เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 3
ถ้งเฉามาถึงห้องนอนห้องหนึ่งในชั้นสอง บนเตียงมีคนวัยกลางคนที่ขมับสองข้างมีหงอกเล็กน้อย ลมหายใจแผ่วเบานอนอยู่ นั่นคือหลินเจิ้นสง
เขาหลับตา มีแต่ลมหายใจที่สูดเข้า ไม่มีลมหายใจออก
ทันใดนั้น แววตาของถังเฉามีความอยากฆ่าอยู่
เมื่อห้าปีก่อน กระดูกและร่างกายของพ่อแข็งแกร่งมาก ตอนนี้ กลับกลายเป็นแบบนี้ไป……
เขานั่งอยู่ข้างเตียงของหลินเจิ้นสง อยากจะวัดชีพจรของหลินเจิ้นสง
แต่กลับโดนหลินฉ่ายเวยผลักออก “นายจะทำอะไร นายรักษาเป็นรึไง”
“ในห้าปีนี้ได้เรียนมาหน่อยน่ะ ก็เข้าใจไม่น้อย”ถังเฉายิ้มแล้วพูด
“นายอยากจะฆ่าพ่อของฉันใช่ไหม”
ไม่คิดว่าพอฟังคำพูดของถังเฉาแล้ว เสียงของหลินฉ่ายเวยจะดังขึ้นขนาดนี้ “เรียนมาแค่นี้ ก็กล้ามี่จะมารักษาคน นายมีใบกำกับแพทย์รึไง”
“ฉ่ายเวย เขาก็แค่แกล้งทำน่ะ” มีเสียงพูดปลอบของเจิ้งฮ่าวมาจากด้านหลังของหลินฉ่ายเวย
“แต่ว่า……” หลินฉ่ายเวยก็ยังไม่วางใจ
ในระหว่างนี้ ถังเฉาแตะไปที่ชีพจรของหลินเจิ้นสง
หลังจากวัดไปสามสิบวินาทีแล้ว ถังเฉาปล่อยหลินเจิ้นสง ล้วงกล่องเข็มออกมาจากอก
“อะไร นายจะใช้เข็มมารักษาพ่อฉันหรอ เป็นไปได้ยังไง”
ตอนนี้เห็นได้ว่าหลินฉ่ายเวยโมโหร้อนรนสุดๆ ขนาดการผ่าตัดที่ทันสมัยของโรงพยาบาลยังรักษาไม่ได้ เข็มแค่ไม่กี่เล่มจะทำให้พ่อกลับมาได้ยังไง
“ฉ่ายเวย เขาคือก็ของเธอ แล้วก็เป็นพ่อของฉัน ฉันจะฆ่าเขาได้ยังไง”ในตอนนี้ ถังเฉายิ้มเจื่อน
“เหอะ ใครจะไปรู้ว่านายคิดอะไรอยู่……”
ถังเฉาไม่ได้สนใจ แล้วก็เอาเข็มฝังไปที่ชีพจรสามจุดท้องน้อย จุดตรงลำคอ จุดกลางอกและจุดฝังเข็มต่างๆ
ลงเข็มอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวเลือกเดี๋ยวทิ่ม ไม่มีการหยุดพักในระหว่างนั้น
ขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นที่ตื่นตามาก
“เหอะ ยังจะมาทำเป็นใจดี คงคิดว่าตัวเองเป็นหมออัจฉริยะจริงๆ”
“สมัยนี้ แพทย์แผนจีนจะใช้อะไรได้ อย่ารักษาจนคนตายละกัน”
จากนั้นคำพูดโจวเหม่ยหลิง,โจวซูหัวและอาทั้งหลายเต็มไปด้วยความรังเกียจเหยียดหยาม
เจิ้งฮ่าวก็ยืนหัวเราะอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน
ตามเวลาที่ผ่านไป เข็มบนตัวของหลินเจิ้นสงก็ค่อยๆเยอะขึ้นเรื่อยๆ ถังเฉาก็ตั้งใจขดจ่อขึ้นเรื่อยๆ
กรึ่ง——
จากนั้น ในตอนที่ถังเฉากำลังตั้งใจจะฝังเข็มนั้น ก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก
รถแลนด์โรเวอร์คันหนึ่งพุ่งชนเข้ามาที่ประตูเหล็กของบ้านหลิน จอดอยู่ในสวนหย่อม
คนบุดดำกลุ่มหนึ่งรีบลงจากรถ พุ่งเข้ามาในห้อง ทำลายข้าวของกระจัดกระจาย
ในชั่วพริบตา ของใช้ในบ้านก็โดนขว้างจนแตกละเอียด บนพื้นเต็มไปด้วยเศษแก้ว
“อ๊าก—-“
ผู้หญิงทุกคนในบ้านหลินตกใจจนพากันกรีดร้องไม่หยุด ถังเฉาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะหยุดฝังเข็ม แววตานั้นมีความอยากฆ่าอย่างเย็นชา
“ถังเฉา แกมันกล้ามากนะ”
แล้วก็มีเสียงหัวเราะที่เย่อหยิ่งดังขึ้นจากนอกประตู “รู้ว่าพี่สาวฉันกำลังหาแกอยู่ ยังกล้ากลับมาที่หมิงจู
พอเสียงหัวเราะหยุดไป ชายที่ย้อมผมสีทองถือบุหรี่อยู่แล้วเดินเข้ามา
“ซ่งหมิงเวย?แกหรอ……”
มองดูชายปมทองคนนี้แล้วหลินฉ่ายเวย、โจวเหม่ยหยูนและทุกคนในบ้านหลินต่างพากันหน้าซีดไปหมด
ตั้งแต่ที่บริษัทหลงเถิงโดนบ้านซ่งฮุบไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว บริษัทสุดท้ายของบ้านหลินก็จะต้องเปลี่ยนชื่อเจ้าของ บ้านหลินในตอนนี้ ทำได้แค่พึ่งธุรกิจเล็กๆประทังชีวิต พอเห๊นคนบ้านซ่งก็เหมือนหนูเห็นแมวยังไงอย่างงั้น
มีเพียงถังเฉาที่ยืนขึ้นด้วยความรู้สึกเฉยชา มองไปทางซ่งหมิงเวย น้ำเสียงเยือกเย็น “ บ้านซ่ง ผมยังไม่ได้มาหาพวกคุณเลย แต่พวกคุณก็มากันก่อนแล้ว”
ซ่งหมิงเวยไม่สนอะไร หัวเราะแล้วเดินมาตรงหน้าถังเฉา สะกิดไหล่ของเขา “ถังเฉา ถ้าฉันเป็นแก ก็คงหาที่ที่ไม่มีคนแล้วหลบไว้ อยู่คนเดียวจนแก่ คงไม่มีหน้าที่จะกลับมาที่นี่——แกดูสายตาของพวกเขาแต่ละคนสิ แกหนีหายไปตัวคนเดียว คนที่คอยเช็ดขี้ตามแกก็คือคนทั้งบ้านหลิน!”
พอได้ยินแล้ว ความเป็นฆาตรกรในแววตาของถังเฉาก็หนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังหันหลังกลับไป
ทุกคนในบ้านหลิน มีใครบ้างที่ไม่จ้องมองเขาอย่างเคียดแค้น อยากจะฆ่าเขาเต็มทน
“คุณชายซ่งถ้าคุณกำลังหาเขา ก็เอาเขาไปด้วยเลยค่ะ ไม่เกี่ยวกับบ้านหลินของเรา!” โจวเหม่ยหยูนของร้องซ่งหมิงเวยด้วยหน้าตาโศกเศร้า
ถึงอยากนั้น ก็ทำร้ายถังเฉาไม่ได้ ยังคงเฉยชาเหมือนเดิม
“ที่พ่อฉันป่วย คงจะไม่เกี่ยวกับคุณใช่ไหม”
จู่ๆ ถังเฉาก็เอ่ยปากออกมา ด้วยน้ำเสียงเย็นชาเป็นธรรมดา
ซ่งหมิงเวยง้างมือออกอย่างไม่เกรงใจ “แกพูดอะไรอยู่ แน่นอนว่าไม่เกี่ยวสิ ฉันมาที่นี่ก็เมื่อมาจับแก เอาคำพูดของพี่สาวฉันมาบอกกับบ้านหลินด้วย พวกคุณมีเวลาหนึ่งอาทิตย์ ในการพิจารณางานที่พี่สาวของฉันวางไว้ให้ ถ้าไม่งั้น ก็รอที่จะว่างงานได้เลย”
เพี๊ยะ!
พอได้ยินแบบนั้นแล้ว ทุกคนก็พากันหน้าซีด
โดยเฉพาะความยากลำบากที่กว่าจะไต่บันไดตึกขึ้นมาชั้นสูง ยิ่งทำให้ตัวสั่นไปหมด
การที่บ้านซ่งจะทำให้พวกเขาตกงานนั้น จริงๆแล้วมันง่ายมาก แค่โทรศัพท์ไม่กี่สาย……
“หวังว่าที่คุณพูดจะเป็นความจริง ไม่โกหกฉันหรอกนะ”
ถังเฉาได้ยินแค่คำพูดข้างหน้าของซ่งหมิงเวย แล้วก็หัวเราะเบาๆไปหนึ่งที
“ จะโกหกหรือไม่โกหกแล้วมีความหมายอะไรล่ะ ยังไงนายก็มีชีวิตรอดได้ไม่นานอยู่แล้ว……”
หัวเราะชั่วร้าย ซ่งหมิงเวยทำสัญลักษณ์มือ การ์ดพวกนั้นก็รีบทารวมตัวอยู่ด้านหลังเขา
“เอ่อ คุณชายซ่ง”
เห็นซ่งหมิงเวยจะลงมือ เจิ้งฮ่าวรีบโน้มตัวไปข้างหน้า กระซิบว่า “ยังไงก็ระวังไว้ดีกว่า มันเป็นนักต่อสู้
“แกนี่มันกระจอกเหมือนการ์ดของฉันกับแกไม่มีผิด”
ซ่งหมิงเวยเคาะไปที่ตัวของเจิ้งฮ่าว พูดดูถูกว่า “นักต่อสู้จะเก่งแค่ไหน ก็แค่ตัวคนเดียว คนของฉันมีตั้งสิบกว่าคน!”
เสียงพูดจบไป การ์ดสิบกว่าคนที่อยู่ด้านหลังเดินไปหาถังเฉาด้วยหน้าตาไร้อารมณ์
“ที่พูดก็ถูก”
เห็นสถานการณ์แล้ว เจิ้งฮ่าวมองดูถังเฉาด้วยความเวทนา ในเมื่อเมื่อกี้ทำให้การ์ดของตัวเองสลบแล้ว ก็ได้เวลาแก้แค้นพอดี!
“ถังเฉา ไม่งั้นนายก็คุกเข่าลง แล้วก้มหัวให้ฉันทีนึง ฉันก็จะไม่ทำร้ายแก ส่งแกไปหาพี่สาวฉันในสภาพเดิม เป็นไง”
จู่ๆ ซ่งหมิงเวยก็นึกขึ้นได้ หัวเราะแล้วพูดว่า “ที่แกหมอบลงเหมือนหมาต่อหน้าพี่สาวฉันเมื่อห้าปีที่แล้ว ฉันยังจำได้แม่นเลย”
“เร็ว คุกเข่า ก้มหัวลง!” เจิ้งฮ่าวยิ้มกรุ้มกริ่ม รอดูสภาพถังเฉาอย่างรอคอย
น่าเสียดาย ถังเฉายังคงดูเป็นปกติ เงียบสงบ
เขาเพียงแค่มองดูเจิ้งฮ่าวและซ่งหมิงเวยด้วยสายตาที่สงสาร เหมือนว่าคนที่ต้องคุกเข่าต้องเป็นพวกเขา
มดแยกเขี้ยวโชว์เล็บให้มังกรดู มังกรก็จะแค่หัวเราะเยาะ มองเหมือนขี้
“ฉันบอกให้แกคุกเข้าลง หูหนวกรึไง”
ซ่งหมิงเวยถูกสายตาของถังเฉายั่วให้โมโห สั่งการ์ดทุกคน “จัดการมันให้ทรมาณ”
“ครับ”
การ์ดทุกคนปิดทางที่จะหนีไว้ทั้งหมด แล้วก็พุ่งเข้ามาหาถังเฉา
ฟู่——
จากนั้น ยังไม่ทันได้โดนตัวถังเฉา เงาสีดำตัวเรียวยาวก็ปรากฏตัวขึ้นเหมือนสายฟ้า
ปึงปึง____
จากนั้น ทุกคนยังเห็นไม่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น การ์ดทุกคนลงไปนอนอยู่กับพื้น ไม่ได้มีการต่อสู้อะไรมากก็หมดสติไปแล้ว
ที่ทำให้คนตกใจไปกว่านั้นคือ การ์ดที่น็อกไปพวกนี้ ข้อต่อของทุกคนนั้นบิดไปในองศาที่ต่างกัน ก็พูดได้ว่า ถึงแม้จะรักษาหาย แต่ก็ยังต้องพิการไปตลอดชีวิต
ข้างหลังของถังเฉา ไม่รู้ว่ามีหญิงสาวคนนึงอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่
เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำ กางเกงหนังสีดำ รองเท้าหนังสีดำ
ฟู่……
ในตอนนี้ มีลมพัดมา ทำให้ผมที่ยาวถึงเอวของเธอปลิวขึ้น
ที่เผยออกมาคือ แววตาที่แดงคู่หนึ่งจนเหมือนเลือดจะไหลออกมา