เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 207
ในอีกด้านหนึ่ง ถังเฉาก็ได้รับข่าวว่าหลินฉ่ายเวยหนีออกจากบ้าน
“เฟิ่งหวง เดี๋ยวสักพักคุณไปคราวน์บาร์หน่อย อย่าให้หลินฉ่ายเวยเกิดเรื่อง” เขาพูดด้วยเสียงนิ่ง
“ค่ะ”
เฟิ่งหวงตอบรับ หลังจากคลุกคลีมาสองครั้ง เธอก็รู้ได้ว่าหลินฉ่ายเวยเปลี่ยนไปมากจริงๆ
คราวน์บาร์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างห่างไกลจากเมืองหมิงจู เพราะว่าสถานที่ตั้งห่างไกล เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครมาควบคุม แห่ง ดังนั้นจึงเป็นสถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย หลินฉ่ายเวยไปคนเดียว กลัวว่าจะตกอยู่ในอันตราย
หลังจากส่งถังเฉาไปที่คฤหาสน์จื่อหยวน เฟิ่งหวงก็รีบไปที่คราวน์บาร์
“ผมกลับมาแล้ว”
ถังเฉาผลักประตูเข้าไป แต่ต้องประหลาดใจ เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของหลินชิงเสว่ มีเพียงหลินจ้าวหยูนที่เล่นเป็นเพื่อนถังเสี่ยวลี้
“คุณพ่อ!”
เมื่อเห็นถังเฉากลับมาแล้ว ถังเสี่ยวลี้รีบ “สลัด” หลินจ้าวหยูนทันที วิ่งเข้าหาอ้อมกอดของถังเฉา
ถังเฉายื่นมืออุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมา บีบใบหน้าอวบๆเล็กๆของถังเสี่ยวลี้ ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณแม่หล่ะ?”
ถังเสี่ยวลี้พูดเสียงเล็กๆ “ดูท่าทางแม่อารมณ์ไม่ดีเลย ไม่ยอมเล่นเป็นเพื่อนกับเสี่ยวลี้”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังเสี่ยวลี้ ถังเฉาตกตะลึงทันทีแล้วหันไปมองหลินจ้าวหยูน
หลินจ้าวหยูนกลอกตาทันที “พี่เขย คุณทำให้พี่สาวของฉันโกรธอีกแล้วเหรอ?”
“เปล่านะ”
ถังเฉารีบส่ายศีรษะ ขยี้ศีรษะอย่างมึนงง
“ แล้วทำไมพี่สาวของฉัน พอเข้ามาก็ขึ้นไปข้างบนและขังตัวเองอยู่ในห้อง แม้แต่มื้อเย็นก็ไม่ลงมากิน”
“ ไม่ได้กินข้าวเย็น?”
เมื่อถังเฉาได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาก็เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว
หลินจ้าวหยูนขยิบตาให้เขา “ไม่ต้องสนใจว่าใครถูกใครผิด รีบไปขอโทษพี่สาวฉันซะ!”
ถังเฉาลูบที่จมูก ท่าทางรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอคงไม่ได้คิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันว่าเป็นใครมั้ง?
เขาลงครัวด้วยตัวเอง ทำราเม็งชามหนึ่งยกขึ้นไปชั้นบนแล้วเคาะประตูเบาๆ
ไม่มีใครตอบรับ
เคาะประตูอีกครั้ง
ก็ยังคงไม่มีใครตอบรับ
ถังเฉาจึงผลักประตูเข้าไป เห็นแค่หลินชิงเสว่กำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยใช้นิ้วมือเคาะแป้นพิมพ์
“ดึกมากแล้วยังทำงานอยู่เหรอ?” ถังเฉาวางราเม็งไว้ข้างๆและพูดด้วยรอยยิ้ม
แต่ว่า ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากหลินชิงเสว่
เธอค่อยๆหันหน้ามาเล็กน้อยและมองถังเฉาด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก แม้แต่อารมณ์ที่จะตอบก็ไม่มี แล้วหันกลับไปทำงานต่อ
ทันใดนั้นดวงตาของถังเฉาก็กระตุกอย่างแรง จากสายตาที่หลินชิงเสว่มองเขาเมื่อครู่ เขารู้สึกได้ถึงเหมือนเธอกำลังมองแมลงสาบตัวหนึ่ง หนูตัวหนึ่ง และแมลงตัวเหม็น —-
ถังเฉารู้ว่า หลินชิงเสว่100%ยังคงคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวันอยู่ หลังจากกลับบ้านเธอคิดฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว เดาไปเดามา ในใจก็ยิ่งคิดยิ่งโกรธยิ่งโมโหหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ
โดนปฏิเสธแล้วทำตัวไม่ถูก ถังเฉาจึงบากหน้าพูดว่า “ผมไปซักเสื้อผ้า”
ยังคงไม่ตอบสนอง สายตาของหลินชิงเสว่จดจ่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ ราวกับว่าถังเฉาไม่มีตัวตน
ถังเฉาได้แต่เดินออกไปใหม่ และชนกับหลินจ้าวหยูนและถังเสี่ยวลี้ที่แอบฟังอยู่บนบันได
“พวกเธอทำอะไรที่นี่?”
ถังเฉามองไปที่ทั้งคนโตและคนเล็กด้วยความประหลาดใจ ถาม
หลินจ้าวหยูนรีบอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้น หัวเราะยิ้มเย้าะ “นี่ก็เป็นเพราะว่าเป็นห่วงชีวิตการแต่งงานของพี่กับพี่สาวฉันนะ —-”
“อย่าเหมารวม!”
ถังเฉาหน้าบึ้งและตะโกน
หลินจ้าวหยูนก็แลบลิ้นที่น่ารักๆออกมา อุ้มถังเสี่ยวลี้ แล้วไปเล่นต่อ
ถังเฉาเดินเข้าไปในห้องน้ำโยนเสื้อผ้าของเขาลงในเครื่องซักผ้า แล้วนั่งบนฝาชักโครกเพื่อสูบบุหรี่
เขาไม่ติดบุหรี่ เมื่อเจอเรื่องยากๆเขาถึงจะสูบ
ทำยังไงถึงจะทำให้หลินชิงเสว่หายโกรธ นี่คือปัญหา
คิดไปคิดมา ได้แต่พูดความจริงv]h;
ถังเฉาถอนหายใจ เดินขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะคุยกับหลินชิงเสว่ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ดังนั้น วินาทีที่เปิดประตู หลินชิงเสว่ยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และเคาะแป้นพิมพ์อย่างจริงจัง กระทั่งท่าทางการนั่งของเธอก็ยังไม่เปลี่ยนไป นับประสาอะไรกับชามราเม็งที่เย็นลงแล้ว
ทันใดนั้น ใบหน้าของถังเฉาก็แข็งกระด้างอย่างมาก และเขารู้สึกถึงความรุนแรงที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทตอบโต้
เขากลับมาถึงบ้านเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว ในช่วงเวลานี้หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไรกับเขาสักคำ
นี่เป็นครั้งแรก!
ทันใดนั้นถังเฉาก็ตื่นตระหนกทันทีและพูดกับหลินชิงเสว่ “สี่ทุ่มได้เวลาพักผ่อนแล้ว”
“คุณแม่ฉันง่วงแล้ว”
ถังเสี่ยวลี้ยังขยี้ตาละห้อยของเขาและพูดเบา ๆ
หลินชิงเสว่ปิดสมุดบันทึกของเธอและอุ้มถังเสี่ยวลี้เข้าไปในผ้าห่ม เธอยังคงเพิกเฉยต่อถังเฉาและหลับไปโดยหันหลังให้เขา
ถังเฉาฝืนยิ้ม ได้แต่นอนลงบนเตียง
จู่ๆถังเฉาก็พบปัญหาอย่างหนึ่ง ผู้หญิงอย่างหลินชิงเสว่ ปกติไม่ค่อยโกรธ แต่ว่าเมื่อไหร่ที่โกรธขึ้นมา ก็ไม่ใช่ว่าแค่โอ๋หน่อยก็หาย
เมื่อเวลาผ่านไปทุกๆวินาที ถังเสี่ยวลี้นอนหลับไปแล้ว ถังเฉาพึ่งหลับตาลง จู่เขาก็ได้ยินเสียงข้างหู “คุณจะไม่อธิบายอะไรเลยหรือ?”
ถังเฉาลืมตาขึ้น เห็นแค่หลิงเสว่เดิมทีที่หันหลังให้เขา หันกลับมาและมองเขาอย่างจริงจัง
ในความมืดดวงตาของเธอสดใสมาก
ทันใดนั้นถังเฉาไม่รู้จะเปิดปาดพูดยังไง
“เธอเป็นใคร?” หลินชิงเสว่ถามอย่างกระตือรือร้น
แม้ว่าน้ำเสียงจะเรียบเฉย แต่ก็ดูเหมือนแสร้งทำเป็นไม่สนใจ
ถังเฉาจ้องมองเธอเป็นเวลานาน และก็ไม่ได้ตอบ เขาถามด้วยความปิติยินดี “ชิงเสว่ คุณกำลังหึงหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินชิงเสว่ก็อับอายกลายเป็นโทสะ “ใครหึง? ไร้สาระ รีบบอกฉันมา!”
ถังเฉาหัวเราะจนหุบปากไม่ลง แต่ว่าหลินชิงเสว่กลับไม่ไหวแล้ว พอคิดถึงผู้หญิงคนอื่นที่เข้ามาในการแสดง ในใจของเธอก็อัดอั้นตันใจ ไม่สามารถระบายออกมาได้
ตอนแรกเธอทนได้ แต่ค่อยๆกลายเป็นทนไม่ไหว ทั้งสมองคิดแต่เรื่องนี้
นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกมาก เป็นแนวคิดอย่างหนึ่งที่ไม่อยากยอมแพ้ให้กับผู้หญิงคนอื่น ทำไมถึงกลายเป็นหึง?
ถึงแม้จะมีบ้าง แต่ว่าคนที่รักหน้าอย่างหลินชิงเสว่จะไม่ยอมเสียหน้าและยอมรับเรื่องแบบนี้เด็ดขาด
อืม ไม่ได้
“คุณจะบอกหรือไม่บอก?” หลินชิงเสว่ถามอย่างเย็นชา เริ่มจะรำคาญเล็กน้อย
“ผมกลัวว่าบอกไปแล้วคุณจะโกรธ”
“ฉันไม่โกรธ”
“ผมไม่เชื่อ”
“… ”
หลินชิงเสว่มองไปที่ดวงตาของถังเฉายิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้น ชายคนนี้ ปกติก็มักจะทำสิ่งต่างๆอย่างรวดเร็วและเฉียบขาดทำไมพอถึงเรื่องแบบนี้กลับอ้ำๆอึ้งๆ
บังเอิญ เป็นจุดที่ถังเฉาให้ความสำคัญ เพียงแต่เธอรู้สึกไม่ได้
“ไม่พูดก็ไม่ต้องคุย!”
หลินชิงเสว่พลิกตัวและหันหลังกลับไป
ถังเฉาถอนหายใจ “ผมพูด แต่ห้ามโกรธ และห้ามหย่ากับผม”
“ฉันเข้าใจ คุณพูดเถอะ”
ก่อนที่ถังเฉาจะพูดจบ หลินชิงเสว่ก็ขัดจังหวะเขา
ด้วยความเชื่อมั่นของหลินชิงเสว่ ถังเฉาจึงพูดด้วยความอึดอัดว่า “คือเจียงไป๋เสว่”
หลินชิงเสว่เกือบจะผิดคำพูดรีบระงับความโกรธของเธอไว้ “เธอไม่ใช่พี่สะใภ้ของคุณหรอ?”
“ตอนหลังถึงจะเป็นพี่สะใภ้ของผม ก่อนหน้านี้เป็นรักแรกของผม”
“… ”
เพราะกลัวว่าหลินชิงเสว่จะโกรธถังเฉาก็รีบอธิบายว่า “คุณอย่าเข้าใจผิด ผมกับเขาขาวสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งกว่ากระดาษสีขาวจริงๆ เธอและพี่ชายคนโตในกองทัพของผมป็นคู่รักกัน แต่พี่ชายคนโตหายตัวไปเมื่อสามปีที่แล้ว… ”
ทุกครั้งที่กล่าวถึงเรื่องนี้เสียงของถังเฉาจะต่ำลง
ดวงตาของหลินชิงเสว่ก็ประหลาดใจเช่นกัน ดูเหมือนว่า ตัวเธออยากจะเอาชนะเกินไป เข้าใจผิดแล้ว
“ เธอเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายของผมมาตลอด และทักษะทางการแพทย์ของผมก็ได้รับการสอนจากเธอ ในคืนที่เธอรู้เรื่องการหายตัวไปของพี่ชายเธอร้องไห้เป็นเวลาสามวันสามคืนและในที่สุดก็ร้องไห้จนเป็นลมไป”
“ผมไม่เชื่อว่าพี่ชายคนโตของผมจะเสียชีวิตแบบนี้ เธอติดตามเหตุการณ์นี้มาตลอด เธออิจฉาคุณมาตลอด”
“อิจฉาฉัน?”
สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย และเธอถามว่า “เธออิจฉาฉันอะไร?”
“อิจฉาคุณที่เป็นเจ้าสาว แต่เธอเป็นแม่ม่าย” ถังเฉาเศร้า
คำพูดเหล่านี้ทำให้ หลินชิงเสว่ตกอยู่ในความเงียบ ในขณะนี้ ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่า สิ่งที่ถังเฉากำลังแบกไว้คืออะไร ไม่เพียง แต่ความแค้นของตระกูล ยังมีความแค้นของบ้านเมือง
หลังจากเงียบไปนาน ทันใดนั้นเธอก็หันไปด้านข้างและมองไปที่ถังเสี่ยวลี้ที่หลับใหล ฉากในอดีตปรากฏขึ้นในใจของเธอดวงตาของเธอก็ซับซ้อนและพูดว่า “ถ้าฉันไม่ได้ตั้งครรภ์และไม่ได้ให้กำเนิดเสี่ยวลี้ เราจะเดินมาถึงวันนี้ไหม?”
“แน่นอน!”
คาดไม่ถึง ถังเฉาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะพูดออกมาได้รวดร็วอย่างนี้
หลินชิงเสว่มองไปที่ถังเฉาด้วยสายตาที่ประทับใจ ประหลาดใจ และซาบซึ้ง
เห็นสีหน้าของถังเฉาพูดอย่างหนักแน่น “คุณช่วยผมไว้ ถึงกลับไม่ห่วงว่าตัวเองจะบาดเจ็บ ไม่สามารถชดใช้ได้หมด ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเสี่ยวลี้ ชาตินี้ผมก็จะแต่งกับคุณคนเดียว”
น้ำตาหยดออกมาจากนัยต์ตาของหลินชิงเสว่ เธอไม่ได้หันหลังกลับเพียงแค่ยิ้มและพูดว่า “นอนเถอะ”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างมีความสุข และเมื่อหลินชิงเสว่หลับไป เขาก็หลับตาลง
ในตอนนี้ โทรศัพท์มือถือของเขาสั่นเล็กน้อย เฟิ่งหวงโทรมา
“ มีอะไรเหรอ?” ถังเฉาถามด้วยเสียงเข้ม หลังจากรับโทรศัพท์
“หลินฉ่ายเวย อาจจะเป็นอันตราย”