เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 31
บทที่31ใจเย็นไม่ได้แล้ว
“เห็นหรือยังล่ะ? เขาเป็นพ่อของฉัน”
หลังจากที่ถังเฉามาถึง ถังเสี่ยวลี้ก็หยุดร้องไห้ และพูดกับทุกคนในห้องทำงานของอย่างแข็งกร้าว
ครูหลินและหวางเสี่ยวเป่าและพ่อของเขาในขณะ ตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขามองถังเฉาด้วยสีหน้าที่เหมือนกับกำลังเห็นผี
“พ่อหรือ?”
เธอมีพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอมีพ่อด้วยหรือ?
พ่อคนนี้ของเธอออกมาจากไหนอีก?
คุณเป็นใคร?
ครูหลินถามถังเฉาด้วยสีหน้าที่ซีดและปนแดง
“ผมเป็นพ่อของเสี่ยวลี้ เมื่อกี้คุณบอกว่าจะไล่ใครออกหรือ?”
ถังเฉาไม่ได้แสดงสีหน้าที่โกรธ และมองครูหลินด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ไม่รู้เพราะสาเหตุใด ครูหลินกลับรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ครูหลินรู้สึกตัวเย็นจนสะท้าน
คนที่รู้จักถังเฉาดีจะรู้ว่า ถังเฉาในตอนนี้เป็นถังเฉาที่น่ากลัวที่สุด
จากการสนทนาเมื่อกี้ ถังเฉาได้เข้าใจถึงเรื่องราวไปมาทั้งหมด
เด็กที่ชื่อหวางเสี่ยวเป่าเป็นเด็กอันธพาลในห้อง และเขาชอบเอาเรื่องที่ถังเสี่ยวลี้ไม่มีพ่อมาล้อเธอ และวันนี้ถังเสี่ยวลี้สุดจะทน เธอก็เลยทุบไปที่หัวของหวางเสี่ยวเป่า ทำให้หัวของหวางเสี่ยวเป่าถลอก
สิ่งที่เกิดขึ้นกลับถูกฝ่ายผู้ปกครองและครูตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม และเธอยังต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน
5ปีกับการหายตัวไป ถังเสี่ยวลี้ไม่ได้รับไออุ่นจากพ่อเลยแม่แต่น้อย และไม่รู้ว่าพ่อของเธอนั้นมีใบหน้าอย่างใด ตอนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลก็ยังต้องถูกรังแกและหัวเราะเยาะเพราะตัวเอง นี้แค่สิ่งที่เขารู้ แต่สิ่งที่เขายังไม่รู้ยังมีอีกเยอะ
อารมณ์เศร้าโศก ได้แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของถังเฉา ตอนนี้บรรยากาศในห้องทำงานเยือกแข็ง
ครูหลินที่เป็นครูประจำชั้น ถูกถังเฉาจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชา ทำให้หัวใจของเธอเต้นอย่างถี่มาก เหมือนจะหลุดออกมาจากหน้าอก ครูหลินในตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเลย
“ผมกำลังรอคำตอบคุณอยู่นะ”
ถังเฉาเดินไปตรงหน้าของครูหลิน และถามด้วยเสียงที่เบา
ครูหลินด้วยความที่กลัวเธอเลยพูดออกมาว่า:” ฉันบอกว่าจะไล่เด็กคนนี้ออกหรือ?”
“อ่อ นั้นก็ผมเองสินะที่หูฟาดไปเอง” ถังเฉายิ้มที่มุมปาก
“ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ …..” ครูหลินรีบพยักหน้า
แต่แม่ของหวางเสี่ยวเป่าไม่ยอม :” คุณพูดว่าอะไรนะ เมื่อกี้ยังบอกว่าจะไล่ออกอยู่เลย แต่ตอนนี้ทำไมถึงไม่ไล่ออกแล้ว?”
“ใช่ครับ จะพูดไม่เป็นคำพูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ” พ่อของหวางเสี่ยวเป่าไม่พอใจและพูดเสริมไป
สายตาของถังเฉาได้ย้ายไปอยู่ที่แม่ของหวางเสี่ยวเป่า และพูดว่า :” คุณครูบอกว่าจะไม่ไล่ออก คุณมีปัญหาอะไรมั้ยครับ?”
คำพูดของถังเฉาเต็มล้นไปด้วยความน่าเกรงขาม ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะขัดจังหวะ
แม่ของหวางเสี่ยวเป่ามองถังเฉาด้วยสีหน้าที่แน่นิ่งเธอเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วสีหน้าของเธอได้เปลี่ยนไป และพูดออกมาว่า :” ฉันรู้แล้ว เขาไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของถังเสี่ยวลี้ เป็นแค่คนที่ถูกจ้างมา ใช่มั้ย?”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา สีหน้าของถังเสี่ยวลี้ได้เปลี่ยนไปทันที และแววตาของถังเฉาได้ดูมืดมน
พ่อของถังเสี่ยวลี้ไม่เคยปรากฏตัว จะปรากฏตัวอย่างกะทันหันแบบนี้ได้หรือ?
“ไม่ใช่ เขาเป็นพ่อของหนูจริงๆ !”
ถังเสี่ยวลี้ที่ร้อนรนและจะร้องไห้ ได้ตะโกนออกมา
เธอไม่รู้ว่าจ้างแปลว่าอะไร แต่เธอแค่เข้าใจว่ามีคนพูดว่าถังเฉาไม่ใช่พ่อของเธอ เธอจึงร้อนตัว
เธอยังอยากที่พูดอะไรเพิ่มเติมเพื่อที่จะยืนยันว่าคนนี้คือพ่อของเธอจริงๆ แต่ด้วยเธอที่อายุยังน้อย การปะติดปะต่อคำยังไม่เก่ง และด้วยความเขิน เธอก็เลยพูดอะไรไม่ออกเลย
“เป็นไงล่ะ พูดอะไรไม่ออกแล้ว เธอเป็นเด็กที่เกิดจากในป่า เป็นเด็กที่ไม่มีพ่อ!” หวางเสี่ยวเป่าก็หัวเราะอยู่หลังพ่อแม่ของตัวเอง
ถังเสี่ยวลี้กัดริมฝีปากของตัวเอง สีหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้
ถังเฉารีบไปกอดเธอ และยิ้มแล้วพูดว่า:” เสี่ยวลี้ เชื่อคุณพ่อมั้ย?”
ถังเสี่ยวลี้เช็ดไปที่จมูกของตัวเองและพยักหน้า:” เชื่อค่ะ”
“งั้นก็ไม่ร้องนะ”
ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาว่า:” อย่าก้มหัวนะ เดียวมงกุฎจะร่วง อย่าเสียน้ำตานะ เดียวคนโง่จะหัวเราะ”
ฮึก—-
ตอนนี้พูดประโยคนี้ออกมา ถังเสี่ยวก็ได้ขำออกมา หัวเราะจนน้ำมูกกระเด็น
ถังเฉาลูบๆ ไปที่หน้าของถังเสี่ยวลี้ แล้วหันกลับไปมองคนพวกนั้น
สายตาของถังเฉาในตอนนี้ดูเยือกเย็นแบบไร้ขี่จำกัด
“ยังไม่ต้องสนใจว่าผมเป็นใคร พวกคุณรวมหัวกันกลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหรือ?”
เขาแสดงสีหน้าเย็นชาและพูดว่า:” ขอโทษลูกสาวผม และให้ลูกของคุณย้ายโรงเรียนไปซะ”
“อะไรนะ?!”
ได้ยินที่ถังเฉาพูดแบบนี้ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน คำดูดที่ปรากฏในหัวพวกเขาตอนนี้คือ อวดเก่ง
อวดเก่งเกินไปแล้ว
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกตลก
ผู้ชายคนนี้ไม่รู้โผล่มาจากไหน กลับจะให้ลูกชายของพวกเขาย้ายโรงเรียน
เป็นไปได้หรือ?
“ฉันคิดว่าคุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้สินะ”
ผู้หญิงวัยกลางคนที่ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัวนี้มองถังเฉาด้วยสีหน้าที่ดูถูกและบอกว่า:” นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นคนของตระกูลหวาง ฉันไม่เพียงทำให้ลูกสาวนายถูกไล่ออกได้อย่างเดียวนะ ฉันยังทำให้นายตกงานได้ด้วย”
“ตระกูลหวางหรือ?”
ถังเฉานิ่งไปชั่วครู่ เขาจำได้เลือนลางว่า งานแต่งงานครั้งก่อนได้เชิญตระกูลหนึ่งมาร่วมงาน ก็คือตระกูลหวาง
ตอนนั้นคนที่เป็นตัวแทนมาร่วมงานก็คือคุณชายหวาง
“กลัวแล้วละสิ?”
คุณหวางมองถังเฉาที่เงียบด้วยสายตาที่ดูถูก และหันไปมองครูหลิน:” เรื่องนี้ถ้าครูหลินไม่จัดการให้ดี เราจะหยุดสนับสนุนให้ทางโรงเรียน ฝ่ายไหนสำคัญกว่า คุณคงจะรู้ใช่มั้ย?”
“ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ….. คุณหวาง คุณเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของเรา และเป็นผู้มีบุญคุณแด่โรงเรียนของเรา” ครูหลินพูดและยิ้มอย่างมีเล่ศนัยอย่างไม่ได้คิดอะไรเลย
ถังเสี่ยวลี้รู้สึกผิดปกติ และดึงคอเสื้อของถังเฉา:” คุณพ่อ จะเรียกคุณแม่มามั้ย……”
คุณแม่เคยบอกกับเธอว่า ห้ามพูดในโรงเรียนว่าแม่ของเธอเป็นประธานบริษัทลี่จิง ถ้าทำแบบนั้นจะเกิดสิ่งไม่ดีกับตัวเธอ เพราะถ้าบ้านรวย ก็จะทำคนอื่นมาเป็นพรรคพวกของเธอ
ถึงแม่ว่าตอนอยู่อนุบาลอายุยังน้อย แต่เด็กทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ถังเสี่ยวลี้รู้ว่าต้องมีเพื่อนเป็นเด็กที่มีครอบครัวที่รวย ถังเสี่ยวลี้ก็มีมารยาท และไม่เคยเอ่ยปากอวดว่าแม่ของเธอเป็นถึงประธานบริษัท”
“ไม่เป็นไร แม่ยังประชุมอยู่ อย่าไปรบกวนแม่เลย”
ถังเฉาลูบหัวของถังเสี่ยวลี้ด้วยความรักใคร่ สีหน้าที่ตกใจของถังเฉา ค่อยๆ ปัดไปที่ผมของถังเสี่ยวลี้ เห็นเนื้อที่นูนออกมา และช้ำเลือด
ตอนที่ถังเฉาที่ลูบไปบริเวณนั้น ถังเสี่ยวลี้ได้ร้องออกด้วยความเจ็บ
“ไปโดนอะไรมา?” ถังเฉาถาม
“ถูกพ่อของหวางเสี่ยวเป่าตี……” ถังเสี่ยวลูบหัวของตัวเอง และพูดด้วยความน้อยใจ
ถังเฉาในตอนนี้โมโหจนจะฆ่าคนได้ เขาใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นจ้องไปที่พ่อของหวางเสี่ยวเป่า:” คุณตีลูกของผมหรือ?”
“อย่าพึ่งใจร้อน อย่าพึ่งใจร้อน……”
สีหน้าของพ่อหวางเสี่ยวเป่าเปลี่ยนสี แต่ก็ยังทำเหมือนไม่รู้เรื่อง
“ผมเป็นคนทำหรือ……?”
ถังเฉาค่อยๆ เงยหน้า ถีบไปที่ท้องของเขาสุดแรง
พลั่ก
เสียงที่ดัง สนั่นหวั่นไหวพ่อของหวางเสี่ยวเป่าล้มลงไปพร้อมกับเก้าอี้
ถังเฉาค่อยๆ พูดด้วยน้ำเสียงแห่งๆ :” ผมก็ใจร้อนไปหน่อย‘’