เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 151
บทที่ 151 ตั๊กแตนห้ามรถ
“เทียนซาน”
“พี่เทียนซาน!”
ไม่เพียงแต่ซ่งสวินเท่านั้น แต่ยังมีสีหน้าของตระกูลซ่งรุ่นที่สองและสามที่เปลี่ยนไปอย่างมาก และพากันกรีดร้องออกมาด้วยความโศกเศร้า
หนึ่งในนั้นมีชายวัยกลางคนที่สีหน้าดูตกใจมากที่สุด ได้ผลักผู้คนออกอย่างมาอยู่ที่ด้านข้างของซ่งเทียนซานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเขย่าตัวเขาอย่างรุนแรง ที่จริงแล้วนี่คือพ่อของเขาเอง ซ่งเต้าหลิง
ในชั่วขณะหนึ่ง คนของตระกูลซ่งทั้งหมดต่างจมอยู่ในความโศกเศร้าอยู่ลึกๆ
หัวหน้าของตระกูลอื่นๆก็เต็มไปด้วยสายตาที่เย็นชา สายตาเหลือบไปมองที่ถังเฉาผู้ที่ดูน่าเกรงขาม
โดยเฉพาะหวางหมิ่นเหมินและจ้าวลิ่ว ใจของพวกเขาต่างเต้นแรงมากขึ้น แต่ก่อน พวกเขาคิดว่าถังเฉานั้นชั่วร้าย แต่ไม่เคยคิดว่าจะโหดเหี้ยมและโหดร้ายมากขนาดนี้
หวางเยี่ยเองก็รู้สึกกลัวมากขึ้น ซ่งเทียนซานนั้นโดนทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์น่าเศร้าเช่นนี้ นึกถึงตัวเองที่ยังจะคิดแก้แค้นถังเฉาอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็สั่นไปหมด
ลักษณะของซ่งเทียนซานนั้นจะสามารถอธิบายด้วยถ้อยคำที่ดูน่าสลดใจได้อย่างไรกัน?
ไม่เพียงแต่ใบหน้าเท่านั้น ร่างกายทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยรอยมีด
มีเพียงผู้เเชียญชาญเท่านั้นที่สามารถดูออกว่าเป็นทักษะการใช้มีดที่ยอดเยี่ยมมาก มีดที่เฉือนร่างของซ่งเทียนซานนั้น ไม่ได้ทำลายกล้ามเนื้อของเขาแต่อย่างใด เพียงแค่ตัดเส้นลมปราณเท่านั้น
ในบรรดาคนที่ถังเฉารู้จักนั้น มีเพียงแค่เจียงไป๋เสว่ที่เป็นหัวหน้าทางการแพทย์ของปราณมังกรอย่างแน่นอน ถึงจะมีเทคนิคการใช้มีดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
“เทียนซาน…”
ซ่งสวินและซ่งเต้าหลิงที่อยู่ด้านซ้ายและขวา มองไปที่ซ่งเทียนซานซึ่งเส้นลมปราณได้แตกไปแล้วนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วย ใบหน้าของเขาก็เจตนาอาฆาต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาของซ่งเต้าหลิงที่หันไปมองราชวงศ์ถังด้วยสายตาที่เศร้าหมองนั้น พูดแต่คำออกมาอย่างยากเย็นว่า “เป็นแก…ที่ทำให้ลูกฉันกลายเป็นแบบนี้เหรอ?”
แม้ว่าซ่งเทียนซานนั้นจะยังไม่ตายแต่ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ชีวิตที่เหลือนั้นคงได้เพียงอยู่แค่บนเตียงเท่านั้น สำหรับชายหนุ่มนี้ มันช่างทรมานมากกว่าการฆ่าเสียอีก!
ถังเฉาพยักหน้าและพูดว่า “ไม่ผิด”
แม้ว่าตัวเขาเองที่ทำให้ซ่งเทียนซานเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็เต็มใจที่จะมอบ‘แพะรับบาปนี้ไปให้แก่เจียงไป๋เสว่’
“แกมันรนหาที่ตาย…”
ซ่งเต้าหลิงคำรามออกมาอย่างเสียงดังที่เต็มไปด้วยความอาฆาต จากนั้นก็พุ่งไปหาถังเฉาอย่างไม่คิดชีวิต
แต่เขากลับถูกซ่งสวินขวางเอาไว้ ในเวลานี้เอง เขาผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าของตระกูลซ่งก็กลับสงบลง “เต้าหลิง อย่าหุนหันพลันแล่นไป เขากำลังยั่วโมโหคุณอยู่ รอหรูอี้มาค่อยสะสาง!”
เมื่อโดนทุกคนในตระกูลซ่งห้ามปราม สติสัมปชัญญะของซ่งเต้าหลิงก็ค่อยๆกลับมา แต่ดวงตาทั้งสองของเขายังคงมีความอาฆาตอยู่มาก
“ถังเฉา ฉันซ่งเต้าหลิง ขอสาบานว่าตราบที่ยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะฆ่านายให้ได้!”
“ในโลกใบนี้มีคนมากมายที่อยากจะฆ่าฉัน นายเป็นคนที่เท่าไหร่กัน?”
ถังเฉาไม่แยแสแม้แต่น้อย แม้จะโดนดูถูกเหยียดหยามก็ตาม
“ถังเฉา นายอย่าทะนงตนให้มาก!”
ตอนนี้เอง ซ่งสวินก็ตะโกนเสียงดังว่า “ไม่ว่าแกจะเปลี่ยนไปเป็นยังไง แต่มันก็เปลี่ยนความจริงที่ว่าแกมันไร้ประโยชน์ไม่ได้หรอก รอหรูอี้มาก่อนเถอะ แกเสร็จแน่!”
ถังเฉามองซ่งสวินด้วยความเวทนาสงสารพร้อมกับส่ายหัว “ซ่งหรูอี้นี่เป็นเทพเจ้าของพวกนายหรือไงกันนะ?หล่อนจะสามารถช่วยพวกนายได้เหรอ?หรือว่าหล่อนจะช่วยพวกนายงั้นเหรอ?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา รุ่นน้องตระกูลซ่งก็ต่างมองไปที่ถังเฉาด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งเย็นชา
“ตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องหรูอี้นั้นเป็นหัวหน้าตระกูลซ่ง อีกทั้งยังเป็นประธานของบริษัทตระกูลซ่งด้วย หล่อนจะฆ่านายอย่างกับฆ่ามดตัวหนึ่งเลยแหละ!”
“ทุกอย่างที่แกทำกับตระกูลซ่ง พี่หรูอี้จะต้องกลับมาเหมือนเดิม!”
“…”
การที่รุ่นน้องพวกนี้พูดกันอย่างรวดเร็ว ทำให้ซ่งสวินและซ่งเต้าหลิงต่างมองหน้ากัน จากนั้นดวงตาข้างในก็เป็นประกาย
เด็กคนนี้…ไปเจออะไรมาหรือเปล่า
เมื่อเห็นความประหม่าของพวกเขาแล้ว ถังเฉาก็ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ตระกูลซ่งนั้นมีซ่งหรูอี้เพียงคนเดียว ก็ทำให้กลายเป็นที่ร่ำรวยที่สุดในหมิงจู หากไม่มีซ่งหรูอี้ พวกเขานั้นก็จะไม่มีอะไรสักอย่าง
ถังเฉาเองก็ไม่รู้ว่าซ่งหรูอี้นั้นมีความสัมพันธ์อย่างไรกับตระกูลซ่งบ้าง แต่ว่าสิ่งที่เข้าใจที่สุดก็คือ สิ่งที่ซ่งหรูอี้ได้ทำนั้นก็ยังคงเป็นศัตรูอยู่ดี ถังเฉาสามารถเดาความคิดของหล่อนได้เล็กน้อย
ยกตัวอย่างการประชุมทางธุรกิจคืนนี้ ที่ซ่งหรูอี้ได้เป็นประธานของบริษัทตระกูลซ่ง ทำไมจะต้องมาทำที่ลานบ้านของตระกูลซ่งแทนที่จะเป็นห้องประชุมของบริษัทตระกูลซ่งแทน
มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็คือ ตำแหน่งการเป็นหัวหน้าของตระกูลซ่งของหล่อนนั้นไม่มั่นคง อีกทั้งยังหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับหล่อน
การประชุมที่บ้านของตระกูลซ่งก็เพื่อที่จะให้ ซ่งสวิน ซ่งเต้าหลิงและคนอื่นๆ ว่าตนนี่แหละที่เป็นหัวหน้าของตระกูลซ่ง!
ตึก ตึก ตึก
ในขณะนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าที่ด้านนอกของตระกูลซ่ง
หลังจากนั้นก็มีชายวัยกลางคนสวมชุดเสื้อคลุมขาวดำเดินเข้าไปในงานเลี้ยงของตระกูลซ่ง
“ท่านอาจารย์ลุง!”
เมื่อเห็นคนคนนี้ จ้าวเชียนจูนก็แสดงความประหลาดใจบนใบหน้าทันทีพร้อมกับโบกมือให้
เขาเดินไปหาจ้าวเชียนจูนทันที “เชีนจูน คนอยู่ที่ไหน?”
จ้าวเชียนจูนชี้ไปที่ถังเฉาและพูดทันทีว่า “ก็เขาไง พวกแกมาก็ดีแล้ว ไปหักขาของมันซะ!”
จากนั้นชั่วครู่ก็หันไปพูดกับซ่งสวินอย่างมีไมตรีจิตว่า “ท่านปู่ซ่ง อย่ากังวลใจไป ผมได้เรียกปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้มาแล้ว ล้วนแต่มีฝีมือกันทั้งนั้น จับสิ่งไร้ประโยชน์นี่ได้อย่างแน่นอน”
“ดี!”
ดวงตาของซ่งสวินนั้นเป็นประกายพร้อมกับพูดกับจ้าวเชียนจูนว่า “แค่แกช่วยฉันฆ่าไอ้ไร้ประโยชน์นี่ จากนี้ตระกูลซ่งกับตระกูลจ้าวก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีไปชั่วลูกชั่วหลาน”
“ขอบคุณท่านปู่ซ่ง!”
จ้าวเชียนจูนขอบคุณในทันที หากตระกูลจ้าวเข้ากับตระกูลซ่งได้ ก็จะเป็นการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน!
ในงานเลี้ยงโต๊ะหนึ่งนั้น มีจ้าวลิ่วนั้นก็ไม่ได้มองโลกในแง่ดีแต่อย่างใด ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็จะดีเป็นอย่างมาก เพียงแต่กลัวว่าจะจัดการคนอย่างถังเฉาไม่ได้เท่านั้นเอง…
หัวหน้าตระกูลอื่นๆก็ต้องการดูปฏิกิริยาของถังเฉา อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขายังคงสงบพร้อมกับยิ้มเย้ยหยัน
“พวกคุณคงไม่ได้คิดหรอกใช่ไหมว่าเพียงแค่เชิญคนของสมาคมการต่อสู้มา แล้วทุกอย่างมันจะจบ?”
ทุกคนต่างรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อถังเฉาเงียบสงบขนาดนี้ คนปกติเมื่อได้ยินชื่อเสียงของคนในสมาคมการต่อสู้ ปฏิกิริยาแรกควรจะกลัวไม่ใช่เหรอ?แต่ถังเฉากับเฟิ่งหวงยังคงนั่งสงบจิบชาไปพลางๆอย่างสบาย
“ท่านลุง โปรดระวังเด็กคนนี้ไว้ ใบหน้าของหม่าจงที่โดนเฉือนก็เป็นเพราะเขานี่แหละ” ในขณะนี้เอง จ้าวเชียนจูนก็ได้มาเตือนที่ด้านข้าง
“อะไร ทำไมกลายเป็นมันได้?”
คนนี้ที่ชื่อ หยังหวูตี๋ เมื่อได้ยินคำเตือนของจ้าวเชียนจูน ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความอาฆาตที่จะฆ่า
“ใบหน้าของหม่าจง แกทำให้เป็นแบบนั้นเหรอ?”
“ใช่”
ถังเฉาไม่ได้ปฏิเสธ พร้อมกับยิ้มหัวเราะจิบชา “หันหลังกลับก็เตะไปที พวกเขาไม่สมควรเป็นนักสู้แต่อย่างใด”
“บังอาจนัก!”
ดวงตาของหยังหวูตี๋นั้นเย็นชา ไม่สามารถควบคุมความอยากฆ่าของเขาได้ ร่างของเขาค่อยๆหายไป
เฟิ่งหวงนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างร้ายกาจ ในมือมีกริชแหลมด้ามสั้นอยู่
ถังเฉาโบกมือและพูดว่า “ฉันเอง”
ร่างของเฟิ่งหวงนั้นสั่นระริก ไม่คาดคิดเลยว่ารองหัวหน้าจะเป็นคนลงมือเอง
“ปรมาจารย์ของสมาคมการต่อสู้ได้มาแล้ว เขาจะผิดใจกี่คนกันเชียว…”
“ไม่ว่ายังไง ถ้าอาจารย์หยางจากสมาคมศิลปะการต่อสู้ลงมือละก็ เขาไม่มีโอกาสชนะได้แน่!”
คนในตระกูลหลายคนก็พากระซิบกระซาบว่า ถ้าคนของสมาคมการต่อสู้มาแล้วล่ะก็เรื่องตลกแบบนี้ก็จะได้จบลงสักที
ดวงตาของซ่งสวินนั้นเต็มไปด้วยเหี้ยมโหด “เป็นทหารมาสองสามปีแล้วมันจะไงก็เชียว เมื่อมาอยู่ตรงหน้าคนมีฝีมือแบบนี้ แกมันก็ไม่ได้เป็นอะไรเลยสักอย่าง!”
“ไม่เจียมตัว!”
ถังเฉาหัวเราะเยาะ ความเร็วของหยังหวูตี๋นั้นถือว่าไม่เลว แต่ในสายตาของเขานั้นมันช้าราวกับเต่า
หลังจากปรากฏตัวต่อหน้าถังเฉา กรงเล็บของนิ้วทั้งห้าก็แผ่ออกทันใด
ถังเฉายังคงยืนนิ่ง ไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว เพียงแค่ยกขาขึ้นและเตะมันออกไป
พึ่ง—
ขาข้างหนึ่งและมือข้างหนึ่งกระแทกเข้าด้วยกัน ในขณะที่สัมผัสโดนกัน หยังหวูตี๋ก็กระเด็นออกไปอย่างแรง
พึ่ง—
เขาชนกำแพง ทันใดนั้นกำแพงห้องจัดเลี้ยงก็พังลงมา
ทันใดนั้นใบหน้าของหยังหวูตี๋ก็เปลี่ยนไปเป็นซีดขาว จากนั้นก็กระอักเลือดออกมา
เพียงการเตะครั้งเดียว ปรมาจารย์หยางแห่งสมาคมการต่อสู้ก็พ่ายแพ้ในทันที!
ทุกอย่างเงียบสงัด ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ จ้าวเชียนจูนและซ่งสวินต่างพากันอ้าปากค้างอย่างตกใจ ความรู้สึกหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมานี้ คนไร้ประโยชน์นี่เปลี่ยนไปมีพลังอย่างมากมายขนาดนี้!
“หากตระกูลซ่งนั้นเต็มใจที่จะยอมลดละและเชื่อฟัง ใช้คำพูดที่เหมาะสมกับฉัน ผมก็อาจจะพิจารณาปล่อยตระกูลซ่งไป”
เสียงที่แผ่วเบาดังขึ้นอีกครั้ง สมาชิกทุกคนของตระกูลซ่งพากันสั่นสะท้านไปหมด “แต่ว่าตอนนี้ การแสดงออกของพวกคุณทำให้ผมผิดหวังเป็นอย่างมาก”
จิตอยากสังหารนั้น ยิ่งใหญ่ราวกับแม่น้ำซ่งสวินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไปพร้อมกับตะโกนเสียงดัง “ถังเฉา นี่แกต้องการจะทำอะไร?”
ทันใดนั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยก็มายืนล้อมรอบถังเฉาและเฟิ่งหวง
“หลานชายของคุณต้องที่จะได้ภรรยาของฉัน มีเจตนาที่จะลักพาตัว แต่ดันไปมัดพี่สะใภ้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจแทน”
ถังเฉาไม่ได้แม้จะไปมองไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัยพร้อมกับพูดกับซ่งสวินอย่างแผ่วเบาว่า “เดิมที ถ้าพวกคุณสำนึกผิดอย่างจริงใจ ผมก็จะไม่โกรธพร้อมกับให้โอกาสคุณอีกต่างหาก แต่ดูเหมือนว่าพวกคุณจะไม่ได้หวงแหนมันเลยสักนิด”
“เช่นนี้ หลังจากคืนนี้ ก็จะไม่มีตระกูลซ่งอีกต่อไป!”
บูม—
เจตนาที่ต้องการจะฆ่าของซ่งสวินนั้นแน่วแน่ สีหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก
“ยิง ยิงแม่งให้หมดเลย!”
แก๊ก แก๊ก—
พนักงานรักษาความปลอดภัยของตระกูลซ่งทุกคนนั้น ถือปืนและหันไปทางถังเฉาและเฟิ่งหวง
ทันใดนั้นเอง บรรยากาศก็ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
“คุณมาแล้ว!”
ทันใดนั้น ประตูของตระกูลซ่งก็เปิดออกมาพร้อมกับเสียงเรียกที่ดังก้อง