เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 301
เนื่องจาก ACC Google Drive บินไปหลาย Email
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
เดิมทีเฉิงเพ่ยเป็นคนเมืองหมิงจู แน่นอนว่าเคยได้ยินชื่อบริษัทการบันเทิงฮุยหวงที่เป็นของตระกูลหวาง มีชื่อเสียงมากในวงการบันเทิงแถวเจียงเจ้อ
แต่สิ่งที่เธอแปลกใจก็คือบริษัทการบันเทิงฮุยหวงที่ดูดี ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทการบันเทิงเชาเหอไปได้
คำว่า เชาเหอ หมายความว่าอะไรกัน
คนที่ตกใจไม่ได้มีเพียงเฉิงเพ่ยคนเดียว เหล่าผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ที่นี่ก็ต่างพากันงงไปหมด
แม้แต่หลินชิงเสว่ก็มองถังเฉาด้วยสายตาตกตะลึง
เธอไม่ได้สนใจเรื่องของตระกูลหวางอยู่แล้ว ทำให้ไม่รู้ว่าบริษัทการบันเทิงฮุยหวงมีการเปลี่ยนชื่อ
มีเพียงฟางหย่าเท่านั้นที่มีสีหน้าราบเรียบ เพราะตอนที่บริษัทการบันเทิงฮุยหวงเปลี่ยนชื่อเธอก็อยู่ด้วย
แต่ทว่ายังไงหลินชิงเสว่ก็เป็นประธาน ความตกใจในดวงตาของเธอหายไปอย่างรวดเร็ว เธอพูดกับหลี่ถาวว่า “รีบไปเชิญเธอเข้ามา”
“ค่ะ”
หลี่ถาวพยักหน้า จากนั้นเธอจึงทำตามคำสั่ง ไม่นานประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออก มีเงาของคนสองคนเดินตามหลังกันมา
คนหนึ่งสวมแว่นตาสีดำ รูปร่างสูงโปร่ง ดูมีสง่าราศี ถ้าไม่ใช่นางแบบก็เป็นดารา
ส่วนอีกคนสวมกระโปรงผ่าข้างสีแดง ทำให้ต้นขาอันอวบอิ่มโผล่ออกมาแวบๆ ริมฝีปากสีแดงสด หลังจากที่เดินเข้ามาเธอก็กะพริบตาอันงดงามให้ถังเฉา
พวกเธอคือถังชิงเหอกับจ้าวเย็นหราน
หลังจากที่ถังชิงเหอได้รับตำแหน่งเป็นประธานในบริษัทการบันเทิงเชาเหอ เพราะเธอไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ ดีที่จ้าวเย็นหรานมีความสนใจทางด้านนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงพูดว่าจะช่วย
สองสามวันมานี้ถังชิงเหอออกงานในวงการทั้งงานเล็กงานใหญ่โดยมีจ้าวเย็นหรานไปด้วยเสมอ ถ้าไม่ใช่งานการกุศลก็เป็นงานพบปะเจอหน้ากัน มันสนุกเป็นอย่างมาก
“ถังชิงเหอ คุณถังชิงเหองั้นเหรอ”
เมื่อเห็นถังชิงเหอ หลินชิงเสว่ก็ตกตะลึง บอสของบริษัทการบันเทิงฮุยหวง ไม่ใช่หวางหมิ่นเหมินเหรอ
“ประธานหลิน”
ถังชิงเหอยิ้มบางๆ คนที่อยู่ข้างหลังอย่างจ้าวเย็นหราน เพิ่งเจอหลินชิงเสว่เป็นครั้งแรก หลังจากที่ตกใจกับราศีและความงามของหลินชิงเสว่ เธอจึงก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วยื่นมือออกมา “ฉันเป็นผู้ช่วยของประธานถัง ชื่อจ้าวเย็นหรานค่ะ เรียกฉันว่าเย็นหรานก็ได้”
หลินชิงเสว่จับมือกับจ้าวเย็นหราน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ “คุณเป็นคนตระกูลจ้าวเหรอ”
จ้าวเย็นหรานยิ้มและพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
สีหน้าของพวกผู้บริหารเคร่งขรึมขึ้น
ตระกูลจ้าวเป็นตระกูลในเมืองหมิงจูที่ไม่ค่อยมีใครกล้าไปยั่วโมโห
“เป็นไปไม่ได้! ตระกูลหวางล่ะ”
แววตาของเฉิงเพ่ยเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธอตะโกนถามออกมา
ความคิดที่เธอมีต่อตระกูลหวางยังอยู่ที่ก่อนที่เธอจะออกไปจากเมืองเจียงเฉิง ตอนนั้นตระกูลหวางยังเป็นตระกูลอันดับต้นๆ ในเมืองหมิงจู
จ้าวเย็นหรานปรายตามองเธอ จากนั้นก็ยิ้มหวานออกมา “ไม่มีตระกูลหวางอีกแล้วล่ะ”
“อะไรนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉิงเพ่ยถึงกับเบิกตาโพลง
เธอไม่อยากจะเชื่อ ตระกูลอันดับหนึ่งจะหายไปได้ยังไง
ถังชิงเหอเดินเข้ามาหาหลินชิงเสว่ เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานหลิน จากความร่วมมืออันดีของเราที่มีมาก่อนหน้านี้ บริษัทการบันเทิงเชาเหออยากจะทำสัญญาความร่วมมือระยะยาวกับบริษัทของคุณ จากนี้ไป การโปรโมตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทของคุณ บริษัทการบันเทิงเชาเหอจะรับเหมาทั้งหมดและราคาจะต่ำกว่าตลาดทั่วไป”
หลินชิงเสว่พยักหน้า “งั้นก็ขอให้ความร่วมมือของเราเป็นไปอย่างงดงาม”
“ขอให้ความร่วมมือของเราเป็นไปอย่างงดงามค่ะ”
ถังชิงเหอจับมือกับหลินชิงเสว่ เพื่อแสดงถึงความร่วมมือระยะยาวของสองบริษัท
จู่ๆ สีหน้าของเฉิงเพ่ยก็ไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก
เธอไม่เชื่อว่าบริษัทการบันเทิงเชาเหอ จะเป็นของถังชิงเหอ มันต้องเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
“ไม่ได้สิ!”
เธอโบกมือไปมาและกัดฟันกรอด สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ “บริษัทลี่จิงกรุ๊ปมีความร่วมมือกับพวกเธอมานานแล้ว การขายผลิตภัณฑ์ใหม่ angel ครั้งใหญ่ พวกเธอก็ได้รับเงินจำนวนมาก ความร่วมมือระยะยาวก็ต้องเป็นไปได้อยู่แล้ว!”
“ทำไมเธอพูดไม่คิดเลย ยอมรับความสามารถคนอื่นมันยากนักหรือไง”
ฟางหย่าขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา
ถังเฉาพูดรั้งเธอไว้ “ไม่เป็นไร ให้เธอตะโกนไปเถอะ นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น”
เมื่อพูดจบ เขาก็มองเธอด้วยสายตายียวน
คำพูดกับสายตาของถังเฉา ทำให้ใจของเฉิงเพ่ยวูบโหวง ถึงจะไม่ได้เรียกว่าอกสั่นขวัญแขวน แต่เธอก็รู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออก คนที่ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงอะไร ลูกเขยที่พ่อแม่ตายตั้งแต่เด็กและพึ่งพาอาศัยภรรยา จะเชิญบริษัทระดับนี้มาได้อย่างไร
ผ่านไปครู่หนึ่ง มือถือของหลี่ถาวก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้แววตาของเขาเคร่งขรึมขึ้น
“มีอะไรอีก” เฉิงเพ่ยรีบถาม
หลังจากที่วางสาย หลี่ถาวมองเฉิงเพ่ยด้วยแววตาสะใจ “ประธานเฉิง คุณช่วยตัวเองจะดีกว่านะคะ ประธานบริษัทจำนวนมากกำลังมาที่นี่ด้วยตัวเอง”
ปังง
เสียงประตูห้องประชุมถูกเปิดออกอย่างแรง เหล่าชายฉกรรจ์ท่าทางดุดันเดินเข้ามา
เมื่อเห็นคนพวกนั้น เฉิงเพ่ยถึงกับหน้าซีดเผือด
การมาถึงของคนกลุ่มนี้ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความตึงเครียด
“ซุนยู่เฟิงผู้นำตระกูลซุน!”
“หลินเจิ้นสงจากหลงเถิงกรุ๊ป”
“ต่งวี่ซู่จากตระกูลต่ง!”
“อีกทั้งยังมี…”
“บริษัทตระกูลซ่ง”
เมื่อพูดใกล้จะจบ น้ำเสียงของเฉิงเพ่ยสั่นอย่างรุนแรง เธอหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
หลังจากที่คนที่เดินนำหน้าอย่างซุนยู่เฟิง ต่งวี่และซ่งหมิงเวยกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยสายตาเย็นชา จู่ๆ เขาก็หันไปหาหลินชิงเสว่ด้วยท่าทีนอบน้อม
“คุณหลินชิงเสว่ หลังจากนี้ถ้าต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลซุน คุณพูดมาได้เลยนะครับ”
“ตระกูลต่งก็เช่นกันครับ ก่อนหน้านี้เพราะวี่ซู่ยังเด็กไป ตอนนี้ผมยอมทำตามบริษัทลี่จิงกรุ๊ปทุกอย่างครับ!”
“ชิงเสว่ หลงเถิงกรุ๊ป ของฉันด้วย”
ทุกคนต่างพากันแสดงท่าทีออกมา ขอแค่หลินชิงเสว่ตอบตกลง ความร่วมมือก็จะสำเร็จลุล่วงทันที
ภาพตรงหน้ากระแทกใจของเฉิงเพ่ยเป็นอย่างมาก
เดิมทีคิดว่าบริษัทการบันเทิงเชาเหอคือบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุด คิดไม่ถึงว่าบริษัทที่ตามหลังมาจะเป็นบริษัทที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตระกูลซุนกับหลงเถิงกรุ๊ป ยังไม่เท่าไร แต่ตระกูลต่งกับตระกูลซ่งนี่สิ เขาเป็นสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหมิงจูเชียวนะ!
อีกอย่างบริษัทพวกนี้ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่นอกเหนือกับบริษัทลี่จิงกรุ๊ป การที่แวะมาครั้งนี้ ต้องไม่ใช่เพราะหลินชิงเสว่แน่นอน
อย่าบอกนะว่าถังเฉาเป็นคนเรียกมา
ขณะนั้นถังเฉาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมา เขายิ้มสดใสให้กับเฉิงเพ่ย “ประธานเฉิง ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเหมาะสมแล้วหรือยัง”
ตุ้บ
คำพูดของถังเฉาทำให้เฉิงเพ่ยนั่งลงกับที่ สีหน้าของเธอซีดเผือด
เพราะซุนยู่เฟิง ต่งวี่และซ่งหมิงเวยต่างมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ไม่ว่าใครก็สามารถสั่งสอนเธอได้ทั้งนั้น
เธอกัดฟันกรอด เธอสับสนแต่สุดท้ายก็ยอมแพ้
“ฉันขอโทษที่สงสัยนาย!”
คำขอโทษแค่คำเดียว ใบหน้าของผู้บริหารระดับสูงและระดับกลางที่โดนไล่ออกถึงกับซีดเผือด
เดิมทีพวกเขาเอาความหวังฝากไว้กับเฉิงเพ่ย แค่เธอล้มหลินชิงเสว่ได้ พวกเขาก็จะสามารถกลับเข้ามาในบริษัทลี่จิงกรุ๊ป
ใครจะไปรู้ว่าเมื่อเฉิงเพ่ยกลับมาสร้างปัญหาในเมืองหมิงจูเป็นครั้งแรก เธอกลับต้องแพ้พ่ายกลับไป
ขณะนั้นหลินชิงเสว่ก็ประกาศออกมาว่า “ในเมื่อทุกคนไม่มีข้อคัดค้าน ถังเฉาก็รับหน้าที่เป็นรองประธาน!”
“นอกจากนี้ พวกคุณทั้งหลายต้องเอารายงานการลาออกมาให้ฉันก่อนเที่ยง!”
“เลิกประชุม!”
เธอกวาดตามองเหล่าผู้บริหารที่โดนไล่ออกอย่างไม่แยแส หลินชิงเสว่กำลังจะเดินออกไป
แววตาของ เฉิงเพ่ย เต็มไปด้วยความไม่พอใจและเดินออกจากห้องประชุม
ฟางหย่าเดินเข้ามาพูดยินดีและเดินกลับไปที่แผนกของตัวเอง
ซุนยู่เฟิง ต่งวี่และคนอื่นก็พากันแยกย้ายเหมือนกัน มีเพียงซ่งหมิงเวยที่ยังอยู่
“เดี๋ยวก่อนครับคุณถังเฉา คุณหลินชิงเสว่…”
เขาเรียกถังเฉากับหลินชิงเสว่เอาไว้ “จริงๆ นอกจากผม ลูกพี่ลูกน้องของผมก็มาที่นี่ครับ เธอรอพวกคุณอยู่ที่เลานจ์ชั้นบนสุดครับ!”