เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 14
บทที่ 14 เรื่องราวของ angel
“ประธานเจิง?”
เมื่อเห็นเจิงเทียนเสียงพาคนมาด้วย เถียนหยู่รู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ แต่ในไม่ช้าก็ยิ้มด้วยท่าทางประจบ “ท่านมาได้ยังไงกันครับ?”
บริษัทที่เข้าร่วมการประมูล รวมทั้งซุนชิง สีหน้าทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
เมื่อพิจารณาท่าทางของประธานเจิงแล้ว เขาน่าจะมาเพื่อสนับสนุนถังเฉา
“หากผมไม่มา จะมีโอกาสเห็นมุมสง่างามน่าเกรงขามของหัวหน้าเถียนเหรอ?”
แววตาของเจิงเทียนเสียงเต็มไปด้วยสัญญาณอันตรายที่เยือกเย็น คำพูดที่แผงด้วยคำข่มขู่ “คุณพูดว่าจะไล่ใครออกไปน่ะ?”
ถ้าหากไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนเห็นกับตา เขาก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ
เถียนหยู่กับซุนชิงตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง ประธานเจิงผู้มีเกียรติ ทำไมถึงออกหน้าแทนคนไร้ประโยชน์ของตระกูลหลินได้?
โจวเหม่ยหยูนกับหลินฉ่ายเวยเบิกตากว้าง มองถังเฉาอย่างไม่น่าเชื่อ
โดยเฉพาะโจวเหม่ยหยูน คิดถึงเหตุการณ์ที่เธอเห็นด้านหลังเจิงเทียนเสียงที่เดินคู่กับถังเฉาตรงทางเดิน ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวหนักอึ้งขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น เธอก็จำได้ราง ๆ ว่า ถังเฉามาที่อาคารกั๋วจี้ ดูเหมือนว่ามาหาคน……..
หามาเจิงเทียนเสียง?
มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
“เข้าใจผิด ทั้งหมดนี้เป็นเข้าใจผิด…….”
เถียนหยู่ปาดเหงื่อที่หยดเหมือนฝน แล้วก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที
“หัวหน้าเถียน คุณเป็นคนรับผิดชอบการประมูลในครั้งนี้ ต้องมีความยุติธรรม ความเที่ยงธรรม มันสำคัญมาก รู้ไหม”? เจิงเทียนเสียงใช้สายตาเยือกเย็นมองเถียนหยู่ แล้วกล่าวอย่างเรียบ ๆ
“เข้าใจ เข้าใจทั้งหมดครับ ขอให้ประธานเจิงวางใจได้อย่างแน่นอนครับ!”
อยู่ต่อหน้าเจิงเทียนเสียง เถียนหยู่ก็เหมือนกับเด็กนักเรียนที่ทำความผิด ผงกศีรษะและโค้งคำนับ
เมื่อได้ฟังเจิงเทียนเสียงพูดมากมายขนาดนี้ ก็ไม่มีใครพูดถึงถังเฉาสักคน ความคิดก่อนหน้านั้น ก็ถูกสองแม่ลูกหลินฉ่ายเวยสลัดไป
คนอย่างประธานเจิงเป็นคนที่มีความยุติธรรมเที่ยงตรงเท่านั้น
เจิงเทียนเสียงจึงได้แสดงสีหน้าพอใจแล้วก็พยักหน้า แล้วก็เหมือนนึกอะไรได้บางอย่าง แล้วพูดว่า “ อีกอย่าง ผมได้ขายอาคารกั๋วจี้แล้ว ต่อจากนี้ไปอาคารกั๋วจี้จะไม่ใช่ของผมอีกต่อไป ตอนนี้ผมเป็นแค่หุ้นส่วนเล็ก ๆ ของ ลี่จิงกรุ๊ปเท่านั้น”
“อะไรน่ะ?”
เมื่อได้ฟังเรื่องนี้ เหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งที่เหวี่ยงลงไปทำให้เกิดคลื่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเถียนหยู่ หรือซุนชิง หรือแม้แต่สองแม่ลูกหลินฉ่ายเวย ก็แสดงสีหน้าที่ตื่นตระหนกตกใจ
เจิงเทียนเสียงได้ขายอาคารกั๋วจี้ไปแล้ว?
ขายให้ใคร?
ต้องรู้ว่า อาคารกั๋วจี้ มีมูลค่ามหาศาล
“ประธาน ประธานเจิง ท่านอย่าพูดล้อเล่นเลยครับ” เถียนหยู่ยังไงก็ไม่เชื่อ
“ท่าทางของผมดูแล้วเหมือนพูดล้อเล่นเหรอ?”
เจิงเทียนเสียงพูดด้วยเสียงเรียบว่า “เขาเป็นคนใหญ่คนโตที่ทุกคนคิดไม่ถึง เขาซื้ออาคารกั๋วจี้ เป็นแค่กิจการขนาดเล็กที่หนึ่งของเขาเท่านั้น เขาเป็นคนที่ค่อนข้างยุ่ง และก็ไม่สะดวกเปิดเผยข้อมูล”
เมื่อได้พูดสิ่งที่ควรพูดแล้ว เจิงเทียนเสียงจึงได้เดินออกไป ก่อนจะออกไปได้ตบบ่าของเถียนหยู่ จนเกือบทำให้เถียนหยู่ร่วงลงไปที่พื้น
“หัวหน้าเถียน จะขับไล่พวกเราออกไปอีกไหม?”
ขณะนี้ ถังเฉาได้เดินไปตรงหน้าเถียนหยู่ ยิ้มยียวนแล้วกล่าว
“ฮึ่ม ตระกูลหลิน ถือว่าพวกคุณโชคดี ที่ประธานเจิงเดินผ่านมา ช่วยพวกคุณไว้”
สีหน้าเถียนหยู่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง กล่าวอย่างดูหมิ่นว่า “แต่ ถึงจะให้โอกาสพวกคุณแล้วมันจะเป็นไง? บริษัทโอ้ซินเล็ก ๆ ของพวกคุณ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงฝุ่นละออง เสียเวลาเปล่า ๆ”
ซุนชิงเดินลงมาจากเวที สีหน้าของเขาไม่สู้ดีเท่าไหร่ เนื่องจากเขากำจัดตระกูลหลินไม่สำเร็จ
แต่ว่า ตามที่หัวหน้าเถียนกล่าวไว้ว่า ถึงแม้จะให้โอกาสพวกเขาเข้าร่วมแข่งขันอย่างความยุติธรรม เชื่อว่าพวกเขาก็ไม่สามารถทำเสร็จได้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ซุนชิงจึงได้รู้สึกเหมือนได้รับการปลอบใจนิดหนึ่ง
การประมูลยังคงดำเนินต่อ
“บริษัทต่อไป บริษัทโอ้ซินของตระกูลหลิน” เถียนหยู่ประกาศด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี
ถังเฉาเดินขึ้นไปบนเวที แต่ยังคงนิ่งไม่ทำอะไร
เมื่อเห็นเช่นนี้ เถียนหยู่กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น “แผนโครงการของคุณล่ะ? ”
“ผมไม่มีแผนโครงการอะไร แล้วก็ไม่ได้นำแฟลชไดรฟ์มาด้วย” ถังเฉากล่าวตามความเป็นจริง
“อะไรน่ะ ไม่มีแผนโครงการ?”
ทุกคนผงะ จากนั้นห้องโถงก็เต็มไปเสียงหัวเราะ
“ไม่มีแผนโครงการ แล้วคุณมาประมูลทำไม? พูดเอาใจมวลชนเหรอ? ”
“งั้นรีบลงไปเถอะ อย่ามาทำความอับอายที่นี่!”
“หากพึ่งพาคนไร้ประโยชน์คนนี้ ตระกูลหลินก็จะไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกตลอดไป!”
ขณะนี้ มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยทั่วสารทิศ เมื่อเถียนหยู่กับซุนชิงได้เห็นเช่นนั้น ก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น
ที่จริงไม่ต้องแอบใช้กลอุบาย เพราะยังไงตระกูลหลิน ก็เป็นได้แค่บริษัทที่ไม่เอาไหน
เมื่อถูกดูหมิ่นต่อหน้าสาธารณชน สีหน้าหลินฉ่ายเวยเปลี่ยนเป็นอึดอัดกลืนไม่เข้าคายไม่ออกโดยมีมือของโจวเหม่ยหยูนกดจับมือเธอไว้ แสดงเป็นนัยว่าอย่าวู่วาม
ถังเฉาไม่ได้สนใจไยดี แล้วพูดต่อไปว่า “ ‘angel’ เป็นผลงานที่ออกแบบโดยประธานหลิน ซึ่งประกอบด้วยความพากเพียรของประธานหลิน ฉะนั้น ในใจของประธานหลิน จะต้องมีบรรจุภัณฑ์ชุดหนึ่งที่เขาพึงพอใจอยู่แล้ว และเหตุผลที่เธอจัดการประมูลในครั้งนี้ คืออยากเห็นความคิดของใครจะตรงกับความคิดของเธอบ้าง”
เมื่อได้ฟังคำพูดของถังเฉาแล้ว บริษัททั้งหลายก็หัวเราะเยาะเย้ย
เรื่องนี้ มีใครที่ไม่รู้บ้าง?
ในเวลาเดียวกัน
ห้องรับแขกของอาคารกั๋วจี้ชั้น 87
หลินชิงเสว่และสุภาพบุรุษสง่างามผู้หนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่าง
ชายคนนี้ใส่สูทที่ตัดเย็บอย่างดี บนข้อมือสวมใส่นาฬิกาโรเล็กซ์อันหรูหรา มือถือถ้วยบลูเม้าเท่นที่ดีที่สุด ลิ้มรสอย่างช้า ๆ
หน้าตาก็ไม่ได้ถือว่าหล่อเหลามากมาย แต่ดูเป็นธรรมชาติ เมื่อดูรวม ๆ กันแล้ว ทำให้รู้สึกเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ สายตาทั้งคู่ของเขา จับจ้องไปที่หลินชิงเสว่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตลอดเวลา เหมือนกับว่าจ้องมองอัญมณีมีค่าชิ้นหนึ่งอยู่
ส่วนหลินชิงเสว่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มุ่งความสนใจไปที่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งกำลังถ่ายทอดสดการประมูลอยู่
เมื่อเธอเห็นถังเฉาเป็นตัวแทนตระกูลหลินขึ้นไปบนเวที เธอขมวดคิ้วก่อน จากนั้นใจที่สงบนิ่งของเธอก็มีความปั่นป่วนขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณดูสวยมากในขณะทำงาน” ชายหนุ่มนั้นพูดยกย่องจากใจจริง
หลินชิงเสว่เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ซ่งเทียนซาน หากไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันจะกลับออฟฟิศแล้วน่ะ”
“สำหรับผมแล้ว การจ้องมองคุณ ก็คือเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง” ซ่งเทียนซานวางถ้วยชา มองไปที่หลินชิงเสว่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ฉันจะพูดอีกครั้งว่า ฉันแต่งงานแล้ว แล้วก็มีลูกแล้วหนึ่งคน”
หลินชิงเสว่พูดด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นและรังเกียจ “ฉันไม่เคยสนใจคุณเลยสักนิดเดียว”
การปฏิเสธที่ไร้ความปรานีเช่นนี้ ทำให้สีหน้าของซ่งเทียนซานเคร่งขรึมขึ้นมา แต่ก็กลับเป็นปกติในไม่ช้า “ชิงเสว่ คุณไม่ต้องมาหลอกผม เพียงแต่เมื่อ5ปีก่อนคุณถูกไอ้คนชั่วคนหนึ่งทำให้คุณแปดเปื้อนเท่านั้น คุณยังไม่ได้มีสามี เรื่องนี้สังคมชั้นสูงของเมืองหมิงจูก็รับรู้กันทั่ว”
ซูว์……..
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เป็นการกระตุ้นเธอให้เธอย้อนนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น ตอนนี้ใบหน้าของเธอเย็นชาอย่างสิ้นเชิง
ซ่งเทียนซานรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย พูดด้วยความสบายใจ “ชิงเสว่ ผมไม่แคร์ว่าคุณเคยคลอดลูกคนหนึ่ง และผมก็ไม่แคร์ว่ามีเสี่ยวลี้ ผมจะดีต่อเธอเหมือนพ่อแท้ ๆ ”
“พ่อแท้ ๆ?”
กระตุ้นเธอให้เธอย้อนนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นอีกรอบ แววตาหลินชิงเสว่ยิ่งเยือกเย็นขึ้นไปอีก พูดประโยคหนึ่ง “ขอโทษด้วย คุณไม่คู่ควร พ่อแท้ ๆ เขากลับมาแล้ว”
เมื่อพูดจบ เธอก็เดินออกไปจากห้องนั้น
ซ่งเทียนซานนั่งอยู่ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
หลินชิงเสว่กลับไปที่ห้องทำงานของตน จ้องมองรูปของถังเฉาที่ปรากฏอยู่หน้าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
ที่หน้าจอ ถังเถามีรูปร่างที่ผอม หน้าตาคมสัน “ พวกคุณไม่รู้ว่า ‘angel’ แตกต่างจากน้ำหอมอื่น ๆ อย่างไร แต่ผมรู้”
“ผมจะเล่านิทานให้ทุกคนฟังเรื่องหนึ่ง เรื่องราวของสามีที่ไร้ความสามารถ ที่รู้สึกผิดต่อภรรยา”