เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 153
บทที่ 153 การขับไล่ออกจากตระกูลซ่ง
การประชุมทางธุรกิจดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบและตัวแทนของตระกูลต่างๆพากันมาที่เวทีเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อดีของบริษัท
ถังเฉาได้ยินเนื้อหาคร่าวๆ คร่าวๆพอที่จะรู้ว่าบริษัทตระกูลซ่งตั้งใจที่จะเปิดโครงการใหม่ แต่โครงการนี้ไม่ได้วางแผนโดยตระกูลซ่งแต่อย่างใด แต่อยู่ที่ตระกูลต่างๆเหล่านี้มีโครงการดีๆอะไออยู่บ้าง
แทนที่จะเป็นการประชุมทางธุรกิจจริง ๆ แต่แท้จริงแล้วเป็นการประชุมด้านการลงทุน ซ่งหรูอี้จะลงทุนกับใครก็ตามที่มีโครงการดีๆมาเสนอ
การลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ วิสัยทัศน์ของซ่งหรูอี้ที่มีต่อวิธีด้านนี้นั้นโหดร้ายมาก แม้แต่คุณปู่ซ่งเอง ก็ไม่สามารถที่จะเลือกอะไรได้
หลังจากนั้นสักพัก ซ่งหรูอี้ก็ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “ทำไมไม่เห็นคนของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปเลย?”
ซ่งหมิงเวยรีบพูดว่า “ประธานซ่ง ประธานฟางจากบริษัทลี่จิงกรุ๊ปได้มาและออกไปแล้ว”
ซ่งหรูอี้หรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับถามว่า “จบกัน ทำไมถึงไปแล้วล่ะ?”
ซ่งหมิงเวยผงะและรีบพูดว่า “เป็นเพราะว่าพี่ชายชิงหมิงนั้นบังคับประธานฟางอยู่เรื่อย คุณถังนั้นเกรงว่าประธานฟางจะได้รับบาดเจ็บ เลยบอกให้กลับไปน่ะครับ”
“ซ่งหมิงเวย นายหุบปากซะที!”
ซ่งชิงหมิงที่เพิกเฉยต่อความเจ็บปวดบนใบหน้านั้นยืนขึ้นเตรียมด่า
แต่พูดไปได้เพียงครึ่งเดียว ก็รู้สึกสายตาที่มองมาจากทางด้านหลังทำให้เสียววาบ รู้สึกตกใจจนไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปอีก
ซ่งหรูอี้ไม่ได้โกรธซ่งชิงหมิงแต่อย่างใด หล่อนได้ถอนสายตาจากนั้นก็พูดกับหัวหน้าแต่ละตระกูลว่า “แผนการทุกๆอย่าง ฉันได้อ่านหมดแล้ว หลังจากกลับไปที่บ้าน ฉันจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ฉันจะตอบกลับภายในสามวัน”
“ขอบคุณประธานซ่ง–”
หัวหน้าแต่ละตระกูลก็ค่อยๆออกไป งานเลี้ยงในตอนนี้นั้นได้กลายเป็นสถานที่เงียบเชียบไปเสียแล้ว
เหลือเพียงแต่ตระกูลหวางกับตระกูลจ้าวที่ยังไม่ได้ออกไป หวางหมิ่นเหมินกับจ้าวลิ่วกำลังคุยกันอยู่
ถังเฉาเห็นแล้วหัวเราะอยู่ภายในใจ
ดูเหมือนว่าพวกเขายังลังเลที่จะสละโอกาสใกล้ชิดกับตระกูลซ่งซะนี่
“หรูอี้ ตอนนี้การประชุมธุรกิจก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมาจัดการเรื่องในบ้านได้หรือยัง?”
ซ่งเต้าหลิงเดินไปหาซ่งหรูอี้ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยและถามไปอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น
ซ่งหรูอี้พยักหน้า “แน่นอนค่ะ”
เมื่อเห็นซ่งหรูอี้ตอบตกลง ทุกคนในตระกูลซ่งก็ต่างพากันถอนหายใจออกมา จากนั้นก็หันไปมองถังเฉาดวงแววตาที่ดุร้ายเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าซ่งหรูอี้จะจัดการถังเฉาในไม่ช้านี้
หวางเยี่ยและจ้าวเชียนจูนยิ้มให้แก่ถังเฉาและตะโกนออกไปว่า “ถังเฉา มาถึงตอนนี้แล้ว นายยังไม่ยอมรับความผิดของตัวเองอีกเหรอ คงไม่ต้องรอให้คุณซ่งลงมือก่อน ถึงจะยอมยอมแพ้หรอกนะ?”
ถังเฉายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายใจพร้อมกับมองไปที่สองคนนั้นด้วยสายตาที่ขี้เล่นและพูดว่า “พวกนายมั่นใจว่าซ่งหรูอี้จะจัดการฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“บังอาจมาก ชื่อของคุณซ่ง แกกล้ามาเรียกตรงๆแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
หวางเยี่ยยังคงจงรักภักดี จากนั้นก็ชี้ไปที่ถังเฉาและตะโกนเสียงดังออกไปว่า “ก่อนนี้นายมันแค่โชคดีที่บังเอิญไปประชุมธุรกิจ คุณซ่งเลยไม่มีเวลาที่จะมาจัดการ ตอนนี้งานประชุมก็จบลงแล้ว มาดูกันดีกว่าว่านายจะหนีไปไหน!”
“หนี?ใครบอกว่าฉันจะหนีกัน?”
ถังเฉารู้สึกขบขันกับคำพูดของหวางเยี่ย จากนั้นก็ค่อยๆลุกสูงขึ้น สูงราวกับภูเขา เดินเข้าไปหาซ่งหรูอี้
เสียงทุ้มอันทรงพลังของเขาก็เกิดขึ้นพร้อมกัน
“วันนี้ที่ฉันมาตระกูลซ่ง เดิมที่ก็อยากที่จะหารือโต้แย้งกันสักหน่อย ยังไม่ทันที่จะได้พูดจนถึงตอนนี้ ฉันไม่ไปไหนหรอก พวกคุณทุกคนเอง ก็อย่าติดที่จะก้าวขาออกไปแม้แต่ก้าวเดียว!”
“แกจะทำอะไร?”
“หยุด! ห้ามก้าวไปข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียว”
ททุกคนในตระกูลซ่งต่างตื่นตระหนกไปกับถังเฉา หวางเยี่ยก้าวไปข้างหน้าตรงหน้าของซ่งหรูอี้ และพูดทันทีว่า “คุณซ่ง วางใจได้ หากมีผมอยู่ ไอ้ไร้ประโยชน์นั่นจะไม่ได้แตะแม้ปลายผมของคุณ!”
อย่างไรก็ตาม ซ่งหรูอี้ค่อยๆยืนขึ้น ดวงตามีแสงเย็นวาบขึ้นมา “ไปให้พ้น”
“คุณซ่ง…”
หวางเยี่ยที่กำลังจะพูด จู่ๆก็มีเสียงไม่แยแสอีกเสียงดังมาจากข้างหลังเขา
“แน่ใจนะว่าจะจัดการฉัน?”
เมื่อหวางเยี่ยหันกลับไปมอง ดวงตาที่หมองคล้ำของเขาก็ตกใจ
เห็นเพียงแค่ถังเฉาที่ยืนอยู่ด้านหลังของหวางเยี่ย มองมาที่เขาอย่างไม่ลดละ ดวงตาคู่นั้นมันช่างเหมือนกับการมองมดอย่างไงอย่างงั้น
“ฉันบอกว่า ให้ไปให้พ้น”
ซ่งหรูอี้พูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
รัศมีอันทรงพลังกับจิตที่อยากสังหารนั้นรวมกัน หวางเยี่ยตกใจจนใบหน้าขาวซีด ภายใต้ความกลัวที่รุนแรงนี้ ทำให้เขานั่งลงกับพื้นอย่างงุนงง
เขาใช้มือและเท้าคลานออกห่างจากถังเฉาและซ่งหรูอี้ราวกับสุนัข
“พ่อ ตกใจกลัวหมดเลย—”
เขาคลานไปที่เท้าของหวางหมิ่นเหมิน จากนั้นก็กอดขากางเกงของหวางหมิ่นเหมินพร้อมกับซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง
“ใช้อะไรไม่ได้เลยจริงๆ!”
ใบหน้าของหวางหมิ่นเหมินนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เขาเตะหวางเยี่ยไปด้านข้าง
จากนั้นก็คลานกลับมาอย่างสุนัขเหมือนเดิมอย่างไม่คาดคิด อับอายไปหมด!
อย่างไรก็ตามเมื่อพูดอย่างนั้นออกมา แม้แต่หวางหมิ่นเหมินเองก็ยังสั่นสะท้าน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการเผชิญของสองคน เขารู้สึกตัวสั่นเล็กน้อย
ซ่งสวิน ซ่งเต้าหลิงและคนอื่นๆในตระกูลซ่งต่างถอยหลังออกมา ไม่กล้าที่เข้าใกล้
ดวงตาที่สวยงามของเฟิ่งหวงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นสายตาที่มองไปที่ซ่งหรูอี้ก็ดูน่ากลัวมากขึ้น
รองหัวหน้าเพิ่งจะปล่อยบุคลิกของเขาออกไป แต่ว่าผู้หญิงคนนี้กลับไม่มีท่าทีกลัวเลยสักนิด แถมยังจ้องตากลับไปอีก
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
ในตอนท้ายที่เผชิญหน้ากัน ซ่งหรูอี้ก็ยิ้มเบาๆราวกับเจอเพื่อนเก่า “ฉันคิดว่านายจะไม่กลับมาแล้วซะอีก”
“ทำให้คุณผิดหวังเสียแล้ว”
ถังเฉาจัดการบุคลิกของเขา จากนั้นก็ยิ้มเบาๆพร้อมกับพูดว่า “ฉันคนนี้ เคยชินอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ใครก็ตามที่กล้ามาหาเรื่องฉัน ฉันจะไม่ปล่อยมันไปอย่างแน่นอน”
“ฉันเห็นแล้วล่ะ”
ซ่งหรูอี้มองไปที่ใบหน้าที่หวาดกลัวของซ่งชิงหมิงและซ่งเทียนซานที่ยังไม่ได้สติ ก็ถอนหายใจออกมา “แต่ว่า ไม่ว่าจะพูดยังไง ฉันก็เป็นหัวหน้าของตระกูลซ่งอยู่ดี นายมาบ้านของตระกูลซ่งแล้วยังมาทำร้ายพี่ชายสองคนบาดเจ็บอีก ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย ฉันเองก็คงไม่มีคุณสมบัติิในการเป็นหัวหน้าของตระกูลซ่งหรอกนะ”
“ถ้าอย่างงั้น คุณคงต้องถามพวกเขาแล้วล่ะว่าได้ไปทำเรื่องอะไรมา”
ถังเฉากล่าวอย่างเฉยเมยว่า “พวกเขาพยายามจะลักตัวภรรยาของฉัน แต่ดันไปลักพาตัวพี่สะใภ้ไปแทน ทำอย่างนี้สมควรตายไหมล่ะ?”
หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาหรี่ตาลงอย่างอันตราย “เรื่องนี้ คุณไม่รู้น่าจะดีที่สุด”
“ภรรยาของนาย?”
หลังจากได้ยินสิ่งที่ถังเฉาพูด ซ่งหรูอี้ก็ดูเหมือนจะคิดอะไรออกขึ้นมา สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตาดูเฉียบคมขึ้น “ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่!”
ถังเฉาดูออกมาว่าซ่งหรูอี้นั้นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
หลังจากที่ฟังจบ ใบหน้าที่แสนสวยของซ่งหรูอี้ก็กลายเป็นเย็นชา “ไม่กลัวตายกันซะแล้ว!”
“แกพูดว่าอะไรนะ?”
ทันทีที่พูดสิ่งนี้ออกมา ใบหน้าของพ่อซ่งเทียนซานและซ่งเต้าหลิงก็ดูโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จ้องมองไปที่ซ่งหรูอี้ด้วยความโกรธ
คนอื่นๆในตระกู,ซ่งต่างมองไปที่ซ่งหรูอี้ด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ ใครก็ไม่คาดคิดว่าซ่งหรูอี้จะพูดอย่างนี้ออกมา
“หรูอี้ แกรู้ไหมว่าแกพูดอะไรออกมา!” ซ่งสวินพูดด้วยใบหน้าที่เขียวปั้ด
“ท่านปู่ หากท่านรู้ว่าภรรยาของเขาเป็นใคร ท่านจะไม่คิดเช่นนี้”
ซ่งหรูอี้นั่งลงอีกครั้งและมองไปที่ถังเฉา “เรื่องนี้ ฉันขอเป็นตัวแทนตระกูลซ่งกล่าวคำขอโทษ”
สีหน้าของถังเฉาไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด มองเธออย่างรู้ความหมาย เรื่องของตนกับหลินชิงเสว่ เธอคงรู้เรื่องแล้ว
“ซ่งหรูอี้!แกนี่มันกินเรือนขี้รดบนหลังคาจริงๆนี่เป็นสิ่งที่แกทำในฐานะหัวหน้าของตระกูลซ่งงั้นเหรอ?”
ซ่งสวินนั้นตำหนิด้วยความโกรธราวกับฟ้าฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างแรง “ชีวิตที่เหลือของเทียนซานจะได้อยู่แค่ที่เตียง แถมผู้ร้ายก็อยู่ตรงหน้าแล้ว แกยังจะไม่สนใจแล้วยังจะไปขอโทษไอ้ไร้ประโยชน์นั่นอีกเหรอ เห็นแกหน้าตาของตระกูลบ้างไหม!”
ซ่งหรูอี้รู้ว่าหากทำเช่นนี้จะทำให้คนอื่นโกรธอย่างแน่นอน แต่สีหน้าของเธอก็ยังคงสงบอยู่ “ฉันแค่คิดถึงปัญหาจากมุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อตระกูลซ่งมากที่สุด ซ่งเทียนซานเองก็เห็น แต่ยังดื้อด้านที่จะทำ ก็สมควรแล้วที่ถูกตัดเส้นลมปราณ หากเกี่ยวข้องกับตระกูลซ่ง ก็ไม่ควรที่จะปล่อยไป ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”
“เกี่ยวข้องกับตระกูลซ่ง?”
ใบหน้าของซ่งสวินนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เขากัดฟันกรอดๆ “เขามันไร้ประโยชน์ เป็นแค่ลูกเขยที่หนีจากงานแต่งไปเมื่อห้าปีก่อน มีสิทธิ์อะไรมาทำให้ตระกูลซ่งของเราต้องพินาศกัน!”
ซ่งหรูอี้ส่ายหัว ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด “ท่านปู่ ท่านดื้อเกินไปแล้วนะ ฉันอยากจะแนะนำท่านสักหนึ่งประโยค อย่าใช้สายตาคนแก่มองคน”
“คุณพ่อ”
ซ่งเต้าหลิงที่เงียบมาตลอด จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า “ซ่งหรูอี้ทำให้หัวใจของทุกคนในตระกูลซ่งแตกสลาย มันเป็นสิ่งที่หัวหน้าตระกูลไม่ควรทำ ต้องถอดหล่อนออกจากการเป็นหัวหน้าซะ”
“ยิ่งไปกว่านั้น เลือดที่ไหลเวียนในร่างกายของเธอก็ไม่ใช่สายเลือดตระกูลซ่ง แต่เป็นสัตว์ร้ายจากภายนอก! มันคงดีกว่าที่จะใช้โอกาสนี้ในการขับไล่เธอออกจากตระกูลซ่ง!”
ในไม่ช้า ซ่งหรูอี้ก็ถูกคนตราหน้า กลายเป็นศัตรูกับตระกูลซ่งทันที!