เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 145
บทที่ 145 มอบความตายให้แก
หลังจากผ่านไปยี่สิบนาที รถคันหนึ่งเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าประตูคฤหาสน์ ฉางเว่ยลงมาจากรถ เขาดูเวลาแล้วแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ “นานขนาดนี้แล้ว สงครามคงจะเสร็จสิ้นลงแล้ว….”
พูดจบเขาก็ผลักประตูเข้าไปอย่างไม่สนใจอะไร จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงสดใสว่า “คุณซ่ง ผลการทำสงครามเป็นอย่างไรบ้างครับ”
แต่ทว่าภายในห้องมีเพียงความเงียบและเสียงของฉางเว่ยเท่านั้น
“คุณซ่ง?”
ฉางเว่ยอึ้งไป จากนั้นจึงวิ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง
เมื่อเขาผลักประตูเข้าไป สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
บนพื้นเต็มไปด้วยเศษกระจก ลมพัดอย่างรุนแรงจนได้ยินเสียงผ้าม่านโบกไปมา
ผู้หญิงที่อยู่บนเตียงหายตัวไปแล้ว แต่ซ่งเทียนซานนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง บนตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยมีดนับไม่ถ้วน
“นี่..นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
สีหน้าของฉางเว่ยเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขารีบวิ่งไปมองที่หน้าต่าง
ข้างนอกหน้าต่างมีเพียงความมืด ไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน
ฉางเว่ยไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาวิ่งมาที่ซ่งเทียนซานและเอามืออังจมูก
เขายังมีชีวิตอยู่
นี่ทำให้ฉางเว่ยโล่งอก จากนั้นเขาใช้แรงเขย่าตัวของซ่งเทียนซาน “ตื่นสิ คุณซ่ง ตื่นสิ”
แต่ทว่า ไม่ว่าเขาจะเขย่าตัวของซ่งเทียนซานเท่าไร ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
ฉางเว่ยตกใจเป็นอย่างมาก ความกลัวปกคลุมไปทั่วร่างกาย ใครกันแน่ที่ทำร้ายซ่งเทียนซานจนบาดเจ็บสาหัส และช่วยผู้หญิงคนนั้นไป
คนแรกที่ลอยเข้ามาในหัวของถังเฉาคือถังเฉา
แต่คิดไปคิดมา มันไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะถังเฉาไม่รู้ว่าเขาเอาตัวผู้หญิงไปซ่อนไว้ที่ไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ถังเฉาจะมาช่วยชีวิตของผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เขาจะมาถึง
ทันใดนั้น ถังเฉาปรายตามองไป พบว่ากล้องวิดีโอกำลังบันทึกภาพอยู่
เขารีบเดินมาที่กล้องวิดีโอ และกดหยุดบันทึก เขากะว่าจะนำมันออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ก๊อกๆๆ
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูคฤหาสน์ก็ดังขึ้น
ฉางเว่ยขมวดคิ้ว และพูดเสียงดังว่า “มีอะไรค่อยว่ากัน!”
ซ่งเทียนซานหมดสติ ตอนนี้ในคฤหาสน์มีเพียงเขาและคนขับรถเท่านั้น ฉางเว่ยจึงคิดว่าคนที่เคาะประตูอยู่ข้างล่างคือคนขับรถของตัวเอง
ปังปังปัง
เสียงเคาะประตูรุนแรงขึ้นอีก ราวกับจะกระแทกประตูให้เปิดออกมา
ฉางเว่ยโมโหเป็นอย่างมาก เขารีบเดินลงไปเปิดประตูข้างล่าง
ปังงง
แต่ทว่า เขายังไม่ทันได้เปิดประตู ก็มีแรงมหาศาลจากข้างนอกดันเข้ามา ประตูทั้งบานลอยเข้ามากระแทกตัวฉางเว่ยอย่างแรงและทับอยู่บนตัวเขา
“แค่กๆ”
ฝุ่นตลบอบอวล ฉางเว่ยไอไม่หยุด ขณะนั้นเอง รองเท้าหนังสีดำปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา
ฉางเว่ยสั่นไปทั้งตัว เขาเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ถังเฉาเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าดุร้าย แววตานิ่งเฉย
ทันใดนั้นเหมือนฉางเว่ยต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง สีหน้าของเขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก “นาย..นายมาที่นี่ได้ยังไง”
“ขอบใจที่นายนำทาง”
ถังเฉาก้มลงมองเขา ความอาฆาตฉายออกมาจากแววตาของเขา “ฉันอุตส่าห์ให้โอกาสนายมีชีวิตอยู่ แต่นายไม่ต้องการมัน งั้นอย่ามาว่าฉันก็แล้วกัน!”
ทันใดนั้นฉางเว่ยตกใจเป็นอย่างมาก ความหวาดกลัวในใจไม่มีที่สิ้นสุด
เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเครื่องต่อรองชีวิตของเขา แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นหายตัวไปแล้ว เท่ากับว่าเขาไม่มีเครื่องต่อรองอีกแล้ว ถ้าถังเฉาจะฆ่าเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
“อย่า นายจะฆ่าฉันไม่ได้นะ ฉันยังช่วยนายได้”
ฉางเว่ยตะเกียกตะกายไปอ้อนวอนถังเฉา
“ประโยชน์อย่างเดียวที่นายมีชีวิตอยู่ก็คือบอกฉันมาว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหน!” ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“อยู่นั่น อยู่ตรงนั้น!”
ฉางเว่ยรีบชี้ไปยังห้องหนึ่ง และพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
ถังเฉามองตามไป จากนั้นก็เดินไปยังห้องนั้น
ฉางเว่ยไม่สนใจความเจ็บปวดบนร่างกาย เขาวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกไปข้างนอก
เขารู้ตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นหายตัวไป การที่เขาไม่บอกถังเฉา เพราะว่าอยากยื้อเวลาชีวิตของเขาเอาไว้
แต่ทว่ากลอุบายเช่นนี้กลับถูกถังเฉาเดาทางได้ เขาไม่เห็นหลินจ้าวหยูน เห็นเพียงซ่งเทียนซานนอนหมดสติอยู่
ทันใดนั้นแรงสังหารในแววตาของถังเฉาเพิ่มมากขึ้นอีก เขาหยิบโคมไฟที่ทำจากโลหะขว้างไปที่ฉางเว่ย
ผัวะ
มันกระแทกไปที่หลังศีรษะของฉางเว่ยพอดี ดวงตาของเขามืดลงและหมดสติทันที
ถังเฉาเดินออกมา ความโกรธก่อตัวขึ้น เขาไม่สนใจว่าฉางเว่ยจะหมดสติอยู่ ชายหนุ่มจับหัวของฉางเว่ยกระแทกกับพื้น
ผัวะ
ภายใต้แรงกระแทกอันเจ็บปวด ฉางเว่ยฟื้นขึ้นมาและรู้สึกวิงเวียน
แต่เมื่อเห็นใบหน้าอันเย็นชาของถังเฉา เขาตกใจจนตัวสั่นเทา ก่อนหน้านี้ภาพที่ถังเฉาจัดการกับทุกคนภายในพริบตาเดียว ยังติดตาเขาอยู่
“นายจะฆ่าฉันไม่ได้ ไม่งั้นนายจะต้องเสียใจ!” เขามองถังเฉาและตวาดออกมาด้วยความหวาดกลัว
“นายกล้าหลอกฉันเหรอ”
ฉางเว่ยตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน หน้าของเขาซีดเผือด “ลูกน้องของฉันพาเธอมาซ่อนไว้ที่นี่ ทำไมเธอถึงหายไปฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“นายว่าฉันจะเชื่อนายไหม”
น้ำเสียงของถังเฉาเย็นชา “ฉันจะพูดอีกครั้ง ถ้านายยังไม่บอกฉันอีก ฉันจะหักข้อต่อบนร่างกายของนายทุกนาที!”
ฉางเว่ยยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ เขารู้ว่าถังเฉาทำอย่างนั้นแน่
แต่ทว่า เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเธอหายไปไหน
“หมดเวลา”
น้ำเสียงของถังเฉาเย็นชา จากนั้นเขาจึงจับนิ้วของฉางเว่ยขึ้นมาหนึ่งนิ้ว จากนั้นก็ใช้แรงบิด
กรอบบบ
นิ้วของฉางเว่ยโดนถังเฉาหักไปหนึ่งนิ้ว
“อ๊าก”
เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผาก
“ถ้ารวมนิ้วเท้าอีกสองข้าง นายยังเหลืออีกสิบเก้านิ้ว” ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฉางเว่ยกลัวเป็นอย่างมาก สั่นไปหมดทั้งตัว เขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก
กรอบบ
ถังเฉาหักนิ้วของฉางเว่ยอีกหนึ่งนิ้ว
“อ๊าก”
ฉางเว่ยร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เหงื่อไหลออกมาทั้งตัว
จากนั้น ถังเฉาก็หักนิ้วของฉางเว่ยทุกๆ หนึ่งนาที
หลังจากผ่านไปสิบนาที นิ้วทั้งสิบนิ้วของฉางเว่ยอ่อนยวบลงมา ฉางเว่ยเจ็บจนหมดสติไป
แต่ทว่า ถังเฉาไม่ได้สงสารเขาแม้แต่น้อย เขายังคงเลือดเย็น
“ต่อไปก็เป็นข้อต่อบนร่างกายของนาย”
ถังเฉาพูดอย่างเย็นชา “ร่างกายมนุษย์มีกระดูก 206 ชิ้น ถ้านายยังไม่พูดออกมา ฉันจะหักกระดูกของนายให้แตกทีละชิ้น ตั้งแต่วันนี้นายจะต้องเลื้อยเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน!”
ทันใดนั้นเสียงมือถือของถังเฉาก็ดังขึ้น
หลินชิงเสว่โทรมาหาเขา
ทันใดนั้น แรงอาฆาตในตัวเขาก็หายไปทันที “ชิงเสว่”
เสียงของหลินชิงเสว่ที่ดังออกมาจากโทรศัพท์เต็มไปด้วยความโล่งอก “จ้าวหยูนปลอดภัยแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของถังเฉาก็เปลี่ยนไปทันที “อะไรนะ จ้าวหยูนปลอดภัยแล้วงั้นเหรอ”
น้ำเสียงของหลินชิงเสว่ก็แปลกไปเช่นกัน “อย่าบอกนะว่านายไม่ได้เป็นคนช่วยเธอ”
สีหน้าของถังเฉาเต็มไปด้วยความสงสัย เขายังไม่ได้เจอหน้าของหลินจ้าวหยูนเลยด้วยซ้ำ!
จากนั้นเขาจึงหันไปมองยังห้องที่เละเทะห้องหนึ่ง ราวกับเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง แววตาของเขาจริงจังขึ้นมา
“นายรีบกลับมาเถอะ จ้าวหยูนไม่เป็นอะไรแล้ว โล่งอก..”
หลินชิงเสว่ไม่ได้สนใจ เธอดีใจจนร้องไห้ออกมา
หลังจากวางสาย ถังเฉาเดินไปหาฉางเว่ย และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “จ้าวหยูนไม่เป็นอะไรแล้ว”
ฉางเว่ยที่นอนไร้เรี่ยงแรง เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็ลุกขึ้นมาทันที จากนั้นจึงพูดอ้อนวอนว่า “ในเมื่อไม่เป็นอะไรแล้ว นายก็รีบปล่อยฉันไปเถอะ”
แรงอาฆาตในแววตาของถังเฉาหายไปแล้ว แต่ทว่าสีหน้ายังคงเย็นชา “นายคิดว่าทำเรื่องแบบนี้ แล้วฉันจะยังปล่อยนายไปอย่างนั้นเหรอ”
“นายจะทำอะไร” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉางเว่ยก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“ฉันไม่ฆ่านายหรอก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉางเว่ยก็โล่งอก
แต่ทว่าคำพูดต่อมาของถังเฉา กลับทำให้ฉางเว่ยตกใจเข้าไปอีก
“เพราะการฆ่านาย มันดูมีเมตตาเกินไป ฉันจะทำให้นายมีชีวิตอยู่เหมือนสัตว์เลื้อยคลาน”
น้ำเสียงของถังเฉาเด็ดขาด เหมือนคำพิพากษาของเทพมรณะ
พูดจบ เขาก็ยกขากระทืบลงไปบนแขนขาของฉางเว่ย
ไม่เพียงแค่นั้น ถังเฉายังใช้ฝ่ามือตบไปที่กระดูกสันหลังของฉางเว่ยอย่างแรง
กรอบแกรบบบ
จู่ๆ กระดูกในตัวของเขาก็แยกออกจากกัน
ถังเฉาเคยพูดไปแล้วว่าจะหักกระดูกในตัวของฉางเว่ยทั้งหมด เขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะต้องใช้ชีวิตเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน
เมื่อจัดการเรียบร้อย ถังเฉาไม่ได้ออกไป แต่เขากลับไปที่ห้องในคฤหาสน์
เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนช่วยหลินจ้าวหยูน
เขามองไปรอบๆ สายตาของเขาหยุดลงที่กล้องวิดีโอตัวนั้น
เขานำวิดีโอที่ถ่ายเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงออกมา
ในวิดีโอ หลินจ้าวหยูนถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ เธอนอนดิ้นอยู่บนเตียง
จากนั้นก็มีผู้ชายขึ้นไปบนเตียง ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีมีดพุ่งเข้ามา จากนั้นภาพก็วุ่นวายไปหมดและไม่เห็นอะไรอีก
แต่เมื่อดูไปจนถึงวินาทีสุดท้าย ในวิดีโอมีภาพของผู้หญิงที่อยู่ในชุดรัดรูปสีดำอุ้มหลินจ้าวหยูนขึ้นจากเตียง และเดินออกไป
ถึงแม้จะเป็นภาพเพียงแวบเดียว แต่ถังเฉารู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
จู่ๆ ความตกตะลึงและความรู้สึกต่างๆ ก็กลายเป็นรอยยิ้มขมขื่น
ผู้หญิงที่สวมชุดรัดรูปสีดำ มีเพียงเฟิ่งหวงคนเดียวเท่านั้น
แต่ว่าเธอกลับไม่ใช่เฟิ่งหวง