เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 149
บทที่ 149 ปล่อยโอกาส
คำพูดนั้นแฝงไปด้วยแรงอาฆาต จนทำให้บรรยากาศในงานเย็นยะเยือก
คนที่อยู่ในใจต่างพากันคิดในใจเป็นเสียงเดียวกันว่า “การแก้แค้นของตระกูลซ่งมาถึงแล้ว!”
ก่อนหน้านี้บอดี้การ์ดของถังเฉาทำลายใบหน้าของซุนเสว่อย่างไร้เยื่อใย แถมยังขับไล่ตระกูลซุนออกไป นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ตระกูลซุนเป็นแค่ตระกูลระดับกลางในเมืองหมิงจู ไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย
ตระกูลซ่งสิถึงจะเรียกว่ามีอำนาจ ถ้าชายหนุ่มคนนี้เอาชีวิตรอดออกจากที่นี่ไปได้ นับว่าเขามีความสามารถเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลซุนเป็นตระกูลในเครือของตระกูลซ่ง ทุกปีตระกูลซุนจะต้องนำกำไรที่ได้สามสิบเปอร์เซ็นต์แบ่งให้กับตระกูลซ่ง ในทางกลับกันตระกูลซ่งต้องปกป้องตระกูลในเครืออย่างตระกูลซุนอยู่แล้ว
ชายคนที่เป็นหัวหน้าอายุราวสามสิบปี หน้าตาคล้ายซ่งเทียนซาน แต่ดูสุขุมกว่า
และการปรากฏตัวของเขา ทำให้คนในงานพากันซุบซิบขึ้นมาเบาๆ
“ทำไมถึงเป็นซ่งชิงหมิง ญาติสายตรงของตระกูลซ่ง คนที่เป็นผู้แทนจะต้องเป็นซ่งเทียนซานไม่ใช่เหรอ”
“เหมือนว่าไม่กี่วันก่อนเขาทำให้หลงเถิงกรุ๊ปที่คุณซ่งหรูอี้ให้ หายวับไปกับตาน่ะสิ สงสัยจะโดนห้ามไม่ให้ออกมา”
“สองสามวันนี้ซ่งชิงหมิงทำหน้าที่แทนซ่งเทียนซานตลอด นอกจากซ่งหรูอี้ ก็มีเขานี่แหละที่เข้าตาผู้อาวุโสซ่งสวิน”
“.…..”
หวางหมิ่นเหมินกับจ้าวลิ่วมองซ่งชิงหมิงจนตาเป็นประกาย
ถังเฉาดูเหมือนไม่ปกติเป็นอย่างมาก ให้ซ่งชิงหมิงไปลองเชิงก่อน ถ้าเป็นไอ้สวะเหมือนกับที่คนอื่นพูดกัน พวกเขาก็จะออกโรงแก้แค้นเอง
พวกเขายังจำตอนที่ต้องไปขอโทษที่ตระกูลหลิน มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับพวกเขา!
เมื่อเห็นซ่งชิงหมิงพาคนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ฟางหย่าตกใจจนหน้าซีด เธอเคยเห็นภาพแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ
ซ่งหมิงเวยปะปนอยู่ในกลุ่มคน เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เขารู้ว่าการที่ให้ถังเฉาเข้ามา ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก พี่สาวนอกไส้ของเขายังไม่มา ก็สร้างเรื่องขึ้นเสียก่อนแล้ว ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เขาต้องพูดอ้อนวอนแทนถังเฉา
แต่ทว่า ถังเฉายังนั่งดื่มชาอย่างสบายใจ เหมือนซ่งชิงหมิงกับคนพวกนั้นเป็นอากาศ
“ถังเฉา!”
ฟางหย่าร้อนใจจนหน้าซีด เธอจับแขนเสื้อของถังเฉาเอาไว้แน่น
ถังเฉาต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ เธอไม่ควรทำให้เขาติดร่างแหไปด้วย
แต่ทว่า ซ่งชิงหมิงเดินมาตรงหน้าของถังเฉา สีหน้าของเขาราบเรียบ “บอกเหตุผลมา ไม่งั้นวันนี้นายอย่าหวังว่าจะได้ออกไป”
ถังเฉาเงยหน้าขึ้นช้าๆ เขาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ยังจำฉันได้ไหม”
ตอนที่ได้เห็นหน้าถังเฉา สีหน้าของซ่งชิงหมิงก็เปลี่ยนไปในทันที “แกเองเหรอไอ้สวะ!”
“ไอ้หมาแก่ซ่งสวินล่ะ?”
รอยยิ้มของถังเฉากว้างขึ้นเรื่อยๆ มันสดใสเป็นอย่างมาก “รบกวนนายไปบอกเขาด้วยนะว่า ไอ้สวะในตอนนั้นกลับมาแก้แค้นแล้ว”
ตู้มม
เมื่อประโยคนั้นออกมา ราวกับแผ่นดินไหวอย่างไรอย่างนั้น นอกจากซ่งหมิงเวย ทุกคนในตระกูลซ่งตกใจเหมือนเห็นผี และพากันถอยกรูดไปข้างหลัง พวกเขามองถังเฉาด้วยสายตาที่แทบไม่อยากจะเชื่อ
ซ่งหมิงเวยถอนหายใจออกมาเบาๆ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
คนในตระกูลอื่นที่อยู่ในงานต่างพากันมองหน้ากันไปมา เรื่องเก่าๆ ลอยเข้ามาในหัว
เมื่อห้าปีก่อน เคยมีผู้ชายคนหนึ่งแต่งเข้ามาในตระกูลซ่ง และหายตัวไปในคืนวันแต่งงานของซ่งหรูอี้
ว่ากันว่าชายคนนั้นหนีงานแต่ง แต่ศพของชายคนนั้นอยู่ที่ไหนนั้นไม่มีใครรู้
อย่าบอกนะว่าเป็นเขา
เมื่อคิดได้เช่นนั้น คนในตระกูลต่างๆ ก็มองถังเฉาด้วยสายตาที่แทบไม่อยากจะเชื่อ คิดถึงเรื่องที่เขาทำมาก่อนหน้านี้ ก็อดตกใจไม่ได้
พวกเขาคิดไม่ออกจริงๆ แค่ไอ้สวะในตระกูลกระจอกๆ ทำไมถึงกล้ามาก่อเรื่องในถิ่นของตระกูลซ่ง
ฟางหย่าไม่รู้เรื่องนี้ แต่เธอสัมผัสได้ว่าถังเฉากับตระกูลซ่งน่าจะมีเรื่องอะไรกัน
จู่ๆ ถังเฉากลายเป็นจุดสนใจของคนในงาน แต่ทว่าภายใต้สายตาของทุกคน เขากลับทำตัวสบายๆ
“เรียกซ่งสวินออกมา นายไม่มีสิทธิ์มาพูดกับฉัน”
ประโยคนี้ทำให้ซ่งชิงหมิงตั้งสติได้ ใบหน้าอันหล่อเหลาเริ่มกลายเป็นดุร้าย “ไอ้สวะในตระกูลกระจอก คนขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถที่คลานเป็นหมาต่อหน้าฉันในตอนนั้น กล้าดียังไงถึงมาพูดกับฉันแบบนี้”
เฟิ่งหวงสายตาเย็นยะเยือก เธอกำลังจะลุกขึ้น แต่ทว่าโดนถังเฉารั้งเอาไว้ก่อน
เขามองซ่งชิงหมิง จากนั้นจึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ถ้านายไม่อยากเห็นเลือดอยู่บนหน้าเหมือนกับซ่งเสว่ ก็รีบเรียกปู่ของนายออกมา”
“คนอย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”
ซ่งชิงหมิงโกรธและแสยะยิ้มออกมา ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าไอ้สวะนี่มาก่อเรื่องอย่างแน่นอน
ขณะนั้นเองหวางเยี่ยกับจ้าวเชียนจูนเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าซ่งชิงหมิงพาคนเข้ามาล้อมถังเฉาเอาไว้ พวกเขาคิดว่าได้โอกาสแล้ว จึงรีบเข้าไปหาซ่งชิงหมิง
“คุณซ่งชิงหมิง ไอ้สวะนี่บุกเข้ามาก่อเรื่องในตระกูลซ่ง แถมยังทำร้ายผมจนเป็นแบบนี้อีก!” หวางเยี่ยชี้ไปทางถังเฉาและพูดออกมาเสียงดัง
“อะไรนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็เหมือนกับเอาน้ำมันราดกองไฟ ไม่เพียงแค่ซ่งชิงหมิง หวางหมิ่นเหมินก็นั่งไม่ติดเหมือนกัน เห็นลูกชายของตัวเองหน้าตาฟกช้ำ เขาก็โกรธขึ้นมาทันที
“คุณชายซ่ง ไอ้สวะนี่มันทำเกินไป ถ้าไม่หักแขนหักขามันก็คงไม่ทำให้หายแค้นหรอกครับ!”
ซ่งชิงหมิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่ เมื่อห้าปีก่อนที่มันแต่งเข้ามาอยู่ในตระกูลซ่งก็ถือว่าเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงแล้ว ไอ้เด็กนี่ไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว หนีงานแต่งไป จับมันไว้แล้วก็หักแขนหักขามัน อีกเดี๋ยวถ้าซ่งหรูอี้มาถึง ถือว่ามอบให้เป็นของขวัญก็ไม่เลวเหมือนกัน”
จ้าวเชียนจูนใช้โอกาสนี้พูดว่า “คุณชายซ่งไม่ต้องกังวลครับ ผมติดต่อพวกสมาคมการต่อสู้แล้ว อีกเดี๋ยวน่าจะมาถึง”
ซ่งชิงหมิงหัวเราะออกมาเสียงดัง “จัดการไอ้สวะนี่ไม่จำเป็นต้องถีงมือสมาคมการต่อสู้หรอก แค่บอดี้การ์ดของตระกูลซ่งก็พอแล้ว!”
พูดพลางเขาก็แผดเสียงออกมาว่า “จับไอ้สวะนี่แล้วจัดการหักแขนหักขาของมัน!”
พรึบ พรึบ พรึบ
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากดังเข้ามาจากข้างนอก กลุ่มนักสู้ของตระกูลซ่งพุ่งเข้ามาข้างใน
ฟางหย่าตกใจจนหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ
ผู้นำตระกูลอื่นก็พากันถอนหายใจออกมาเบาๆ ราวกับเห็นภาพของถังเฉาถูกหักแขนหักขาและโยนออกบนถนนแล้วอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาค่อยๆ หายไป “ฉันให้โอกาสนายแล้ว แต่น่าเสียดายที่นายปล่อยมันไป”
ซ่งชิงหมิงได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกว่านี่เป็นการรนหาที่ตายชัดๆ ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรออกมา ถังเฉาก็ยื่นมือออกมาอย่างรวดเร็ว
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วกว่าเฟิ่งหวงเป็นอย่างมาก!
ถ้าการเคลื่อนไหวของเฟิ่งหวงก่อนหน้านี้ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า งั้นการเคลื่อนไหวของถังเฉา เรียกได้ว่าเร็วจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เขาบีบคอของซ่งชิงหมิงเอาไว้แน่น จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบหม้อซุปร้อนๆ
ทันใดนั้นหน้าของซ่งชิงหมิงก็ลงไปอยู่หม้อร้อนๆ
“กรี๊ดดด”
ผู้หญิงในงานกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ หน้าของซ่งชิงหมิงโดนลวกจนเลือดกับเนื้อผสมกัน น้ำมันหยดลงมาไม่หยุด
พรึ่บบบ
ถังเฉาหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดบนใบหน้าของซ่งชิงหมิง
ตู้มมม
จู่ๆ ไฟก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว