เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 259
ภาพที่ท่านดาบตาบอดโดนถีบกระเด็นทีหนึ่ง ฝังลงลึกอยู่ในหัวสมองของเสิ่นป้านซานและเสิ่นชิงหยุน ทำให้จิตใจพวกเขาสั่นรุนแรง หัวใจเต้นรัว สยองขวัญจนหดไปทั้งตัวแบบยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ท่านดาบตาบอดมีชื่อเสียงมายาวนาน เป็นนักพเนจรชื่อดังผู้มีฝีมือดี เพื่อจ้างเขาลงมือ เสิ่นป้านซานยอมติดหนี้บุญคุณอันมหาศาล ทั้งยังให้เขาพาเหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ในสังกัดมาทั้งหมด เพื่อฆ่าถังเฉาให้ตายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่พออยู่ในน้ำมือของถังเฉา คาดไม่ถึงท่านดาบตาบอดและเหล่าลูกศิษย์ของเขาต้านได้ไม่ถึงรอบหนึ่ง ก็พ่ายแพ้ทั้งกองทัพแล้ว ผลสรุปนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึง
เสิ่นชิงหยุนยิ่งตกใจจนตัวสั่นเทาไปหมด เดิมทีคิดว่าเฟิ่งหวงเก่งกาจมากพอแล้ว นึกไม่ถึงถังเฉายังเก่งกาจกว่า
“แกอย่าได้ใจไป! คิดว่าแบบนี้ตระกูลเสิ่นของฉันจะไม่มีวิธีจัดการแกงั้นเหรอ?”
สีหน้าเสิ่นป้านซานเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีดขาว ชี้หน้าตะคอกใส่ถังเฉา
“อ่อ งั้นแกเอาวิธีของแกออกมาสิ”
ถังเฉามองดูเวลาแล้วพูดอย่างสบายอารมณ์ “ตอนนี้เพิ่งสองทุ่ม ฉันยังมีเวลาเล่นเป็นเพื่อนแกอีกสองชั่วโมง”
น้ำเสียงที่ไม่สะทกสะท้าน ยิ่งทำให้เสิ่นป้านซานโมโหจนหางตากระตุก
“ถังเฉา สรุปแกอยากจะเอายังไงกันแน่?”
เวลานี้ ลุงหยางผู้ดูแลบ้านที่อยู่ด้านหลังเสิ่นป้านซานก้าวขึ้นมาทันใด จ้องถังเฉาอย่างเย็นชา
“ไม่ใช่ฉันอยากเอายังไง แต่เป็นพวกแกตระกูลเสิ่นอยากจะเอายังไงกัน”
ถังเฉาพูดนิ่งๆ “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ล้วนเป็นพวกแกตระกูลเสิ่นได้คืบจะเอาศอก พูดกลับไปกลับมา คิดว่าใช้วิธีตบตาได้ ความเป็นจริงฉันรู้แบบแจ่มแจ้งแล้ว เหตุการณ์ในตอนนี้ เป็นพวกแกสร้างขึ้นมา!”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมพวกเราไม่ต่างถอยคนละก้าว?”
สีหน้าเสิ่นป้านซานอึมครึม พูดกับถังเฉา “แกปล่อยพวกเราออกไปแบบปลอดภัย พวกฉันตระกูลเสิ่นจะไม่เป็นศัตรูกับแก เติบโตไปอย่างสงบ”
“นายท่านเสิ่นพูดตลกแล้ว ฉันเคยกักพวกแกไว้ตั้งแต่เมื่อไร?”
ถังเฉายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มกลับดูหนาวเย็น “เป็นแกที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย อยากแก้แค้นเพื่อหลานชายของแก ถึงทำเรื่องที่ไม่ตายไม่เลิกขึ้นมาในตอนนี้ ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วเหรอ? สายไปแล้ว!”
เสิ่นป้านซานสั่นไปทั่วตัว สีหน้าดุร้ายในชั่วพริบตา “ถังเฉา แกรังแกคนอื่นหนักเกินไป!”
“คุณปู่ คุณปู่รีบคิดหาวิธีเร็ว พวกเราลงมือกับเมียของมันไปแล้ว มันคงไม่ปล่อยพวกเราไปแน่”
เสิ่นชิงหยุนพูดด้วยสีหน้าซีดเผือด “ตระกูลเสิ่น จะพังทลายอยู่ในมือของมัน!”
กลัวแล้ว เขากลัวจริงๆ
หลายวันมานี้ แต่ละครั้งเขาคิดว่าระยะห่างจากความตายมันช่างใกล้ขนาดนี้ ความรู้สึกของการเต้นรำอยู่บนเชือกเหล็กแบบนี้ ทำให้เขาแทบหยุดหายใจ
ป้าบ!
เสิ่นป้านซานตบลงบนหน้าของเสิ่นชิงหยุนทีหนึ่ง โมโหยกใหญ่ “ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นแกที่หาเรื่องขึ้น เพราะฉันเชื่อคำพูดยุยงของแก!”
“แต่ตระกูลเสิ่นยิ่งใหญ่เกรียงไกรกว่าแต่ก่อนจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?” เสิ่นชิงหยุนกัดฟันอย่างไม่พอใจ พูดขึ้น
เสิ่นป้านซานอยากจะพูดอะไรอีก ลุงหยางที่ด้านหลังกลับก้าวเข้ามาก่อน พูดกับเสิ่นป้านซานว่า “นายท่านครับ หรือว่าท่านลืมไพ่ใบสุดท้ายแล้วเหรอครับ? มีเพียงคนคนนั้นถึงสามารถทำการ’ฆ่าคนโดยสมบูรณ์แบบ’ได้!”
เสิ่นป้านซานลังเลอยู่นาน สุดท้ายยังตัดสินใจเฉียบขาด “งั้นให้หล่อนออกมาเถอะ!”
แสงคมกริบในสายตาลุงหยางแวบผ่านไป จากนั้นมองทางถังเฉา “ฉันขอเตือนแกว่าดีที่สุดยอมแพ้ต่อตระกูลเสิ่นให้ไว ไพ่ใบสุดท้ายของตระกูลเสิ่นต่อไปนี้ เดิมทีไม่ใช่คู่แข่งแก!”
ถังเฉาหัวเราะแล้ว “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นให้ฉันได้เห็นสักหน่อย ให้พวกแกตระกูลเสิ่นหมดหวังถึงที่สุด”
“โอหัง!”
เสิ่นป้านซานดวงตาโกรธเคืองเบิกโต ตะโกนเสียงดัง “ยายหนอนพิษ ยังไม่รีบลงมืออีก?”
“……”
แต่ทว่าทุกอย่างยังเงียบกริบ ไม่มีเงาคนปรากฏตัวสักนิด
เสิ่นป้านซานขมวดคิ้วแน่นมาก รู้สึกกระอักกระอ่วน และตะโกนออกไปอีกที “ฉันรู้ว่าเธอมาถึงแล้ว รีบๆ ลงมือเข้า!”
ยังคงไม่มีเสียงแม้แต่น้อยเข้ามา
“รองหัวหน้า ต่อไปให้ฉันลงมือเถอะค่ะ”
เฟิ่งหวงยิ้มเยาะ ขอเพียงถังเฉาพยักหน้า เธอสามารถจบชีวิตของสองคนนี้แบบง่ายดาย
ทว่าทั้งๆ ที่ไม่มีคนปรากฏตัวขึ้นมาสักนิด ถังเฉากลับจมสู่ความเงียบงัน
“เดี๋ยวก่อน” เขาห้ามเฟิ่งหวงเอาไว้
“ยังต้องรออะไรอีกคะ?”
เฟิ่งหวงทำหน้าตาสงสัย เสิ่นป้านซานตะโกนเรียกหลายรอบขนาดนี้ ล้วนไม่เห็นคนลงมือ อย่างมากคงแค่สร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา
เสิ่นป้านซานร้อนใจจนเหงื่อเต็มหน้า ตนเองเรียกไปหลายรอบขนาดนี้ ทำไมไม่เห็นแม้แต่เงาคนเลยสักนิด
ลุงหยางกลับหัวเราะแบบผิดปกติ “หล่อนมาแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่เห็นหล่อนเท่านั้นเอง”
ห้องใต้ดินที่เงียบสงบ กลับมีเสียงสวบสาบที่ผิดปกติลอยมากะทันหัน เหมือนมีตัวอะไรคลานเข้ามาแล้ว
ในสายตาถังเฉามีแสงเฉียบแหลมแวบผ่าน จากนั้นหยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง ดีดออกไปจากนิ้ว
ปิ้ว—-
เสียงตึกดังทีหนึ่ง หินก้อนนั้นไวดุจลูกกระสุน ดีดโดนบนตัวเป้าหมาย
“ซี๊ด—-”
จากนั้นทุกคนได้ยินเสียงร้องโหยหวนเบาๆ เสียงหนึ่ง ห้องใต้ดินที่เงียบเหงา เห็นได้ชัดว่าสะดุดตามาก นี่เป็นเสียงร้องของมนุษย์แน่นอน
ทุกคนหันหน้าไปมอง เห็นเพียงหนอนทองที่อวบอ้วนตัวหนึ่งขาชี้ฟ้า นอนอยู่บนพื้น
ปีกของมันยังกระพือสั่นไหว ทำอย่างไรก็ลุกไม่ขึ้น ท้องแตกเป็นรูใหญ่ มีเลือดสดสีเขียวไหลออกมา
“หนอน?”
นอกจากถังเฉา คนในเหตุการณ์หน้าตาดูแปลกใจเต็มที่
ทันใดนั้นเสิ่นชิงหยุนเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ สีหน้าเปลี่ยนไปตกใจหวาดกลัวฉับพลัน
“คิๆ ฮิๆๆ—-”
เสียงเด็กผู้หญิงหัวเราะที่ชัดแจ๋วดังขึ้น ทุกคนต่างสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เสียงหัวเราะของหล่อนผิดปกติที่สุด ราวกับปกคลุมเต็มแต่ละมุมห้องแห่งนี้ เดิมทีกลับไม่เห็นภาพเงาของหล่อน
สายตาเฟิ่งหวงอึมครึม “เสียงหัวเราะนี้คือ…..”
“อืม คือหล่อน”
ถังเฉาหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันบอกแล้ว ถ้ามีโชคชะตาต่อกัน จะได้เจออีกครั้ง”
เฟิ่งหวงไม่พูดจา เพียงแค่ในมือมีมีดที่เย็นเฉียบเล่มหนึ่งเพิ่มเข้ามา
“ที่แท้คนที่ต้องฆ่าก็คือพวกเธอ ช่างบังเอิญเสียจริง”
เสียงหัวเราะของเด็กสาวยังคงปกคลุมไปทุกมุมห้อง “มาหาฉันสิ พวกนายหาฉันไม่เจอ แล้วจะสู้กับฉันยังไง? ฮิๆ—-”
ถังเฉาถือโอกาสหยิบก้อนหินขึ้นมาอีก ดีดเข้าไปทางที่มืดไร้แสงแห่งหนึ่ง
“โอ๊ย!”
เด็กสาวรู้สึกเจ็บทันที จับศีรษะไว้เดินแล้วออกมาจากที่มืดมิดของมุมหนึ่ง มองถังเฉาด้วยใบหน้าโกรธเคือง “นายกล้าเอาก้อนหินมาปาฉัน?”
ป้าบ—-
หินอีกก้อนหนึ่งปาไปบนศีรษะของหล่อนแล้ว มีรอยโนขนาดใหญ่ปูดขึ้นมาทันที
“อ๊ะ! นายยังปาอยู่อีก?”
เด็กสาวยิ่งโกรธแค้นหนัก พองแก้มขึ้น จ้องมองด้วยสายตาโมโห
หล่อนใส่เสื้อแบบจีนสีแดงตัวใหญ่ที่ปักลายสัตว์พิษห้าชนิด บนคอห้อยกุญแจอายุยืนที่แกะสลักอักษรซับซ้อนไว้ ที่เท้าสวมรองเท้าปักดอกไม้สีแดงแบบโบราณ คือหงโฝก่อนหน้านี้
“ใช่ เป็นหล่อน……ยัยปีศาจน้อยคนนี้…….”
พอมองเห็นเป็นหงโฝ เสิ่นชิงหยุนตกใจจนสีหน้าซีดเซียว พูดไม่ปะติดปะต่อกัน
เสิ่นป้านซานตะลึงนิดหน่อย “พวกแกรู้จักกัน?”
หงโฝมองเห็นเสิ่นชิงหยุนแล้ว ชั่วขณะนั้นหรี่ตาหัวเราะขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ฉันเป็นพวกเดียวกับนาย ปู่ของนายให้ราคาสูงที่สุดกับฉัน ถ้าฉันช่วยฆ่าคนคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเป็นเขา”
ชั่วพริบตาเดียวเสิ่นชิงหยุนจึงโล่งอกไป แต่ยังมองเด็กสาวที่อารมณ์แปรปรวนคนนี้ด้วยความระมัดระวัง
ถังเฉาหัวเราะแล้ว มองหงโฝอยู่พลางถามไป “เธออยากฆ่าฉัน?”
“แน่นอนสิ”
หงโฝทำหน้าตาจริงจัง ในเมื่อมาปฏิบัติภารกิจ ในอ้อมอกของหล่อนยังไม่ลืมกอดนมเปรี้ยวกล่องหนึ่งมาด้วย “คนที่ฉันอยากฆ่า ยังไม่มีใครสามารถหนีรอดได้”
“งั้นเหรอ?”
บนหน้าถังเฉามีรอยยิ้มที่เรียบเฉย “ไม่รู้ว่าเธอกับผู้ติดตามของฉันแข่งกัน ใครจะแกร่งใครจะอ่อน?”
เสี้ยววินาทีต่อมา สายตาของถังเฉาหนาวเหน็บทันใด “เฟิ่งหวง ตอนนี้ลงมือได้แล้ว สั่งสอนเด็กผู้หญิงที่ไม่มีใครสั่งสอนคนนี้ให้หนักๆ!