เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 280
คำพูดอันเฉยเมยและเย็นชาดังขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าของโจวเหม่ยหยูนหายไปทันที เธอมองถังเฉาที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่คาดไม่ถึง
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉยเมยและเย็นชา ในสายตาของเขา กรรไกรอันแหลมคมเป็นเหมือนของเล่นชิ้นหนึ่ง เขาไม่สนใจมันสักนิด เขาเอาแต่จ้องไปที่โจวเหม่ยหยูน
“ถังเฉา!”
เธอตวาดออกมาเหมือนเห็นผี จู่ๆ เธอก็ถอยหลังไป และเกือบจะจับกรรไกรในมือเอาไว้ไม่อยู่
การที่ถังเฉาขัดขืน มันเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเธอ
เธอคิดว่าการที่ถังเฉามีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเขาอาศัยบารมีของหลินชิงเสว่ ลูกเขยต่ำๆ ที่แต่งเข้ามาในบ้านของผู้หญิง จะมีสิทธิ์พูดอะไร
เพราะฉะนั้น จัดการหลินชิงเสว่ก็พอแล้ว ใช้ประโยชน์จากจิตใจอันมีเมตตาของเธอที่มีต่อทุกคน
บางครั้งการถอยออกมาอาจจะดีกว่า ควรจะใช้วิธีนี้กับคนที่มีอำนาจอย่างหลินชิงเสว่
กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็จะยอมประนีประนอม ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นแม่สามีของหลินชิงเสว่
คิดไม่ถึงว่าในช่วงคับขันเช่นนี้ ถังเฉาจะโผล่ออกมา
“คุณก็ฆ่าตัวตายซะสิ”
ถังเฉามองกรรไกรด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน “ทำไมไม่ฆ่าตัวตายสักทีล่ะ”
“แก..แกหุบปากไปเลยนะ!”
โจวเหม่ยหยูนโกรธเป็นอย่างมาก “แค่ลูกเขยธรรมดาๆ ที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงอย่างแก มีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ”
ถังเฉาไม่สนใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขารู้สึกถึงการเย้ยหยันขึ้นเรื่อยๆ “โจวเหม่ยหยูน ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเธอเป็นคนฉลาดมาก แต่เธอยืนผิดที่เท่านั้น แต่ตอนนี้มาคิดดูแล้ว เธอมันก็แค่นั้นแหละ”
โจวเหม่ยหยูนใจร่วงลงไปที่ตาตุ่ม แววตาของเธอนิ่งไป “แกหมายความว่ายังไง”
ถังเฉาแสยะยิ้มออกมา “ฉันคิดไม่ถึงว่าเธอจะใช้วิธีนี้บีบบังคับให้ฉันหย่ากับหลินชิงเสว่”
“ก่อนหน้านี้เห็นแก่การที่เธอเป็นแม่แท้ๆ ของหลินฉ่ายเวย ผมเลยยอมให้คุณหลายครั้ง แต่คุณไม่สำนึกผิดและทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันโกรธและกังวลว่าจะจัดการคุณยังไง แต่คุณกลับใช้การฆ่าตัวตายมาข่มขู่พวกเรา ฉันล่ะรอโอกาสที่หายากแบบนี้มานานแล้ว!”
“.…..”
เมื่อได้ยินดังนั้น โจวเหม่ยหยูนงงไปหมด ตอนแรกเธอคิดว่าวางแผนมาดีแล้ว แต่จู่ๆ เธอก็ตั้งตัวไม่ทัน
แต่ว่าเธอไม่พอใจและถามออกไปอย่างอดไม่ได้ “ฉันเป็นแม่ของหลินฉ่ายเวย แกจะทนดูฉันตายเพราะพวกแกได้อย่างนั้นเหรอ พวกแกไม่เจ็บปวดใจเหรอ”
“ทำไมฉันจะทนไม่ได้”
ถังเฉาย้อนถามอย่างประหลาดใจ “เธอพยายามฆ่าฉันให้ตายหลายต่อหลายครั้ง ถ้าเธอตายเรื่องทุกอย่างก็จบ!”
“ถังเฉา แก…”
โจวเหม่ยหยูนโกรธจนพูดไม่ออก เธอทำได้เพียงมองถังเฉาอย่างเคียดแค้น
“พอเถอะ รีบฆ่าตัวตายเร็วๆ อย่าทำให้ทุกคนเสียเวลา”
ถังเฉาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันบอกตรงนี้เลยว่า ฉันจะไม่หย่ากับหลินชิงเสว่ เราจะมีลูกคนที่สองและใช้ชีวิตด้วยกันสี่คนอย่างมีความสุข ส่วนเธอจะมีจุดจบยังไง เธอก็รู้อยู่แก่ใจ”
“แต่เธอสบายใจได้เลยนะ หลังจากที่เธอตาย ฉันจะเอากระดูกเธอส่งคืนตระกูลโจวแล้วก็บอกว่าเธอข่มขู่ฉันไม่สำเร็จ เลยฆ่าตัวตาย เธอว่าโจวฉวนกั๋วจะโกรธจนกระอักเลือดตายไหม”
“แกหุบปากไปเลยนะถังเฉา…”
โจวเหม่ยหยูนโกรธจนตัวสั่น เธอโกรธจนพูดตะกุกตะกักและแทบอยากจะกินถังเฉาเข้าไป
เธอเริ่มสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงคิดวิธีโง่ๆ แบบนี้ ถึงจะสู้ใครไม่ได้ก็ไม่ควรเอาชีวิตของตัวเองมาทำให้ลำบาก
เธอจะฆ่าตัวตายจริงๆ ได้ยังไง เธอแค่จะบีบบังคับหลินชิงเสว่เท่านั้น ตอนนี้ถังเฉาให้เธอฆ่าตัวตายจริงๆ เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เสี่ยวเฉา พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว”
หลินเจิ้นสงยืนอยู่อีกด้าน เขาพูดเกลี้ยกล่อมด้วยความหวาดกลัว มาแดกดันโจวเหม่ยหยูนในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเธอคิดสั้นแล้วฆ่าตัวตายจริงๆ จะทำยังไง
แต่เหมือนถังเฉาจะไม่ได้ยินสิ่งที่หลินเจิ้นสงพูด เขาพูดออกมาอีกว่า “ถ้าจะเล่นก็เล่นให้ถึงที่สุด ใช้กรรไกรฆ่าตัวตาย มันเป็นวิธีที่เด็กมาก”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างพากันอึ้งไป
ถังเฉาพูดออกมาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “เธอไปกระโดดลงมาจากชั้นบนสุดของอาคารกั๋วจี้ได้นะ จะต้องเรียกความสนใจคนอื่นได้เยอะเลยล่ะ แต่สภาพศพของเธอจะไม่สมบูรณ์นะ สมองของเธอคงจะเละ”
โจวเหม่ยหยูนตกใจจนตัวสั่น
ถังเฉาพูดอีกว่า “หรือจะใช้เชือกผูกคอตายก็ได้นะ เธอจะได้รับรู้ถึงเวลาที่ขาดอากาศหายใจ ตาคุณจะถลนออกมาแล้วลิ้นก็จุกปากเหมือนผีที่แขวนคอตาย”
สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนยิ่งหวาดกลัวเข้าไปอีก เธอกลืนน้ำลายลงคอ
“แต่ถ้าเธอกลัวทรมาน เธอมาลองยาของฉันได้นะ”
ถังเฉายิ้มแล้วล้วงยาเม็ดสีขาวออกมา “นี่คือยาพิษทางเคมีอันล่าสุดที่พัฒนาขึ้นในประเทศ ไร้สีไร้กลิ่น กินเหมือนพวกลูกอมธรรมดาๆ ได้เลย แต่เมื่อกลืนลงไปสองนาที ก็จะเกิดอาการหายใจลำบากและเลือดไหลออกมาทางจมูก หลังจากผ่านไปสิบนาที ระบบภายในร่างกายจะล้มเหลวทั้งหมด ฤทธิ์ยากจะแผ่ซ่านไปทั่วไปร่างกาย”
“หู ตา จมูก ปากของเธอจะมีเลือดสีดำไหลออกมา แต่ถึงตอนนั้นเธอก็ตายไปแล้ว ไม่ต้องรับรู้ถึงความเจ็บปวด”
“เป็นไง อยากลองดูไหม”
โจวเหม่ยหยูนยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น จู่ๆ เธอก็กรีดร้องออกมา เธอผลักถังเฉาอย่างแรง จากนั้นก็ทรุดลงกับพื้น เธอตกใจจนขาสั่นไปหมด
ถังเฉาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นชา เขายื่นยาไปตรงหน้าของโจวเหม่ยหยูน “กินสิ”
“ไม่ ไม่ ฉันไม่กิน…”
โจวเหม่ยหยูนตัวสั่น ยังไงเธอก็ไม่ยอมรับยาเม็ดนั้นมา
“กินสิ”
เมื่อเห็นว่าโจวเหม่ยหยูนไม่ยอมรับยานั่น ถังเฉาจึงตะโกนออกมา “กินสิ!”
“กรี๊ดดดดด”
เสียงตะโกนของถังเฉา ทำให้โจวเหม่ยหยูนสติแตก เธอมองถังเฉาด้วยแววตาหวาดกลัว และไม่กล้าขยับไปไหน
หลินฉ่ายเวยที่เพิ่งเดินออกมาจากห้อง เห็นภาพที่เกิดขึ้น เธอตกใจจนเบิกตาโพลง
เธอจำได้ว่าโจวเหม่ยหยูนถือกรรไกรขู่ให้ถังเฉาหย่ากับหลินชิงเสว่ แต่ผ่านไปไม่นาน โจวเหม่ยหยูนก็ลงไปนั่งอยู่หน้าถังเฉา
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่อยากตาย ฉันไม่อยากตาย…”
โจวเหม่ยหยูนร้องไห้โฮ “ฉันแค่อยากทำให้หลินชิงเสว่กลัวแล้วหย่ากับแก”
ทุกคนเข้าใจขึ้นมาทันที สายตาที่มองไปยังโจวเหม่ยหยูนเต็มไปด้วยการดูถูก
“ถ้าเธอไม่ได้อยากตาย ก็อย่าพูดคำว่าตายออกมา”
ถังเฉาพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นก็เอายาใส่เข้าไปในปากของตัวเอง
“ถังเฉา อย่า…”
หลินชิงเสว่เชื่อที่ถังเฉาพูด เมื่อเห็นว่าถังเฉากินยาเม็ดนั้น เธอก็หน้าซีดเผือด
ถังเฉายังปกติดี เขายิ้มแล้วพูดว่า “แค่ลูกอมรสมิ้นต์ที่ให้เสี่ยวลี้กินแค่นั้นเอง”
ทุกคนรู้ทันที ถังเฉาใช้ลูกอมรสมิ้นต์ที่ไม่มีสีมาหลอกโจวเหม่ยหยูน จนทำให้เธอตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน
นี่พิสูจน์ได้เลยว่าถังเฉาจับจุดอ่อนของคนได้เป็นอย่างดี
“เสี่ยวลี้ล่ะ”
“นอนอยู่”
หลินฉ่ายเวยพูดจบ ก็อุ้มถังเสี้ยวลี่ที่หลับปุ๋ยอย่างระวัง
ถังเฉากับหลินชิงเสว่โล่งอก
พวกเขาไม่กลัวโจวเหม่ยหยูน แต่กลัวภาพอันน่ากลัวที่โจวเหม่ยหยูนถือกรรไกรจะทำให้ถังเสี่ยวลี้เกิดภาพไม่ดีขึ้นในใจ
“พ่อ พวกเรากลับก่อนละกัน ไว้วันหลังค่อยมาทานข้าวกัน”
“ได้ ขอโทษด้วยนะ”
หลินเจิ้นสงไปส่งทั้งสามคนที่หน้าบ้าน จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน
เขามองโจวเหม่ยหยูนที่นอนอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
“ลุกขึ้นมา!” เขามองโจวเหม่ยหยูนแล้วตวาดออกมา
โจวเหม่ยหยูนลุกขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น เข่าของเธอยังสั่น เธอจับแขนเสื้อของหลินเจิ้นสงแล้วร้องไห้ออกมา “เจิ้นสง เราเป็นสามีภรรยากันมายี่สิบกว่าปี ถือว่าฉันขอเถอะนะ ให้ถังเฉาหย่ากับผู้หญิงคนนั้นเถอะ ถ้าไม่หย่ากันฉันก็ไม่มีที่ยืนในบ้านนี้แล้ว!”
หลินฉ่ายเวยที่ยืนอยู่อีกด้านเบิกตาโพลง “แม่พูดอะไร ทำไมถังเฉาไม่หย่ากับพี่หลิน แล้วแม่จะไม่มีที่ยืนในบ้านนี้ล่ะ”
“ฉ่ายเวย แกไม่รู้หรอก หลินชิงเสว่เป็น…”
“โจวเหม่ยหยูน!”
โจวเหม่ยหยูนกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่หลินเจิ้นสงตะโกนออกมาก่อน จากนั้นเขาก็ตบลงไปที่หน้าของเธอ
“ฉ่ายเวย กลับไปที่ห้องก่อน ฉันมีเรื่องต้องคุยกับแม่ของแก”
เขาพูดกับหลินฉ่ายเวย แต่ตาเอาแต่จ้องไปที่โจวเหม่ยหยูนตลอดเวลา
หลินฉ่ายเวยรู้สึกเหมือนพ่อแม่มีอะไรปิดบังเธออยู่ เธออยากถาม แต่เมื่อเห็นสีหน้าโกรธของหลินเจิ้นสง เธอจึงสลัดความคิดนั้นออก แล้วเดินขึ้นไปข้างบน
หลินเจิ้นสงพาโจวเหม่ยหยูนมาข้างนอกบ้าน เขากดเธอลงกับกำแพงแล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เธอรับปากฉันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่มีวันพูดความลับนี้”