เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 357
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
“นี่มันจะได้อย่างไร?”
ถังเฉาปฏิเสธทันทีโดยไม่คิดสักนิด
ในสายโทรศัพท์ น้ำเสียงของจ้าวเย็นหรานเปลี่ยนเป็นร้อนรนในทันที “คุณถังคะ ฉันรู้ค่ะว่าคุณแต่งงานแล้ว เพียงแค่ให้คุณไปออกงานด้วยกันในฐานะเพื่อนชายของฉันเท่านั้นเอง รับมือกับตาเฒ่าเสียหน่อย”
นิ่งอยู่พักหนึ่ง จ้าวเย็นหรานก็พูดต่อไปว่า “คุณถังคะ คุณคือคนที่มีประสบการณ์มาก่อน รู้ดีว่าการที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้ชอบเป็นเรื่องที่ทรมานมากขนาดไหน ฉันจ้าวเย็นหราน ถามตัวเองจนได้ข้อสรุปมาแล้วว่าฉันเองก็ช่วยเหลือคุณมาไม่น้อย คุณทนเห็นฉันยอมรับการจัดการของตระกูลได้เหรอคะ?”
ถังเฉาขมวดคิ้วแน่น เงียบอยู่เป็นนาน ตอนนี้จึงได้เอ่ยถามอย่างหยั่งเชิงว่า “แค่ออกงานเป็นเพื่อนคุณงานเดียวใช่ไหมครับ?”
“แน่นอนสิคะ”
ฟังน้ำเสียงผ่อนคลายของถังเฉาออกแล้ว น้ำเสียงของจ้าวเย็นหรานก็เปลี่ยนเป็นสบายใจขึ้นมา “คุณแต่งงานแล้วนะคะ ฉันจะลงมือกับสามีที่มีภรรยาแล้วได้อย่างไรกันเนอะ”
ถังเฉาเองก็วางใจอย่างถึงที่สุด พยักหน้า “อย่างนั้นก็ได้ครับ”
จ้าวเย็นหรานยินดีเป็นอย่างยิ่ง น้ำเสียงออดอ้อนอย่างถึงที่สุด “เยี่ยมไปเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเจอกันนะคะ”
พูดจบก็วางสายโทรศัพท์ นึกไม่ถึงว่าโทรศัพท์จะโดนหวางเยี่ยนแย่งเอาไปอีก “คุณถังคะ ฉันคือหวางเยี่ยนค่ะ”
“คุณมีเรื่องอะไรอีกล่ะ?” ถังเฉาเอ่ยถาม
“ฉันไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไร แค่มีเรื่องเรื่องหนึ่งที่จะบอกกับคุณถังค่ะ”
หวางเยี่ยนมีน้ำเสียงเข้มงวด “คุณถังยังจำคนที่เมื่อก่อนตระกูลหวางแนะนำให้เป็นคู่ดูตัวของฉันได้ไหมคะ?”
ถังเฉาพยักหน้า “จ้าวเชียนจูน?”
“ใช่ค่ะ”
หวางเยี่ยนพูดต่อไปว่า “เดิมทีหลังจากตระกูลหวางสูญสิ้น งานแต่งงานของฉันก็ถูกทิ้งไว้กลางคัน แต่ว่าสื่อเหลย เพื่อนร่วมงานของฉันก็มาสารภาพรักกับฉันอีก ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่าสื่อเหลยเป็นลูกนอกสมรสของจ้าวเหล่าลิ่ว”
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร พูดตามจริง เขาไม่ได้มีความสนใจในชีวิตส่วนตัวของหวางเยี่ยนเลยแม้แต่น้อย แต่ประโยคสุดท้ายนั่นกลับพูดไปโดนจุดสำคัญเข้า
นึกไม่ถึงเลยว่าสื่อเหลย เพื่อนร่วมงานที่คอยตามอยู่ด้านหลังของหวางเยี่ยนอยู่เมื่อก่อนจะเป็นลูกนอกสมรสของจ้าวเหล่าลิ่ว ถ้าอย่างนั้นเขาเองก็เป็นคนของตระกูลจ้าว
แต่ว่าเขายังคงไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดใดออกมา เพียงแค่เอ่ยถามว่า “คุณต้องการจะสื่ออะไรครับ?”
น้ำเสียงของหวางเยี่ยนเข้มขึ้นมา “ช่วงนี้สื่อเหลยเลื่อนตำแหน่งขึ้นแล้ว ใช้ความเป็นเจ้านายสั่งให้ฉันแต่งงานกับเขา นอกจากนี้ตระกูลจ้าวก็มาสู่ขอกับทางฝั่งแม่ของฉันแล้ว ตอนนี้ฉันถึงเพิ่งจะจำคำที่นายพูดกับฉันว่าให้ระวังคนใกล้ตัวขึ้นมาได้”
ถังเฉาหรี่ตาลงน้อย ๆ “ดังนั้นเธอกำลังสงสัยสื่อเหลย?”
“ไม่ใช่แค่นี้หรอก”
หวางเยี่ยนเอ่ยต่อไปว่า “ยังมีเรื่องการตายของพ่อฉันอีก ยังมีเกี่ยงข้องของตระกูลจ้าวอยู่เบื้องหลัง”
ถังเฉาครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ เอ่ยว่า “ถ้าอย่างนี้คุณคิดจะทำอย่างไร?”
“ฉันอยากให้คุณถังช่วยฉันตามหามือสังหารที่ฆ่าพ่อของฉันออกมาค่ะ!”
น้ำเสียงของหวางเยี่ยนมีความเดือดดาล
ถังเฉาเงียบอยู่สักพักแล้วเอ่ยว่า “ผมขอปฏิเสธ คุณต่างหากที่เป็นตำรวจ เรื่องการไขคดี คุณต่างหากที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ”
พูดจบก็วางสายโทรศัพท์
เขามองไปทางเฟิ่งหวง “กลับรถ กลับเมืองเจียงเฉิง”
“ค่ะ!”
ถังเฉาโทรศัพท์หาหลัวปู้ก่อน เอาบัตรผ่านประตูของงานประมูลในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็โทรศัพท์หาหลินชิงเสว่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ชิงเสว่ ผมมีเรื่องยุ่งอยู่ในเมืองเจียงเฉิง อาจจะอีกหลายวันกว่าจะได้กลับไปนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณทำธุระของคุณเถอะค่ะ”
หลินชิงเสว่ยังคงมีน้ำเสียงราบเรียบ
ถังเฉาเต็มไปด้วยความละอายใจ ในตอนที่กำลังจะพูดอะไรออกมานั้นเอง หลินชิงเสว่ก็พูดขึ้นมาอีกว่า “มะรืนนี้ฉันก็จะพาเสี่ยวลี้ไปเมืองเจียงเฉิงแล้วค่ะ พอดีเลยค่ะ โครงการสร้างเมืองปรับแก้ ต้องไปเจรจาหารือกับวงศ์ตระกูลของเมืองเจียงเฉิงสักหน่อย”
วางสายไปแล้ว ถังเฉาตะลึงอยู่นิด ๆ จากนั้นก็หัวเราะเจื่อน ๆ เขาเพิ่งจะมาเมืองเจียงเฉิงได้สองวัน ก็ถูกโจมตีหลักเข้าเสียแล้ว
ถังเฉาเปลี่ยนทิศทางกลับไปยังเมืองเจียงเฉิงอย่างเงียบสนิทไร้ข่าวคราว ไม่ได้ทำให้ใครคนใดตกใจ
มาถึงสถานที่ที่จ้าวเย็นหรานส่งแผนที่มาให้เขา ถังเฉามองไปรอบ ๆ อยู่สักพัก แต่ก็ไม่เห็นเงาของจ้าวเย็นหรานกับหวางเยี่ยนเลย
ในตอนที่กำลังจะล้วงโทรศัพท์ออกมานั้นเอง ทันใดนั้นกลิ่นหอมก็ค่อย ๆ โชยมาจากด้านหลัง ร่างอรชรอ้อนแอ้นร่างหนึ่งกอดถังเฉาเอาไว้จากทางด้านหลัง
“คุณถัง ในที่สุดคุณก็มา!”
สีหน้าของถังเฉาแข็งค้าง ไหนเลยจะฟังไม่ออกว่านี่คือเสียงของจ้าวเย็นหราน
รีบร้อนผลักเธอออกทันที รักษาระยะห่างเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “คุณหนูจ้าว พวกเราคุยธุระกันเถอะครับ”
พูดถึงเรื่องความงาม จ้าวเย็นหรานไม่ได้ด้อยไปกว่าหลินชิงเสว่เลย พูดถึงเรื่องนิสัยแล้ว จ้าวเย็นหรานเปิดเผยยิ่งกว่า
มองดูใบหน้าที่สวยงามหยาดเยิ้มที่อยู่ในระยะประชิด นึกไม่ถึงว่าแม้จะเป็นถังเฉาที่มั่นคงหนักแน่นก็ยังมีใจลอยอยู่บ้าง
จ้าวเย็นหรานก็ปล่อยแขนออกอย่างรู้จักแยกแยะความสำคัญ “เข้าไปคุยกันในโรงแรมเถอะ”
จากนั้นก็กวักมือ หวางเยี่ยนก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าอึดอัดขัดเขินเป็นอย่างยิ่ง
“ฉันเปิดโรงแรมไว้ให้พวกคุณเรียบร้อยแล้วค่ะ”
จ้าวเย็นหรานมองไปที่เฟิ่งหวงกับหงโฝ ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา
คนหนึ่งขบวนขึ้นไปชั้นบน หงโฝกับเฟิ่งหวงคนละหนึ่งห้อง ถังเฉาขมวดคิ้วทันที “คุณไม่ได้เปิดห้องไว้ให้ผมเหรอครับ?”
จ้าวเย็นหรานปรายสายตามองเขาอย่างกระเง้ากระงอด “รู้แล้วยังแกล้งถามอีก ในเมื่อคุณจะมาเป็นแฟนปลอม ๆ ให้ฉัน แน่นอนว่าต้องพักด้วยกันสิ ไม่อย่างนั้นจะหลอกสายตาคนพวกนั้นได้อย่างไรกันคะ?”
ถังเฉาจมอยู่ในความเงียบ มองไปด้านใน มีเตียงทรงกลมเพียงหนึ่งหลังเท่านั้น
จากนั้นสายตาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “คุณหนูจ้าว เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับ ผมเสียใจด้วยครับที่ทำตามที่คุณต้องการไม่ได้!”
พูดจบก็หันหลังจากไป
“ถังเฉา คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า!”
จ้าวเย็นหรานกัดริมฝีปากแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เห็นถังเฉายังคงไม่หันกลับมา จ้าวเย็นหรานโมโหจนกระทืบเท้าทั้งสองข้าง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอสวมอยู่ก็คือรองเท้าส้นสูง ฝ่าเท้าของเธอเจ็บเหลือทน
เป็นเช่นนี้ ถังเฉาพักอยู่คนเดียวหนึ่งคืน กลางดึกจ้าวเย็นหรานมาเคาะประตูหนึ่งครั้ง กลับถูกปิดประตูไม่รับแขกใส่
ช่วงบ่ายของวันถัดมา เกือบจะพลบค่ำ ถังเฉาและพวกของจ้าวเย็นหรานถึงจะเดินออกมาจากโรงแรม
“พวกเราไปกันเถอะ”
จ้าวเย็นหรานดึงแขนของถังเฉาอย่างเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง ไม่ได้พูดถึงเรื่องไม่น่ายินดีของเมื่อวานเลยสักคำ
ถังเฉาขมวดคิ้ว คิดจะคลายตัวออกมาสักหน่อย จ้าวเย็นหรานกับรัดแน่นเหมือนกับปลาหมึก ทั้งยังมองถังเฉาด้วยสายตาประท้วง ดูเหมือนกำลังพูดว่า ‘ตอนนี้คุณจะต้องปลอมเป็นแฟนของฉัน จะหนีได้เหรอคะ?’
ถังเฉาเองก็จนปัญญาเป็นอย่างยิ่ง ทำได้เพียงปล่อยให้จ้าวเย็นหรานจูงไป ขึ้นรถยนต์ที่มุ่งหน้าสู่งานประมูลเจียงเฉิง
ไม่รู้ว่าทำไม ระหว่างทาง ถังเฉาได้เห็นรถยนต์หรูหราที่มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านไม่ใช่เพียงคันเดียว ดูจากทิศทางแล้ว มีปลายทางเดียวกันกับพวกเขา
“ดูเหมือนว่างานประมูลครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์ของฐานะของเมืองเจียงเฉิง ผู้ที่สามารถเข้าร่วมได้ ถ้าไม่ร่ำรวยมาก ๆ ก็ต้องสูงศักดิ์มาก ๆ”
จ้าวเย็นหรานถอนหายใจอย่างไม่ทุกข์ร้อน ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ในตระกูลจ้าว แต่ก็ไร้ปัญญาจะเทียบเคียงได้
ทันใดนั้นสายตาของถังเฉาก็แข็งค้าง สายตามองไปทางด้านหน้า
เห็นเพียงหัวสะพานด้านหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งเบียดเสียดกันอยู่ ชี้มือชี้ไม้ กระซิบกระซาบ ดูเหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ขับผ่านถึงได้พบว่า ที่แท้ก็เป็นสาววัยรุ่นคนหนึ่งนอนชักอยู่กับพื้น ใบหน้าซีดขาว บนหน้าผากผุดเหงื่อออกมามากผิดปกติ อีกทั้งยังมีแค่ลมหายใจเข้า ไม่มีลมหายใจออก
“หยุดรถ”
ถังเฉาเอ่ยขึ้นทันที
“จอดรถทำไม?”
จ้าวเย็นหรานที่อยู่ข้าง ๆ เองก็มองเห็นสาววัยรุ่นคนนั้น ไหนเลยจะไม่รู้ความคิดของถังเฉา รีบร้อนกอดแขนของเขาทันที
“แน่นอนว่าต้องไปช่วยชีวิตคนสิ”
ถังเฉาพูดออกมาโดยไม่ได้หันกลับไปมอง
“แต่ว่างานประมูลจะเริ่มแล้ว ถ้าไปช้าเขาจะไม่รอนะ”
ในใจของจ้าวเย็นหรานรู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง อยู่ในตระกูลจ้าวมาตลอดทั้งปี บ่มเพาะให้เธอมีจิตใจมืดบอด เลือดเย็นไร้หัวใจ เธอไม่ต้องการให้ถังเฉาไปยุ่งกับเรื่องคนอื่นมากนัก
“ชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญ พลาดก็พลาดไปเถอะ”
ถังเฉากลับมีสีหน้าจริงจังตั้งใจ เปิดประตูรถ เดินก้าวยาว ๆ ออกไป
จ้าวเย็นหรานไร้จิตวิญญาณอยู่นาน มองโทรศัพท์ แล้วก็มองเงาด้านหลังของถังเฉา กัดฟันอย่างรุนแรง
“เจ้าทึ่มนี่!”
แอบด่าออกมาครั้งหนึ่ง จ้าวเย็นหรานก็ยังสวมรองเท้าส้นสูงวิ่งตึง ๆ ๆ ออกไป