เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 165
บทที่ 165 สาวนักซิ่ง
ซุนยู่เฟิงยังคงคุกเข่าอยู่ในคฤหาสน์ จนกระทั่งรถของถังเฉาไปไกลแล้ว ถึงจะลุกขึ้นยืน กลับเข้าไปในบ้าน
ในมือของเขา ได้ถือสัญญาของบริษัทตระกูลซ่ง วินาทีนี้ เขาถึงจะได้สติกลับมา ชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถมากมายมหาศาลเพียงใด
เขารู้ดีว่า นี่ไม่ใช่ลาภที่ได้มาพร้อมความทุกข์ ทั้งหมดนี้เพราะการให้อภัยและเป็นของขวัญที่ถังเฉามอบให้
“คุณพ่อ อีกนิดเดียวฉันก็ตายแล้ว เป็นเพราะไอ้สารเลวถังเฉานั่น คุณพ่อต้องแก้แค้นให้ฉันนะ —-”
ในขณะนี้ ซุนเสว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยผ้าพันแผล กัดฟันพูด
เพี้ยะ—-
ทันทีที่พูดจบ ซุนยู่เฟิงก็ตบไปที่หน้าเธอ แววตาถึงกับมีความอาฆาตอยู่ “หุบปาก ต่อไปถ้ากล้าพูดถึงคุณถังไม่ดีอีก ก็รีบไสหัวออกไปจากตระกูลซุนซะ!”
พอคำพูดนี้ออกมา ซุนเสว่ถึงกับเบิกตาโตอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนในตระกูลซุนได้แต่มองหน้ากัน
ซุนเสว่เป็นลูกสาวที่รักที่สุดของผู้นำ กลับถูกตบหน้าเป็นเพราะเธอพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับศัตรู? !
เสียงป้าบ ซุนยู่เฟิงโยนสัญญาที่ร่วมมือกับบริษัทตระกูลซ่งลงบนโต๊ะ และมองทุกคนที่อยู่รอบๆ ด้วยสายตาที่เย็นชา “ตระกูลซุนเรา วันนี้เกือบพังพินาศแล้ว แต่โชคดีที่รอดชีวิตมาได้ ยังได้รับสัญญาร่วมมือกับบริษัทตระกูลซ่ง ทั้งหมดนี้อาศัยความเมตตาและความใจกว้างของถังเฉา!”
ทุกคนถึงกระจ่าง ซุนเสว่ยิ่งตะลึงมึนงงในตอนนั้น
“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ให้นำหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ภายใต้บริษัททั้งหมด มอบให้กับหลงเถิงกรุ๊ปของตระกูลหลิน” ซุนยู่เฟิงรู้ว่าถังเฉามาจากตระกูลหลิน จึงได้พูดอย่างนี้
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนในตระกูลซุนยิ่งตกใจเข้าไปอีก
ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ภายใต้บริษัททั้งหมด? นี่เท่ากับเป็นการมอบครึ่งหนึ่งของตระกูลซุนให้กับตระกูลหลินนะ!
ในขณะเดียวกัน ก็หมายความว่าเขาไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทอีกต่อไป
แล้วข่าวนี้ ถังเฉาก็ได้ทราบข่าวอย่างรวดเร็ว
“นี่ถือว่าเขายอมจำนนต่อผม”
ถังเฉายืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ชั้นบนสุดของอาคารกั๋วจี้และพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ครึ่งหนึ่งของหุ้นทั้งหมดของบริษัทภายใต้ตระกูลซุน ซุนยู่เฟิงก็ถือว่าทุ่มแรงกายแรงใจ” หูอี้ซานเศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองหมินจู ยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้วพูดด้วยความเคารพ
“ จากนี้ไป ก็สนับสนุนตระกูลซุนให้มากๆ”
“ครับ!”
หูอีซานเข้าใจดี เจ้านายใหญ่กำลังบ่มเพาะอำนาจของตัวเอง
กริ๊งๆๆ—-
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เมื่อถังเฉาเห็น คนที่โทรมาก็คือหลินฉ่ายเวย
ถังเฉารีบมองไปทางพวกเขาทันที หูอีซานรู้ตัว รีบออกจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว
ถังเฉาถึงจะรับโทรศัพท์
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
ในโทรศัพท์ หลินฉ่ายเวยถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ผมอยู่ที่อาการกั๋วจี้”
“รีบลงมา กลับบ้านตระกูลหลินกับฉัน”
“เกิดอะไรขึ้น?”
ถังเฉารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อก่อนเคยบอกว่าไม่ยอมให้ตัวเองเข้าตระกูลหลินไม่ใช่หรอ ทำไมตอนนี้จะพาตัวเองกลับไป?
“ ถามอะไรเยอะแยะ รีบลงมาเดี๋ยวนี้!”
พูดจบ หลินฉ่ายเวยก็วางสายไป
ถังเฉาลังเลสักพัก แต่ก็ยังเดินไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
รถเฟอร์รารี่ 488 สีแดงคันใหญ่จอดอยู่ตรงหน้าถังเฉา หลินฉ่ายเวยสวมแว่นกันแดด เหลือบมองเขา “ขึ้นรถ”
“ คุณเปลี่ยนรถแล้วหรอ?”
ถังเฉาสังเกตที่ไฟสีแดงที่มีมูลค่ามากกว่าสามหรือสี่ล้าน และถามด้วยความประหลาดใจ
หลินฉ่ายเวยเหลือบมองเขาอย่างดูถูก “คุณรู้อะไร นี่เป็นของขวัญที่คู่หมั้นซื้อให้ฉัน”
“ คู่หมั้น?”
ถังเฉานึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วว่าเป็นเหวินเหวยเฉินแห่งตระกูลเหวิน
“ไม่ต้องมองแล้ว ถึงมองยังไงคุณก็ไม่มีปัญญาซื้อซุปเปอร์คาร์แบบนี้ได้”
หลินฉ่ายเวยเตือน “อีกอย่าง เวลาขึ้นรถระวังหน่อย อย่าทำเบาะหนังแท้ของฉันเปื้อน ทำเสียแล้วคุณมีปัญญาชดใช้ไหวไหม?”
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร แล้วเข้าไปนั่ง
ทันทีที่หลินฉ่ายเวยเหยียบคันเร่ง รถสีแดงก็พุ่งตรงไปยังบ้านของเพื่อนบ้าน
ฟรึบ—-
จากนั้น เมื่อขับไปได้ครึ่งทาง ก็มีรถสีแดงไฟแลบไล่ขึ้นมาจากด้านข้าง ด้วยความเร็ว
ทำเอาหลินฉ่ายเวยตกใจหักพวงมาลัย แต่ทักษะในการขับรถของเธอไม่ดี ยางลื่นไถลและเกือบโดนสายพานสีเขียวข้างถนน
รถสีแดงฟ้าแลบก็หยุดลงข้าง ๆ ค่อยๆเปิดหน้าต่างลงมา เผยใบหน้าที่สดใสเหมือนจิ้งจอกผมหยักศกตัวใหญ่เซ็กซี่ แต่มีสายตาที่ดูถูก
“ถ้าทักษะในการขับรถไม่ดี อย่าขับรถสปอร์ตอย่างนี้”
แล้วค่อยๆชูนิ้วกลางขึ้น แล้วจากไปอย่างสง่าผ่าเผย
“ขับรถเร็วหน่อยแล้ววิเศษนักรึไง!”
หลินฉ่ายเวยเบิกตาโตแล้วตะโกนด่าว่า “ยังขับรถแบบเดียวกับฉันอีกด้วย”
ในตอนนี้ถังเฉาพูดขึ้น “อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องโกรธขนาดนั้น เขาเล่นพวกรถสปอร์ตอยู่แล้ว คุณหน่ะเทียบเขาไม่ได้อยู่แล้ว”
“ คุณรู้ได้อย่างไร?” หลินฉ่ายเวยถามอย่างสงสัย
เพียงแค่ฟังถังเฉาพูดเบาๆ “แม้ว่ารถของเธอจะเป็นรุ่นเดียวกับคุณ แต่ก็มีโครงร่างที่ดีกว่าคุณมาก แค่เริ่มสตาร์ทก็เร็วกว่าคุณแล้ว คุณจะเอาอะไรไปเทีบยกับเขา?”
หลินฉ่ายเวย มองไปที่ถังเฉาอย่างประหลาดใจ แต่เธอคิดไม่ถึงว่าไอ้ขยะนี่ยังรู้เรื่องพวกนี้ด้วย
แต่คำพูดนี้คำเอาหลินฉ่ายเวยถึงขั้นโกรธจัด
กว่าจะได้รถสปอร์ตคันนี้ แน่นอนหลินฉ่ายเวยจะต้องภาคภูมิใจมาก คำพูดแค่ประโยคเดียวของถังเฉา เหมือนกับเทน้ำเย็นลงบนตัวเธอ
“คุณรู้อะไร เก่งแต่ปาก!” หลินฉ่ายเวยพูดด้วยความโกรธ
ถังเฉาไม่ได้โต้แย้ง เพียงแค่เหลือบมองเธอ “ลงรถ”
หลินฉ่ายเวยชะงัก ยิ่งโมโหเข้าไปอีก “นี่คือรถของฉันนะ!”
“ผมหมายถึงว่าคุณบอกว่าอยากกู้หน้าคืนไม่ใช่หรอ ผมจะช่วยคุณแซงเธอ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สายตาของหลินฉ่ายเวยก็เริ่มแปลกๆ “คุณขับเป็นหรอ?”
“เป็นนิดหน่อย”
ดังนั้น สายตาของหลินฉ่ายเวยก็กลับมาดูถูกเช่นเดิม “ระดับสองระดับสามของฉันขนาดคะแนนเต็ม ยังแซงเขาไม่ได้ สำหรับคุณยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
“ลองดู”
เมื่อเห็นว่าถังเฉายืนกรานขนาดนี้ หลินฉ่ายเวยลังเลเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนที่นั่งกับถังเฉา
หลินฉ่ายเวยยังคงพูดอย่างไม่ไว้ใจ “คุณระวังหน่อย นี่เป็นรถใหม่ของฉัน คู่หมั้นของฉันให้ฉัน ถ้าชนแล้วคุณจะเอาอะไรชดใช้?”
“คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย”
ถังเฉาตัดบทเธอ จ้องมองไปที่ด้านหน้าด้วยดวงตาที่เฉียบแหลม
“คาดเข็มขัดนิรภัยทำไม —- กรี้ด!”
หลินฉ่ายเวยยังไม่ทันจะพูดจบ ไฟแดงก็เปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว ถังเฉาเหยียบคันเร่ง รวดเร็วจนไฟสีแดงเป็นเส้นเหมือนสายฟ้าแลบ แล้วพุ่งไปข้างหน้า
หลินฉ่ายเวยกรีดร้อง ร่างกายของเธอเกาะติดกับเบาะอย่างแน่น ตามสัญชาตญาณ ทันใดนั้นตกใจจนขวัญหายดีฝ่อ
สตาร์ทเริ่มที่ความเร็วร้อยห้าสิบ!
ถนนที่แออัด มีเพียงสายฟ้าสีแดงที่เบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาแซงผ่านไปทีละคัน ทำให้รถทั้งสองฝั่งต่างก็ต้องหลีกให้
“จะชนถูกแล้ว —- จะชนถูกแล้ว —-”
“กรี้ด—-”
หลินฉ่ายเวยนั่งอยู่ที่เบาะข้างๆคนขับ กรีดร้องไม่หยุด หลายครั้งทำให้รู้สึกได้ถึงอะไรคือ ‘เร็วกว่านรก ’ ถังเฉาใบหน้ากลับนิ่งสงบ
ใช้เวลาไม่นาน ก็เห็นรถเฟอร์รารีคันนั้น และแซงหน้าไปได้
ในขณะที่แซง ถังเฉาค่อยๆเหลือบมอง มองด้วยแววตาที่นิ่งเฉย
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ในขณะนี้ผู้หญิงผมลอนที่อยู่ในรถก็มองไปที่ถังเฉาด้วยความตกใจ
เพราะตกใจเกินเหตุ เธอแทบจะไม่ทันสังเกตไฟแดงที่อยู่ข้างหน้า เกือบจะฝ่าไฟแดง
มองถังเฉาที่ขับไปไกลแล้วอย่างเลื่อนลอย ทันใดนั้นผู้หญิงผมลอนก็หัวเราะขึ้นมา
“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ … คนที่สามารถแซงฉันได้ หาได้ยาก พวกเราได้เจอกันอีกแน่”
…
ความเร็วของรถค่อยๆลดลง แล้วขับรถมุ่งหน้าไปบ้านตระกูลหลิน
หลินฉ่ายเวยนั่งอยู่ที่ข้างๆคนขับ ผมกระเซอะกระเซิง สีหน้าซีดเซียว หลายครั้งที่คลื่นไส้จนอยากจะอาเจียนออกมา
“ให้”
ถังเฉายื่นขวดน้ำให้เธอ
เมื่อเห็นความหวังดีของถังเฉา หลินฉ่ายเวยรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว แต่ก็อืมอย่างเย็นชา ยื่นมือรับมา ดื่มเข้าไปทันที
หลังจากดื่มน้ำแร่หมดขวด หลินฉ่ายเวยรู้สึกสบายตัวขึ้นเล็กน้อย จ้องมองถังเฉาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ฝีมือการขับรถของคุณทำไมดีขนาดนี้?”
ทักษะในการขับรถเมื่อกี้ ก็สามารถไปร่วมงานได้ สบายมาก
“ มันเป็นแค่ความบังเอิญ”
ถังเฉายิ้มและพูดว่า “รถสปอร์ตอย่างเฟอร์รารีไม่เหมาะกับการขับขี่บนถนนที่แออัด มีแค่ถนนที่กว้างๆเท่านั้น ถึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับมัน ผมสามารถแซงเธอได้ เพราะเธอถูกไฟแดงหยุดไว้”
หลินฉ่ายเวยไม่ได้พูด ได้แต่ใช้สายตาแปลกๆสังเกตุมองไปทางถังเฉา ราวกับรู้จักเขาครั้งแรก
ตลอดเวลา เธอรู้สึกว่าถังเฉาเป็นแค่ไอ้ขยะ แม้กระทั่งก่อนที่เธอจะออกจากอาคารกั๋วจี้ เธอก็ยังคิดเช่นนั้น แต่เหตุการณ์การแข่งรถเมื่อสักครู่ ทำให้มุมมองที่เธอมองเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ความคิดมากมายแวบเข้ามาในสมองของเธอ เธอประหลาดใจที่พบว่า เรื่องต่างๆที่ผ่านมา มีแต่เงาของถังเฉา
บังเอิญหรอ?
หรือว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สังเกต เรื่องที่ถังเฉาเป็นไอ้ขยะ ถูกตั้งเป็นฉายาไปแล้ว
“เห้ย”
ทันใดนั้นก็เปล่งเสียง มองไปที่ถังเฉา “ก่อนเข้าตระกูลหลิน ทางที่ดีคุณควรเตรียมใจไว้หน่อย”
เมื่อถังเฉาได้ยินคำพูดนั้นเขาก็ชะงักทันที “ทำไมต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจ?”
“ พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของนายท่านเจิ้ง หลานชายแท้ๆของเขา เจิ้งฮ่าว เสียชีวิตด้วยน้ำมือของคุณ”
สีหน้าหลินฉ่ายเวยจริงจังมากแล้วพูดว่า “ครั้งนี้เรียกคุณไปตระกูลหลิน ก็เพราะจะปรึกษาว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง”