เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 247
เช้าตรู่วันต่อมา เฟิ่งหวงใส่ชุดหนังแนบเนื้อ ยืนอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์จื่อหยวน
“รองผู้นำคะ ลงประกาศไปเรียบร้อยแล้ว ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีนักฆ่าสามพันหกสิบเอ็ดคนทยอยกันเข้ามาที่หมิงจู ลอบฆ่าเสิ่นชิงหยุนค่ะ”
“ไม่เลว”
ถังเฉาหรี่ตาแล้วพยักหน้า ประกาศไปห้านาที ยังมีนักฆ่าสามพันกว่าคนรับภารกิจไว้ นี่เป็นจำนวนที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว
ลองคิดสักหน่อย เมืองแห่งหนึ่ง แอบซ่อนนักฆ่ามืออาชีพสามพันกว่าคนไว้ คนที่ปลอมตัวไปสารพัดแบบรอคอยโอกาสเคลื่อนไหว ถ้าหลุดออกไป ทั้งเมืองคงจมสู่ความหวาดวิตก
ทันใดนั้น ถังเฉายิ้มให้ทางเฟิ่งหวง “นึกไม่ถึงว่าชื่อเสียง’นายหญิงแก๊งมืด’นี้ของเธอยังใช้การได้ดีมาก”
ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าเฟิ่งหวงแดงขึ้น เขินอายแบบพบได้ยาก “ชื่อเสียงของฉันดังแค่ไหน ยังไม่ใช่ว่าถูกรองผู้นำสยบไว้เหรอคะ ยินยอมพร้อมใจติดตามรองผู้นำ”
ถังเฉาหัวเราะฮาๆ “ห้าปีก่อน เป็นเธอที่อยากมาฆ่าฉันนะ!”
คำพูดนี้ออกมา สีหน้าเฟิ่งหวงยิ่งแดง ใกล้จะมีเลือดหยดออกมาแล้ว
แต่พอสองคนหวนนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนโดยไม่ได้นัดหมาย อดมองหน้ากันไม่ได้ จากนั้นหัวเราะแบบรู้ใจ
โชคชะตาฟ้าลิขิตเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ใครจะไปคิดว่าเฟิ่งหวงที่อยู่ต่อหน้าถังเฉาอ่อนโยนผ่อนตามเหมือนแมวเหมียวตัวหนึ่ง ตอนเจอกันครั้งแรก คาดไม่ถึงอยากลอบสังหารเขาอย่างเด็ดขาด
เฟิ่งหวงในตอนนั้น ยังไม่ใช่นักฆ่าอันดับหนึ่งที่ชื่อโหดสั่นสะเทือนโลก เป็นเพียงนักฆ่าระดับแนวหน้าเท่านั้น นักฆ่าแบบนี้มีจำนวนมาก
ลอบสังหารถังเฉา ย่อมล้มเหลวแล้วเป็นธรรมดา แต่ว่าถังเฉาไม่ได้ทำอะไรเธอแต่อย่างใด กลับปล่อยเธอจากไป
ภารกิจล้มเหลว เฟิ่งหวงยากจะหนีรอดจากการตำหนิ ภายใต้โทษทรมานขององค์กรนักฆ่าใกล้จะตายอยู่แล้ว สุดท้ายกลับถูกถังเฉาที่สะกดรอยตามมาตลอดทางช่วยชีวิตไว้
องค์กรนักฆ่าที่เฟิ่งหวงสังกัดอยู่พังทลาย ไม่มีที่ให้กลับไป บวกกับความซาบซึ้งในใจ เฟิ่งหวงจึงติดตามถังเฉาไป เห็นประจักษ์พยานต่อกระบวนการพุ่งสูงขึ้นตลอดทาง
นี่จึงเป็นเรื่องราวของถังเฉาและเฟิ่งหวง
“ในเมื่อเรื่องราวเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เหลือเพียงสิ่งสำคัญอย่างเดียว งั้นก็ไปเถอะ ไปตระกูลต่ง!”
สายตาถังเฉาแหลมคม โบกฝ่ามือใหญ่ ไปที่ตระกูลต่งด้วยกันกับเฟิ่งหวง
ในขณะเดียวกัน ตระกูลเสิ่น
เสิ่นชิงหยุนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ตรงข้ามมีผู้อาวุโสจมูกปากนกที่ผมขาวหน้ามีเลือดฝาดคนหนึ่งนั่งอยู่ คือผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเสิ่น เสิ่นป้านซาน
ด้านหน้าของพวกเขา มีผู้หญิงคนหนึ่งนอนหงายอยู่ ใบหน้างดงาม รูปร่างผอมเพรียว
เพียงแต่สายตาที่หล่อนมองทางเสิ่นชิงหยุนและปู่เขานั้น เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เพราะบนตัวของหล่อนล้วนวางอาหารรสเลิศสารพัดอย่างเอาไว้เต็มไปหมด พร้อมให้คนรับประทาน
อยู่ที่นี่ หล่อนไม่มีสิทธิมนุษยชน เป็นเพียงภาชนะที่ใช้มาใส่อาหารเท่านั้นเอง
“คุณปู่ครับ เมื่อกี้ได้รับข่าวมา เมื่อวานตอนเย็นถังเฉากับหลินชิงเสว่เจอนักฆ่าที่ต่งอี้สิงส่งไปบุกโจมตี ตอนนี้ ถังเฉารู้แล้วว่าเป็นตระกูลต่งที่ทำ จึงรีบเข้าไปที่ตระกูลต่งแล้วครับ”
เสิ่นชิงหยุนใช้ตะเกียบคีบซาซิมิชิ้นหนึ่งขึ้นจากบนตัวผู้หญิง กินไปพร้อมกับพูดไปด้วย
“ดี!”
เสิ่นป้านซานปรบมือ หัวเราะเสียงดังพูดว่า “ไม่เสียแรงที่เป็นชิงหยุนจริงๆ หลานชายที่ดีของฉัน แบบนี้ตระกูลเสิ่นของพวกเราคงไม่ต้องทำอะไร สามารถนั่งรอรับผลประโยชน์ได้เลย”
ถูกปู่ชมเชย เสิ่นชิงหยุนยิ่งรู้สึกดีใจอยู่ภายใน และพูดต่ออีก “โดยเฉพาะผมยังรับข่าวหนึ่งมาด้วย หลินชิงเสว่นังผู้หญิงแพศยาคนนั้นประกาศเปิดเผยความสัมพันธ์กับถังเฉาว่าเป็นสามีภรรยากันที่งานแต่งของตระกูลเหวิน สองคนนั้นยังก่อเรื่องวุ่นใหญ่โตที่งานแต่งของตระกูลเหวินด้วย แย่งตัวเจ้าสาวไปแล้วครับ!”
“อะไรนะ?”
สายตาเสิ่นป้านซานแข็งทื่อฉับพลัน “ข่าวนี้เป็นเรื่องจริง?”
“จริงแท้แน่นอนครับ” เสิ่นชิงหยุนยิ้มชั่วร้าย
“เป็นสวรรค์ช่วยตระกูลเสิ่นของเราจริงๆ!”
เสิ่นป้านซานหัวเราะบ้าคลั่ง “พวกโง่ทั้งสอง ถ้าไม่เปิดเผย ใช้ชีวิตไปเงียบๆ อาจจะยังไม่เป็นอะไร คาดไม่ถึงกล้าเปิดเผย พอมาแบบนี้ อิทธิพลมากมายยิ่งมองถังเฉาเป็นศัตรู”
“พอเป็นแบบนี้ ตระกูลต่งตาย ถังเฉาก็ตาย”
รอยยิ้มบนหน้าของเสิ่นชิงหยุนยิ่งลุ่มลึก “ตระกูลซ่งมีเพียงซ่งหรูอี้ ต่อให้ร้ายกาจแค่ไหน ก็ยากจะใช้การได้ รอตระกูลเสิ่นเราฮุบตระกูลต่งได้ ตระกูลเหยียนก็ไม่มีทางต้านทานพวกเราได้ เวลานั้นมาถึง หมิงจูมีเพียงตระกูลยิ่งใหญ่เพียงตระกูลเดียว นั่นก็คือตระกูลเสิ่นของพวกเรา!”
“ฮ่าๆๆๆ……”
เสิ่นป้านซานพูดเรื่องพวกนี้ออกมาจนหน้าแดงเปล่งปลั่ง หัวเราะเสียงดังบอกว่า “ชิงหยุนอ่า ดูแล้วปู่สัญญาว่าจะมอบตำแหน่งผู้นำให้หลาน เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเลย”
“ขอบคุณครับคุณปู่!”
เสิ่นชิงหยุนดีใจยกใหญ่ รุ่นที่สองของตระกูลเสิ่นธรรมดาไม่โดดเด่น ตำแหน่งผู้นำจึงตกมายังคนโดดเด่นสุดของรุ่นที่สาม บนตัวเสิ่นชิงหยุน
เสิ่นป้านซานพูดขึ้นอีก “ชิงหยุน ถังเฉาลงมือกับตระกูลต่งนั้นแล้ว ไม่ว่าใครแพ้ใครชนะ หลานควรไปตระกูลต่งสักหน่อย จากนั้นออกหน้าไกล่เกลี่ย”
“ครับ!”
เสิ่นชิงหยุนรับปากแล้ว ก้าวใหญ่ๆ เดินออกจากตระกูลเสิ่น
……
มีคนดีใจก็มีคนกังวล
ไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนกับตระกูลเสิ่น ตระกูลต่งกลับดูหมดอาลัยตายอยาก
เรื่องที่ถังเฉาและหลินชิงเสว่เจอมือสังหารเมื่อคืนนี้ลอยมาถึงในหูของต่งอี้สิงแล้ว เวลานี้เขากำลังนั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่สบายใจ สีหน้าซีดเผือด
ในห้อง มีเพียงเขาและต่งวี่ซู่สองคนเท่านั้น
“พี่ พี่แน่ใจแล้วหรือว่าประกาศของพี่ถูกคนสกัดเอาไว้?”
สีหน้าต่งวี่ซู่เคร่งขรึม ถามด้วยเสียงทุ้ม
“แน่ใจ”
ต่งอี้สิงกัดฟันพูด “แม้แต่ประกาศฉันยังไม่ได้ลงออกไป ก็ถูกระบบสกัดเอาไว้โดยอัตโนมัติ ทำไมถึงจ้างนักฆ่ามาฆ่าถังเฉากับหลินชิงเสว่ได้ล่ะ?”
ส่วนความเป็นจริงกลับปรากฏว่านักฆ่าดักถังเฉาและหลินชิงเสว่อยู่กลางทาง เท่ากับว่าต่งอี้สิงกลายเป็นแพะรับบาปแล้ว
เดิมทีเขาไม่ได้อะไรนัก เมื่อก่อนต่งอี้สิงอยากให้ถังเฉาตาย แต่นักฆ่าที่จ้างมาความสามารถไม่ถึงขั้นทั้งหมด จึงถูกถังเฉาฆ่ากลับแล้ว นี่ช่างโง่เง่ามากๆ
เขาเปิดเผยอยู่ในที่แจ้ง จะโดนถังเฉาแก้แค้นอย่างคลุ้มคลั่งได้ทุกเมื่อ
ตึง—-
ทันใดนั้น มีเสียงดังกึกก้องลอยมาอีกครั้งหนึ่งจากด้านนอกตระกูลต่ง แม้แต่พื้นยังสั่นสะเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า
ต่งอี้สิงที่ตอนแรกโมโหเลือดขึ้นหน้าอยู่ก่อนแล้ว เวลานี้ยิ่งโมโหเดือดดาล “เสียงดังโวยวายอะไรกัน!”
“ผู้นำครับ ไม่ดีแล้ว ถังเฉามาอีกแล้วครับ ครั้งนี้พาผู้หญิงอีกคนหนึ่งมาด้วย พังประตูใหญ่ของตระกูลต่งลงแล้ว!”
รุ่นเล็กของตระกูลต่งคนหนึ่งเพิ่งเข้ามาจากด้านนอกประตู หน้าตาเต็มไปด้วยความแตกตื่นทำอะไรไม่ถูก พูดอย่างตกใจ
“อะไรนะ! ถังเฉาฆ่ากลับมาแล้ว?”
พอได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าต่งอี้สิงเปลี่ยนเป็นซีดขาว พูดถึงใคร คนนั้นก็มาทันที
ต่งวี่ซู่ไม่ได้พูดอะไร มุมปากฉีกยิ้มเยาะขึ้นนิดๆ
เขาไม่อยากเชื่อว่าถังเฉาจะมองปัญหาภายในไม่ออก แต่ยังคงเข้ามาฆ่า อธิบายได้ว่าเขาคงอยากใช้เรื่องนี้ลงมือกับตระกูลต่ง
ต่งอี้สิงและต่งวี่ซู่รีบร้อนวิ่งมาที่ประตูด้านนอก เหตุการณ์ตรงหน้า กลับทำให้พวกเขาตกตะลึงพรึงเพริด หัวใจเกือบจะเต้นหลุดออกมา
ประตูใหญ่ห่วงเหล็กสิงโตทองแดงที่สร้างขึ้นมาถึงสิบกว่าปีของตระกูลต่ง คาดไม่ถึงล้มพังเสียงดัง ฝุ่นกระจายเต็มที่
รอให้ฝุ่นควันจางหาย สามารถมองเห็นสองคนยืนอยู่อย่างทระนงองอาจแบบเลือนราง มองรอบด้านด้วยสายตาเย็นชา
ก็คือถังเฉาและเฟิ่งหวง
“ทำลายป้ายแผ่นนั้นให้แหลกละเอียดด้วย”
ถังเฉาชี้ไปยังบนแผ่นป้ายของตระกูลต่ง ป้ายติดหลังคาประตูตระกูลต่งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาครึ่งศตวรรษแผ่นนั้น ก่อนจะพูดด้วยเสียงเย็นชา
เฟิ่งหวงยกมือ กรีดบนแผ่นป้ายเบาๆ
แคว้ก—-
อักษรตัวใหญ่แปดตัวที่มีชีวิตชีวากลางแผ่นป้าย: ตระกูลต่งยืนยงตลอดกาล อายุมั่นขวัญยืน ถูกเฟิ่งหวงฟันเป็นสองท่อน ร่วงลงบนพื้น แตกเป็นเสี่ยงๆ
มองเห็นฉากนี้เข้า ต่งอี้สิงปวดใจจนทนไม่ไหว ป้ายติดประตูในสายตาของเขาซึ่งมองเหมือนของล้ำค่า สัญลักษณ์ที่หน้าประตู คาดไม่ถึงโดนถังเฉาพังย่อยยับอย่างดูถูกเช่นนี้
“ถังเฉา แกมาที่ตระกูลต่งของฉัน สรุปอยากทำอะไร?” เขาตะโกนด้วยความโมโห
ดวงตาของถังเฉามองเข้ามาอย่างหนาวเย็น พูดออกมาสามคำแบบเฉยชา
“ทำลายตระกูลต่ง”