เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 302
“ซ่งหรูอี้เหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งหมิงเวย ถังเฉากับหลินชิงเสว่ชะงักฝีเท้าลงและมองหน้ากัน
โดยปกติแล้วการซ่งหรูอี้จะไม่ปรากฏตัวในงานทั่วไป การที่เธอออกมาจะต้องเป็นเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน
ถังเฉาก็ไม่รู้ว่าเธอมาหาพวกเขาเพราะคิดอยากจะทำอะไร ถ้ารู้ก็ไม่ใช่ซ่งหรูอี้สิ
“บอกเธอว่าเราจะรีบไป”
เมื่อพูดจบ ถังเฉากับหลินชิงเสว่ก็ขึ้นลิฟต์ไปข้างบนเลานจ์
เมื่อมาถึงชั้นบนสุด เขามองผ่านกระจกเห็นรูปร่างอันงดงามนั่งอยู่บนโซฟา เธอกำลังจิบชาอย่างสบายใจ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูเป็นลูกคุณหนูที่สง่างาม
ถังเฉายอมรับเลยว่าซ่งหรูอี้เป็นคนเดียวที่สามารถต่อกรกับหลินชิงเสว่ได้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความงาม ฐานะเงินทองรวมไปถึงอำนาจ
ขนาดด้านเล่ห์เหลี่ยมยังดูเหมือนว่าเธอจะอยู่เหนือกว่าหลินชิงเสว่เล็กน้อย
ถึงแม้ตระกูลซ่งจะไม่ใช่ตระกูลของเธอ เธอถูกรับเลี้ยงเท่านั้น ถังเฉาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชาติตระกูลที่แท้จริงของเธอมาจากไหน
ผู้หญิงแบบนี้ลึกลับทั้งความงาม เล่ห์เหลี่ยม เงินทองและอำนาจ ถ้าจะให้พูดถึงคุณค่าบางอย่าง เธอดูพิเศษและงดงามกว่าหลินชิงเสว่
เธออยู่ในชุดกี่เพ้าสีม่วงอ่อน เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งออกมาอย่างชัดเจน มีทั้งเสน่ห์ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนรู้สึกว่าเธอดูสูงส่งเป็นอย่างมาก เธอปรายตามองมาด้านข้างเป็นบางครั้ง เธอเหมือนดอกบัวแดงที่มีความลึกลับ เชยชมได้ทางสายตา แต่ไม่สามารถจับต้องได้ ทำให้รู้สึกแปลกไม่เหมือนใคร
เมื่อเห็นถังเฉา ซ่งหรูอี้วางแก้วชาในมือลง จากนั้นจึงเดินเข้ามาหาเขาแล้วชี้ไปที่ประตูห้องทำงานที่ล็อกเอาไว้ “เปิดประตูสิ”
ถังเฉาถามด้วยสีหน้าแปลกใจ “คุณรู้ได้ยังไงว่าห้องทำงานผมอยู่ที่นี่”
ห้องทำงานห้องนี้ เป็นห้องทำงานเจ้าของอาคาร นอกจากเจิงเทียนเสียง หูอีซาน หลัวปู้ ก็มีแค่หลินชิงเสว่เท่านั้นที่จะสามารถเข้าออกที่นี่ได้ทุกเมื่อ ซ่งหรูอี้รู้ได้ยังไง
ซ่งหรูอี้ยิ้มบางๆ “นายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายเป็นเจ้าของอาคารกั๋วจี้”
“คุณรู้เหรอ”
สีหน้าของถังเฉายิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
“รู้มานานแล้ว”
ซ่งหรูอี้ยิ้มบางๆ “ถ้าฉันไม่รู้ว่านายเป็นใคร ฉันจะใช้ฐานะของนายไปหลอกซ่งเทียนซานได้ยังไงล่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของถังเฉาก็นิ่งไป
แน่นอนว่าซ่งเทียนซานอยากได้โครงการสร้างเมืองจึงโดนซ่งหรูอี้หลอกใช้ และให้ข่าวผิดๆ ว่าเหวินเหวยเฉินเป็นเจ้าของอาคาร
เขาจ้องเธอเขม็ง จากนั้นก็เปิดประตูห้องทำงาน หลินชิงเสว่กับซ่งหรูอี้เดินเข้าไปพร้อมกัน
ถังเฉากับหลินชิงเสว่นั่งตรงข้ามซ่งหรูอี้ พวกเขาพูดออกมาตรงๆ ว่า “พูดมาสิว่ามาหาเราเพราะอะไร”
ซ่งหรูอี้ยิ้มบางๆ “แน่นอนว่าเป็นเรื่องความร่วมมือ บริษัทตระกูลซ่งของฉันให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับพวกคุณเป็นอย่างมาก”
“พูดมาสิ”
น้ำเสียงของหลินชิงเสว่ราบเรียบและมองเธอด้วยสายตาประเมิน
ตัวตนของซ่งหรูอี้เพียงพอที่จะทำให้หลินชิงเสว่หวาดระแวง ในบรรดาพวกผู้หญิง มีเพียงเธอเท่านั้นที่ทำให้หลินชิงเสว่ปฏิบัติกับเธอเป็นพิเศษ
บวกกับก่อนหน้านี้เพราะแผนของซ่งหรูอี้ ทำให้ทั้งสองได้ร่วมมือกัน เธอจะไม่ระแวงซ่งหรูอี้ได้ยังไงกัน
ซ่งหรูอี้ยิ้มและไม่สนใจ เธอพูดถึงเรื่องความร่วมมือ
ถึงแม้หลินชิงเสว่จะโต้เถียงไปหลายประโยค แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงสงบ
“สุดท้าย ฉันขอเตือนว่าให้ระวังทุกเรื่อง”
ซ่งหรูอี้พูดเหมือนมีเลศนัย จากนั้นก็ลุกออกไป
ถังเฉาหรี่ตาลง เขารู้สึกว่านี่เป็นคำขู่ของซ่งหรูอี้
หลินชิงเสว่ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา “เดี๋ยวก่อน!”
ซ่งหรูอี้ชะงักฝีเท้าลงและหันกลับมา เธอมองหลินชิงเสว่ด้วยสายตาราบเรียบ “มีเรื่องอะไรอีกเหรอ”
สีหน้าของหลินชิงเสว่เย็นชา “พูดมาให้ชัดเจนแล้วค่อยไป”
ซ่งหรูอี้กลับไม่สนใจ “ฉันน่าจะพูดชัดเจนแล้วนะ”
พูดจบ เธอก็เดินออกจากประตูโดยไม่สนใจหลินชิงเสว่
สวบ!
จู่ๆ ก็มีร่างของใครบางคนปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอและมองเธอด้วยสายตาราบเรียบ
ซ่งหรูอี้ตกใจมาก เมื่อเธอตั้งสติได้ ก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ไร้ความหวาดกลัว “อะไรกัน นายไม่คิดถึงความสัมพันธ์เก่าๆ เลยเหรอถึงไม่ยอมให้ฉันไป”
“ขอโทษด้วย เรื่องนี้สำคัญมาก ช่วยพูดให้ชัดเจนแล้วค่อยไป”
สีหน้าของถังเฉาเฉยชาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ซ่งหรูอี้เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองถังเฉาอย่างประเมิน “จะให้ฉันพูดให้ชัดเจนก็ได้ แต่สองทุ่มคืนนี้นายต้องมาที่บ้านตระกูลซ่ง อนุญาตให้นายมาคนเดียวเท่านั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อย สีหน้าของหลินชิงเสว่เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
นัดสามีของเธอต่อหน้าแบบนี้ ไม่เห็นเธออยู่ในสายตาชัดๆ
“ซ่งหรูอี้ เธอคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอเหรอ” น้ำเสียงของหลินชิงเสว่เย็นยะเยือก
บางทีอาจเป็นการปะทะกันของผู้หญิงสองคนที่เก่งพอๆ กัน ซ่งหรูอี้เชิดหน้าขึ้นมองแล้วพูดว่า “เธอไม่เชื่อใจสามีของตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ หรือเธอคิดว่าฉันจะแย่งเขามาจากเธอ เพราะว่าห้าปีก่อนเขาแต่งกับฉัน”
จู่ๆ แววตาของหลินชิงเสว่ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่นานก็กลับมาเย็นชาเหมือนเดิม “เธออย่ามายั่วโมโหฉัน ฉันแค่พูดตามหลักเหตุผล นัดคนที่มีภรรยาแล้ว เธอดูมีเกียรติมากเลยเหรอ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งหรูอี้ชะงักไป แววตาของเธอเย็นชา และไม่อยากจะพูดอะไรต่ออีก
“แล้วแต่เธอจะคิด สรุปว่าคืนนี้ตอนสองทุ่มที่บ้านตระกูลซ่ง ถ้ามาสายฉันไม่รอนะ”
พูดจบ ซ่งหรูอี้หันไปมองถังเฉาแล้วผลักเขาออก จากนั้นก็เดินออกไป
หลังจากที่ซ่งหรูอี้ออกไป ถังเฉารีบมองหลินชิงเสว่ด้วยสายตาเป็นกังวล “ชิงเสว่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”
หลินชิงเสว่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางหงุดหงิด เธอมองถังเฉาแล้วพูดว่า “คืนนี้นายจะไปไหม”
ถังเฉาสับสนขึ้นมาในใจ จู่ๆ เขาก็เดาทางซ่งหรูอี้ไม่ออก
เขากลัวว่าซ่งหรูอี้จะวางมาดใหญ่โตเพื่อตบตาผู้คน แต่ก็กลัวว่าซ่งหรูอี้จะทำอะไรลับหลังขึ้นมาจริงๆ
“ไป!”
หลังจากที่สับสนอยู่ครู่หนึ่ง ถังเฉาจึงพูดออกมาอย่างแน่วแน่
สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
“ช่างเถอะ นายไปเถอะ”
หลินชิงเสว่โกรธและเดินออกไปจากห้องทำงาน
สีหน้าของถังเฉาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่เขาไม่ได้ลุกตามเธอไป
“ขอโทษนะชิงเสว่ ผมไม่อยากให้เกิดอะไรผิดพลาดแม้แต่น้อย…”
เมื่อหลินชิงเสว่เดินออกมาข้างนอกได้พักหนึ่ง เธอไม่เห็นถังเฉาตามมา จึงกัดฟันและกระทืบเท้าด้วยความโกรธ จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน
ไม่นานก็ถึงช่วงค่ำ
หลินชิงเสว่เลิกงานและไปรับถังเสี่ยวลี้โดยไม่ส่งข้อความไปหาถังเฉา
ถังเฉาดูเวลาและรีบไปที่บ้านตระกูลซ่ง
เมื่อมาถึงก็สองทุ่มพอดี ดวงจันทร์กลมโตแขวนอยู่บนท้องฟ้า
ถังเฉาเดินตรงเข้าไปในบ้านตระกูลซ่ง จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ซ่งหรูอี้ล่ะ”
ซ่งหมิงเวยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “พี่กำลังแต่งตัว…”
“หลีกไป!”
ถังเฉาแผดเสียงออกมา จากนั้นก็ดึงซ่งหมิงเวยออกและเดินเข้าไปข้างหลังบ้าน
ข้างหลังบ้านตระกูลซ่งเป็นบ้านไม้ที่อยู่ในป่าไผ่ อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำอยู่ด้วย แต่เดิมมันเป็นของซ่งสวินผู้นำตระกูลซ่ง หลังจากที่ซ่งหรูอี้ขึ้นมารับตำแหน่งก็ตกเป็นของเธอ
ปังงง
ถังเฉาผลักประตูออกอย่างแรง แต่กลับเจอกับภาพที่เขาต้องตกตะลึง
ซ่งหรูอี้อยู่ในชุดเดรสสีขาวบางๆ นั่งอยู่ที่ริมสระน้ำ แต่ทว่าผมยาวๆ ของเธอเปียกชื้น หญิงสาวกำลังบิดผมของตัวเอง ค่อยๆ ล้างหน้าและสางผม
ขณะนั้นก็เหมือนว่าเธอจะรับรู้ได้ถึงสายตาของถังเฉา เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆ และยิ้มอย่างลุ่มลึก
“มาแล้วเหรอ”