เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 112
บทที่112 คนที่เคยรู้จักมาเยี่ยม
ขณะที่ถังเฉากลับมาถึงบ้าน หลินชิงเสว่กำลังสอนพิเศษให้กับถังเสี่ยวลี้
มองเห็นถังเสี่ยวลี้ขมวดคิ้วคิดทำการบ้านจนนิ้วพันกัน ถังเฉาที่เป็นคนรักลูกมากอยู่แล้วถึงกับเป็นห่วงเป็นใยพูดว่า “เสี่ยวลี้เพิ่งห้าขวบ ให้เขาเรียนเนื้อหาบทเรียนเด็กประถม เร็วเกินไปไหม?”
ได้ยินเสียงคุณพ่อพูด ถังเสี่ยวลี้ก็นึกน้อยใจ เม้มริมฝีปากพูดว่า “คุณแม่ ลูกอยากไปดูหนังการ์ตูนกับคุณพ่อ”
มองเห็นสายตาอ้อนวอนของบุตรสาวตน หลินชิงเสว่ทำได้เพียงประนีประนอมยอมให้ “งั้นก็ได้ แต่ให้เวลาดูแค่ครึ่งชั่วโมงนะ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณแม่”
ถังเสี่ยวลี้ยิ้มด้วยความดีใจ ยืนขึ้นหอมไปที่ใบหน้าหลินชิงเสว่ไปฟอดใหญ่
จากนั้น วิ่งไปยืนด้านข้างถังเฉาด้วยความตื่นเต้น ร้องเรียกอยากจะดูแพะที่น่าพอใจและหมาป่าตัวใหญ
“ตกลง พ่อจะเปิดแพะที่น่าพอใจและหมาป่าตัวใหญให้ดู”
ถังเฉานั่งอยู่บนโซฟา เปิดการ์ตูนให้เสี่ยวลี้ดู
ถัง เสี่ยวลี้หัวเราะคิกคัก มองเห็นท่าทางหัวเราะของบุตรสาว ถังเฉาหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจเช่นกัน
หลินชิงเสว่ใช้มือแตะตรงจุดที่ถังเสี่ยวลี้จุ๊บบนใบหน้า ยิ้มเล็กน้อย เดินขึ้นไปทำงานขั้นบนต่อ
ดูการ์ตูนได้ครู่หนึ่ง ถังเสี่ยวลี้ก็เผลอหลับคาหน้าจอ จากนั้นถังเฉาจึงอุ้มลูกสาวขึ้นไปชั้นบน ห่มผ้าห่มให้บุตรสาวด้วยความระวัง แล้วเดินมาข้างกายหลินชิงเสว่
“เสี่ยวลี้หลับแล้ว” เขาพูดเบา ๆ
“อืม”
หลินชิงเสว่หันไปมองดูถังเสี่ยวลี้กำลังหลับสนิท ยังคงสงวนคำพูดเช่นเดิม
ถังเฉาก็ไม่เอามาใส่ใจ อยู่ข้าง ๆ หลินชิงเสว่มองเธอทำงานอยู่เงียบ ๆ
เธอกำลังร่างแผนงานหนึ่งชุด เพราะว่าเธอคือประธานบริษัทลี่จิงกรุ๊ป ดังนั้นน้อยนักที่เธอจะมีเวลาพักผ่อนเป็นของตนเอง กลางวันทำงานที่บริษัท ช่วงเย็นเลิกงานแล้วยังต้องทำงานอยู่ที่บ้านอีก
เธอเหมือนเครื่องจักรกลที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นอกจากการดำรงชีวิตในประจำวันแล้ว เธอจะไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
“ก่อนที่ผมจะกลับมา คุณก็ทำอย่างนี้ใช่ไหม?” ถังเฉานึกเป็นห่วงเป็นใย พูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเน้นหนัก
หลินชิงเสว่หยุดมือที่กำลังทำงานอยู่ หันหลังกลับไปมองถังเฉา จากนั้นพนักหน้ารับคำเบา ๆ
ถังเฉาจมดิ่งลงสู่ความเงียบ ในใจรู้สึกผิด จนไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาหลินชิงเสว่
เขาสามารถจินตนาการได้ชัดเจนว่าห้าปีที่ผ่านมานี้หลินชิงเสว่พบเจออะไรมาบ้าง เป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งแม่ เลี้ยงดูอยู่เคียงข้างเสี่ยวลี้มาอย่างยากลำบาก
เธอต้องการทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ที่ดี ยังต้องการให้บุตรสาวของเธอมีชีวิตสุขสบาย ดังนั้นเธอจึงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ความเคยชินเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเรื่องหนึ่ง และหลินชิงเสว่ ก็เป็นคนที่ทำจนเคยชินเสียแล้ว
สิ่งนี้ทำให้ส่วนลึกในใจของถังเฉามีความรู้สึกผิดหวังบางอย่าง—-ภรรยาของเขา ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะเชื่อใจเขาเลย
“ผมไม่อยากให้คุณต้องทำงานลำบากอย่างนี้” เขามองหน้าพูดกับหลินชิงเสว่จากใจจริง
ดวงตาของหลินชิงเสว่เปลี่ยนเป็นสุขุมนุ่มลึก จากนั้น ยิ้มให้กับถังเฉาและพูดว่า “ถังเฉา ฉันเข้าใจในความหวังดีของคุณ แต่ว่า ครอบครัวนี้ฉันความสามารถจะทำให้มันดีขึ้นได้ คุณทำหน้าที่เป็น คุณพ่อ ที่ดีก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นคุณไม่ต้องเป็นกังวล”
ขณะที่ถังเฉานิ่งเงียบ เขาเข้าใจดี ถึงแม้หลินชิงเสว่แสดงความจริงใจมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าเขาก็ยังไม่สามารถเข้าไปในใจของหลินชิงเสว่ได้เลย
เส้นทางยังอีกยาวไกล
เขาไม่มีทางจะให้หลินชิงเสว่ผู้หญิงตัวคนเดียวแบกรับรับภาระทั้งครอบครัวไว้กับตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ชายคนเดียวในครอบครัว เขาต้องรับผิดชอบแบกรับภาระครอบครัวนี้ไว้กันตนเอง
แววตาถังเฉาค่อย ๆ แสดงความมุ่งมั่น มองดูแผนงานในสมุดบันทึก จึงถามขึ้นทันทีว่า “แผนงานนนี้เป็นโครงการของสำนักงานการก่อสร้างที่ทางผู้บริหารระดับสูงอนุมัติมาใช่ไหม?”
หลินชิงเสว่มองดูเขาด้วยความประหลาดใจ พูดว่า “คุณรู้ได้อย่างไร? โครงการของสำนักงานการก่อสร้างเหล่านี้ อยู่ในมือของเจ้าของอาคารกั๋วจี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้บริษัทไหนทำ”
ถังเฉาไม่ได้ตอบคำถาม เพียงถามอีกว่า “หากพูดอย่างนี้ คุณตอบรับที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ซ่งเทียนซานเป็นผู้จัดใช่ไหม?”
“ฉันไม่ไป แต่เนื่องจากเจ้าของอาคารไปเช่นกัน ฉันในฐานะบริษัทลี่จิงกรุ๊ปไม่สามารถทำตัวพิเศษนอกเหนือคนอื่นได้”
หลินชิงเสว่ส่ายศีรษะ พูดว่า “ฉันให้รองประธานสองคนไปแทนฉันแล้ว โครงการของสำนักงานการก่อสร้างไม่ยืนยันว่าจะได้มาร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่ายังไงต้องลองดูสักครั้ง”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าถังเฉา ยื่นมือปิดสมุดบันทึกของหลินชิงเสว่
“คุณจะทำอะไร?!”
หลินชิงเสว่โมโหขึ้นทันที พูดเสียงต่ำดุด่า แต่ไม่ให้ถังเสี่ยวลี้ตกใจตื่น
มองเห็นเพียงถังเฉาแย้มยิ้มด้วยความมั่นใจ พูดอย่างมุ่งมั่นว่า “เพียงบริษัทลี่จิงกรุ๊ปของพวกคุณอยากทำ โครงการของสำนักงานการก่อสร้าง ก็เป็นของพวกคุณแล้ว”
ความโมโหของหลินชิงเสว่ลดลงไปกว่าครึ่ง ถามด้วยความสงสัยว่า “คุณรู้ได้อย่างไร?”
ถังเฉาแย้มยิ้มโดยไม่พูดสักคำ แสดงท่าทีเหมือนไม่ได้ยินคำถามของหลินชิงเสว่ ยืดตัวบิดขี้เกียจ “พอได้แล้ว นอนกันเถอะ”
“เฮ้ คุณอธิบายให้ชัดเจน เพราะอะไรฉันอยากทำ โครงการของสำนักงานการก่อสร้างเป็นของฉันอยู่แล้ว”
หลินชิงเสว่ร้อนใจ เดินตามไปที่บนเตียง อยากจะถามเขาให้รู้ความจริง พลันได้ยินเสียงกรนของถังเฉาดังขึ้นมา
ถังเฉา นอนหลับหน้าซุกเข้ากับผ้าห่ม
หลินชิงเสว่จ้องมองเขาอยู่พักใหญ่ จึงทุบไปที่ถังเฉาหนัก ๆ หนึ่งที ก็หันกลับนอนหลับเช่นกัน
รอจนเสียงหายใจของหลินชิงเสว่สม่ำเสมอจนหลับสนิท ถังเฉาถึงจะลืมตาขึ้นมา ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวัง เดินไปนอกห้องเพื่อออกไปโทรศัพท์
เขาพูดเพียงประโยคเดียวคือ “ฉันต้องการให้บริษัทลี่จิงกรุ๊ป กลายเป็นบริษัทดาวเด่นที่สุดในเมืองหมิงจูหรือไปจนถึงระดับประเทศ”
……
เช้าตรู่วันถัดมา หลินชิงเสว่ไปที่อาคารกั๋วจี้ตั้งแต่เช้า ช่วงเช้า เธอเรียกประชุมพนักงานระดับสูง
หลังประชุมเสร็จสิ้น เธอให้ฟางหย่ากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งชื่อซุนเสว่รอยู่ก่อน
ทั้งสองคนนี้ ก็คือรองประธานสองในสามท่านของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป
รองประธานฟางมีอุปนิสัยอ่อนโยนเรียบร้อย หน้าตาภูมิฐานสง่างาม แต่ซุนเสว่หน้าตาสวยงาม เมื่อมองดูแล้ว เหมือนหญิงสาวประเภทจิตใจงดงามมีคุณธรรมจากครอบครัวเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้งที่มักจะแสดงสีหน้าเป็นปรปักษ์กับฟางหย่า
ความเกลียดชังประเภทนี้ เป็นความอิจฉาริษยาที่เกิดขึ้นระหว่างหญิงสาว ซึ่งไม่ต้องมีเหตุผล แน่นอนเป็นเพราะว่ารูปร่างหน้าตาฟางหย่าสวยกว่าเธอ และได้รับความรักเอ็นดูจากประธานหลินมากว่า
“งานเลี้ยงคืนนี้ เจ้าของอาคารกั๋วจี้มาร่วมงานด้วยเช่นกัน ดังนั้นทุกคนต้องตั้งใจเตรียมตัวให้พร้อม”
หลินชิงเสว่จ้องมองฟางหย่าและซุนเสว่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ไม่คาดหวังว่าจะได้รับการอนุมัติเห็นชอบจากผู้บริหารระดับสูงในโครงการของสำนักงานการก่อสร้าง อย่างน้อยต้องร่วมแรงร่วมใจทุ่มเทให้ถึงที่สุด และที่สำคัญต้องดูแลตนเองด้วย”
“ได้ค่ะ ประธานหลิน” ฟางหย่าตอบรับคำด้วยท่าทีนอบน้อมตามแบบฉบับเป็นอย่างดี
ซุนเสว่มองดูฟางหย่า หัวเราะคิกคิกพูดว่า “มารยาทการเข้าสังคม ประธานฟางเก่งในด้านนี้อยู่แล้ว ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงทางสังคม ประธานหลินก็จะมอบหน้าที่นี้ให้ประธานฟางทุกครั้ง ไม่ทราบว่าประธานฟางตอบรับคำรวดเร็วเช่นนี้ หรือว่ามีแผนรับมือในงานเลี้ยงคืนนี้แล้วเหรอ?”
สีหน้าฟางหย่าเปลี่ยนทันที แม้ว่าคำพูดจะดูชมเชยเธอ แต่ความจริงแล้วกำลังด่าเธอว่าเป็นสาวสังคม
ความรู้สึกออกจากใบหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนมาเย็นชาเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไรต่อ
“ยังไม่มี”
ฟางหย่าขมวดคิ้วพูดอีกว่า “ประธานหลินก็พูดแล้วนี่นา ทำทุกอย่างที่พอจะทำได้”
“ทำเท่าที่ทำได้เหรอ? ประธานฟางถ่อมตัวเกินไปแล้ว?”
ซุนเสว่ใช้คำพูดเสียดแทงเหน็บแนมไปอีกว่า “ใครจะไปรู้ประธานฟางออกหน้า หนี้สินค้างคามานานของบริษัทการบันเทิงฮุยหวงได้คืนมากว่าร้อยล้านในทันที คืนมาครบทั้งต้นทั้งดอก วิธีการับมือผู้ชายของประธานฟาง ช่างร้ายกาจจริง ๆ”
“ซุนเสว่!”
อารมณ์ฟางหย่าเดือดขึ้นเล็กน้อย หลินชิงเสว่จึงรีบพูดเพื่อให้หยุดปาก….
ทำอย่างนี้ซุนเสว่ถึงจะเงียบ และเดินตามหลังฟางหย่าออกไปจากห้องประชุม
หลินชิงเสว่เก็บเอกสาร กำลังจะเดินออกจากห้องประชุม หลี่ถาวรีบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าวิตกกังวลพูดว่า “ประธานหลิน ด้านนอกมีคนมาหาท่าน เขาบอกว่าเป็นเพื่อนเก่า”
“เพื่อนเก่าเหรอ?”
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้ว เท่าที่เขาจำได้ ไม่เคยมีเพื่อนเก่าคนไหนเลย?
ในขณะนั้นเอง ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธออย่างช้า ๆ
“ไม่พบกันนานนะครับ ชิงเสว่”
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาเดินมาด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น