เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 251
คำพูดของเสิ่นชิงหยุน เต็มไปด้วยความหมายข่มขู่แบบเข้มข้นมาก
ถังเฉากลับไม่มีความรู้สึกอะไร ต่งวี่ซู่มีสีหน้าอึมครึมจนเหงื่อแตกเต็มไปหมด
คนอื่นๆ ของตระกูลต่งยิ่งตกใจจนตาค้างกันหมด สั่นเทาไปทั่วตัวอย่างรุนแรง
ถึงแม้เสิ่นชิงหยุนจะขยายตัว กลับมีเหตุผลของการขยายตัว
ฮุบกิจการส่วนหนึ่งของตระกูลต่ง ทำให้ตระกูลเสิ่นที่เดิมยิ่งใหญ่เกรียงไกรอยู่แล้วยิ่งเหมือนเสือติดปีก บอกว่าเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของหมิงจูก็ไม่เกินจริง
ตระกูลซ่งยังเหลืออยู่แค่ในนาม มีเพียงซ่งหรูอี้รับหน้าที่คนเดียว ตระกูลเหยียนรั้งท้ายรอจังหวะโจมตี ตระกูลต่งยิ่งขาดต่งหนานหลิ่ง และต่งอี้สิงสองคนนี้ไป ยังต่อต้านตระกูลเสิ่นได้ที่ไหน?
“เป็นยังไงบ้าง คุณถัง?”
เสิ่นชิงหยุนมองถังเฉา หัวเราะเสียงดังถาม “ตระกูลเสิ่นของผมเอาความจริงใจออกมาแล้ว คุณว่ายังไง ก็ต้องให้ผมเห็นความจริงใจของคุณด้วยไหม?”
“นายไปได้แล้ว”
ถังเฉาพูดกับเสิ่นชิงหยุนอย่างกะทันหัน
“อะไรนะ?”
ได้ยินแบบนั้น เสิ่นชิงหยุนตะลึงก่อนทันที มองถังเฉาแบบไม่เข้าใจ
“ให้แกออกไปจากตระกูลต่งแบบมีชีวิตรอด นี่คือความจริงใจมากที่สุดที่ฉันแสดงออกมาแล้ว”
น้ำเสียงถังเฉานิ่งเฉย ชี้ไปยังประตูใหญ่ของตระกูลต่ง
ชั่วขณะนั้น พลังดุร้ายในสายตาเสิ่นชิงหยุนปะทุขึ้น พูดจาแบบแอบดูน่ากลัว “ดูแล้วนายไม่คงรู้จักผิดชอบชั่วดี อยากเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลเสิ่นของฉัน……”
หลังคำพูดนี้จบลง ถังเฉาหรี่ตาแบบไม่พอใจ ยื่นสองนิ้วออกมา
“ข้อแรก มีบางเรื่อง ฉันไม่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รู้ พวกแกตระกูลเสิ่นแอบทำอะไรลับหลัง ฉันเข้าใจแจ่มแจ้งหมดแล้ว”
“ข้อสอง……ตระกูลเสิ่นกระจอกๆ กล้ามากำเริบต่อหน้าฉัน รุ่งเรืองถึงขีดสุดย่อมตกต่ำลงมา ฉันคือคนที่จะนำความตกต่ำมาให้พวกแก!”
พูดมาถึงตอนท้าย บนตัวถังเฉาระเบิดท่วงท่าของนักบู๊ออกมาทันใด ดึงดูดผู้คนในรัศมียี่สิบเมตร ขาทั้งสองสั่นเทา หมอบอยู่แทบเท้าของถังเฉา
ต่งวี่ซู่ก็หมอบลงบนพื้น แหงนหน้ามองภาพด้านหลังของถังเฉา สีหน้าสั่นสะท้าน
นี่ถึงเป็นลักษณะของผู้แข็งแกร่ง นี่ถึงเป็นราชาที่แท้จริง
เสิ่นชิงหยุนมีอาการตื่นตกใจชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่นานก็ฟื้นกลับสู่ปกติ สีหน้าอึมครึม “งั้นนายพูดมาสิ ตระกูลเสิ่นของฉันทำอะไร?”
“นักฆ่าที่มาลอบฆ่าฉันกลางทางคนนั้น ความจริงเป็นพวกแกตระกูลเสิ่นส่งมาสินะ? คิดว่าสามารถเพิ่มความบาดหมางของฉันกับตระกูลต่งได้ รอเอาผลประโยชน์ไปครอง”
ถังเฉามองเสิ่นชิงหยุนด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะบอกไป
เรื่องมาถึงตรงนี้ เสิ่นชิงหยุนจึงไม่ปิดบังอีกต่อไป ส่งเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง “เดิมทีอยากปิดต่อไปตลอด แต่ในเมื่อโดนแกจับได้แล้ว งั้นฉันก็ไม่ซ่อนแล้ว”
“น่าเสียดาย นักฆ่าเป็นฉันหามา ทรัพย์สินของตระกูลต่งก็เป็นตระกูลเสิ่นฮุบไป แกกับตระกูลต่งเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนเส้นทางอันรุ่งโรจน์ของตระกูลเสิ่น”
“ตระกูลเสิ่นรุ่งเรืองขึ้น เป็นเรื่องธรรมดา ถึงแม้จะถูกแกรู้ความจริงเข้า แล้วยังไงล่ะ? ฉันให้โอกาสกับแกอีกครั้ง ยอมอยู่ใต้อำนาจหรือตาย!”
เผชิญหน้ากับเสิ่นชิงหยุน ถังเฉากลับหัวเราะเบาๆ “ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกแกตระกูลเสิ่นคิดอะไร จะไม่เตรียมพร้อมไว้ได้ยังไงกัน?”
“แกเป็นเด็กกำพร้าในตระกูลเล็กๆ คนหนึ่ง มีอะไรเตรียมไว้ได้?”
สายตาเสิ่นชิงหยุนเหยียดหยาม พูดจาดูถูก “ที่พึ่งทั้งหมด ไม่ใช่พึ่งหลินชิงเสว่ผู้หญิงที่รวยมากคนนั้นเองเหรอ ตระกูลเสิ่นของฉันอยากให้ลี่จิงกรุ๊ปล้มละลาย นั่นก็เพียงแค่เรื่องกระดิกนิ้วมือเท่านั้น”
คำพูดของเสิ่นชิงหยุนทำให้ต่งวี่ซู่จมสู่การครุ่นคิดแล้ว
ชั่วเวลาไม่นานนัก เขาก็เหมือนกับทุกคน ล้วนคิดว่าถังเฉาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ตระกูลเล็กๆ ยังสะบัดทิ้ง ผลสุดท้ายล่ะ?
ซ่งเทียนซานกลายเป็นผัก ต่งอี้สิงตายแล้ว ตระกูลเหวินพังทลายลง
ส่วนถังเฉายังคงมีชีวิตอยู่ดี มีความสุขเต็มอิ่ม
พึ่งพาเพียงแค่หลินชิงเสว่เหรอ?
ต่งวี่ซู่ไม่เชื่อ
หากเสิ่นชิงหยุนไม่มีทางเข้าใจเรื่องราวนี้ออกมาได้ อย่างนั้นสักวันหนึ่ง เขาคงได้เดินตามหลังคนเหล่านี้ไป
วันนี้ คงอีกไม่นานนัก
“ฉันจะรอเพียงวันเดียว”
เสิ่นชิงหยุนยื่นนิ้วหนึ่งออกมา มองที่ถังเฉาพูดว่า “ภายในหนึ่งวัน เอาทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลต่งที่ยอมจำนนให้แก ส่งมาที่คฤหาสน์ตระกูลเสิ่น ไม่อย่างนั้นรอเจอหายนะทั้งบ้านได้เลย!”
พูดจบก็ขึ้นรถออกไป
ต่งวี่ซู่ลุกขึ้นจากพื้น สีหน้าอึมครึม “คุณถังครับ ต่อจากนี้พวกเราต้องทำอย่างไรครับ?”
ถังเฉาส่ายหน้า “นายไม่ต้องกังวลเรื่องตระกูลเสิ่น ทำหน้าที่ผู้นำตระกูลต่งของนายให้ดี ทรัพย์สินบางส่วนที่ตระกูลเสิ่นฮุบไป อีกไม่กี่วันจะกลับคืนมา ถึงตอนนั้นจะมีงานให้นายทำ”
“คุณถัง คุณหมายความว่า—-”
ต่งวี่ซู่มองถังเฉาด้วยสีหน้าตื่นเต้นเต็มที่ ท่าทีที่สบายอกสบายใจเช่นนี้ เขารู้ว่าเดิมทีถังเฉาไม่ได้เห็นตระกูลเสิ่นอยู่ในสายตา
ถังเฉาไม่ได้อธิบาย เพียงแต่ส่ายหน้า พูดจาเรียบเฉย “นายแค่ต้องจำเอาไว้ประโยคหนึ่งก็พอแล้ว ความเป็นความตายของตระกูลเสิ่นยังคงควบคุมอยูในมือฉัน”
“ครับ!”
ต่งวี่ซู่รีบพยักหน้าทันที หลังจากตระกูลต่งเกิดความเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ทุกอย่างที่ทรุดโทรมไปได้รับการฟื้นฟูดังเดิม ต่อนี้ไปมีเรื่องให้เขาทำมากมาย
ระหว่างทางกลับไป ถังเฉาถามขึ้นกะทันหัน “นักฆ่าพวกนั้น จะมาถึงหมิงจูได้เมื่อไร?”
เฟิ่งหวงมองดูปฏิทิน “ตารางเวลาของเมืองใหญ่นานาชาติถึงหมิงจูคือประมาณสามชั่วโมงถึงเจ็ดแปดชั่วโมงค่ะ วันนี้น่าจะมีนักฆ่าชุดแรกมาถึงได้”
“ดีมาก”
ถังเฉาพยักหน้า “งั้นฉันจะรอฟังข่าวดีของเธอ”
ในขณะเดียวกัน รถของเสิ่นชิงหยุนขับอยู่บนถนนอย่างสบายอารมณ์
คิดดูแล้ว เขาก็โทรศัพท์ไปหาเสิ่นป้านซาน
“คุณปู่ครับ ผมไม่สามารถช่วยต่งอี้สิงไว้ได้ แต่ตระกูลต่งก็ยอมอยู่ใต้อำนาจต่อถังเฉาแล้ว ผมให้เวลาถังเฉาไปพิจารณาหนึ่งวัน พรุ่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ตก เอาทรัพย์สินของตระกูลต่งมามอบให้ตระกูลเสิ่น”
ผลลัพธ์นี้เสิ่นป้านซานจะต้องไม่พอใจมาก แต่เขากลับเงียบงันอยู่นาน จากนั้นพูดมาว่า “ก็ดี ตระกูลเสิ่นของเรารอเขาอีกสักวัน ถ้าพรุ่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถังเฉาไม่ปรากฏตัว ก็รีบลงมือกับลี่จิงกรุ๊ปทันที พังทำลายแบบไม่ต้องเสียดายทุกอย่าง!”
“ครับ”
บนหน้าเสิ่นชิงหยุนมีความโหดร้าย เขาตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ไม่ว่าถังเฉาจะนำทรัพย์สินของตระกูลต่งมอบออกมาหรือไม่ พรุ่งนี้พระอาทิตย์ตก เขาจะลงมือกับลี่จิงกรุ๊ป
“พอเป็นแบบนี้ การประกาศตัวเป็นใหญ่ของตระกูลเสิ่นก็สำเร็จแล้ว……”
เสียงของเสิ่นป้านซานมีความปลื้มใจ เสิ่นชิงหยุนอยากพูดอะไรสักหน่อยตอนที่เหล็กยังร้อนอยู่ ทันใดนั้น ในสายโทรศัพท์มีเสียงร้องโหยหวนของปู่ลอยมา
“อ่า—-แกเป็นใคร ถึงกล้าบุกเข้ามาในตระกูลเสิ่นของฉัน!”
“รีบเข้ามา ใครก็ได้—-”
เสียงของเสิ่นป้านซานเปลี่ยนไปตกใจทำอะไรไม่ถูกในแวบเดียว มีความหวาดผวาที่เข้มข้น
เสิ่นชิงหยุนสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่เช่นกัน “คุณปู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วครับ”
“ตุ๊ดๆๆ—-”
แต่ทว่าโทรศัพท์กลับตัดไปแบบผิดปกติ
เสิ่นชิงหยุนร้อนใจอย่างมาก รีบบอกกับคนขับรถ “รีบกลับตระกูลเสิ่น คุณปู่เกิดเรื่องแล้ว!”
รถยนต์เพิ่มความเร็วฉับพลัน มองเห็นภาพสองข้างทางถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว เสิ่นชิงหยุนอดจมสู่การครุ่นคิดไม่ได้
เขาคิดไม่ออก ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของหมิงจู สรุปเป็นใครใจกล้าขนาดนี้ คาดไม่ถึงบุกมาหาเรื่องตระกูลเสิ่น
ตอนที่รถใกล้ไปถึงตระกูลเสิ่น โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณชาย รีบหนีครับ อย่ากลับมาที่ตระกูลเสิ่นเด็ดขาด!”
พอได้ยินเสียงผู้ดูแลบ้านที่จงรักภักดีที่สุดข้างกายปู่ หัวใจของเสิ่นชิงหยุนพะวงขึ้นมาทันที ถามต่อไป “ลุงหยาง สรุปเกิดอะไรขึ้นแล้ว?”
คำตอบของลุงหยางกลับทำให้หัวใจเขาหน่วงไปทันใด
“นักฆ่ามาที่บ้านแล้วครับ”