เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 235
“เหยียนเสี้ยงหม่า?”
ถังเฉาตากระตุก สีหน้าเปลี่ยนสีทันที
ต่งอี้สิง เสิ่นชิงหยุนก็พากันหัวเราะออกมา “คนประหลาดบ้านเหยียน ยอมโผล่หน้าออกมาแล้วหรอเนี่ย”
“วันๆขังตัวเองอยู่ในห้อง เอาแต่เขียนหนังสือวาดภาพ อ่านหนังสือฝึกวิชา ใกล้จะบ้าแล้ว”
เสิ่นชิงหยุนส่ายหัวพลางว่า “นี่มันชีวิตคุณชายที่ไหนกัน ผมนึกว่าเขาออกบวชแล้วซะอีก”
คุณชายสี่ตระกูลดังของหมิงจูถูกเรียกขานว่า ‘สี่คุณชายหมิงจู’ ซ่งเทียนซานกลายเป็นเจ้าชายนิทรา จนตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย ต่งอี้สิงได้นั่งเป็นเจ้าตระกูลต่งตามใจฝัน เสิ่นชิงหยุนปากไม่ตรงกับใจ หน้าอย่างลับหลังอย่าง มีเพียงคุณชายบ้านเหยียนคนสุดท้ายเท่านั้นที่ถังเฉาไม่เคยได้พบปะมาก่อนเลย
วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเขาได้เจอกัน
ถังเฉาหรี่ตามองปราดไปทั่วตัวเหยียนเสี้ยงหม่า เหยียนเสี้ยงหม่าสีหน้าสงบนิ่ง ยอมให้ถังเฉามองสำรวจ
ดูสะอาดตาประดุจหยก คุณชายเพอร์เฟคส์ไร้ที่ติ
เหยียนเสี้ยงหม่าในชุดขาว ขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะ ผมยาวพลิ้วไสว สมความงามตามแบบฉบับคนโบราณ ทุกอวัยวะบนใบหน้าไม่มีข้อด้อยเลย ดูสะอาดตา
ทุกอวัยวะดีเลิศ ผิวขาวราวหิมะ หน้าตาแบบนี้ต่อให้เป็นผู้หญิงยังต้องริษยา แต่ถังเฉากลับสังเกตเห็นสิ่งที่นูนออกมาที่คอหอยของเหยียนเสี้ยงหม่า
นั่นคือลูกกระเดือก
เขาเป็นผู้ชาย
“ผมรู้จักคุณ คุณชื่อถังเฉา ใช่ไหม?”
เหยียนเสี้ยงหม่ามองถังเฉาพลางหัวเราะหึๆ และยื่นมือหาอย่างมีมารยาท
ถังเฉาดึงสายตากลับ ไม่ได้ปฏิเสธ และจับมือกับเขา
เพียงแต่ วินาทีที่จับมือกัน ถังเฉากลับรู้สึกได้ถึงแรงมหาศาลที่ส่งมาจากฝ่ามือนั้น
ถังเฉาแปลกใจเล็กน้อย พลางเลิกคิ้วบางขึ้น
จะเล่นไม้ตายนี้กับตน? ไม่รู้กำลังตัวเองซะเลย!
เขาสีหน้าสงบนิ่ง มุมปากยิ้มน้อยๆ แต่กลับใช้แรงที่ฝ่ามือมากขึ้น
ทันใดนั้น เหยียนเสี้ยงหม่าที่เดิมยังมีรอยยิ้มสีหน้าเปลี่ยนทันที กล้ามเนื้อหน้าสั่นเบาๆ จนทั้งร่างสั่นเบาๆ
มีแรงส่งมาที่ฝ่ามือ เหมือนจะทำกระดูกมือเขาแหลกละเอียด
สายตาเหยียนเสี้ยงหม่าแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เขามองถังเฉาที่สีหน้าเรียบเฉยอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เขามองออกว่า ชายหนุ่มคนนี้ยังไม่ได้ใช้แรงทั้งหมด เหมือนเขากำลังล้อเล่นกับตัวเองราวกับแมวไล่จับหนูยังไงยังงั้น
“คุณถัง ทุกคนกำลังดูอยู่นะ”
เหยียนเสี้ยงหม่าพยายามข่มกลั้นความเจ็บที่ฝ่ามือ และยิ้มออกมา
“วันนี้เป็นวันดีของบ้านเหวิน ก่อนพิธีแต่งงานจะเริ่ม มาเล่นเกมส์กันก่อนดีไหม?”
ถังเฉาหรี่ตามอง พูดอย่างมีนัยยะ
พอพูดจบปุ๊บ เหยียนเสี้ยงหม่าใจกระตุกทันที แถมยังสั่นไหวอย่างรุนแรงด้วย
เขาได้ยินนัยยะแอบแฝงในคำพูดของถังเฉาเมื่อกี้: ถ้าแกกล้ายุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฉันไม่เหนื่อยที่จะส่งแกไปโรงพยาบาลก่อน
“ก็ไม่ยังไง”
เหยียนเสี้ยงหม่าสะท้านเยือกในอก ยอมลงให้ก่อนว่า “ผมก็แค่อยากรู้จักคุณถังก็เท่านั้นเอง”
“ตอนนี้ก็รู้จักแล้วไง”
ถังเฉาปล่อยมือเหยียนเสี้ยงหม่าด้วยสีหน้าเย็นชา
วินาทีที่ปล่อยมือ เหยียนเสี้ยงหม่ารีบกุมมือข้างนั้นทันทีด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เห็นได้ชัดว่า มือข้างนั้นบวมแดงแล้ว ฝ่ามือแทบจะเปลี่ยนรูปร่างไปเลย ถ้าถังเฉาใช้แรงมากกว่านั้นนิดหน่อย จะทำมือเขาหักได้เลย
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่ไม่ถึงนาที แต่เหยียนเสี้ยงหม่ารับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของถังเฉาแล้ว ในสายตาเขาฉาบแววตกตะลึงไว้
คนอื่นอาจไม่ทันสังเกตเห็นประกายไฟพวกนี้ ต่งอี้สิงเห็นถังเฉายิ้มเย็นว่า “แกนี่มันตัวหาเรื่องจริงๆนะ ไปไหนก็มีปัญหากับเขาไปทั่ว เจ้าตัวประหลาดบ้านเหยียนนั่นเป็นสมาชิกหลักของสมาคมการต่อสู้ ทำให้เขาไม่พอใจ อย่าหวังจะรอดไปได้เลย!”
“ต่งอี้สิง แกหุบปากไปเลย!”
เหยียนเสี้ยงหม่าตะคอกเสียงดัง ใบหน้ารู้สึกแสบเจ็บ
สมาชิกหลักของสมาคมการต่อสู้ ถ้าเป็นเวลาปกติมันถือว่ามีเกียรติมาก และภูมิใจด้วย แต่ต่อหน้าถังเฉา ฐานะนี้มันเรื่องตลกชัดๆ
นั่นไง พอได้ยินคำนี้ ถังเฉาพูดอย่างล้อเลียนว่า “ที่แท้นายเป็นคนของสมาคมการต่อสู้? งั้นรู้จักอาจารย์เปาไหม?”
เหยียนเสี้ยงหม่าสายตาหวั่นไหว ชะงักก่อนพยักหน้าตอบ “รู้จัก”
“งั้นก็ดี”
สีหน้าถังเฉายิ้มเรียบๆ “ผมว่า อีกไม่นานพวกเราต้องได้เจอกันอีกแน่”
เหยียนเสี้ยงหม่าไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของถังเฉาแปลว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้จะคาดคั้นอะไรเหมือนก่อนหน้านี้อีก
ต่งอี้สิงเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว และพูดโพล่งออกมาว่า “พี่เสี้ยงหม่า ไอ้ถังเฉานี่หยามเกียรติพี่แบบนี้ พี่ไม่คิดจะสั่งสอนมันบ้างหรือไง?”
สีหน้าเหยียนเสี้ยงหม่าแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที เขาเหล่ต่งอี้สิงอย่างเย็นชาพลางว่า “ผมกับคุณสนิทกันหรือไง?”
พูดจบ ก็กลับไปนั่งที่โต๊ะบ้านเหยียนตามเดิม ไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
ต่งอี้สิงสีหน้าตะลึงงง เดิมอยากจ้างคนมาลอบฆ่าถังเฉา ไม่คิดว่าเงินรางวัลที่โพสต์ลงเว็บมืดไปโดนบล็อกซะแล้ว ต่งอี้สิงไม่มีหนทาง ได้แต่จับจ้องมาที่งานแต่งงานครั้งนี้
เหยียนเสี้ยงหม่าเป็นคนที่เขาต้องพยายามอย่างมากกว่าจะเชิญมาได้ ก็เพื่อมาจัดการเจ้าถังเฉานี่ ไหงพอจับมือกัน เหยียนเสี้ยงหม่าก็เปลี่ยนใจดื้อๆซะงั้นล่ะ?
ความสัมพันธ์ของสี่คุณชายหมิงจูมันดูเหมือนปรองดอง ที่จริงแล้วก็ใส่หน้ากากใส่กัน ท่าทีนอบน้อมใส่กัน แต่ฝีมือเบื้องหลังกลับร้ายทับกันไปมา ดังนั้นทั้งสี่คนแค่ใส่หน้ากากเข้าหากันเท่านั้นเอง
ไม่นาน สีหน้าต่งอี้สิงกลับสู่ปกติ เขามองถังเฉนอย่างมาดร้าย “ต่อให้เสี้ยงหม่าไม่ลงมือ แกคิดว่าแกจะหนีรอดหรือไง? พองานแต่งจบ ก็เป็นเวลาตายของแกแล้ว!”
พอจบคำพูด บรรดาคนใหญ่คนโตของเมืองเจียงพากันปรบมือสนับสนุน เป็นเชิงบอกว่าจะดูอย่างเดียว ไม่เข้าร่วมด้วย คนบ้านโจวก็ไม่มีใครคิดจะออกมาช่วยพูดแทนถังเฉาเลย
ในสายตาพวกเขา บ้านต่งจะทำอะไรไอ้ขยะนี่ไม่ได้หรือไง?
“งั้นนายลองดูสิ”
ถังเฉาแววตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ถ้าต่งอี้สิงกล้าลงมือ เขาไม่ซีเรียสที่จะลงมือฆ่ามันก่อนเลย
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
ในตอนนี้เอง มีเสียงตะคอกแหลมด้วยความโกรธดังขึ้น
ผู้หญิงวัยกลางคนในชุดราตรียาว ใบหน้างดงาม ออร่าสง่า โดยเฉพาะใบหน้านั้นมีความคล้ายคลึงกับเหวินเหวยเฉินถึงเจ็ดแปดส่วน บ่งบอกชัดถึงฐานะเธอ
“คุณนายเหวิน”
ต่งอี้สิง เสิ่นชิงหยุน เหยียนเสี้ยงหม่าพากันเอ่ยทักทาย
ถังเฉามองสำรวจแม่ของเหวินเหวยเฉินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และไม่ได้พูดอะไร
“วันนี้เป็นวันมงคลของลูกชายฉัน ไม่ว่าทุกท่านจะมีความแค้นอะไรกัน ขอให้พักไว้ก่อน เห็นแก่หน้าบ้านเหวินของเรานะคะ” เหวินเฉี่ยวหรูถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ก็แสดงออร่าของความเป็นคุณนายใหญ่ตระกูลเหวินออกมา
เพียงแต่ บรรดาคนใหญ่คนโตของเมืองเจียงกลับมองดูเหวินเฉี่ยวหรูด้วยสายตาล้อเลียน ไม่มีแววเคารพเท่าที่ควร แถมยังกระซิบกระซาบอะไรกันอีกต่างหาก
ต่งอี้สิงพยักหน้าบอก “ในเมื่อคุณนายเหวินออกปากแล้ว ผมยินดีจะพักเรื่องความแค้นไว้ก่อน รองานแต่งสำเร็จแล้ว ค่อยมาว่ากันใหม่”
“ขอบคุณค่ะ”
เหวินเฉี่ยวหรูพยักหน้า และมองถังเฉาหนึ่งทีพลางถามว่า “หลินฉ่ายเวยเป็นอะไรกับคุณ?”
ถังเฉาสีหน้ามึนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงถามคำถามนี้ แต่ก็ยังตอบไปว่า “ถือเป็นน้องสาวผมครับ”
“คุณตามฉันมาค่ะ”
เหวินเฉี่ยวหรูจับแขนถังเฉา ดึงเขาเดินไปในโงแรม
ปึ้ง—
ทั้งสองมาถึงห้องชุดหรูหรา เหวินเฉี่ยวหรูปิดประตูดังปึ้ง แถมยังล็อคห้องอีกด้วย
ถังเฉาสายตาเพ่งเล็งทันที “คุณนายเหวิน คุณคิดจะทำอะไร?”
เหวินเฉี่ยวหรูปิดผ้าม่านหน้าต่างอีก และหลังจากแน่ใจว่าไม่มีช่องว่างไหนเหลือรอด ถึงหันมาพูดกับถังเฉาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “หวังว่าคุณจะรับปากฉันเรื่องหนึ่ง ก่อนพิธีแต่งงานจะเริ่มขึ้น ขอให้คุณพาหลินฉ่ายเวยหนีไป!”