เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 270
คนเหล่านี้ล้วนเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลหวาง ถึงแม้ว่าลักษณะภาพรวมจะสู้ตระกูลต่ง ตระกูลเสิ่น ตระกูลยักษ์ใหญ่ระดับนั้นไม่ได้ แต่ยังสามารถสกัดกั้นฟางหย่าและถังชิงเหอผู้หญิงบอบบางสองคนไว้ได้
ตอนนี้พวกเธอค่อยๆ ถอยหลัง มองหวางหมิ่นเหวินและลูกชายด้วยสีหน้าซีดเซียว “ทุกอย่างนี้เป็นเหตุการณ์ที่แกวางแผนไว้”
“ถูกต้อง เขามีความแค้นกับตระกูลหวางของฉันมานาน ฉันจะคืนดีกันได้ยังไง?”
หวางหมิ่นเหวินดื่มเหล้าไปด้วย ยิ้มพูดแบบไม่สนใจไปด้วย “แต่ว่าภรรยาของเขาคือหลินชิงเสว่ ต่อให้เป็นฉัน ก็ต้องชั่งน้ำหนักดู ดังนั้นฉันเลยนึกถึงแผนการอันนี้ขึ้นมา งานเลี้ยงฉลองนี้ เดิมทีเป็นแผนการที่ฉันทำเพื่อแก้แค้นถังเฉา”
“แกต่ำทรามมาก!”
ฟางหย่าถลึงตาใส่หวางหมิ่นเหวินแบบหน้าตาโกรธเคืองเต็มที่ ร่างกายกลับคุ้มครองถังเฉาเอาไว้ด้านหลังไม่ขยับ
“ต่ำทราม? ฮ่าๆ ขอบใจที่ชม!”
หวางหมิ่นเหวินหัวเราะยกใหญ่ “เดิมทีอยากดึงหลินชิงเสว่ให้ติดร่างแห่มาด้วย หล่อนเก่งกาจแค่ไหน ก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง อยากจะทำลายหล่อนยังง่ายมาก น่าเสียดายที่หล่อนไม่ได้มา แต่ปัญหาไม่ได้มากเท่าไร อย่างไรเสียเป้าหมายของฉันก็เป็นเพียงถังเฉาคนเดียว!”
ถังชิงเหอนั่งลงดังตุบที่ข้างกายฟางหย่า มองฝ่ามือของตนเอง บ่นพึมพำกับตนเอง “เป็นฉัน ทำลายคุณถัง……”
“ไม่ผิด ถังเฉามีวันนี้ได้ เธอมีคุณูปการอันใหญ่หลวง”
หวางเยี่ยมาที่ตรงหน้าของถังชิงเหอ มองหล่อนจากบนลงล่าง “ถ้าพวกเราเคารพเหล้าให้เขาไป เขาจะต้องระวังมากแน่ แต่เธอจะไม่เป็นไร เพราะเขาชื่นชมเธอมาก จะต้องนึกไม่ถึงว่าในเหล้าที่เธอเอาไปเคารพเขาจะใส่ยานอนหลับไป”
“เขาเป็นคนที่ฝึกการต่อสู้มา เพื่อป้องกันเขาตื่นขึ้นมา ฉันยังตั้งใจเพิ่มปริมาณยาเป็นพิเศษด้วย ไม่นอนไปสิบกว่าชั่วโมง เขาจะไม่ตื่นมาแน่ ดังนั้นพวกเธอไม่ต้องหวังว่าเขาจะตื่นมาได้ ฮ่าๆๆๆ……”
พูดมาถึงช่วงหลัง หวางเยี่ยหัวเราะขึ้นมา สายตาอดมองไปบนหน้างดงามของถังชิงเหอและฟางหย่าโดยอัตโนมัติไม่ได้ เลียริมฝีปากแล้ว
ถ้าสามารถครอบครองสาวงามสองคนในคืนหนึ่งได้ งั้นชาตินี้ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีก
“ขอโทษ ขอโทษ……”
ร่างกายถังชิงเหอสั่นเทาอย่างรุนแรง ปิดหน้าไว้พูดขอโทษกับฟางหย่าติดๆ กัน
“คุณถัง นี่ไม่เกี่ยวกับคุณเลย เป็นพวกเขาที่ไร้จิตใจกัน”
ฟางหย่าโอบถังเฉาไว้แน่น พูดปลอบใจสักหน่อย ทันใดนั้นกัดฟันมองทางหวางหมิ่นเหวินและหวางเยี่ย “พวกแกทำขนาดนี้ ไม่กลัวโดนกรรมตามสนองเหรอ?”
“กรรมตามสนอง? ฮ่าๆๆ……”
หวางเยี่ยเหมือนได้ยินเรื่องตลกอะไรที่น่าขำเข้า หัวเราะแบบเพิ่มความคลุ้มคลั่ง
แวบหนึ่ง เสียงหัวเราะหยุดลงฉับพลัน สีหน้าหวางเยี่ยเย็นชา “ขอโทษนะ ฉันไม่เคยเชื่อเรื่องล้อเล่นนี้ โดยเฉพาะเธอคิดว่ามีแค่ฉันกับพ่อสองคนที่อยากให้เขาตายเหรอ?”
หลังจากคำพูดนี้ออกมา ฟางหย่ากับถังชิงเหอเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เงยหน้าขึ้นมองหวางเยี่ยทันที
“เสี่ยวเยี่ย เกือบได้เวลาแล้ว ควรให้’บรรดาแขก’ออกมาได้แล้ว”
หวางหมิ่นเหวินดื่มไวน์ชั้นดีในแก้วจนหมดในทีเดียว ยิ้มกริ่มบอก “พวกเขาน่าจะรอไม่ไหวแล้ว”
“ครับ คุณพ่อ”
หวางเยี่ยรับปากไป จากนั้นออกไปจากงานเลี้ยงแล้ว
สิบนาทีต่อมา จึงพาคนกลุ่มใหญ่ที่ลักษณะท่าทางดุดันเดินเข้ามา
เห็นใบหน้าคนเหล่านี้ ฟางหย่าและถังชิงเหอสีหน้าซีดขาวลง ร่างกายสั่นเทารุนแรงขึ้นมาด้วย
พวกเขาล้วนเป็นศัตรูที่เคยมีความแค้นกับถังเฉาเมื่อสมัยก่อน
ส่วนมากฟางหย่าและถังชิงเหอไม่รู้จัก แต่มีสองคนที่พอรู้จัก
คาดไม่ถึงว่าเป็นคุณชายตระกูลฉางที่ถูกฆ่ายกครัว ฉางเซ่าเฟิงและฉางเว่ย
ฉางเซ่าเฟิงใช้ไม้เท้าค้ำยัน เดินเหินแปลกๆ เนื่องจากเคยโดนเฟิ่งหวงถีบจนเส้นเลือดขาขาด
ส่วนฉางเว่ยยิ่งย่ำแย่กว่า ร่างกายอ่อนปวกเปียก ราวกับสูญเสียกระดูกไปทั้งตัว เหมือนหนอนแก้วที่ทำได้เพียงคลานเอา และไม่สามารถเดินเหิน
เขาเคยพยายามลักพาตัวหลินชิงเสว่ แต่เนื่องจากข่าวคราวผิดพลาด จึงลักพาตัวหลินจ้าวหยูนไปแทน ถูกถังเฉาทำกระดูกหักไปทั้งตัว รวมทั้งกระดูกสันหลัง ชาตินี้ไม่สามารถเดินได้ ได้แต่คลานเหมือนสัตว์ต่ำต้อย
คนอื่นๆ ฟางหย่ากับถังชิงเหอไม่รู้จัก แต่พวกเธอรู้ว่าจะต้องเป็นคนที่มาแก้แค้นถังเฉาแน่
“ฉันจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักแขกคนสำคัญเหล่านี้สักหน่อย”
หวางหมิ่นเหวินอารมณ์ดีมาก ชี้ไปยังกลุ่มคนด้านหลังหวางเยี่ยบอกว่า “คุณชายสองท่านของตระกูลฉาง พวกเธอคงรู้จักกันแล้ว ไม่ต้องแนะนำ เริ่มจากนายท่านเจิ้ง—-”
เขาชี้ไปยังคนที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม ผู้อาวุโสผมหงอกและพูดว่า “ท่านนี้คือผู้นำของตระกูลเจิ้งเมืองซ่างเฉิง นายท่านเจิ้ง หลังจากที่รู้แผนการนี้ ก็รีบเข้าร่วมกับฉันอย่างไม่ลังเลสักนิด”
“ตระกูลเจิ้งของเมืองซ่างเฉิง?”
ฟางหย่ามองเจิ้งเทียนเฉิงด้วยสายตาตื่นตระหนก เธอเคยได้ยินตระกูลเจิ้ง เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหมิงจู คาดไม่ถึงเพราะถูกถังเฉาฆ่ายกครัว
“เขาไม่เพียงฆ่าตระกูลเจิ้งของฉันยกครัว ยังบีบหลอกฉันใช้ปืนยิงหลานชายคนเดียวของฉันตายกับมือตัวเอง ฉันจะไม่ปล่อยเขาไปเด็ดขาด”
ผมหงอกเจิ้งเทียนเฉิงปลิวขึ้น ในสายตามีความแค้นเคืองอย่างหนักหน่วง มองถังเฉาที่อยู่ด้านหลังฟางหย่า เสียงหนาวเหน็บ
“ต่อมาคือเหวินเหรินวี่ของตระกูลเหวิน จ้าวซุนเซิงของตระกูลจ้าว ยังมี—-หลิ่วเซียน”
หวางหมิ่นเหวินแนะนำสามคนพร้อมกัน
เหวินเหรินวี่ จ้าวซุนเซิง ยังมีหลิ่วเซียน ถึงแม้ว่าไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาที่เย็นชา เพียงพอที่จะอธิบายความอาฆาตแค้นของพวกเขาได้
ในบรรดาสามคนนี้ คนที่เกลียดถังเฉาที่สุดคือหลิ่วเซียน หล่อนถูกเฟิ่งหวงตี แต่ตระกูลจ้าวไม่เพียงไม่ได้ช่วยเหลือหล่อน กลับยอมสละชีวิตหล่อน ให้หล่อนไปก้มหัวขอโทษที่ตระกูลหลินด้วยตนเอง
ต่อมาคือเหวินเหรินวี่
ตระกูลเหวินมาตายเพราะถังเฉา ตอนนี้เขากลายเป็นหมาข้างถนน แม้แต่ที่พักของกินยังเป็นปัญหา
สุดท้ายคือจ้าวซุนเซิง
เนื่องจากว่าช่วยออกหน้าแทนเหวินเหรินวี่ จึงถูกจ้าวเย็นหรานที่ถังเฉาเชิญมาด่าว่ายกหนึ่ง และตำแหน่งที่ตระกูลจ้าวตกฮวบลงมา
“คนเหล่านี้เป็นผู้ฝีมือเยี่ยมยอดของสมาคมการต่อสู้”
หวางหมิ่นเหวินชี้ไปยังหลายคนที่สวมชุดสมาคมการต่อสู้แล้วพูดขึ้น
คนที่เป็นหัวหน้า บนหน้าพันผ้าพันแผลหนาๆ คือหม่าจงที่ถูกถังเฉาใช้กระดาษกรีดใบหน้า
ส่วนคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะเจ็บไม่ร้ายแรงเท่าหม่าจง แต่ก็แขนหักขาหักกัน
“ท่านนี้ ประธานฟางน่าจะคุ้นเคยดี”
ทันใดนั้น หวางหมิ่นเหวินเปลี่ยนหัวข้อทันที ชี้ไปยังผู้หญิงที่พันผ้าพันแผลหนาไว้บนหน้าคนหนึ่ง
“เธอคือ?”
เพราะมองไม่เห็นใบหน้า ดังนั้นฟางหย่าจึงจำหน้าของหล่อนไม่ได้
“ฟางหย่า นังแพศยา แม้แต่ฉันแกยังจำไม่ได้เหรอ?”
เสียงหญิงสาวเคียดแค้น พูดจาอึมครึมและเย็นชา
ฟางหย่าสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ทันใด “ซุนเสว่ เธอเองเหรอ?”
ผู้หญิงคนนี้ คือซุนเสว่ที่เมื่อก่อนเป็นรองประธานเหมือนกันกับเธอ เพียงแต่ว่าเพราะสาเหตุของโครงการของสำนักงานการก่อสร้าง จึงถูกหลินชิงเสว่ไล่ออก
ต่อมาที่งานเลี้ยงตระกูลซ่ง ถูกเฟิ่งหวงทำให้เสียโฉม
“ฉันเอง ฟางหย่า แม้แต่ในความฝันฉันยังอยากให้แกตาย!”
เสียงของซุนเสว่แหลมและเศร้ารันทดดุจปีศาจร้าย “ถ้าไม่ใช่แก ฉันคงไม่เสียตำแหน่งของรองประธานไป และจะไม่โดนถังเฉาคนสารเลวนั้นทำเสียโฉม ยิ่งจะไม่ถูกพ่อไล่ออกจากตระกูลซุนด้วยตัวเอง แกต้องรับผิดชอบทั้งหมด!”
ในสายตาฟางหย่ามีความตื่นตกใจที่รุนแรง เวลานี้พูดไม่ออกเลยสักคำเดียว
ที่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ คือซุนเสว่เอาความเจ็บปวดที่ถังเฉานำมาให้หล่อน มาลงที่ตัวฟางหย่าทั้งหมดแล้ว
“มีคนมากขนาดนี้อยากให้ถังเฉาตาย เพราะแบบนี้ นี่คือผู้ที่รับการสนับสนุนจากผู้คน!”
สายตาที่หวางหมิ่นเหวินมองถังชิงเหอและฟางหย่าหนาวเหน็บ “พาพวกหล่อนลงไปก่อน ขังไว้ในห้อง รอจัดการถังเฉาเสร็จ ค่อยมาจัดการพวกหล่อนต่อ!”
“ครับ!”
บอดี้การ์ดของตระกูลหวางรีบเดินไปทางฟางหย่าและถังชิงเหอทันที
“พวกแกจะทำอะไร!”
ถังชิงเหอและฟางหย่ารีบคุ้มครองด้านข้างซ้ายขวาของถังเฉาไว้ สีหน้าตกใจและหวาดกลัว
“ทำอะไร?”
หวางเยี่ยหัวเราะเยาะ “แน่นอนว่าฆ่าเขาก่อนน่ะสิ จากนั้นมาเสพสุขกับพวกเธอสาวงามสองคน!”
“คุณชายหวาง ฟางหย่าเอามาให้ฉันสั่งสอน รับประกันว่าจะสั่งสอนให้แจ่มชัดแน่”
สายตาซุนเสว่เคียดแค้น พูดจาลับลมคมใน
“งั้นฝากคุณแล้วนะครับ คุณซุน”
หวางเยี่ยรีบมองทางเหล่าบอดี้การ์ดทันที “จับพวกหล่อนเอาไว้”
ฟางหย่าและถังชิงเหอหลับตาแน่นกันแล้ว ขณะเดียวกันยังกอดถังเฉาเอาไว้แน่นด้วย
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
แต่ตอนที่บอดี้การ์ดของตระกูลหวางจะจับพวกเธอ เสียงตะโกนทุ้มต่ำดังขึ้นมากะทันหัน
ได้ยินเสียงตะโกนอันนี้ ทุกคนในเหตุการณ์ตกตะลึงกันในชั่วขณะนั้น หรี่ดวงตาอันตรายขึ้นมาฉับพลัน
“ต่งวี่ซู่ นี่นายหมายความว่าอะไร?”