เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 230
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ประตูบ้านก็ถูกเปิด เหวินเหวยเฉินคว้าผมยาวที่กระจัดกระจายของหลินฉ่ายเวย และโยนเธอออกไปเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว
“งานนี้จะแต่งหรือไม่แต่ง คุณไม่มีสิทธิ์เลือก”
สายตาของเขาเย็นชา ไม่มีอารมณ์ใดๆเลย และปิดประตูอย่างแรง
“…”
หลินฉ่ายเวยไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพูดอีกต่อไป นอนตัวแข็งบนพื้นเย็น
ใบหน้าและร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำสีน้ำเงินอมม่วง ซึ่งทั้งหมดนั้นเหวินเหวยเฉินเป็นคนทำ
ในที่สุด เธอก็เข้าใจสิ่งที่เหวินเหรินวี่เคยพูดก่อนหน้านี้ว่า ‘อีกไม่นานคุณจะรู้ พี่ชายของฉัน ความบ้าคลั่งของเขาคืออะไร’
เหวินเหวยเฉินที่ดูอ่อนโยนและสง่างาม ลึกๆแล้วมีองค์ประกกอบที่รุนแรงซ่อนอยู่ในกระดูกของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนมักพูดถึง—-ความรุนแรงในครอบครัว
ดวงตาสีแดงและบวมของหลินฉ่ายเวย ถูกแทรกซึมอย่างต่อเนื่องด้วยเลือดที่แดงก่ำ น้ำตาแห่งความเศร้าและความเสียใจหลั่งไหลออกมา
เพียงความคิดเดียวคือสวรรค์ เพียงความคิดเดียวคือนรก
ครั้งหนึ่ง หลินฉ่ายเวยรู้สึกว่าการแต่งงานกับเหวินเหวยเฉิน เป็นการแต่งงานเข้าไปในตระกูลที่ร่ำรวย เหมือนก้าวขึ้นไปบนฟ้าในก้าวเดียว คิดไม่ถึงว่า นี่มันกำลังเข้าสู่นรกชัดๆ
หากสัญญาการแต่งงานไม่ยุติ เธอจะอยู่ในเงามืดของความรุนแรงในครอบครัวในอนาคต บางทีเธออาจถูกทุบตีจนตาย
หลังจากฟื้นกำลังเล็กน้อย หลินฉ่ายเวยพยายามยืนขึ้น โบกรถและกลับไปที่บ้านของตระกูลหลิน
เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะซ่อนรอยฟกช้ำบนใบหน้าของเธอ เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น
กลับมาที่บ้านของตระกูลหลิน โจวเหม่ยหยูนกำลังดูทีวีอย่างเบื่อหน่าย หลินเจิ้นสงกำลังดูหนังสือพิมพ์ตอนเช้าด้วยความสนใจ
“พ่อ แม่”
หลินฉ่ายเวยก้มศีรษะลงและเดินกะเผลกเข้ามา
“ฉ่ายเวยกลับมาแล้ว…อาการบาดเจ็บพวกนี้ของคุณเป็นอะไร?”
โจวเหม่ยหยูนพูดได้เพียงครึ่งทาง เธออุทาน และรีบเข้ามาตรวจดูหลินฉ่ายเวย
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลินเจิ้นสงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ ก็เดินมาที่ด้านข้างของหลินฉ่ายเวย เมื่อเขาเห็นรอยแผลเป็นทั่วร่างของหลินฉ่ายเวย ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน”ลูกสาว บาดแผลเหล่านี้มาจากไหน?”
หลินฉ่ายเวย พูดอย่างโกรธเคืองเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมด ในที่สุดก็พูดว่า”ฉันไม่ต้องการแต่งงานกับเหวินเหวยเฉินแล้ว”
“อะไรนะ?”
“นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ!”
โจวเหม่ยหยูนมองไปที่หลินฉ่ายเวยที่เต็มไปด้วยบาดแผล ความโกรธเต็มใบหน้าของเธอ แต่แล้วการสนทนาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง “แต่ว่า ฉ่ายเวย คาดว่านี่เป็นการทะเลาะวิวาทระหว่างสามีและภรรยา เดี๋ยวก็จะดีกันเอง อย่ายกเลิกสัญญาการแต่งงานเลยนะ”
“แม่ ฉันถูกเขาทำร้าย คุณยังไม่เห็นด้วยกับฉันที่จะยกเลิกสัญญาการแต่งงานงั้นหรือ?”
ดวงตาของหลินฉ่ายเวยเบิกกว้าง และเธอมองไปที่โจวเหม่ยหยูนด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อ
หลินเจิ้นสงก็สีหน้ามืดมนเช่นกัน“ผมว่าแล้ว ไอ้เด็กคนนั้นมันร้าย กล้าที่จะทุบตีลูกสาวของผม ผมจะหาเขา!”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็รีบออกจากตระกูลหลินอย่างโกรธจัด แต่ถูกโจวเหม่ยหยูนดึงกลับมา
“คุณไปวุ่นวายอะไรกับเขาด้วย?”
เธอกังวลใจ “ครอบครัวของเราหวังให้ฉ่ายเวยแต่งงานเข้าไปในตระกูลเหวิน เนื้อก้อนใหญ่ที่กำลังจะถึงปาก เราจะปล่อยมันไปแบบนี้ง่ายๆได้อย่างไร?”
จากนั้นก็เกลี้ยกล่อมอีกว่า“ฉ่ายเวย ฉันเดาว่าเหวยเฉินคงอารมณ์ชั่ววูบ อย่าเอามาใส่ใจเลยนะ”
“ความรุนแรงในครอบครัวมีเพียงศูนย์ครั้งและนับไม่ถ้วน ฉันถูกทุบตีขนาดนี้ คุณยังจะให้ฉันแต่งงานกับเขาอีก?”
ดวงตาของหลินฉ่ายเวยเต็มไปด้วยความผิดหวัง น้ำตาของเธอไหลออกมา “ฉันเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจ ไม่ใช่เครื่องมือที่พวกคุณใช้เพื่อขยายกิจการตระกูล หรือต้องถูกทุบตีจนเกือบตาย พวกคุณจึงจะมาเสียใจภายหลังใช่ไหม!”
“ฉ่ายเวย การแต่งงานกับคนรวยไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าทนอีกนิดเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
ใบหน้าของโจวเหม่ยหยูนเต็มไปด้วยความกังวลใจ เพราะกลัวว่าหลินฉ่ายเวยจะยกเลิกสัญญาการแต่งงานจริงๆ เช่นนั้นเส้นทางการพัฒนาของตระกูลโจวจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
“โจวเหม่ยหยูน คุณยังเป็นคนอยู่ไหม!”
หลินเจิ้นสงปกป้องหลินฉ่ายเวยไว้ข้างหลังเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ “ตอนนั้นที่ผมตอบตกลงให้ฉ่ายเวยแต่งงานเข้าไปในตระกูลเหวิน เพราะเธอชอบไอ้หนุ่มคนนั้นจริงๆ ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนั้นกล้าที่จะตบตีฉ่ายเวย ผมเป็นคนแรกที่จะคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้! ”
“จะแต่ง คุณก็ไปแต่งเองเลย!”
“หุบปาก!”
คำพูดเหล่านี้ทำให้โจวเหม่ยหยูนโกรธมาก เธอดูเหมือนผู้หญิงดุร้าย ความโกรธเต็มใบหน้าของเธอ “ฉันเลี้ยงเธอมานานกว่า 20 ปี ถึงเวลาที่เธอควรตอบแทนฉันแล้ว”
หลังจากพูดเสร็จ เธอมองไปที่หลินฉ่ายเวยพร้อมกับพูดทีละคำ
“เหวยเฉินทุบตีคุณ มันคงเป็นเพราะคุณทำได้ไม่ดี คุณควรหาข้อบกพร่องบนตัวเอง อย่าโทษเหวยเฉิน! การแต่งงานครั้งนี้ ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง ไม่งั้น ฉันจะตัดความสัมพันธ์แม่ลูกกับคุณ เข้าใจไหม?”
หลินฉ่ายเวยจ้องไปที่โจวเหม่ยหยูนที่กำลังตะโกนใส่เธออย่างเหม่อลอย ในไม่ช้าดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
เธอคิดไม่ถึงว่า มารดาผู้ให้กำเนิด จะเพิกเฉยต่อการถูกเหวยเฉินทุบตี และยืนกรานที่จะให้เธอแต่งงานกับตระกูลเหวิน
นี่คือการผลักเธอลงไปในหลุมไฟอย่างดื้อๆ!
ภายใต้ความสิ้นหวัง หลินฉ่ายเวยกัดฟันของเธอและชนโจวเหม่ยหยูน วิ่งออกจากบ้าน
“เฮ้ จะไปไหน—”
คำด่าที่โกรธและตกใจของโจวเหม่ยหยูนไม่ได้ยินอีกต่อไป หลินฉ่ายเวยวิ่งออกไปเป็นเวลานานก่อนที่เธอจะหยุดลงและหอบ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอผิดหวังในบ้านหลังนี้
ผู้คนไปๆมาๆ การจราจรคับคั่ง หลินฉ่ายเวยยืนอยู่คนเดียวที่ทางแยกโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
ซ่าๆๆ–
ฝนเริ่มตกลงจากบนท้องฟ้า และคนเดินบนถนนก็ชูร่มขึ้น
หลินฉ่ายเวยก็อยากกางร่มด้วย แต่พบว่าเธอไม่ได้นำร่มมาด้วย
ฝนทำให้เสื้อผ้าของเธอเปียกอย่างรวดเร็ว และเธอก็ตัวสั่นและ”ฮ่าชู่”
เมื่อเทียบกับความหนาวเย็นบนร่างกาย หัวใจของเธอนั้นเย็นกว่า
ฝนเริ่มตกหนักขึ้นและใหญ่มากจนหลินฉ่ายเวยทนไม่ไหว เธอมาถึงมุมหนึ่งของเมือง ขดตัว กอดเข่าของเธอ และทำให้ร่างกายอบอุ่น
ในเวลานี้ ร่างหนึ่งค่อยๆเดินมาข้างหน้าเธอ
ร่มสีดำที่ถืออยู่นั้นใหญ่พอที่จะจุคนสองคนได้
เขากางร่มออกไปข้างหน้า คลุมทั้งตัวของหลินฉ่ายเวยไว้ข้างใน
ดังนั้น สายฝนไม่สามารถกระทบตัวเธอได้อีก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหนาวหรือเปล่า หลินฉ่ายเวยตัวสั่นเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นอย่างแข็งทื่อ และเห็นใบหน้าที่สงบ
ทันใดนั้น น้ำตาก็กลั้นไว้ไม่อยู่ เหมือนกับน้ำในบ่อท่วม
เธอลุกขึ้นยืนทันทีและกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของถังเฉา “ฉันเสียใจภายหลังแล้ว”
เธอกอดแน่น ราวกับกำลังจับฟางเส้นสุดท้ายและต่างก็ไม่ยอมปล่อย
คราวนี้ ถังเฉาไม่ได้ผลักเธอออกไป ให้หลินฉ่ายเวยกอดเขาแน่นแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “ผมรู้”
หลังจากหยุดชั่วครู่ สายตาของเขาก็ถูกเพ่งไปที่ร่างของหลินฉ่ายเวยอีกครั้ง มีรอยฟกช้ำทั่วใบหน้าของเธอ และในที่สุดก็มีคลื่นของความผันผวนในดวงตาที่สงบของเขา
“เขาเป็นคนตีหรือ”
หลินฉ่ายเวยพยักหน้าด้วยความรันทดโดยไม่พูดอะไร
“ดี”
ถังเฉาไม่ได้โกรธ ไม่พูดอะไรอื่นๆ เพียงพยักหน้าอย่างเงียบๆ
“ฉันไม่อยากแต่งงานแล้ว”
หลินฉ่ายเวยร้องไห้อย่างหนัก ร่างกายที่บอบบางของเธอสั่นเล็กน้อย
“งั้นก็ไม่แต่ง”
ถังเฉาพูดอย่างสงบ แต่หลินฉ่ายเวยกลับร้องไห้ออกมาอย่างนักกว่าเดิม นอกจากเสียใจภายหลังแล้ว ยังมีอารมณ์อื่นๆที่อธิบายไม่ได้ในหัวใจของเธอ
โลกทั้งใบมืดมิด และเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอถูกโลกทอดทิ้ง มีเพียงเขา คนที่เธอเคยดูถูก ในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นข้างเธอและให้สัญญากับเธอ
บางครั้ง แค่คำเดียวก็สามารถดึงคนหนึ่งคนจากนรกขึ้นสวรรค์ได้