เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 114
บทที่114 แขกรับเชิญวีไอพีชั้นยอด
กำลังจะถึงช่วงหัวค่ำ หลัวปู้เพิ่งจะโทรศัพท์มาส่งข่าว
“คุณถัง คนที่ท่านให้ไปสืบข่าวได้ความแล้ว”
“เหวินเหวยเฉิน คนเมืองซูหาง บุตรหนึ่งในสองคนของเหวินเฉิงหนาน ปัจจุบันรับผิดชอบเป็นผู้จัดการแผนกการตลาด ของกาแล็กซี่กรุ๊ปของตระกูลเหวิน”
“ตระกูลเหวินมีบทบาทอย่างมากในแถบเจ้อเจียง ภูมิหลังไม่ด้อยไปกว่าสี่ตระกูลเศรษฐีเมืองหมิงจู ตระกูลเหวินเคยเป็นเจ้าของอาคารกั๋วจี้มาก่อน จากนั้นด้วยสาเหตุส่วนตัว จึงขายให้กับ เจิงเทียนเสียง……”
ถังเฉานิ่งเงียบ มือถือโทรศัพท์ เงาทะมึนกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้า พูดเสียงเย็นชาว่า “สิ่งที่ผมต้องการคือ เรื่องราวในอดีตระหว่างเขากับชิงเสว่ ไม่ใช่เรื่องไร้สาระจำพวกนี้”
ได้ยินน้ำเสียงโมโหของถังเฉา หลัวปู้รีบพูดต่อด้วยเสียงสั่นเครือว่า “เถ้าแก่ใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหลินกับ
เหวินเหวยเฉินคนนั้น ไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่นัก เหวินเหวยเฉินชอบพอคุณหลินอยู่ฝ่ายเดียว ได้ยินมาว่าใช้หุ้นของตระกูล
เหวิน ซื้ออาคารกั๋วจี้ขึ้นมา เพื่อตามจีบคุณหลิน หลังจากนั้น เหมือนกับว่าครอบครัวเกิดปัญหาบางอย่าง ต้องรีบ
กลับไปที่ เมืองซูหาง จึงขายอาคารกั๋วจี้”
“เกิดปัญหาอะไร?”
เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหลินชิงเสว่ ถังเฉาให้ความสำคัญทุกเรื่อง แม้แต่เส้นใยแมงมุมหรือรอยเท้าม้าก็ไม่ให้เล็ดลอดไปได้
“เรื่องทะเลาะเบาะแว้งภายในระหว่างเหวินเหวยเฉินกับลูกชายอีกคน”
หลัวปู้พูดไปตรง ๆว่า “เหวินเหวยเฉิน ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเหวินเฉิงหนาน แต่เป็นภรรยาของเหวินเฉิงหนานที่สวมเขาให้กับเขา!”
“พี่ชายของเหวินเหวยเฉินต้องการที่จะขับไล่เขาออกไป ผลสุดท้ายกลับกัน เขาถูกตัดแขนตัดขาเป็นคนพิการ ถูกขับออกจากตระกูลเหวิน”
ถังเฉาฟังคำพูดแล้ว ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยพูดว่า “ดูไปแล้วเจ้าเหวินเหวยเฉินคนนี้ เป็นมนุษย์คนหนึ่ง”
พูดมาถึงตรงนี้ หลัวปู้พูดขึ้นอีกครั้งว่า “คุณถัง ยังมีอีกเรื่อง ไม่รู้ว่าสมควรพูดดีหรือไม่? —-”
“เรื่องอะไร?” หางคิ้วถังเฉากระตุกเล็กน้อย
“คืนนี้ เหวินเหวยเฉินก็มาในงานเลี้ยงที่ซ่งเทียนซานจัดขึ้นเช่นกัน”
หลัวปู้พูดอีกว่า “คู่ควงของเขา ก็คือหลินฉ่ายเวยของตระกูลหลิน”
“อะไรนะ?!”
สีหน้าถังเฉาเปลี่ยนเล็กน้อย จากนั้นใบกลับมานิ่งขรึมอีกครั้ง “คืนนี้เธอมาเป็นเพื่อนดื่มใช่ไหม?”
“ก็คงใช่ครับ”
หลัวปู้ไม่กล้าปกปิดอีก “อีกทั้ง จากข้อมูลที่สายสืบได้ถ่ายรูปไว้ ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินออกมาจากโรงแรม”
พูดจบ หลัวปู้ได้ส่งภาพที่บอกเมื่อครู่นี้เข้าในโทรศัพท์ของถังเฉาอย่างรวดเร็ว
ในภาพ หลินฉ่ายเวยคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของเหวินเหวยเฉิน ใบหน้าแดงก่ำ มองดูแล้วเหมือนจะเพิ่งเสร็จภารกิจส่วนตัว
มองเห็นภาพเหล่านี้ ถังเฉาถึงกับเดือดดาลขึ้นทันที
ไม่ใช่ว่าในใจจะนึกเป็นห่วงเป็นใย แต่ว่าโมโหหลินฉ่ายเวยที่ไร้ยางอายมากถึงขนาดนี้!
แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นปรปักษ์กัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอยังเป็นบุตรสาวแท้ ๆของพ่อ ถังเฉายังรู้สึกว่าตนเองต้องมีหน้าที่ดูแลช่วยเหลืออยู่บ้าง
เขาเหลือบดูเวลา พูดขึ้นว่า “ตอนนี้ผมจะรีบไปที่คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย คุณตามผมไปด้วย”
“ครับ คุณถัง!”
วางสายโทรศัพท์ ถังเฉารีบเรียกรถมาคันหนึ่ง มุ่งหน้าไปที่คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย ดวงตาทั้งสองเย็นชา
หลินฉ่ายเวย ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายประเภทนั้น ผมจะไม่สนในที่จะสั่งสอนคุณแทนพ่อแล้วล่ะ
หลังจากนั้นสิบนาที ก็ถึงคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย
ถังเฉาคิดจะเดินเข้าไปข้างใน พนักงานต้อนรับหน้าประตูรั้งตัวเขาไว้ นายท่าน โปรดสแกนลายนิ้วมือด้วยค่ะ”
คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย มีกฎระเบียบสำหรับสมาชิก ไม่ใช่ว่ามีเงินจะเข้าไปได้ง่าย ๆ คลับแต่ละแห่งจะบันทึกลายนิ้วมือสมาชิกไว้ทุกคน สามารถสแกนเข้าไปได้ทันที
ถังเฉาสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนเกิดเสียงดังตื๊ดขึ้นมาครั้งหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนขึ้นทันที
ชายที่ดูท่าทางจะเป็นหัวหน้ารีบเดินเข้ามาหา ขับไล่ถังเฉาให้ออกไป
“คุณไม่ใช่สมาชิกของคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยของพวกเรา ออกไป!”
ถังเฉากำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ ๆ ด้านหลังมีเสียงแหลมที่ทำให้ต้องประหลาดใจดังมาแต่ไกล
“ถังเฉา! เจ้าตัวไร้ประโยชน์มาที่นี่ได้ยังไง!”
ถังเฉาหันหลังกลับไปมอง เห็นหลินฉ่ายเวยเดินควงแขนเหวินเหวยเฉินขึ้นมาจากลานจอดรถชั้นใต้ดิน
เธอมองดูสถานการณ์นี้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นดูถูกเหยียดหยามพูดว่า “คนอย่างคุณคิดจะเข้ามาในคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยเหรอ? ฝันไปเถอะ คุณรู้ไหมว่าที่นี่เป็นที่ไหน?”
เหวินเหวยเฉินก็เดินเข้ามาเช่นกัน ใช้สายตาเย็นชามองดูเขา “พวกเราเจอกันอีกแล้ว แม้ผมจะไม่อยากเจอก็ตาม?”
“ผมคิดว่า พวกสุนัขที่ว่านอนสอนง่ายคงจะไม่นอนขวางทางหรอกนะ” ถังเฉาหรี่ตา พูดตอบ
หลินฉ่ายเวยมองดูเหวินเหวยเฉินด้วยความประหลาดใจพูดว่า “พี่เหวยเฉิน คุณรู้จักคนไร้ประโยชน์คนนี้เหรอ?”
“เคยปะทะคารมกันนิดหน่อย” เหวินเหวยเฉินไม่คิดจะใส่ใจถังเฉาแม้แต่น้อย
“อะไรนะ?”
หลินฉ่ายเวยได้ยินคำพูด กลับเดือดดาล ชี้หน้าถังเฉาสบถด่า “เจ้าคนไร้ปนะโยชน์ ทำให้พวกเราต้องเสียหน้าจริง ๆ แม้แต่พี่เหวยเฉินยังกล้าไปมีเรื่องกับเขาอีก? ไม่รีบขอโทษเขาอีก?”
ถังเฉามองเธอด้วยหางตา “ในโลกใบนี้ไม่มีใครทำให้ผมต้องขอโทษได้ คุณกับเขาเกี่ยวข้องเป็นอะไรกัน?”
พูดถึงประเด็นนี้ หลินฉ่ายเวยมั่นใจเต็มสิบ ควงแขนเหวินเหวยเฉินใบหน้าอิ่มเอิบไปด้วยความสุข พูดด้วยน้ำเสียงไพเราะว่า “ตอนนี้เขาเป็นเพื่อนชายของฉัน พี่เหวยเฉินยังพูดอีกว่า เขาจะขอฉันแต่งงงาน”
ใบหน้าถังเฉานิ่งเฉย แม้แต่คำหลอกหลวงชั้นต่ำประเภทนี้ยังเชื่อเข้าไปง่าย ๆ ผู้หญิงคนนี้ยากเกินเยียวยา
“พวกคุณ เพิ่งจากออกมาจากโรงแรมไม่ใช่เหรอ?” เขาไต่ถามด้วยเสียงเย็นชา
ได้ฟังประโยคนี้ หลินฉ่ายเวยหน้าถอดสี น้ำเสียงเปลี่ยนมาเชือดเฉือน “คุณสะกดรอยตามฉันเหรอ!”
ถังเฉากลับขว้าแขนของหลินฉ่ายเวย “ไป กลับไปพร้อมกับผม!”
“คุณจะทำอะไร! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
หลินฉ่ายเวยร้องโหวกแหวกเสียงดัง สะบัดแขนของถังเฉาพูดว่า “คุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับฉัน? คอยดูให้ดีเถอะ หากฉันแต่งเข้าตระกูลเหวินแล้ว จะเหยียบคุณให้ตายเหมือนมดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง……”
ได้ยินคำพูดเช่นนี้เหวินเหวยเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพูดว่าจะขอเธอแต่งงาน นั้นมันคำพูดเล้าโลมบนเตียงเท่านั้น จะเป็นจริงได้ยังไง คิดจะแต่งเข้าตระกูลเหวิน? ไม่ดูสารรูปตนเองว่าเหมาะสมหรือไม่
แต่ว่า เขาก็ยังคงฉุดกระชากหลินฉ่ายเวยกลับมา จ้องถังเฉาพูดว่า “คุณแต่งงานแล้ว ยังจับมือถือแขนผู้หญิงอื่น ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก?”
เหมือนหลินฉ่ายเวยคิดอะไรขึ้นได้ ใบหน้าเปลี่ยนมาเดือดดาลสุดประดัง “ใช้แล้ว คุณแต่งงานแล้ว กล้าฉุดกระชากฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
สีหน้าถังเฉาถมึงขึงขัง เขามาไม่อยากให้หลินฉ่ายเวยต้องถลำลึกไปมากกว่านี้ เธอกลับไม่รู้จักรักดี……
“ฉ่ายเวย พวกเราไปกัน อย่าไปยุ่งกับคนจำพวกนี้เลย คนประเภทนี้ ไม่มีทางจะเข้าสถานที่ระดับสูงอย่างคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยได้” เหวินเหวยเฉินจูงมือหลินฉ่ายเวยเดินเข้าไปในคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย
หลินฉ่ายเวยรีบแสร้งทำเป็นสนิทสนม ควงแขนเหวินเหวยเฉินเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน
เหวินเหวยเฉินยื่นสแกนลายนิ้วมือและการ์ดเชิญ ผู้จัดการคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยรีบเดินมาหาเหวินเหวยเฉิน พูดนอบน้อมว่า “ท่านทั้งสองเชิญด้านใน!”
ใจที่หลงในรูปลักษณ์ภายนอกของหลินฉ่ายเวย พึงพอใจเป็นยิ่งนัก คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย เป็นคลับเฮาส์ระดับสูงในเมืองหมิงจู มีเพียงหญิงสาวที่มาจากตระกูลชั้นสูงเหล่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปได้ ในที่สุดเธอก็ได้เข้ามาแล้ว
“พวกเราเข้าไปด้านใน คุณก็ยืนโหวกเหวกอยู่ด้านนอกเถอะ”
หันมาพูดเหน็บแนมถังเฉาอีกสองสามประโยค หลินฉ่ายเวยถึงจะเดินเข้าไปด้านในคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย
สีหน้าถังเฉาไม่เปลี่ยน ยังคงยืนอยู่หน้าประตูเงียบ ๆ เหมือนกับว่ากำลังรอใครสักคน
ผู้จัดการล็อบบี้มองดูสถานการณ์มาตลอด เห็นถังเฉายืนอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน อดไม่ได้ที่จะไปขับไล่เขา “ยังไม่รีบไปอีก คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปได้ง่าย ๆ อย่าบังคับให้ผมต้องเรียก ร.ป.ภ—-”
ตึ่งตึ่งตึ่ง —-
ในเวลานั้นเอง ประตูลิฟต์คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย กลับมีชายใส่เสื้อสูทเดินออกมา
ขณะที่เห็นผู้จัดการล็อบบี้กำลังขับไล่ถังเฉา ตกใจจนหน้าถอดสี
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
เขารีบรุดมายืนข้างผู้จัดการล็อบบี้ ใช้เท้าถีบเขาล้มไปกองกับพื้น และยังตบหน้าเขาไปอีกหนึ่งฉาด สบถด่าน้ำลายกระเซ็นกระซาด
“ใครใช้ให้เจ้าขับไล่คน?”
ผู้จัดการล็อบบี้รู้สึกมึนงงกับการถูกสบถด่าทุบตีอย่างกะทันหันเช่นนี้ มองดูคนที่เดินมา หน้าซีดเผือด
“หัวหน้า ผมกำลังไล่คนบ้านนอกคนนั้นครับ!” ผู้จัดการล็อบบี้พูดอธิบาย
“คนบ้านนอก ผมว่าคุณนั่นแหละที่เป็นคนบ้านนอก!”
ชายคนนั้นยังสบถด่าทุบตีอีกครั้ง “คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? เขาเป็นสมาชิกวีไอพีชั้นยอดคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย ไม่อยู่ในคลังข้อมูลสมาชิกทั่วไป รู้ไหม?”