เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 216
เมื่อประโยคที่มีความหนาวเหน็บอย่างรุนแรงนี้จบลง อุณหภูมิในห้องประชุมได้ลดลงอย่างกะทันหัน
ไม่รู้ว่าตอนไหนที่รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย แล้วแทนที่ด้วยเจตนาฆ่าที่กระชากวิญญาณของผู้คนได้
ใจคนช่างต่ำช้า ถึงแม้จะเห็นอยู่ชัดๆว่าข่าวการใส่ร้ายป้ายสีหลินชิงเสว่นี้เป็นผลงานชิ้นเอกของตระกูลต่ง แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งพวกผีร้ายนี้ไม่ให้มาเหยียบย่ำซ้ำเติมหรือฉกฉวยเอาผลประโยชน์ได้
ในตอนที่ลี่จิงงดงาม เถ้าแก่บริษัทเหล่านี้ต่างเอาอกเอาใจหลินชิงเสว่ ตอนนี้ลี่จิงเกิดเรื่องต่างพาต่อต้านอำนาจ พวกเขาแทงดาบออกมาเป็นอย่างแรก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาพูดคุยอย่างเหิมเกริมกับหลินชิงเสว่ เพราะมองว่าเป็นโสเภณีราคาถูก แค่คิดก็รู้แล้วว่าถังเฉาจะเดือดดาลมากแค่ไหน
เพราะเหตุนี้ เขาจึงไม่เหลือความเมตตา หน้าทั้งหน้าของเถ้าแก่คนนั้นแนบชิดกับโต๊ะประชุม ฟันหน้าสองซี่กระแทกกับมุมโต๊ะจนหัก เลือดสดๆไหลรินแล้วเป็นลมอยู่ตรงนั้น
ถังเฉาในเวลานี้ มีท่าทางทรงพลังทำให้เถ้าแก่ทุกคนพากันตกใจกลัว
แต่ในไม่ช้า คำพูดของถังเฉาได้ทำให้สติพวกเขากลับมา ต่างตกตะลึงแล้วชี้ไปที่หลินชิงเสว่พร้อมกับถามว่า : “แกพูดว่าอะไรนะ? เธอเป็นเมียของแกงั้นเหรอ?”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างไร้ความรู้สึก กรพูดจาอย่างกำเริบเสิบสานกับหลินชิงเสว่ต่อหน้าเขา เป็นพฤติกรรมรนหาที่ตายโดยสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับหัวเราะเสียงดังราวกับได้ฟังเรื่องตลกยังไงยังงั้น : “ถ้าหากว่าเธอเป็นเมียของแกจริงๆ ถ้าอย่างนั้นฉันขอแนะนำให้แกทิ้งเธอให้เร็วที่สุด เขาจะวางลงไปหัวอยู่แล้วนะ”
“แกรู้หรือเปล่าว่าเมียของแกเล่นชู้กับผู้ชายอื่น?”
“แกบอกมาเลยว่าค่าเลี้ยงดูเมียแกกี่บาท?”
เถ้าแก่ขอทุกบริษัทหัวเราะชอบใจ ยิ่งพูดยิ่งล้ำเส้นมากเกินไป มองออกเลยว่าเป้าหมายของตระกูลต่งคือทำลายชื่อเสียงและเกียรติภูมิของหลินชิงเสว่ ดังนั้นจึงไม่ลงวิดีโอจนครบทั้งหมด เพียงแค่ตัดส่วนตรงกลางมาเท่านั้น จึงไม่เห็นคนที่อยู่ทางทิศใต้เลย คนที่ไม่รู้ความจริงย่อมไม่รู้ว่านั่นคือถังเฉาจริงๆ
“ตบปาก!”
ดวงตาของถังเฉาเย็นเยียบ เขาลงมือดุจสายฟ้าแลบ บนหน้าของทุกคนถูกตบอย่างรุนแรงหลายครั้ง
เพี้ยๆๆ —-
ทันใดนั้นพวกเถ้าแก่ที่พูดจาไร้มารยาทล้วนแต่หน้าบวมเป็นหัวหมู เลือดเต็มปากแล้วถูกถังเฉาพัดล้มลงไปทั้งตัวอย่างกะทันหัน
“แก แกกล้าดียังไงทำร้ายคนในที่สาธารณะ?”
ในที่สุด ก็มีเถ้าแก่คนหนึ่งหวาดกลัวแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น สายตามองไปที่หลินชิงเสว่อย่างหวาดกลัว : “หลินชิงเสว่ คุณกล้าเรียกให้สามีมาทุบตีผม ผมคิดว่าคุณคงไม่ต้องการที่จะร่วมมือกันอีกต่อไปแล้ว!”
“วางใจได้ แค่บริษัทเล็กๆโทรมๆของพวกคุณ ถึงมาขอให้ลี่จิงร่วมมือ ลี่จิงเองก็รังเกียจเช่นกัน”
ทันทีที่พูดจบ ถังเฉาก็ตบหน้าเขาอีกครั้งจนหน้าสะบัดน้ำลายกระเด็นไปทั่ว
หลินชิงเสว่ที่อยู่ข้างๆมองอย่างเย็นชา ไม่มีความเมตตาสงสารในใจเลยแม้แต่น้อย
“พวก พวกแก ……จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน!”
“ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเรา ลี่จิงกรุ๊ปของพวกแกอยู่ได้อีกไม่นานหรอก จะต้องล้มละลายแน่นอน!”
เถ้าแก่ที่น้ำลายกระเด็นไม่ได้เป็นลม แต่ว่านอนคว่ำอยู่บนพื้นและขณะที่พูดได้มองไปที่หลินชิงเสว่ด้วยสายตาที่ชั่วร้าย
“ยังงั้นเหรอ?”
ถังเฉาไม่ได้ลงมืออีก บนหน้ามีรอยยิ้มเย้ยหยัน : “มดที่น่าสงสาร ตัวเองเป็นแค่ฝุ่น กลับคิดว่าตัวเองสำคัญมาก น่าเศร้า น่าทอดถอนใจนัก”
“ประธานหลินคะ แย่แล้ว!”
ทันใดนั้น ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก หลี่ถาวพุ่งเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเผือด ท่านประธานของสิบบริษัทใหญ่ มาถึงแล้ว!”
สีหน้าของหลินชิงเสว่เองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน สิบบริษัทใหญ่ หมายถึงสิบบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนลี่จิงกรุ๊ปแปดสิบล้านหยวน แต่ละบริษัทล้วนเข้าสู่ห้าสิบบริษัทชั้นนำของเมืองหมิงจู
เธอเพียงแค่ฟังหลี่ถาวพูดต่อไปว่า : “ประธานของสิบบริษัททุกคนล้วนแต่มีสีหน้าเคร่งเครียดค่ะ น่ากลัวว่าจะเห็นข่าวในอินเตอร์เน็ตแล้วจึงได้พากันมาหาเรื่อง!”
เถ้าแก่คนเดียวที่เหลืออยู่ในกลุ่มของบริษัทเหล่านั้นก็หัวเราะลั่นบนความโชคร้ายนี้ : “ประธานหลิน ความโชคร้ายของคุณไม่มาเดี่ยวจริงๆเลยนะ แม้แต่สิบบริษัทใหญ่ยังอยากยกเลิกสัญญากับพวกคุณเลย คราวนี้ ต่อให้คุณไปนอนค้างด้วยทุกคืนก็แก้ไขไม่ได้แล้ว ฮ่าๆๆ……”
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้วแน่น สิบบริษัทใหญ่ ไม่ว่าบริษัทใดก็มีธุรกิจใหญ่กว่าลี่จิงกรุ๊ป ถ้าหากพวกเขามาหาเรื่อง กลัวว่าลี่จิงเองก็รับมือไม่ไหว……
อย่างไรก็ตามถังเฉากลับหาเก้าอี้มาแล้วนั่งลงไปอย่างสบายๆ แล้วพูดช้าๆว่า : “คุณคิดแบบนั้นจริงๆเหรอ?”
“ไม่ว่ายังไง ให้พวกเขาเข้ามาก่อนเถอะ”
หลินชิงเสว่พูดด้วยท่าทางสุขุม : “ถ้าหากพวกเขามาหาเรื่องจริงๆ พวกเราเองก็ไม่สามารถต้านทานได้เช่นกัน”
ตึง!ตึง!ตึง!
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายในชุดสูทที่มีออร่าสิบคนรอบล้อมด้วยกลุ่มชายหญิงได้เดินเข้ามาในห้องประชุม เป็นประธานสิบบริษัทใหญ่ที่ได้ให้การสนับสนุนลี่จิงกรุ๊ปจำนวนแปดสิบล้านก่อนหน้านี้
“ฮ่าๆ ประธานของบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่มาแล้ว ประธานของเทียนเหอกรุ๊ปก็มาด้วย แล้วก็ยังมีหัวเซี่ยกรุ๊ปหลงจั๋วกรุ๊ป จิ่นซื่อกรุ๊ป ลี่จิงกรุ๊ปจบสิ้นแล้ว!”
มองเห็นสภาพแบบนี้แล้ว เถ้าแก่คนนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งยิ่งขึ้น ราวกับว่าได้เห็นปรากฏการณ์ทำลายล้างลี่จิงกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว “หลายคนเลยนะ เธอจะทำยังไงดีล่ะ?”
สำหรับการใช้คำพูดที่หยาบคายของเขา หลินชิงเสว่ไม่ได้สนใจเลย ทั้งหัวใจและวิญญาณของเธออยู่ที่เหล่าประธานสิบบริษัท
อย่ามองว่าใบหน้าของเธอสงบนิ่ง เพราะในใจของเธอมีคลื่นโหมซัดสาด
เธอยังหันกลับไปมองถังเฉา แต่กลับพบว่าเขายังนั่งอยู่ที่ตำแหน่งเดิมพร้อมรอยยิ้มและไม่มีความคิดที่จะลุกขึ้นเลยแม้แต่น้อย
เถ้าแก้คนนั้นปีนขึ้นมาจากพื้นแล้วมาอยู่ที่ด้านหน้าของหวางติ่งเหยนประธานของบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่ : “ประธานหวาง นี่คือหลินชิงเสว่ อย่าได้มองว่าเธอจริงจังและซื่อตรงนะครับ เบื้องหลังเป็นหญิงร่านมั่วผู้ชาย ตอนนี้มีวิดีโอหลุดออกมาแล้วอีกไม่นานลี่จิงกรุ๊ปก็ถึงคราวต้องล้มละลายแล้ว ควรรีบ ……”
“ใครบอกคุณว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อยกเลิกสัญญา?”
โดยไม่รอให้เขาพูดจบ หวางติงเหยนขัดจังหวะเขาอย่างเย็นชา : “ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ระวังจะเป็นบริษัทของคุณที่ต้องล้มละลาย!”
จากนั้น ร่วมกับประธานอีกเก้าบริษัทได้เดินไปทางหลินชิงเสว่
ใบหน้าของเถ้าแก่คนนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่ได้มายกเลิกสัญญา แล้วมาทำอะไรล่ะ?
แล้วก็ได้เห็นประธานสิบบริษัทที่นำโดยหวางติงเหยนมาอยู่ด้านหน้าหลินชิงเสว่ ทันใดนั้นบนใบหน้าที่เคร่งขรึมก็ปรากฏเป็นรอยยิ้มเอาอกเอาใจ : “ประธานหลิน ที่ผมมาในครั้งนี้เพื่อมากระชับความร่วมมือกับบริษัทของคุณเป็นกรณีพิเศษ”
“เทียนเหอของผมก็เช่นกัน ต่อจากนี้ไปลี่จิงกรุ๊ปจะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของผม”
“ยังมีหัวเซี่ยกรุ๊ปของผมด้วย”
“หลงจั๋วและจินซื่อก็ด้วย”
“……”
ประธานสิบบริษัทใหญ่ทยอยแสดงท่าทีทีละคน และพูดกับหลินชิงเสว่อย่างสนิทสนมกลมเกลียว ท่าทางเคารพนบนอบอย่างมาก
ดวงตาของหลินชิงเสว่เบิกกว้างขึ้นมาทันทีและมองดูฉากตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ เมื่อกี้นี้เธอได้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งเลวร้ายที่สุดแล้ว
ฟางหย่าและหลี่ถาวก็ตกตะลึงเช่นกัน โดยพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง
แต่ว่าเถ้าแก่คนนั้นหยิกตาของตัวเองอย่างแรง เพื่อยืนยันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
“ประธานหวางและยังมีคณะกรรมการทุกท่าน พวกคุณไม่ได้ล้อผมเล่นนะ ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงร่านคนนึงเลยนะ พวกคุณไม่ยกเลิกสัญญาการร่วมมือก็ช่างมันเถอะ แต่ทำไมยังรักษาการร่วมมือกับเธอไว้อีก?”
เพี้ยะ —-
ทันทีที่พูดจบเขาก็ถูกตบหน้าอย่างแรง
หวางติงเหยนตบหน้าเขาอย่างรุนแรงด้วยท่าทางเย็นชา
“คุณมันเป็นตัวอะไร กล้าใช้คำพูดแย่ๆกับคุณหลินงั้นเหรอ?”
“คุณหลินเป็นคนที่โดดเด่นในหมู่หญิงสาว ไม่อาจปฏิเสธการถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ มีแต่บริษัทเล็กๆของพวกคุณที่สายตาสั้น!”
“พวกคุณไม่ยินยอมร่วมมือ ก็มีคนอีกถมไปที่อยากร่วมมือ!”
ในเวลานี้เหล่าเถ้าแก่ที่หมดสติไปได้ฟื้นขึ้นมาแล้วเช่นกัน ทันทีที่ลืมตาก็มองเห็นประธานสิบบริษัทใหญ่อยู่ในที่แห่งนี้ ก็เกือบจะเป็นลมกลับไปอีกรอบ
และเห็นหวางติงเหยนเหลือบมองคนเหล่านี้ด้วยสายตาเย็นชา : “พวกคุณไม่เพียงแค่คอยซ้ำเติมเท่านั้น ยังทำร้ายคุณหลินด้วยคำพูดที่เลวร้ายอย่างหนักด้วยใช่ไหม? ดีมาก รีบยื่นเรื่องขอล้มละลายเสียแต่เนิ่นๆ บริษัทของพวกคุณจะต้องหายสาปสูญไปจากเมืองหมิงจูตลอดกาล!”