เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 24
บทที่ 24 กูจะยิงนัดเดียวให้ตาย!
ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา ทุกคนในงานแต่งหน้าถอดสี เซียกางและซ่งเทียนซานหัวเราะด้วยเสียงเยาะเย้ย
เหล้าเหมาไถขวดหนึ่งที่มีดีกรี56เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะคอแข็งแค่ไหน ดื่มหมดก็รับไม่ไหว นับประสาอะไรกับพี่เซียที่เคยชินกับการดื่มไวน์แดง ดื่มหนึ่งขวดลงไป อาจทำให้กระเพาะรั่ว?
นี่คือการฆาตกรรม!
“พี่เซีย ไม่ต้องใส่ใจพวกเขา ใส่กุญแจมือเด็กคนนั้นก่อน… …”
ซ่งเทียนซานอยากหาเรื่องถังเฉา แต่เซียกางในฐานะร.อ. อยู่ข้างนอกกลับถูกรังแกเช่นนี้ จะยอมทนได้อย่างไร?
“คุณเหลือเวลาอีกสามสิบวินาที
ดวงตาของเซียกางเย็นชาเหมือนงูพิษที่อยู่ในถ้ำ มองไปที่ชายร่างใหญ่ จากนั้นก็มองถังเฉา
เขากำลังใช้วิธีเชือดไก่ให้ลิงดู
เขาใช้วิธีไหนจัดการชายร่างใหญ่เหล่านั้น ก็จะใช้วิธีนั้นจัดการนาย
“แม่ง ให้เกียรติแล้วยังไม่รับ!”
คาดไม่ถึงว่าใบหน้าของชายร่างใหญ่จะเคร่งขรึมทันที ยกขวดเหล้าในมือ และฟาดลงหัวเซียกางอย่างแรง
เคว้ง
อย่างไรก็ตาม เซียกางไม่ได้ลงมือ แต่เป็นยามที่อยู่ข้างๆเซียกางตามือว่องไว และเตะขวดเหล้าจนแตกกระจาย
เศษแก้วและเหล้ากระเด็นไปทั่วพื้น
“ยังมีบอดี้การ์ด
เมื่อชายร่างใหญ่เห็นเช่นนี้ ชั่วพริบตาดวงตาของเขาก็เป็นประกาย และเดินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ยกเข่าขึ้น และตีเข่าอย่างรุนแรง
วิธีต่อยครั้งนี้ดุเดือดมาก คนที่โดนนั้นตัวขดงอทันที
เมื่อเห็นทุกคนถอยหลังไปหนึ่งก้าว หวาดกลัว สายตาที่มองไปที่กลุ่มชายร่างใหญ่ก็ยิ่งหวาดกลัว ดูเหมือนพวกเขา… …ไม่เห็นร.อ.เซียของกองทัพทหารหมิงจูอยู่ในสายตา
“นาย นายไปด้วยกัน!” เซียกางได้เรียกสองคน ทั้งสองคนก็วิ่งมาทางชายร่างใหญ่
เมื่อเห็นปัญหาแย่ลง หลินฉ่ายเวยสองแม่ลูกและคนอื่นๆมีหน้าซีดเซียวและถอยหลัง เพราะกลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อตัวเอง ผู้จัดการจ้าวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
กำลังจะไปถามถังเฉา แต่พบว่าถังเฉายังคงจิบไวน์อย่างสงบ มองดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่า พวกคุณคิดว่าสงจื่อจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการสองคนนั้น?”
ในขณะนี้ เสียงหัวเราะดังขึ้น เห็นชายร่างใหญ่พูดอย่างกระตือรือร้น “ฉันเป็นเจ้ามือ พวกนายแทงตามสบายเลย”
“ได้สติขึ้นมาหน่อย ตอนนี้สมองสับสน อย่างน้อยต้องใช้สองนาที”
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระ แทงเท่าไหร่
“ห้าร้อย!”
“ฉันเดิมพันสามร้อย สองนาที!”
“แปดร้อย สองนาทีครึ่ง!”
ชายร่างใหญ่ชื่อสงจื่อยังไม่ได้ลงมือชกต่อยกับทั้งสองคน ชายกลุ่มที่นั่งอยู่บนพื้นเริ่มเดิมพันกันเรียบร้อย ดูเหมือนว่าไม่มีความชอบธรรมเลย
“พี่เถ่จู้ ท่านไม่ทำอะไรหน่อยเหรอ?”
ทันใดนั้น ชายที่เป็นเจ้ามือมองชายที่มีผิวคล้ำ ชายร่างสูงกระพริบตาด้วยรอยยิ้ม
“หนึ่งนาที”
ชายผิวสีคล้ำค่อยๆดื่มเหล้า แต่สายตาเหม่อมองอยู่นอกระเบียง ราวกับว่าเขาไม่สนใจการต่อสู้ในครั้งนี้
ราวกับว่านี่คือการต่อสู้ที่ได้กำหนดจุดจบไว้เรียบร้อย
“ไอ้ชั่วทั้งหลาย กูกำลังถูกรังแกที่นี่ แต่พวกแกกลับเอากูมาเล่น คอยดูกูจะให้พวกแกแพ้จนไม่เหลือแม้แต่กางเกงชั้นใน!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนของเขาพูด สงจื่อก็โกรธมาก จากนั้นก็เริ่มการโจมตีที่รุนแรง โดยไม่ให้โอกาสเขา
พ่งพ่งพ่ง… …
ราวกับชกกระสอบทราย ทุกคนมองงไม่ชัดเจนว่าสงจื่อลงมือยังไง ทั้งสองก็ล้มลงบนพื้น
“ห้าสิบเก้าวินาที เกินไปหนึ่งวินาที” ชายผิวสีคล้ำที่ชื่อเถ่จู้หัวเราะ
“มาๆๆ จ่ายเงินมาให้หมด ห้ามติดค้าง จ่ายเงินสดอย่างเดียว!”
เช่นนี้ ชายที่เป็นเจ้ามือตะโกนอย่างมีความสุข
“แม่ง นี้เป็นคนแบบไหน ถึงไม่เอาไหนเช่นนี้ ทำให้เราเสียเงิน!”
กลุ่มที่เดิมพันแพ้แต่ละคนพูดเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนไก่ตัวผู้ ตะโกนด่าว่าไม่เอาไหน แต่ก็ต้องจ่ายให้เจ้ามือ
“เฮ้ยเฮ้ย… …”
เมื่อมองไปที่ธนบัตรหลากสีตรงหน้า ชายที่เป็นเจ้ามือมีความสุขมาก และพูดด้วยรอยยิ้ม “คืนนี้เงิน(ค่าเที่ยวร้านนวด)นั้นผมเป็นคนจ่ายเอง”
เซียกางก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ตั้งสติอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง “คุณรู้ไหมว่าตีคนที่นี่ ผลที่ตามมาคืออะไร?”
“ผลที่ตามมาคืออะไร?”
สงจื่อไม่ใส่ใจคำพูดของเซียกาง
“หันกลับไปมองด้วยตัวเอง”
ทันใดนั้น ชายในชุดดำทั้งหมดที่อยู่ข้างหลังเซียกางได้ล้อมรอบกลุ่มชายร่างใหญ่ และจ้องเขม่นพวกเขา
ซ่งเทียนซานบอกว่าอย่าบุ่มบ่าม เพราะว่า เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เมื่อเห็นปัญหาแย่ลงเรื่อยๆ หลินเจิ้นสงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย และพูดกับถังเฉา “เสี่ยวเฉา พวกเราไปกันเถอะ”
“ไป? เพราะอะไร?”
ถังเฉายังคงยิ้มจางๆ “ดูฉากการแสดงที่น่าดูนี่ก่อนแล้วค่อยไปมันก็ยังไม่สาย”
“ไม่กลัวตายหรือ เดี๋ยวถูกจับได้อย่ามาทำให้พวกเราเดือดร้อน” หลินฉ่ายเวยสองแม่ลูกพูดด้วยสีหน้ารังเกียจ
“มีคนเยอะมาก”
ในอีกด้านหนึ่ง สงจื่อเห็นการต่อสู้แบบนี้ไม่ได้ตกใจ แต่สีหน้าเคร่งขรึม แล้วพูดว่า “คนที่กูจะต่อย แม้จะมีคนที่มีอำนาจบารมีอยู่ที่นี่ ก็ขวางไม่อยู่”
“สงจื่อ!”
ขณะที่สงจื่อกำลังจะลงมือ มีเสียงขรึมดังขึ้น “กลับมา”
ทันใดนั้น ใบหน้าของสงจื่อก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และหันกลับไปมองชายผิวคล้ำที่อยู่ตรงกลาง “แต่ว่า พี่เถ่จู้”
“กลับมา” เถ่จู้พูดซ้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าเฉยชา
“ตกลง”
เถ่จู้เป็นคนที่น่านับถือ สงจื่อก็รีบกลับไปที่เถ่จู้ด้วยใบหน้าหดหู่
เซียกางคิดว่าคนที่เป็นเจ้านายอย่างเถ่จู้ใจอ่อน สายตาแสดงความดูถูก และหันกลับไปมองถังเฉา ซึ่งหมายความว่าให้รอดูต่อไป
ถังเฉายิ้มเล็กน้อย และทำสัญญาณมือง่ายๆ
เซียกางเดินไปตรงหน้าเถ่จู้ มองเขาเหมือนได้เปรียบ และพูดว่า “ฉันจะผ่อนปรนให้ หนึ่งนาที ไสหัวไปจากที่นี่”
เถ่จู้ยิ้มจางๆและส่ายหัว จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน
เซียกางคิดว่าเขาจะออกไปจากที่นี่อย่างเชื่อฟัง แต่ไม่คาดคิดว่าจะเดินมาตรงหน้าเขา และพ่นควันบุหรี่เป็นรูปวงกลมสวยงามออกมาใส่เขา “ฉันคิดว่า นายควรเก็บคำพูดประโยคนี้กลับไปดีกว่า”
เมื่อเซียกางได้ฟัง ดวงตาเคร่งขรึม ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกัน “ถ้าฉันไม่ทำล่ะ?”
ดังนั้น เถ่จู้จึงหยุดพูด แต่หันกลับไปมองทุกคน
น้ำเสียงไม่แยแสและราบเรียบ “พี่น้องของพวกเราอยู่ข้างนอกถูกรังแก ควรทำอย่างไร?”
พร้อมกับประโยคนี้ ผู้ชายร่างใหญ่ที่ดูเกียจคร้านจนเหมือนไม่มีกระดูกอารมณ์ก็เปลี่ยนไป
ไม่มีความเกียจคร้าน และไม่เมา บางคนเพียงแค่เคยออกสนามรบ เคยแบกปืนมีความแข็งแกร่งและอดทน
ว้าว!
ช่วงเวลาต่อมา ภายใต้สายตาหวาดกลัวของทุกคนที่จ้องมอง พวกเขาทุกคนก็ดึงปืนพกสีดำออกมา
ปากกระบอกปืนเป็นหลุมดำดูเหมือนจะเต็มไปด้วยงูพิษ ชี้ไปทางฝั่งคนของเซียกาง
ใครกล้าขยับ กูก็จะยิงนัดเดียวให้ตาย!”
ในขณะที่ชายร่างใหญ่กลุ่มนั้นชักปืน เถ่จู้ก็ตะโกนเสียงดัง
เหมือนกับฟ้าร้องบนพื้นดิน ในเหตุการณ์ ไม่มีใครกล้าพูดอีก มีเพียงเสียงตะโกนของเถ่จู้
ฉากนี้เต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความตายอย่างรุนแรง หายใจลำบาก คนดังทุกคนตกใจจนหน้าซีดเซียว ไม่กล้าขยับ
มีแต่ถังเฉา ตั้งแต่ต้นจนจบ มีแต่รอยยิ้มที่นิ่งสงบ