เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 282
ต่างคนต่างมุมมอง คนที่ฉลาดไม่มีทางแพ้ให้คนๆเดียวเป็นครั้งที่สอง
ซ่งเทียนซานขู่ว่าจะฆ่าถังเฉา กลับกลายเป็นว่าเขากลายเป็นคนพิการซะเอง ต่งอี้สิงที่คิดว่าตัวเองควบคุมถังเฉาได้ ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะตายอย่างอนาถ เสิ่นชิงหยุนมองดูพวกเขาสู้กันแล้วค่อยไปแย่งชิงความสำเร็จจากทั้งสองฝ่าย สุดท้ายได้ใช้ทั้งตระกูลเสิ่นมาชดใช้……
เหตุการณ์นองเลือดพวกนี้ล้วนแสดงความจริงให้เห็นว่า ถังเฉา ไม่ใช่เขยขยะที่แต่งเข้าบ้านเกาะเมียกินอย่างที่เป็นข่าวลือแน่ๆ!
จุดนี้ เหยียนเสี้ยงหม่าสังเกตเห็นแต่แรกแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ต่อกรกับถังเฉา ตระกูลเหวินเองก็เป็นสัญลักษณ์ที่ต่อกรกับถังเฉา
แต่ว่า ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ทำอะไร อยู่ในวงการนี้ สภาพอย่างที่เป็นอยู่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดแล้ว
เขากำลังกลัว
ตอนนี้ผู้มีอำนาจที่สุดในเมืองหมิงจูไม่ใช่สี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ที่เหลือเพียงตระกูลเหยียน แต่เป็นถังเฉา!
เขากลัวว่าวันหนึ่งจะเป็นเหมือนซ่งเทียนซาน ต่งอี้สิงและเสิ่นชิงหยุน ดังนั้นเขาจึงออกตัวก่อน ใช้งานการต่อสู้ผลักถังเฉาไปอยู่จุดที่อันตรายที่สุด
ทำหม่าจงเสียโฉม ทำร้ายจ้าวเชียนจูน จัดการหยังหวูตี๋และคนเก่งระดับกลางของสมาคมอีกหลายคน รวมทั้งอาจารย์เปาด้วย ความผิดพวกนี้เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนมองถังเฉาอย่างโกรธแค้น
และความเป็นจริงก็เป็นไปตามที่เหยียนเสี้ยงหม่าคิด สมาชิกทุกคนในสมาคมเมื่อได้ยินว่าถังเฉามา สายตาก็จ้องเขาอย่างประหลาดใจ
ฮือฮา……
ขณะนั้น ทุกคนต่างก็ถอยหลังคนละก้าว เหมือนว่าได้ตกลงกันมาก่อนแล้ว
และก็ตอนนี้เองที่สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร
ในกลุ่มผู้คน สีหน้าของอาจารย์เปาแปรเปลี่ยน มองด้วยสายตาโมโห “เหยียนเสี้ยงหม่า นายพูดมั่วอะไร!”
“อาจารย์เปา ผมพูดมั่วหรอครับ?”
เหยียนเสี้ยงหม่ามองเขาอย่างแปลกใจ แล้วถามกลับว่า “หรือว่า คุณไม่ได้ถูกถังเฉาล้มหรอครับ? หม่าจงไม่ได้ถูกทำเสียโฉม? แล้วยังมีปรมาจารย์หยังหวูตี๋ไม่ได้ถูกจัดการทิ้งหรอครับ?”
“นี่…..”
อาจารย์เปาสีหน้าแข็งทื่อในทันที มองดูถังเฉาด้วยสายตาหวาดกลัว กลัวการตอบสนองของถังเฉา
แต่ว่า ถังเฉาไม่มีการตอบสนองสักนิด ทั้งยังอ่อนต่อสายตาโกรธแค้นของสมาชิกสมาคมทุกคน
รอยยิ้มไร้เสียง และยังมีความดูถูกเล็กน้อย และมองเหยียนเสี้ยงหม่านิ่งๆ
สายตานี้ทำเอาเหยียนเสี้ยงหม่าตัวแข็ง มีความรู้สึกเหมือนถูกมองทะลุวิญญาณ
เขารู้สึกอัศจรรย์ ถูกคนมากมายขนาดนี้ในสมาคมจ้องแค้น ถังเฉาควรจะรู้สึกทำอะไรไม่ถูกสิ ทำไมถึงได้นิ่งสงบขนาดนี้?
“นี่ถือว่านายช่วยฉันสร้างอำนาจรึป่าว?” ถังเฉาถาม
เหยียนเสี้ยงหม่าลังเลไปสักพัก แล้วเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “ถือว่าใช่มั้งครับ”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างนิ่งสงบ อยู่ๆก็ถามว่า “สมาคมการต่อสู้ของพวกนายนับถือผู้ที่เก่งกาจอยู่ระดับสูง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ใช้ความเก่งมาเจรจา?”
“ถูกต้องครับ”
เหยียนเสี้ยงหม่ากลับสู่ความนิ่ง ในใจยิ้มเยาะ ไอ้นี่ยังไม่รู้อีกว่ากลายเป็นเป้าหมายของผู้คนมากมายแล้ว
“งั้นก็ดี”
ถังเฉายิ้มอ่อน จากนั้นก็กวาดมองรอบด้าน “ฉันไปมาคนเดียวจนชินแล้ว แต่ว่าไม่วางใจญาติพี่น้อง พวกนายคนเยอะขนาดนี้ พอที่จะปกป้องพวกเขาพอดี”
ฮึ่ม…..
เมื่อคำพูดนี่ออกจากปาก ทุกคนต่างตกใจ สายตาของทุกคนโมโหจนขีดสุด ถ้าไม่ใข่เพราะว่าตอนนี้งานประลองยังไม่เริ่ม พวกเขาคงจะลงมือไปนานแล้ว
“อวดเก่งจริงๆ!”
“นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดคำพูดแบบนี้ที่สมาคมการต่อสู้ของฉัน?”
“ชนะยอดฝีมือของพวกเราไม่กี่คน ก็แยกแยะไม่ออกแล้ว ถึงได้เพ้อฝันให้พวกเราเชื่อฟังนาย!”
คนในสมาคมต่างก็ด่าออกมา มองถังเฉาอย่างกับคนโง่
เหยียนเสี้ยงหม่าเองก็มองถังเฉาอย่างอึ้งตะลึง ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่อำนวย เขาแทบอยากจะไปผ่าสมองถังเฉาดูว่าข้างในใส่อะไรไว้บ้าง
เขาแยกไม่ออกสถานการณ์ในตอนนี้หรอ? เป็นเป้าหมายแล้วแท้ๆ ยังกล้าพูดอวดเก่ง ถึงได้อยากให้สมาชิกทุกคนในสมาคมเชื่อฟังเขา?
บ้าไปแล้วหรอ?!
แต่ว่า เขาจะรู้ได้ยังไงว่าถังเฉาดูออกถึงการประจบฆ่าของเขา ที่ไม่ได้เปิดโปงก็เพราะว่าไม่ได้สนใจ
ใช่แล้ว เหยียนเสี้ยงหม่าโอ้อวดอำนาจให้เขา ประจบเขา ถังเฉากลับยอมรับอย่างนิ่งๆ
เพราะว่า เขาไม่เหมาะสมที่จะได้รับการเคารพแบบนี้
“คุณถังครับ ผมเต็มใจครับ!”
ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งที่ต่างจากพวกดังขึ้นมาในกลุ่มผู้คน
ทันใดนั้น สายตาทุกคนก็หันไปมองอย่างประหลาดใจและด่าทอ
“เย่เทียนหลง นายพูดอะไร!”
“นายยังเป็นคนในสมาคมของฉันอยู่มั้ย? ยังมีความภูมิใจของการเป็นนักสู้อยู่มั้ย ถึงได้จะเชื่อฟังคำสั่งของคนนอกสมาคม!”
ในกลุ่มผู้คน หนุ่มเสื้อเขียวร่างกายกำยำคนหนึ่งเดินออกมา ไม่สนใจเสียงด่าทอรอบข้าง ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ สายตาจ้องมองไปยังที่ถังเฉา
“เย่เทียนหลง….”
เหยียนเสี้ยงหม่าตากระตุก ในใจมีความรู้สึกไม่ดีผุดขึ้น
ตอนนี้ เย่เทียนหลงมาถึงหน้าถังเฉาแล้ว พูดเสียงหนักว่า “คุณถังครับ ผมและตระกูลเย่ของผม เต็มใจปกป้องญาติพี่น้องของคุณ ใครอยากทำร้ายพวกเขา จะต้องข้ามศพผมไปก่อน!”
“ดี”
ถังเฉาพยักหน้านิ่งๆ จากนั้นก็กวาดมองรอบด้าน “ฉันรู้ว่าตอนนี้พวกนายจะต้องไม่พอใจแน่ๆ แต่ว่าอีกเดี๋ยว พวกนายก็จะยอมฉันอย่างเต็มใจเอง”
“ไอ้หนุ่ม ทำอะไรก็ต้องเตรียมตัวให้ดี ต้องรู้จักตื้นลึกหนาบาง พูดจาระวังหน่อย อย่าพูดมากเกินไป”
ในขณะนี้เอง ประตูใหญ่ของโรงการต่อสู้ถูกเปิดออก ชายวัยกลางคนผมหงอกคนหนึ่งใส่ชุดนักพรตสีเทาท่าทางมีอำนาจก้าวเดินเข้ามา
ถึงแม้ว่าจะหัวหงอก แต่กลับไม่ดูแก่เลย ก้าวเดินอย่างมั่นคง ดูมีอำนาจ
ผู้คนรอบด้านที่เห็นคนๆนี้ ต่างก็คุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง และตะโกนพร้อมกันว่า “สวัสดีครับหัวหน้า!”
ถังเฉายีตาเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าชายวัยกลางคนผมหงอกคนนี้ จะเป็นหัวหน้าของสมาคมการต่อสู้!
ชายวัยกลางคนผมหงอกพยักหน้าอย่างพอใจ กำลังจะให้ทุกคนยืนขึ้น อยู่ๆสายตาก็หันไปมองเย่เทียนหลง
“เย่เทียนหลง เจอฉัน ทำไมถึงไม่คุกเข่าทำความเคารพ?”
เย่เทียนหลงยืนอยู่ด้านหลังถังเฉา ยืดตัวตรงพูดเสียงดังว่า “ผมทำความเคารพแค่หัวหน้าสมาคมเท่านั้นครับ!”
“แล้วฉันไม่ใช่หัวหน้าสมาคมหรอ?”
ชายวัยกลางคนผมหงอกสีหน้าโมโหมาก มีรังสีอำมหิตแผ่ออกจากร่าง
เย่เทียนหลงกลับส่ายหัว สายตานิ่งเฉย “เดี๋ยวคุณก็ไม่ใช่แล้ว คุณถังจะมาแทนที่ตำแหน่งของคุณ”
“คุณถัง?”
ในสายตาของชายวัยกลางคนผมหงอกมีความเย็นชา หันหน้าไปมองถังเฉา “นายก็คือถังเฉาคนนั้นที่เสี้ยงหม่าเชิญมา?”
ช่วงนี้ฝีมือของเย่เทียนหลงพัฒนาเร็วมาก สามารถทำให้เย่เทียนหลงเชื่อฟังได้อย่างเต็มใจขนาดนี้ คนๆนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ!
“แล้วนายเป็นใคร?”
ถังเฉาสายตานิ่งเฉย ถามกลับ
“ฉันก็คือหัวหน้าสมาคมการต่อสู้ เหยนยง!”
น้ำเสียงของเหยนยงมีความภาคภูมิ วางตัวอย่างสูงส่ง “ถังเฉา เรื่องราวของนายฉันก็ได้ยินมาบ้าง ทำร้ายยอดฝีมือของสมาคมฉันไม่น้อย ปกติตามกฎของสมาคม นายต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่ว่าฉันมีเมตตา ถึงได้ปล่อยนายไปสักครั้ง!”
ถังเฉาถามกลับอย่างล้อเลียน “ถ้านายไม่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วจะทำอะไรได้อีก?”
คำพูดนี้ช่างอวดเก่งอย่างที่สุด เหมือนไม่วางหัวหน้าสมาคมไว้ในสายตาเลย สายตาแห่งความโกรธของเหยนยงเองก็ปรากฏขึ้น แต่ก็ยังพูดว่า “ฉันเห็นว่านายยังอายุน้อยไม่รู้อะไร ไม่ถือสาอะไรนาย แต่ว่า นายต้องตกลงคำขอของฉันข้อหนึ่ง เข้าร่วมสมาคมการต่อสู้ของฉัน และทำงานให้ฉันอย่างไม่มีข้อแม้!”
“อะไรนะ?”
เมื่อประโยคนี้ออกมา สมาชิกของสมาคมการต่อสู้ต่างก็นิ่งค้าง “หัวหน้าครับ มันเป็นคนร้ายที่จัดการยอดฝีมือไปหลายคน ท่านไม่ลงโทษแล้วทำไมยังลากมันเข้าร่วมอีก?”
“หุบปากไปซะ!”
เหยนยงดุเสียงดังไปทีหนึ่ง สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ฉันทำอะไร ยังต้องผ่านการยินยอมจากพวกนายงั้นหรอ?” ทันใดนั้น ภายในโรงการต่อสู้ก็เงียบกริบ ไม่มีใครกล้าเถียง
เหยนยงมองไปที่ถังเฉาอีกครั้ง “ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป นานก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งฉัน ทำงานให้ฉัน ฉันไม่ทำไม่ดีต่อนายแน่ๆ”
เขาก็ไม่สนใจว่าถังเฉาจะตกลงมั้ย บีบบังคับให้ถังเฉาเชื่อฟังเขา
ฟิ้ว…..
แต่ว่า ในตอนที่เหยนยงเพิ่งพูดจบ ลมที่รวดเร็วอย่างหนึ่งผ่านหัวของเขาไป
เหยนยงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที และรีบย่อตัวลง
ปึง….
กำแพงด้านหลังของเหยนยงกลับมีหลุมดำเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ก้อนหินก้อนหนึ่งยังมีควันเขม่าลอยขึ้น กลิ้งตกอยู่บนพื้น
ขณะนั้น เงียบกริบกันทั้งหมด
“นายกำลังสอนฉัน?”
ถังเฉารู้สึกตลก เหยียดมองเหยนยงด้วยสายตาเย็นชา