เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 196
ถังเฉาลนลานขึ้นมาทันที เจียงไป๋เสว่บาดเจ็บหนักขนาดนี้ เขาคิดว่าทำแผลเสร็จแล้วจะไปบอกเรื่องนี้กับหลินชิงเสว่
แต่ยังไม่ทันบอกหลินชิงเสว่ หลินชิงเสว่ได้ลงมาแล้ว
ทั้งสองคนมองหน้ากัน ใบหน้าที่นิ่งเฉยของหลินชิงเสว่แฝงไปด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
ดึกขนาดนี้แล้ว ยังมีผู้หญิงที่สวยเข้ามาที่บ้าน
หลินชิงเสว่ปรากฏแววตาที่แหลมคม คนสวยที่หลินชิงเสว่ยอมรับมีไม่มาก เจียงไป๋เสว่ก็คือหนึ่งในนั้น
แต่ไม่นาน สายตาของเธอก็มองไปที่เลือดที่อยู่หน้าประตู แววตาเธอค่อยๆมืดมนและรีบลงบันไดมา: “คนนี้คือ?”
ถังเฉารีบแนะนำไปว่า: “คนนี้คือพี่สะใภ้ของฉัน”
“พี่สะใภ้?”
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้ว และมองถังเฉาด้วยแววตาที่แปลกใจ และยิ้มออกมา: “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นภรรยาของถังเฉา หลินชิงเสว่”
“เจียงไป๋เสว่”
เจียงไป๋เสว่พูดสั้นๆแต่ได้ใจความ และพูดชื่อตัวเองออกมาอย่างชัดเจน
เห็นอีกฝ่ายที่ไม่มีอารมณ์ที่จะคุย หลินชิงเสว่ก็เลยไม่เกรงใจ และถามไปเบาๆ ว่า: “เธอบาดเจ็บหรือ?”
“บาดแผลเล็กน้อย ไม่เป็นไรหรอก”
เจียงไป๋เสว่พูดออกมาด้วยเสียงเบื่อหน่าย และลุกขึ้นจากโซฟา: “ฉันสร้างความลำบากให้พวกคุณ เดียวฉันจะไปแล้ว” พูดจบเธอได้ทนความเจ็บปวดที่รุนแรง และยืนขึ้นมา เดินไปทางประตู
ถังเฉาอดใจไม่อยู่ กำลังที่จะเอ่ยปาก ตอนนี้แววตาของหลินชิงเสว่กลายเป็นแววตาที่เฉยชา: “เดียวก่อน”
เจียงไป๋เสว่หันกลับมา มองหลินชิงเสว่ด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
เห็นสีหน้าที่โกรธนิดหน่อยของหลินชิงเสว่ สั่งสอนเธอเบาๆว่า: “เธอบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ยังจะเดินไหวหรือ?”
“ทำไมจะไม่ไหวละ?”
เจียงไป๋เสว่ขมวดคิ้ว และถามกลับไป
“ตามฉันมา”
หลินชิงเสว่มองไปทางเธอ และหันหลังเดินไปทางห้องนอนรับแขก
แต่ เจียงไป๋เสว่ก็ไม่ได้เดินตามไป และยืนอยู่ที่เดิม: “ไม่เป็นไร ฉันมาที่นี้ก็เพราะมีข่าวจะมาบอกถังเฉา และฉันได้บอกข่าวถังเฉาไปแล้ว ฉันควรต้องไปแล้ว”
แววตาของหลินชิงเสว่ปรากฏความเย็นชาและพูดอย่างเฉยชาว่า: “ฉันคิดว่าเธอคงเข้าใจอะไรผิดนะ ฉันไม่ได้คิดอะไร ฉันทำไปเพราะความหวังดีเฉยๆ”
น้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก แฝงไปด้วยคำสั่ง สีหน้าของเจียงไป๋เสว่เปลี่ยนไปนิดหน่อยและเงียบไป
ตอนนี้ถังเฉาก็ได้พูดว่า: “เธอพักที่นี่ก่อน ถึงชิงเสว่จะไม่พูด ฉันก็จะให้เธอพักที่นี่อยู่ดี
เจียงไป๋เสว่กัดริมฝีปาก และตกลง: “งั้นก็ได้ ขอบคุณนะ”
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไรต่อ และพาเจียงไป๋เสว่ไปที่ห้องนอน
ตอนนี้เป็นเวลาดึกมากแล้ว หลินชิงเสว่และถังเฉากลับไปที่ห้อง
“ชิงเสว่ ฉัน……”
ถังเฉารู้สึกไม่สบายใจ เขาอยากที่จะอธิบายกับหลินชิงเสว่
หลินชิงเสว่มองไปที่ถังเฉา และถามด้วยน้ำเสียงที่จืดชืดว่า: “เธอเป็นพี่สะใภ้ของนายไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ครับ”
ถังเฉามองหลินชิงเสว่ด้วยความงง ว่าทำไมเธอถึงถามคำถามแบบนี้
หลินชิงเสว่ยิ้มออกมา: “พี่สะใภ้ของนายสวยดีนะ”
พูดจบ เธอก็หันไปกอดถังเสี่ยวลี้และนอนหลับไป
ถังเฉาเหมือนเผชิญกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ในของเขารู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่สบายใจเลยถังเฉาค่อยๆ ลงจากเตียงไป และนอนหลับอยู่ที่พื้นไป
เขารู้ว่า หลินชิงเสว่ต้องสังเกตเห็นอะไรบางอย่างแล้ว
หลังจากที่ออกจากหมิงจูด้วยความกระเซอะกระเซิง ต่งอี้สิงก็ยังไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปกินเหล้าที่บาร์เหล้าที่ตัวเองเปิด และกินเหล้าจนดึกดื่น
เมื่อกินเหล้าแล้ว ต่งอี้สิงรู้สึกมึนหัวตาลาย ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หน้าของเขาบิดเบี้ยวไปหมด
เขาโตจนอายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยมีคนคุกคามเขาแบบนี้เลย โดยเฉพาะเอาเขาไปทิ้งลงมาจากเจดีย์หมิงจู เมื่อคิดดูแล้ว ยังรู้สึกกลัวอยู่เลย
ปั้ง
เมื่อดื่มเหล้าแก้วนี้เข้าไป เขาทุบโต๊ะอย่างแรง กระจกแตกละเอียดหมด
“ถังเฉา หลินชิงเสว่ ฉันจะทำให้พวกเธอไม่มีวันตายดี!”
ต่งอี้สิงมีสีหน้าที่โกรธจนหน้าเขียว แววตาที่ลี้ลับ ในบาร์ที่ไม่มีคนเต็มไปด้วยเสียงการสาปแช่งของเขา สีหน้าดูน่าน่ากลัวและอุบาทว์
เมื่อดูเวลาตอนนี้ ถึงรู้ว่าดึกมากแล้ว เขาลุกขึ้นเตรียมที่จะกลับตระกูลต่ง
ฉึกฉัก
รถแลนด์โรเวอร์เรนจ์ โรเวอร์คันใหญ่คันหนึ่งและมาจอดอยู่หน้าบาร์
เสิ่งชิงหยุนรีบลงจากรถ และมาอยู่ตรงหน้าของต่งอี้สิง: “อี้สิง เกิดเรื่องแล้ว”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว?” ต่งอี้สิงพูดด้วยสีหน้าที่เฉยชา
วันนี้เป็นวันที่ร้ายสำหรับเขา ตอนแรกที่มีชัยชนะในโครงการของสำนักงานการก่อสร้างสุดท้ายก็ไม่ได้มาก็ช่างมัน แต่เกือบที่จะถูกถังเฉาโยงลงจากเจดีย์หมิงจู
เห็นเพียงว่าเสิ่งชิงหยุนพูดด้วยสีหน้าที่มืดมน: “รถของหลินชิงเสว่และถังเฉาถูกพบอยู่ที่ชานเมือง รถถูกชนจนดูไม่ออกว่าเป็นรถแล้ว ตอนนี้รถครั้งนั้นกลายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว”
“อะไรนะ? พวกเขาประสบอุบัติเหตุหรือ?”
คำพูดของเสิ่นชิงหยุนเหมือนฟ้าทำให้ต่งอี้สิงสร่างเมาได้เลยทีเดียว และเขาทำตาถลน
“ใช่แล้วครับ” เสิ่นชิงหยุนพยักหน้าด้วยสีหน้าที่มืดมน
“ฮ่าๆๆ ชั่งน่าดีใจจริงๆ!”
ต่งอี้สิงหัวเราะออกมาอย่างสะใจ: “พวกเขาไม่ยอมให้โครงการสำนักงานก่อสร้างกับฉัน และยังกล้าที่จะโยนฉันลงมาจากเจดีย์หมิงจู”
แต่เสิ่นชิงหยุนไม่ได้หัวเราะ และพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก: “ทางตำรวจจะรับทำคดีนี้ ตำรวจได้ตัดประเด็นอุบัติเหตุออกไปแล้ว และพุ่งประเด็นไปที่การฆาตกรรม”
“แล้วอย่างไงต่อ?”
ต่งอี้สิงยังดื่มด่ำอยู่กับความดีใจที่ถังเฉากับหลินชิงกสว่ประสบอุบัติเหตุ และยังหัวเราะไม่หยุด
แต่ระหว่างที่หัวเราะ เขาก็หัวเราะไม่ออกทันที และเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เกรงกลัว: “พวกนายสงสัยว่าฉันเป็นผู้ก่อเหตุหรือ?”
“ไม่ใช่พวกเรา แต่คนธรรมดาทั่วไป ต้องสงสัยนายทุกคน”
เสิ่นชิงหยุนพูดอย่างจริงจังว่า: “นายกับถังเฉาและหลินชิงเสว่มีความแค้นที่ไม่สามารถยอมความกันได้ นายไม่เพียงแค่ใช้คลิปเมื่อห้าปีก่อนบังคับให้เธอคุกเข่าลง ยังจะแย่งชิงโครงการสำนักงานก่อสร้างของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปด้วยกำลังอีกด้วย ระหว่างทางที่กลับพวกเขาเกิดอุบัติเหตุ นายว่าเรื่องนี้มันบัญเอิญเกินไปหรือเปล่า?”
สักพัก เสิ่นชิงหยุนพูดต่อว่า: “ที่สำคัญ ฉันให้คนไปสืบและได้ข่าวมาว่า พวกเขาจ้างคนขับรถแทน และคนขับรถแทนนั้นขับรถเกิดความเร็ว สุดท้ายก็ถูกรถสิบล้อที่ย้อนศรมานั้นชนเข้าไปหลายครั้ง
“แต่นี้ก็ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าฉันเป็นคนทำ”
ใบหน้าของต่งอี้สิงตอนนี้เหงื่อไหลออกมาจนสามารถรีดน้ำออกจากหน้าได้แล้ว เขากลับกลายเป็นแพะรับบาปให้คนอื่น
“ไม่เพียงแค่นายคนเดียว ฉันยังถูกมองว่าเป็นผู้ต้องหาด้วย”
เสิ่นชิงหยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่มืดมน: “ครั้งนี้ เราถูกคนหลอกใช้แล้ว”
“นายคิดว่าใครเป็นคนทำ?”
ต่งอี้สิงปรากฏสีหน้าที่เย็นชา และถามออกมากะทันหัน
เสิ่นชิงหยุนถอนหายใจเบาๆ : “วงการในหมิงจูจะบอกว่าใหญ่ ก็ไม่ใหญ่ จะเล็กก็ไม่เล็กหาไปหามา ก็มีเพียงแค่พวกเราไม่กี่คน วันนี้สี่ตระกูลคนรวยของหมิงจู มาร่วมงานทุกตระกูลไม่ใช่หรือ?”
สีหน้าของต่งอี้สิงกลายเป็นมืดมน และพูดชื่อหนึ่งออกมา: “เหยียนเสี้ยงหม่าแห่งตระกูลเหยียน?!”
“ยังมีอีกคน”
เสิ่นชิงหยุน: “ซ่งอี้หรูแห่งตระกูลซ่ง”
ขณะเดียวกัน อาคารตระกูลซ่ง
ซ่งอี้หรูจ้องมองชายที่หล่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธออย่างไม่ละสายตา ชายที่หล่อก็ได้หรี่ตาจ้องมองซ่งอี้หรูเหมือนกัน
ปืนเป็นสิบกระบอกกำลังจ่อไปที่หัวของซ่งอี้หรูและซ่งหมินเวย
ซ่งหมินเวยกลัวจนขาสั่น ถ้าไม่มีพี่สาวสนับสนุน เขาคงสลบไปนานแล้ว
ซ่งอี้หรูสีหน้าเย็นชา มองไปที่ชายหล่อที่อยู่ตรงหน้าและถามด้วยเสียงที่เฉยชาว่า: “หลินโป๋หลาย นายหมายความว่าอะไร?”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอะไร ก็แค่จะมาตักเตือนเธอ”
แววตาของหลินโป๋หลายส่องประกายความลี้ลับออกมา: “ฉันแค่อยากให้เธอมาจัดการน้องสาวของฉัน แต่ไม่ได้ให้เธอไปคุกคามชีวิตของเธอ