เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 278
หลินชิงเสว่ยังยืนอยู่ที่เดิม รอยยิ้มบนหน้าของเธอชะงักลง
สีหน้าของถังเฉาเย็นชาขึ้นมาทันที เขาเดินเข้าไปหาหลินชิงเสว่แล้วใช้สายตาบอกเธอ
หลินชิงเสว่ควบคุมอารมณ์และตามโจวเหม่ยหยูนไป เธอยื่นถุงที่อยู่ในมือให้โจวเหม่ยหยูน
“แม่ นี่เป็นชุดเครื่องสำอางที่ฉันสั่งจองมาให้จากต่างประเทศ…”
พรึ่บ
หลินชิงเสว่อุตส่าห์เก็บท่าทีหยิ่งผยองของเธอ และทำตัวเป็นกันเอง แต่ทว่าโจวเหม่ยหยูนกลับแย่งถุงในมือไปโดยไม่รอให้เธอพูดจบ
เธอพูดพลางปรายตามองหลินชิงเสว่ “ใครจะรู้ว่าเธอให้ของปลอมมาหรือเปล่า”
สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไป เธอรีบอธิบายว่า “นี่เป็นของแท้…”
“ไม่ว่าจะเป็นของแท้หรือของปลอม ถ้ามาจากตระกูลของเธอก็เป็นของปลอมทั้งนั้น”
โจวเหม่ยหยูนไม่ปิดบังอะไรทั้งนั้น เธอก่นด่าออกมา “อีกอย่าง ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ เธอเป็นเมียของไอ้สวะนั่น แม้แต่มันฉันยังไม่ยอมรับ แล้วฉันจะยอมรับเธอเหรอ”
คำพูดแต่ละคำของเธอ เหมือนเข็มอันแหลมคมที่แทงเข้ามาในใจของหลินชิงเสว่ ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นกันเอง เพราะอาจจะทำให้ดูเป็นสะใภ้ที่ดีและจะทำให้พ่อแม่สามีชอบ แต่สิ่งที่เธอได้รับคือการที่โจวเหม่ยหยูนขับไล่ไสส่งอย่างไม่มีเยื่อใย
“แม่ทำอะไรน่ะ”
เมื่อหลินฉ่ายเวยเห็นภาพตรงหน้า เธอก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “พี่หลินตั้งใจทักทายแม่ ทำไมถึงพูดแบบนั้น”
ถังเฉาก็มองโจวเหม่ยหยูนด้วยสายตาเย็นชา เขาไว้ว่าโจวเหม่ยหยูนจะต้องด่าทอหลินชิงเสว่ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะตรงขนาดนี้ ไม่ปิดบังอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
“นี่ แกยังเป็นลูกสาของฉันหรือเปล่า ไม่เจอกันแป๊บเดียวเรียกว่าพี่แล้วอย่างนั้นเหรอ”
โจวเหม่ยหยูนมองหลินฉ่ายเวย แล้วพูดประชดอย่างร้ายกาจ “ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนผู้หญิงคนนี้ทำให้เราอับอาย”
“ฉัน…”
หลินฉ่ายเวยชะงักไป เธอมองหลินฉ่ายเวยจนรู้สึกกระอักกระอ่วนและไม่พูดอะไรออกมาอีก
ก่อนหน้านี้ตระกูลหลินทำทุกอย่างเพื่อเลียแข้งเลียขาบริษัทลี่จิงกรุ๊ป ไม่ใช่เพียงครั้งเดียวที่ทำดีกับหลินชิงเสว่ แต่หลินชิงเสว่รู้ว่าพวกเธอเคยทำให้ถังเฉาลำบากใจต่างๆ นานา หลินชิงเสว่จึงทำให้พวกเธอขายหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงขนาดที่ทำให้ตำแหน่งผู้รับผิดชอบโครงการหลุดไปจากมือของพวกเธอ
ตอนนี้หลินฉ่ายเวยสำนึกผิดแล้ว เธอได้ออกจากบัญชีดำของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป มีแค่โจวเหม่ยหยูนที่ถูกแบนอยู่
“ทำไมแม่ไม่ยอมวางอคติลงบ้าง มองถังเฉาใหม่ไม่ได้หรือไง”
หลินฉ่ายเวยย้อนถาม “เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก”
“คนขี้ขลาดอย่างแกหุบปากไปเลย!”
โจวเหม่ยหยูนก่นด่าออกมา เธอมองหลินฉ่ายเวยด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ว่าพวกแกจะพูดยังไง ฉันไม่มีทางให้อภัยมัน!”
สายตาของหลินฉ่ายเวยเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “แม่นี่เกินเยียวยาจริงๆ!”
หลินเจิ้นสงตวาดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ขอโทษชิงเสว่เดี๋ยวนี้!”
โจวเหม่ยหยูนไม่พอใจ “คุณหมายความว่ายังไง มันเป็นแค่เมียของไอ้สวะ ทำไมฉันจะต้องขอโทษมันด้วย”
“คุณจะขอโทษไหม ถ้าไม่ขอโทษ ฉันก็ไม่ต้องการเธอแล้ว!” หลินเจิ้นสงพูดออกมาอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างพากันอึ้งไป
โจวเหม่ยหยูนเบิกตาโตอย่างคิดไม่ถึง เธอชี้หน้าหลินเจิ้นสงด้วยนิ้วอันสั่นเทา “คุณ..จะหย่ากับฉันเพราะมันอย่างนั้นเหรอ”
“พ่อพูดอะไรออกมาคะ”
หลินฉ่ายเวยงงไปหมด ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ พ่อก็โมโหขึ้นมาขนาดนี้
ความลับในเรื่องนี้ มีเพียงถังเฉาเท่านั้นที่รู้ดี
“ไม่อยากหย่าก็ขอโทษซะ”
หลินเจิ้นสงบีบบังคับโจวเหม่ยหยูนขึ้นเรื่อยๆ เขาจ้องเธอแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันไม่กลัวการหย่ากับเธอหรอกนะ”
สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนทั้งโมโหและตกใจ เธอคิดว่าหลินเจิ้นสงพูดขู่เธอ แต่เมื่อมองความเย็นชาภายในแววตาของเขา เธอรู้เลยว่าหลินเจิ้นสงไม่ได้พูดเล่น
จู่ๆ เธอก็กลัวขึ้นมาทันที
“ได้ หลินเจิ้นสง คุณนี่มัน…”
ตอนที่พูดออกมา โจวเหม่ยหยูนโกรธจนตัวสั่น จากนั้นจึงหันไปมองหลินชิงเสว่ เธอกัดฟันพูดออกมาว่า “ขอโทษ!”
หลินชิงเสว่รีบโบกมือไปมา “ไม่ต้องขอโทษค่ะแม่ ฉันไม่เป็นไร…”
“ชิงเสว่ เธอเป็นผู้ถูกกระทำ”
หลินเจิ้นสงสะบัดมือแล้วพูดว่า “เธอแต่งเข้ามาในตระกูลหลิน เป็นโชคดีของตระกูลหลิน ต่อจากนี้ถ้าใครกล้าขึ้นเสียงใส่ผู้หญิงคนนี้อีก มาบอกฉันได้เลย ฉันจะสั่งสอนเอง!”
โจวเหม่ยหยูนตาแดงก่ำ เธอโกรธจนตัวสั่น “หลินเจิ้นสง ฉันไม่น่าตาบอดแต่งงานกับนายเลย น่าโมโหจริงๆ!”
พูดจบเธอก็เดินกลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลงอย่างแรง
ตอนนี้ตำแหน่งในครอบครัวชัดเจนแล้ว คนที่สั่งการเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในบ้านอย่างโจวเหม่ยหยูนถูกลดตำแหน่ง
ลงมาต่ำสุด เพราะว่าเธอทำให้หลินชิงเสว่ลำบากใจ
หลินเจิ้นสงไม่สนใจ เขายิ้มแล้วพูดว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าทำไมตระกูลโจวเข้ามาช่วยฉันตอนที่ผมตกต่ำที่สุด ก็เพราะว่าผมมาจากเยี่ยนจิงยังไงล่ะ”
หลินชิงเสว่ได้ยินอย่างชัดเจน จู่ๆ เธอก็อึ้งไป “พ่อเป็นคนเยี่ยนจิงเหรอคะ”
“ใช่แล้ว”
หลินเจิ้นสงพูดกับหลินชิงเสว่ราวกับเป็นคนละคน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
หลินฉ่ายเวยที่ยืนอยู่อีกด้านถึงกับอึ้งไป เธอพึมพำขึ้นมาว่า “ฉันรู้สึกว่าพอดีกับพี่หลินยิ่งกว่าลูกสาวของตัวเองอีก”
ถังเฉาตบหัวเธอทันที “อย่าคิดไม่เข้าท่า”
หลินฉ่ายเวยเจ็บจนเอามือจับตรงที่ถังเฉาตบลงมา จากนั้นก็หัวเราะแหะๆ ออกมา
ทุกคนสัมผัสได้ว่า หลังจากที่ไม่มีโจวเหม่ยหยูน เหมือนชีวิตกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อรู้ว่าหลินเจิ้นสงเป็นคนเยี่ยนจิง หลินชิงเสว่ก็รู้สึกเป็นกันเองขึ้นมาไม่น้อย
“เมื่อก่อนพ่อเป็นคนที่ไหนในเยี่ยนจิงเหรอ ฉันอยู่ที่เขตกลาง”.
“เหรอ เป็นคนเขตกลางเหรอ ฉันไม่ใช่คนที่นั่นหรอก ฉันเป็นคนเขตตงหยาง”
“มาเร็ว กับข้าวเย็นหมดแล้ว พวกเราเข้าไปกันดีกว่า กินไปคุยไป…”
หลินชิงเสว่มองขึ้นไปข้างบนอย่างกล้าๆ กลัวๆ “เดี๋ยวฉันไปเรียกแม่สามี…”
หลินเจิ้นสงรั้งเธอเอาไว้ “ไม่ต้อง ขาดเธอไปก็ดี จะได้ไม่ต้องทนฟังอะไรไม่ดี”
ถังเฉายิ้มบางๆ หลินชิงเสว่จึงล้มเลิกความคิด
ที่ชั้นบน
โจวเหม่ยหยูนนั่งเหงาอยู่บนเตียง เธอได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง สีหน้าของเธออึมครึมและเย็นชา
“ถังเฉา หลินชิงเสว่ แกกล้าต่อกรกับฉัน!”
“ฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่…”
ในห้องที่มืดสลัว เต็มไปด้วยเสียงก่นด่าและสาปแช่งของโจวเหม่ยหยูน
ไม่นานเสียงสาปแช่งที่ไร้ค่าถูกเสียงมือถือขัดจังหวะ
“ใคร”
โจวเหม่ยหยูนรับสายอย่างหงุดหงิด
มีเสียงหัวเราะที่ผ่านการดัดเสียงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ดังออกมาจากมือถือ “ดูเหมือนว่าคุณนายโจวจะอารมณ์ไม่ดีใช่ไหม”
“แกเป็นใคร” โจวเหม่ยหยูนระแวงขึ้นมาทันที
คนที่ไม่กล้าใช้เสียงของตัวเอง ส่วนมากเป็นคนที่เจตนาไม่ดี
“ไม่ต้องรู้หรอกว่าฉันเป็นใคร รู้แค่ว่า ฉันรู้แล้วกันว่าทำไมคุณถึงหงุดหงิด”
เสียงหัวเราะลึกลับดังออกมา “อีกอย่าง ฉันสามารถกำจัดเสี้ยนหนามใหญ่ในใจคุณได้นะ”
ภาพของครอบครังถังเฉากับหลินชิงเสว่ที่เต็มไปด้วยเลือดนอนกองอยู่บนพื้นผุดขึ้นมาในหัวของเธอ แต่ไม่นานเธอก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ทำไมฉันต้องเชื่อแกด้วย”
“เหอะๆ ต่อไปฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว คุณตั้งใจฟังให้ดีล่ะ”
เสียงในมือถือเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงดังขึ้นมา
“หลินชิงเสว่จะแต่งงานเข้าไปในตระกูลหลินไม่ได้ ไม่งั้นชีวิตของคุณไม่เหลือแน่”
“เพราะเธอคือ…”
เสียงของอีกฝ่ายขาดหายไป แต่ว่าโจวเหม่ยหยูนได้ยินอย่างชัดเจน
จู่ๆ เธอก็เบิกตาโพลง มือถือในมือหล่นลงไปบนพื้น