้วยความดีใจ จากนั้นเปิดโทรศัพท์ และหันกล้องตรงไปทางถังเฉา
ขณะเดียวกันก็แนบแก้มเข้ามาใกล้ เบียดกันเข้าเลนส์ และกดชัตเตอร์
แชะ —-
หลินจ้าวหยูนถ่ายรูปคู่ใบแรกกับถังเฉา ในรูปถ่ายหลินจ้าวหยูนหน้าตาแอ๊บแบ๊ว ชูสองนิ้ว แต่สีหน้าของถังเฉากับไม่เป็นธรรมชาติ ท่าทางแข็งทื่อ ท่าที่โพสต์ต่างกันชัดเจน
หลังถ่ายเสร็จ หลินจ้าวหยูนกลับไปนั่งที่เดิม จับมือถือ ใจเต้นตุ้บๆ
ดูจากพฤติกรรมเมื่อกี้ของเธอธรรมชาติมาก แต่จริงๆแล้วเธอตื่นเต้นแค่ไหน มีเธอเท่านั้นที่รู้
อันที่จริง เขาคือสามีของพี่สาวเธอนะ …
ช่วงที่ถังเฉาไม่สังเกต หลินจ้าวหยูนแอบเอารูปคู่ตั้งเป็นภาพหน้าจอ
ในเวลาเดียวกัน สวนตระกูลหลิน
หลินฉ่ายเวยกลับบ้านด้วยผมที่ยุ่งเหยิง หน้าช้ำดำเขียว ทันใดนั้น ทุกคนในบ้านตกตะลึงกันหมด
“ฉ่ายเวย! หน้าเธอเป็นอะไร ไปโดนใครตีมา?!”
โจวเหม่ยหยูนสีหน้าเปลี่ยนมาก เธอเดินเข้าไปอยู่ข้างหลินฉ่ายเวยอย่างรวดเร็ว ซักถามด้วยความตกใจและโมโห
โจวเหม่ยหลิน หลินจ้อง โจวซูหัวต่างก็ล้อมเข้ามา จ้องมองหลินฉ่ายเวยอย่างไม่น่าเชื่อ
ในตอนนี้เธอรู้สึกอับอายอย่างมาก
ผมเผ้ายุ่งเหยิง ราวกับถูกใครฉีกหน้า แก้มทั้งสองข้างบวมเป่ง ดวงตาแดงก่ำ มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าร้องไห้มา
ส้นสูงรองเท้าหักไปข้างหนึ่ง เสื้อผ้าก็สกปรกเต็มไปด้วยรอยเท้า
“ จะเป็นใครได้อีกล่ะ ก็ไอ้ขยะนั่นแหละ…”
รอยฟกช้ำบนร่างกายของเธอยังคงเจ็บปวด ยิ่งเจ็บปวดมากเท่าไหร่ ในแววตาของหลินฉ่ายเวยยิ่งแสดงความเกลียดชังมากเท่านั้น
“อะไรนะ?!”
ทันใดนั้น โจวเหม่ยหยูนเหมือนถูกกระตุ้นอย่างแรง กรีดร้อง โวยวายต่อหน้าทุกคน “ไอ้ขยะนี่กินดีหมีมารึไง ถึงได้กล้าตบเธอ!”
“ ไม่ใช่เขา เป็นน้องเมียของเขา”
“ผู้หญิงคนนั้นไม่เพียงแต่ด่าว่าฉันเลวเท่านั้น แต่ยังตบฉัน ดึงผมฉัน ต่อยและเตะฉัน!”
หลินฉ่ายเวยปิดหน้าและพูดอย่างอาฆาตแค้น
เมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนั้นที่ทั้งสวยกว่า และมีอำนาจเหนือเธอ เธอโกรธจนอยากจะตายอยู่แล้ว
ความเกลียดที่มีต่อผู้หญิงคนนั้น มีมากกว่าถังเฉาอีก
ทันใดนั้น ตระกูลหลินกลับเงียบ ทุกคนมองหลินฉ่ายเวยอย่างมึนงง
“ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“ ไอ้ถังขยะนั่น แต่งงานแล้วเหรอ?”