เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 32
บทที่ 32 เย่เทียนหลง
ซีีด—
ห้องทำงานตอนนี้เงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจ
ทุกคนมองถังเฉาด้วยสายตาที่ตกใจและเกรงกลัว ความกลัวทำให้เขาไม่กลัวที่จะหายใจ
พ่อของหวางเสี่ยวเป่าที่ตัวใหญ่กำยำสูงร้อยแปดสิบห้าเซน เพียงว่าให้เขายื่นอยู่ที่ไหนสักแห่งก็สามารถรู้สึกได้ถึงความน่าเกรงขาม แต่กลับถูกถังเฉาถีบเหมือนดั่งลูกบอล
โต๊ะเก้าอี้ในห้องทำงานครูได้ล้มเรี่ยราด ห้องทำงานในขณะนี้เหมือนห้องที่รก
พ่อของหวางเสี่ยวเป่าอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ภาพที่โดนถังเฉาถีบยังติดตาเขาอยู่เลย
“โอ๊ย เจ็บมาก”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น พ่อของหวางเสี่ยวเป่าได้ค่อยๆ ลุกขึ้นและด่าในใจไปด้วย เขารู้สึกเจ็บที่หัว
เมื่อเอามือไปจับบริเวณนั้น มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก
“อ้ะ! เลือด!”
หญิงคนนั้นเมื่อเห็นเลือดบนหัวพ่อของหวางเสี่ยวเป่า เธอก็ได้ร้องออกมา และสลบไปทันที
ถังเฉาหัวเราะเยาะเธอ กลัวเลือดไปได้
“คุณหลวง คุณเป็นไงบ้าง?” ครูหลินเห็นท่าไม่มี รีบไปประคองหญิงคนนั้นไว้
พ่อของหวางเสี่ยวเป่าได้เอากระดาษไปเช็ดเลือดที่หน้าผาก และจ้องไปที่ถังเฉาด้วยสายตาที่เคียดแค้น “นายกล้าถีบฉันหรอ?”
สีหน้าของถังเฉายังเย็นชาเหมือนเดิม:” คุณควรจะดีใจนะที่เจอผมตอนปัจจุบัน ถ้าเป็นผมในเมื่อก่อน และคุณมาทำร้ายลูกสาวผม คุณกลายเป็นศพไปนานแล้ว”
คำพูดที่ไร้ความรู้สึก ทำให้พ่อของหวางเสี่ยวเป่าเกิดความเกรงกลัว
เขาไม่เคยพบเจอคนแบบนี้มาก่อน
แต่เขาก็ไม่ยอมจบแค่นี้
“ได้ ได้ๆ นายเก่ง แต่เดียวฉันจะดูว่านายจะเก่งได้ซะแค่ไหนเชียว
เขาได้จ้องถังเฉาด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม พ่อของหวางเสี่ยวเป่าได้หยิบมือถือขึ้นมาและโทรหาใครสักคน:” ฮาโหล พี่เทียนหลง:“ช่วยผมจัดการคนคนหนึ่งหน่อยครับ”
ครูที่อยู่รอบๆ หน้าเสียกันหมด พวกครูได้เรียกให้ผอ.โรงเรียนมา
ผอ.โรงเรียนเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ผอ.เดินเข้ามาก็ได้รีบมาพูดคุยกับถังเฉาและพ่อของหวางเสี่ยวเป่า “คุณทั้งสองคนมีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน อย่าทะเลาะกันเพื่อเรื่องเล็กแค่นี้จนทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ชอบหน้ากัน”
“ผมไม่ถูกกับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!”
พ่อหวางเสี่ยวเป่าได้พูดแทรกผอ. :” เขากล้าทำร้ายร่างกายผม ผมก็จะให้เขาชดใช้กับสิ่งที่เขาทำ ไม่งั้นผมจะทำให้ตระกูลหวางขายหน้าหรือ?”
ถังเสี่ยวลี้เริ่มที่จะกลัว:” คุณพ่อ พวกเราไปกันเถอะนะ ได้มั้ย?”
ถังเฉาลูบหัวของเธอด้วยความรัก แต่แววตาของถังเฉาแฝงไปด้วยความโหด:” เสี่ยวลี้ลูกจำไว้นะ ลูกของพ่อ ลูกอยู่ข้างนอกพ่อจะไม่ให้ลูกต้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ พ่อจะสอนลูกให้ทำความดี แต่จะไม่สอนลูกก้มหัวให้คนอื่น!”
ถังเสี่ยวลี้ที่ได้ยินแบบนี้ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ครูหลินและผู้ปกครองได้ยินแบบนี้หน้าซีดไปตามๆ กัน
“ตอนนี้นายอวดเก่งไปก่อน รอพี่เทียนหลงมาถึงก่อน ฉันจะดูว่านายจะเก่งได้ซะแค่ไหน!” บาดแผลที่ยังเจ็บอยู่ ทำให้พ่อหวางเสี่ยวเป่าพูดด้วยความคับแค้นใจ
ไม่นาน รถตู้ที่ไม่มีป้ายทะเบียนที่นำขบวนโดยรถเบนซ์ ได้มาถึงที่โรงเรียนอนุบาลนี้
เมื่อเปิดประตู คนที่ร่างใหญ่กำยำและดูเหี้ยมโหดได้เดินเข้ามา
หัวหน้าพวกเขากลับเป็นหนุ่มใส่สูทหน้าตาดี
พ่อหวางเสี่ยวเป่าที่เห็นหนุ่มใส่สูทเดินเข้ามา เขาได้รีบไปต้อนรับ:” พี่เทียนหลง พี่มาถึงเร็วมาก”
คุณครูที่อยู่ในโรงเรียนมองไปที่คนพวกนี้ กลัวจนไม่กล้าที่จะกระซิบอะไรกันเลย ถังเฉากลับหัวเราะออกมาอย่างเสียงหลง
สังคมสมัยนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วอันธพาลยังรู้จักการแต่งตัวให้ดูดีเลย
ตระกูลหวางเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลไม่น้อยในหมิงจู คนที่สามารถทำให้ตระกูลหวางต้องเคารพมีเพียงอิทธิพลใต้ดิน ของหมิงจู
ดั่งประโยคที่ว่าถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม คนที่สามารถมีอำนาจมากขนาดมีไม่เยอะและต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดาแน่นอน
คนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นอิทธิพลใต้ดินของหมิงจูหัวหน้าแก๊งค์เทียนหลง เย่เทียนหลง
” อืม”
เย่เทียนหลงแค่ตอบรับเบาๆ ไม่ได้กระตือรือร้นอะไร
เขามองไปรอบด่าน และหันกลับไปมองพ่อหวางเสี่ยวเป่า และชี้ไปที่ถังเฉาและถามว่า:” นายคนนี้ใช่หรือไม่?”
“ใช่ครับๆ ” พ่อของหวางเสี่ยวเป่าพยักหน้า
“ไม่มีปัญหา แต่อย่าลืมตำราของฉันนะ” เย่เทียนหลงพูดเบาๆ
“พี่เทียนหลง ตำราที่พี่ต้องการ เดียวผมให้คนส่งไปให้เลย” พ่อหวางเสี่ยวเป่ารีบพูดออกมา
ทั้งหมิงจู ไม่มีใครไม่รู้ว่าพี่เทียนหลงไม่ชอบเงิน ไม่ชอบผู้หญิง ยิงไม่ชอบการพนัน ชอบการศึกษาศิลปะการต่อสู้
เป็นคนที่คลั่งไคล้ในศิลปะการต่อสู้เลยก็ว่าได้
สิ่งที่เขาชอบมากที่สุดคือ ไปตามหาตำราศิลปะการต่อสู้จากทุกทิศไม่ว่าจะลงใต้หรือขึ้นเหลือเขาไม่สนว่าตัวเองจะฝึกได้หรือไม่ ถ้าฝึกได้ก็ฝึก ฝึกไม่ได้ก็เก็บสะสมไว้
ถังเฉาได้ยินทุกคำของการสนทนาระหว่างพ่อหวางเสี่ยวเป่ากับเย่เทียนหลง ทำให้ถังเฉาสนใจในตัวเย่เทียนหลง
เขาเป็นคนที่รักการศึกษาศิลปะการต่อสู้
แต่ถังเฉามองไปที่เย่เทียนหลงแว็บเดียวแล้วส่ายหัว เริ่มต้นสายเกินไปแล้ว เขาผ่านช่วงอายุที่เหมาะสำหรับการฝึกศิลปะการต่อสู้มาแลัว ช่วงอายุนี้คงไม่น่ามีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันแล้ว
พวกของเย่เทียนหลงได้เดินไปตรงหน้าของถังเฉา แล้วจ้องมองไปที่เขา และยิ้มมุมปากและพูดว่า:” จริงๆ ฉันไม่อยากทำอะไรนายนะ แต่ฉันรับสิ่งมีค่าของเขาแล้ว และฉันก็ต้องตอบแทนเขาด้วยการช่วยเขาจัดการนาย”
“ผม เข้าใจ” ถังเฉา พยักหน้า
เย่เทียนหลงพยักหน้าตอบรับอย่างพอใจ เย่เทียนหลงไม่ได้แสดงกิริยาอะไรมากมาย:” ฉันไม่อยากรังแกใครหรอกนะ แต่เมื่อกี้นายไปทำอะไรกับคุณหวาง ฉันก็จะทำแบบนั้นกับนาย”
เมื่อ เย่เทียนหลงพูดประโยคนี้ออกมา ถังเฉาส่ายหัวเลย:” คงไม่ได้ เพราะตอนนี้มีลูกสาวผมอยู่ด้วย’
“ลูกสาว?”
ใบหน้าของ เย่เทียนหลงปรากฏความสนใจ และมองไปที่ถังเสี่ยวลี้ที่อยู่หลังถังเฉาแล้ว ยิ่งทำให้เย่เทียนหลงสงสัยมากขึ้น
ถังเสี่ยวลี้เป็นเด็กผู้หญิงที่มีใบหน้าที่สวย เหมือนดั่งตุ๊กตา
ถังเสี่ยวลีมอง เย่เทียนหลงด้วยความกลัว เธอกอดถังเฉาไว้อย่างแน่นและพูดว่า:” ไอพวกคนร้าย ห้ามทำร้ายพ่อของหนูนะ”
“พวกเขาสู้พ่อไม่ได้หรอก” ถังเฉาพูดและลูบหัวถังเสี่ยวลี้ไป
คำพูดของถังเฉาทำให้ถังเสี่ยวลี้รู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย แต่ถังเสี่ยวลี้กลับกอดถังเสี่ยวลี้แน่นขึ้นกว่าเดิม เหมือนหมีโคอาล่าที่กอดติดกับต้นไม้อย่างไงอย่างนั้น
เย่เทียนหลงรู้สึกไม่ค่อยพอใจที่เห็นถังเฉาพูดแบบนี้
“ทุกคนถอยออกไปก่อน”
เย่เทียนหลงสั่งให้ลูกน้องของเขาถอยออกไป และตัวเองก็ได้ถอดเสื้อสูทออก
พ่อของหวางเสี่ยวเป่า และลูกน้องของเย่เทียนหลงที่เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว ทำให้พวกเขาหายใจไม่ทั่วท้องเลย
ทุกคนที่เริ่มถอยห่างออกไป ได้มองถังเฉาด้วยสายตาที่สงสาร
เขาคนนี้ ชีวิตหลังจากนี้ไม่ตายก็ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตแน่ๆ …..
เย่เทียนหลงเริ่มยืดเส้นยืดสาย เตรียมที่จะสู้กับถังเฉา
เย่เทียนหลงมองถังเฉาด้วยความอำมหิต และตะโกนออกมาทันทีว่า
“ฆ่ามัน”
เย่เทียนหลงเหมือนดาบที่พุ่งออกมาจากปลอก มัดของเขาชกไปที่หน้าของถังเฉาอย่างแรง
มัดที่เร็วและแรง นี่เป็นวิชามัดที่มีชื่อเสียงในด่านความแรงและทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บหนักได้
“วิชานี้มันคุ้นๆ นะ”
ถังเฉาเห็นวิชามัดที่เย่เทียนหลงใช้ ถังเฉาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
ต่อมาเขาก็ได้หัวเราะออกมา
“น่าสนใจ มันช้างน่าสนใจจริงๆ …..”
วิชามัดนี้ชื่อมัดมีชื่อว่าหมัดสายฟ้า
คนที่สร้างตำราของวิชานี้ไม่ใช่ใครที่ไหนคือถังเฉาเอง