เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 140
บทที่ 140 สมคบคิด
ข่าวที่ฉางหงเทียนตายในโรงพยาบาลประสาทแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
ซ่งเทียนซานปิดหนังสือพิมพ์ลง สีหน้าของเขาร้อนรนเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงอันตราย
หลังจากที่บริษัทผลิตยาหงเทียนย่อยยับ ฉางหงเทียนก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลประสาท และตายในคืนวันที่เพิ่งเข้าไป
ตัดการฆ่าตัวตายออกไป ฆาตกรจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากถังเฉา เพราะคนอื่นไม่มีแรงจูงใจในการฆ่า
ฉางหงเทียนตายแล้ว คนต่อไปจะเป็นตาเขาหรือเปล่า
“คุณซ่ง นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ”
ขณะนั้น ชายที่ดูท่าทางธรรมดาเดินเข้ามาในห้องรับแขกและยื่นถุงที่มันแน่นให้เขา
“หาเจอแล้วเหรอ” ซ่งเทียนซานอึ้งไป
ชายคนนั้นพยักหน้า “เชื่อมือผมเถอะครับ”
“ดีมาก”
ซ่งเทียนซานมีความสุขมาก เขายื่นบัตรธนาคารให้ชายคนนั้น
นี่คือนักสืบเอกชนที่เขาใช้เงินจำนวนมากจ้างมาให้สืบทุกการกระทำของถังเฉา
เขาต้องรู้ให้ได้ ถังเฉาเป็นแค่สวะในตระกูลหลิน ทำไมถึงมีฝีมือขนาดนี้
ซ่งเทียนซานฉีกซองออก รูปภาพหล่นออกมาสองสามใบ
ในภาพเป็นรูปของถังเฉา หลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้กำลังทานข้าวอยู่ที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง!
เมื่อเห็นรูปนั้น ซ่งเทียนซานก็อึ้งไป ทำไมพวกเขาถึงอยู่ด้วยกัน
นักสืบเอ่ยขึ้นว่า “ดูจากการกระทำและสีหน้าของพวกเขา พวกเขาเป็นคู่รักกัน การที่คนที่ชื่อถังเฉาสร้างความวุ่นวายให้คุณซ่งได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขามีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังอยู่”
ซ่งเทียนซานสีหน้าเยือกเย็น
“ที่แท้ไอ้สวะนั่นเป็นหนุ่มที่เธอแอบเลี้ยงอยู่อย่างนั้นเหรอ!”
“หลินชิงเสว่ภายนอกดูสูงส่ง แต่ลับหลังเป็นผู้หญิงใจง่าย ผู้หญิงต่ำตม!”
ซ่งเทียนซานเคยไปร่วมงานแต่งงานของหลินชิงเสว่ เขารู้ว่าสามีของเธอเป็นคนใหญ่คนโตในวงการทหาร แต่เธอกลับมาอยู่กับไอ้สวะถังเฉา ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองช่างโจ่งแจ้งจริงๆ!
ซ่งเทียนซานแสยะยิ้ม “หลินชิงเสว่ ครั้งนี้ฉันหาหลักฐานในการมัดตัวเธอได้แล้ว!”
“สามีไม่อยู่บ้าน ก็ไปแอบเลี้ยงต้อย ในเมื่อมีชู้ได้ ก็หมายความว่าจะเป็นผู้ชายคนไหนก็ได้อย่างนั้นสิ”
พยายามหาแทบตายไม่เจอ พอเลิกสนใจกลับได้มาง่ายๆ แบบคาดไม่ถึงเสียอย่างนั้น แผนร้ายผุดขึ้นมาในหัวของเขา
“คุณชาย คุณท่านอยากพบครับ”
ขณะนั้นเอง ผู้ดูแลบ้านเดินเข้ามาพูดกับซ่งเทียนซาน
“รู้แล้ว”
ซ่งเทียนซานพยักหน้า เขาให้นักสืบกลับไป จากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
“พ่อเรียกผมเหรอ”
ซ่งเทียนซานเอ่ยขึ้น และมองชายที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟา
ชายคนนี้อายุเลยห้าสิบมาแล้ว แต่ยังดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ใบหน้ายังอ่อนเยาว์และเต่งตึง
คิ้วโค้งเรียวเหมือนดาบ ดวงตาเป็นประกายที่ประดับด้วยแว่นกรอบทอง ดูแล้วเหมือนคนมีความรู้เป็นอย่างมาก
“ฉันได้ยินเรื่องมาบ้างแล้ว”
ซ่งเต้าหลิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ตอนแรกฉันยังมีความหวังกับแก แต่ดูท่าแล้วแกยังเทียบกับซ่งหรูอี้ไม่ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่งเทียนซานเบิกตาโพลง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นผู้หญิง”
ซ่งเต้าหลิงพูดอย่างตรงไปตรงมา เขามองซ่งเทียนซานแล้วพูดว่า “อีกอย่าง เลือดที่ไหลเวียนในตัวของเธอก็ไม่ใช่สายเลือดตระกูลซ่ง ยังไงก็ไม่ใช่คนของตระกูลซ่ง”
“ถูกต้องครับ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ความหงุดหงิดก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของซ่งเทียนซาน “เธอไม่ใช่คนของตระกูลซ่งแม้แต่น้อย คุณปู่แค่ทำตามคำขอและเลี้ยงเธอมาเท่านั้น ทำไมปู่ต้องยกตำแหน่งใหญ่ให้เธอด้วย!”
“พ่อคิดว่าผู้อาวุโสจะยอมไหม”
ซ่งเต้าหลิงมองซ่งเทียนซานแล้วถอนหายใจออกมา “ความสามารถที่เด็กคนนั้นแสดงออกมา แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรายังเทียบไม่ติด”
“เธอรู้ว่าตัวเองเป็นคนนอก คนในบ้านคงจะไม่เห็นความสำคัญ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนแซ่ของตัวเองเป็นแซ่ซ่งตั้งแต่หกขวบ เพื่อแสดงความจริงใจกับพวกเรา”
“เธอเกิดอุบัติเหตุตอนอายุสิบห้าปี นั่นเป็นแผนการของเธอ เพราะต้องการหลีกเลี่ยงสายตาของผู้คนที่แสดงท่าทีต่อตระกูลซ่ง เธอไม่เข้าร่วมงานในตระกูลซ่งแม้แต่งานเดียว ฉันถามหน่อยเถอะ คนที่แม้แต่ตัวเองยังจะฆ่าได้ จะเก็บจิตใจอันเหี้ยมโหดของตัวเองได้อย่างนั้นเหรอ”
“พวกเราไม่เคยเห็นเธอเป็นคนในตระกูล เธอก็พยายามหลีกหนีจากเราทุกทาง ผู้อาวุโสเห็นจุดนี้มานานแล้ว และพยายามใช้ทุกวิถีทางไล่เธอออกจากตระกูลซ่ง วิธีที่ดีที่สุดคือให้เธอแต่งงานออกไปจากบ้าน และคนที่จะแต่งกับเธอต้องเป็นคนในตระกูลเล็ก ถังเฉาแห่งตระกูลหลินถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
“แต่เธอมองออก และตอบตกลงแต่งงาน แต่ฝ่ายชายจำเป็นต้องเข้ามาอยู่ในบ้านฝ่ายหญิง เรื่องนี้กลับกลายเป็นความสำเร็จของเธอ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซ่งเต้าหลิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ
ถ้าถังเฉาอยู่ที่นี่จะต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะว่านี่คือเรื่องจริงเมื่อห้าปีก่อนที่ถังเช่าแต่งงานกับซ่งหรูอี้
ส่วนเรื่องต่อจากนี้ทุกคนต่างรู้ดี
ซ่งหรูอี้ใช้ประโยชน์จากถังเฉา หาความลับทางธุรกิจของตระกูลหลิน ถังเฉาหายตัวไปในวันแต่งงาน ซ่งหรูอี้จึงจัดการกับตระกูลหลินอย่างเฉียบขาด เธอผนวกธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลหลินเข้าด้วยกัน และเติบโตตั้งแต่นั้นมา
เมื่อซ่งหรู้อี้มีอำนาจ เธอก็แสดงธาตุแท้ออกมา สุดท้ายเธอจึงควบคุมตระกูลซ่ง
ซ่งเต้าหลิงถอนหายใจและพูดกับซ่งเทียนซานว่า “สิ่งที่แกยังห่างชั้นกับซ่งหรูอี้ก็คือประสบการณ์ แกโตมาอย่างสุขสบาย บวกกับจิตใจที่ยโสโอหังของแก ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน การที่แกจะเทียบกับซ่งหรูอี้เป็นเรื่องที่ยากมาก”
ซ่งเทียนซานมองผู้เป็นพ่ออย่างเหม่อลอย หลังจากที่เขารู้ความลับเรื่องนี้ จู่ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา
“การที่เจอกับความล้มเหลว มันเป็นผลดีกับแกนะ”
ซ่งเต้าหลิงมองซ่งเทียนซานแล้วพูดว่า “จะเป็นมังกรหรือเป็นแมลงก็อยู่กับว่าแกจะสร้างมันขึ้นมายังไง”
“ผมจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง”
หลังจากที่ออกมาจากห้องหนังสือ สีหน้าของซ่งเทียนซานเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
ไม่มีตรงไหนที่เทียบกับซ่งหรูอี้ได้เลย ทัศนคติที่ตรงกันข้ามกับหลินชิงเสว่ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ทำให้เขาหงุดหงิดจริงๆ
เขาแทบจะอยากทำแผนที่คิดไว้ให้สำเร็จจนรอไม่ไหวแล้ว
ขณะนั้นเองผู้ดูแลบ้านก็เดินเข้ามาอีกครั้ง “คุณชายครับ มีแขกมาพบครับ”
ซ่งเทียนซานขมวดคิ้ว วันนี้เขาไม่ได้นัดใครเอาไว้
“ไม่พบ” เขาปฏิเสธออกไปทันที
“แต่แขกคนนั้นบอกว่าเขาแซ่ฉาง”
สีหน้าของซ่งเทียนซานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเงียบไปครู่หนึ่ง “เชิญเขาเข้ามา”
ไม่นานก็มีชายหน้าตาหล่อเหลาสวมชุดสูทสีขาวเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นเป็นใคร ซ่งเทียนซานถึงกับตกใจ “นายคือ…”
เขาคิดว่าคนที่มาจะเป็นฉางเซ่าเทียน แต่กลับไม่ใช่
“คุณซ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน ผมชื่อฉางเว่ย”
ชายหนุ่มโค้งให้ซ่งเทียนซานเล็กน้อย เพื่อแสดงมารยาทของตระกูลชั้นสูง
“ฉางเว่ย?”
ซ่งเทียนซานรู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหูเล็กน้อย เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน พอเขาคิดออกสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “นายคือคนไข้โรคจิตที่ลวนลามลูกพี่ลูกน้องของฉัน!”
“น้องสาวของคุณเป็นหญิงงาม ผมเรียกมันว่าการชื่นชม”
ฉางเว่ยไม่ได้โกรธ ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความชอบอย่างไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ “แต่ผมไม่ได้มาหาเธอ ผมมาหาคุณต่างหาก”
“มาหาผมทำไม”
“ผมว่าคุณซ่งคงจะทราบข่าวการจากไปของพ่อแล้ว พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน”
ฉางเว่ยเอ่ยขึ้น “สิ่งที่คุณซ่งอยากทำ มันคือสิ่งที่ผมอยากทำเหมือนกัน”
“นายจะให้อะไรฉัน” ซ่งเทียนซานถามและมองเขาด้วยแววตาดุดัน
ฉางเว่ยหัวเราะ เขาหยิบรูปของหลินชิงเสว่ออกมาจากเสื้อสูท “คุณซ่งอยากได้เธอมาครอบครองไหม”
ตู้มม
สีหน้าของซ่งเทียนซานเปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกหวาดระแวงเหมือนถูกล้วงความลับ
เสียงฉีกกระดาษดังขึ้น
ฉางเว่ยฉีกรูปของหลินชิงเสว่เป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็โทรหาใครคนหนึ่งต่อหน้าของซ่งเทียนซาน
“จับตัวเธอมาให้ฉัน”