เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 360
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
คำพูดของหลัวปู้ข่มขู่จนพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นตื่นกลัว หัวใจแทบจะกระโดดออกมานอกอก
เขาอาศัยคอนเนกชันถึงมาเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อาคารเทียนจีได้ รู้ว่าอาคารเทียนจีเป็นของสมาคมการค้าหงยิง
แต่ว่าหลัวปู้กลับพูดว่าทั้งอาคารเทียนจีเป็นของเขา เช่นนั้น… ตำแหน่งของเขาต้องใหญ่มาก?
แค่คิดว่าตัวเองไปกระด้างกระเดื่องใส่คนใหญ่คนโตคนหนึ่ง ร่างกายของเขาก็สั่นไม่หยุด
ส่วนจ้าวเย็นหรานกับหวางเยี่ยนก็ช็อกไปเพราะคำพูดของหลัวปู้เช่นกัน
ทั้งอาคารเทียนจีเป็นของถังเฉาทั้งหมด?
ตัวถังเฉาเองก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง แม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าอาคารเทียนจีก็เป็นทรัพย์สมบัติของเขา
ในตอนนี้เอง เฟิ่งหวงเดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าว เอ่ยเสียงเบาว่า “รองหัวหน้าคะ อาคารหลังนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ในนามของสมาคมการค้าหงยิง แล้วบ้าการค้าก็เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมการค้าหงยิง ว่ากันตามระเบียบแล้ว ก็อยู่ในชื่อของคุณค่ะ”
ถังเฉาได้ยินอย่างนั้น ก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก มีวิธีคิดแบบนี้ด้วยเหรอ?
ตามคำพูดนี้ แปดสมาคมการค้าใหญ่ที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วโลกที่บ้าการค้าก่อตั้งขึ้น ทั่วประเทศล้วนเป็นทรัพย์สมบัติของเขา?
“แกตาบอดไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าแม้แต่คุณถังก็ยังกล้าล่วงเกิน!”
หลัวปู้หันกลับมาตำหนิพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นโดยความโกรธ
ในเวลาเดียวกับที่เดือดดาลนั้น นึกไม่ถึงว่าในน้ำเสียงจะมีความสั่นไหวอยู่เล็กน้อย
ช่วยไม่ได้ ถึงเขาจะเป็นผู้อำนวยการของสมาคมการค้าหงยิงก็ไม่หวาดกลัวไม่ได้
เดิมทีเขาเป็นคนที่คุณซางชือส่งมาเป็นผู้ช่วยคุณถัง แต่นึกไม่ถึงว่าคุณถังจะโดนดูถูกอยู่ที่อาคารที่อยู่ในนามของสมาคมการค้าหงยิง เรื่องนี้ถ้าหากรู้ถึงคุณซางชือเข้า เขารักษาตำแหน่งผู้รับผิดชอบนี้ไว้ไม่ได้แน่!
ถังเฉากลับโบกไม้โบกมือ “ช่างเถอะ เขาเองก็ไม่ได้มีเจตนา ปล่อยเขาไปครั้งหนึ่งเถอะ”
ถังเฉาไม่ได้ตำหนิ ถังเฉาลอบถอนใจออกมายาว ๆ เฮือกหนึ่ง เอ่ยอย่างจริงจังว่า “คุณถังไม่เอาผิดกับผู้น้อย ไม่เอาความกับแก ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
“ขอบพระคุณคุณถังครับ ขอบพระคุณคุณถังครับ!”
พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นตกใจจนถึงขีดสุด รีบหมอบลงโขกหัวกับพื้นทันที
“คุณถังครับ พวกเราเข้าไปกันเถอะครับ”
หลัวปู้นำทางให้กับถังเฉาด้วยตนเอง ถังเฉากลับขมวดคิ้ว “ไม่ได้ ต่อให้อาคารหลังนี้เป็นของผม ก็จะทำตัวเอิกเกริกไม่ได้ ต้องใช้บัตรผ่านประตูเข้าไป”
พอหลัวปู้ได้ยิน สีหน้าก็ยิ่งเกรงอกเกรงใจขึ้นไปอีก ตอนนี้จึงได้สั่งให้คนล้วงเอาบัตรผ่านประตูที่ล้ำค่าออกมาหนึ่งปึก ส่งไปในมือของถังเฉา
“คุณถังครับ บัตรผ่านประตูพวกนี้ไม่ใช่แค่ของวันนี้เท่านั้น ยังมีของปีหน้า ปีถัดไป สามปีถัดไป… ท่านกับครอบครัวของท่าน เพื่อนของท่าน ล้วนสามารถเข้างานฟรีได้ครับ!”
หลัวปู้พูดอย่างจริงจัง
มองบัตรเข้างานมากมายที่เพิ่มเข้ามาในมือ แม้แต่ของอีกสามปีก็มีแล้ว ถังเฉาเองก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
เข้าใจความหวังดีของหลัวปู้คนนี้แล้วก็ไม่บ่ายเบี่ยง รับเอามาโดยตรง
ส่วนจ้าวเย็นหราน หวางเยี่ยนที่อยู่ด้านหลังก็มองอย่างทึ่มทื่อ ชั่วขณะนี้ในที่สุดพวกเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถังเฉาถึงได้โยนบัตรผ่านประตูทิ้งเหมือนกับเป็นเศษขยะ
เพราะว่าคนอื่นสิ้นเปลืองพลังไปมากถึงจะได้บัตรผ่านประตูนี้มา ถังเฉากลับอยากได้เท่าไหร่ก็ได้มาเท่านั้น
ลิฟต์เคลื่อนตัวไปด้านบน หลัวปู้ยังต้องหารือกับฝ่ายที่รับผิดชอบดำเนินงานงานประมูลสักครู่ จึงเดินแยกไปก่อน พวกของถังเฉามาถึงงานประมูลด้วยตัวเอง
ในตอนนี้เอง งานประมูลยังไม่ได้เริ่ม แสงไฟในงานมืดสลัว แต่จุผู้คนจนเต็มแน่นแล้ว ทั้งหมดล้วนแต่เป็นตระกูลชั้นหนึ่งของเมืองเจียงเฉิง
ด้วยความรวดเร็ว สายตาของถังเฉาสั่นไหว มองเห็นเซี่ยหรูหลง ลู่โป๋หานและสื่อเหลยสามคน
ภายใต้การฉุดดึงของเซี่ยหรูหลงและลู่โป๋หาน สื่อเหลยได้รู้จักมักจี่กับตัวแทนของตระกูลชั้นหนึ่งมากมายอย่างรวดเร็ว ต่างฝ่ายต่างสรวลเสเฮฮา
หวางเยี่ยนมีสีหน้าไม่แน่ใจ “ดูเขาสิ เหมือนกับไม่ได้มาร่วมประมูลอย่างไรอย่างนั้น”
เนื่องจากระยะเวลาก่อนจะเริ่มประมูลเหลือเพียงสิบนาทีแล้ว แขกมากมายนั่งลงบนที่นั่งแล้ว เหลือเพียงพวกของสื่อเหลยที่ยังถือแก้วเหล้าพูดคุยเฮฮากันอยู่
“ง่ายมาก เป้าหมายที่เขามาเข้าร่วมงานประมูลไม่ใช่เพื่อที่จะประมูล แต่เป็นเพื่อที่จะได้รู้จักกับผู้มีอำนาจ”
น้ำเสียงของถังเฉาราบเรียบ “จ้าวเจียงกำลังจะโกลาหลใหญ่ ทุกคนล้วนอยากเอาทรัพย์สินของตระกูลจ้าวมาเป็นของตนเอง ขอเพียงได้รับการสนับสนุนจากตระกูลร่ำรวย ความเป็นไปได้ที่จะฉวยโอกาสในยุคโกลาหลขึ้นเป็นใหญ่ก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น”
หวางเยี่ยนก็ตรัสรู้ได้ในทันที จ้าวเย็นหรานกลับมีสีหน้าไม่น่าดู พวกเขากำลังทำเหมือนกับว่าฉันได้ตายไปแล้ว”
“ส่วนเธอ ถึงแม้จะเป็นทายาทสายตรงที่สุด แต่กลับเป็นผู้หญิง ขอเพียงให้เธอแต่งงานออกไปก็จะไม่มีอำนาจคุกคามแม้แต่น้อย”
“พวกเขาฝันเฟื่อง!”
จ้าวเย็นหรานกัดฟันด้วยความโกรธ “ผู้หญิงแล้วจะทำไม ผู้หญิงเป็นผู้นำไม่ได้เหรอ?” ใครก็อย่าได้คิดจะบังคับให้ฉันแต่งงาน!”
สีหน้าของถังเฉาอ่อนโยนลงนิดหนึ่ง เขาชื่นชมความมั่นใจที่ไม่ได้แพ้ไปกว่าผู้ชายของจ้าวเย็นหรานมาก “แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ ผมบอกแล้วว่าถ้าหากคุณอยากจะเป็นผู้นำ ผมช่วยคุณได้ อย่าลืมสิ ยังมีตระกูลเย่อีกหนึ่ง”
“ถังเฉา…”
จ้าวเหย็นหรานเงยหน้ามา มองถังเฉาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ “คุณดีจัง”
สีหน้าของถังเฉากลับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง “อย่าเข้ามาใกล้เกินไป คุณไม่ได้บอกว่าแค่ปลอมเป็นแฟนของคุณก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังมือถึงอยู่อีกล่ะ!”
จ้าวเย็นหรานยิ้มหวานหยาดเยิ้ม ตอนที่กำลังจะเข้าใกล้ไปอีกก้าวหนึ่งนั่นเอง ทันใดนั้นด้านหลังก็มีสายตาสามคู่มองมา
พอหันกลับไปมอง ก็เห็นเพียงเซี่ยหรูหลง ลู่โป๋หานกับสื่อเหลยสามคนมองตรงมาทางนี้ด้วยใบหน้าเย็นชา
“ทำไมพวกเธอถึงเข้ามาได้!” เขาเอ่ยถามเสียงดัง
กฎระเบียบของงานประมูลเจียงเฉิงเขาเข้าใจดี การควบคุมเวลาเข้มงวดเป็นพิเศษ ต่อให้มีบัตรเข้างานแต่มาสายแล้วก็ไม่รอเหมือนกัน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่เขากับเซี่ยหรูหลงกำชับพนักงานรักษาความปลอดภัยไว้เป็นพิเศษว่าไม่ให้พวกเขาเข้ามาได้
หรือว่า พวกเขาจะแอบ ๆ ปะปนกับคนอื่นเข้ามา?
เซี่ยหรูหลงกลับพูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้า “พวกคุณหนูจ้าวมีบัตรผ่านประตู พ่อของผมมีมิตรภาพกับผู้ดำนานงานของงานประมูล เห็นแก่หน้าของคุณสื่อเหลย ก็ยังพอให้พวกเธออยู่ต่อไปได้”
“แต่ว่าคุณ! ไม่มีแม้แต่บัตรผ่านประตู แต่กลับแอบเข้ามา ไม่ยกโทษให้แน่นอน!”
น้ำเสียงของเซี่ยหรูหลงเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกด้วยความรวดเร็ว สายตาก็มองผ่านพวกของจ้าวเย็นหรานไปหยุดอยู่บนร่างของถังเฉา
เสียงของเขาดังถึงขีดสุด พอคำนี้พูดออกมาแล้วก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
ตอนที่มองเห็นเครื่องแต่งกายของถังเฉาก็เชื่อคำพูดของเซี่ยหรูหลงในทันที
ชายหญิงที่นี่ ไม่มีหนุ่มหล่อสาวสวยสักคนที่ไม่แต่งตัวสวยงามหรูหรา ถึงแม้มูลค่าของชุดสูทของถังเฉาจะไม่ด้อย แต่ก็ยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะเข้ามาในนี้
จ้าวเย็นหรานมาสีหน้ามืดครึ้มทันที “เขาเป็นแฟนของฉัน แม้แต่ฉันพวกคุณก็สงสัยงั้นเหรอ?”
“อีกอย่างนะ ใครบอกว่าเขาไม่มีบัตรผ่านประตู?”
จ้าวเย็นหรานกำลังคิดที่จะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นข้างล่างพูดออกมา แต่ถังเฉากลับชำเลืองมองมา เธอรีบปิดปากฉับในทันที
ได้ยินคำพูดของจ้าวเย็นหรานแล้ว อารมณ์บนใบหน้าของเซี่ยหรูหลง ลู่โป๋หาน รวมถึงสื่อเหลยก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
“ผมจำได้ว่าคุณถังแต่งงานไปแล้วนี่? เธอเป็นเมียน้อย?”
ลู่โป๋หานมองจ้าวเย็นหรานอย่างยั่วเย้า เอ่ยถามขึ้น
“ฉัน…”
จ้าวเย็นหรานพูดไม่ออกในทันที มีอาการน้ำท่วมปาก รู้สึกเหมือนมีเรื่องทุกข์แต่พูดออกมาไม่ได้
เธอไม่รู้ว่าพวกของเซี่ยหรูหลงเคยเจอหลินชิงเสว่ ภรรยาของถังเฉาในงานแต่งงานของตระกูลเหวิน
สื่อเหลยราวกับค้นพบโลกใบใหม่ หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา “จ้าวเย็นหราน เธอเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลจ้าวที่สง่าผ่าเผย นึกไม่ถึงว่าจะไปเป็นหญิงชู้ ฉันจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้นำ กักบริเวณเธอ!”
“นายกล้า!”
ชั่วขณะนั้นสีหน้าของจ้าวเย็นหรานก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด คำรามออกมาด้วยความโมโห
ดวงตาของถังเฉาเย็นขึ้นมานิดหน่อย แต่กลับไม่ได้ถูกเรื่องนี้ก่อกวนได้ มองเซี่ยหรูหลงอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นคุณจะเอายังไง?”
เซี่ยหรูหลงยิ้มออกมาเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มไร้ความรู้สึกขึ้นมา “ง่ายมาก พวกเราสงสัยว่าคุณจะแอบย่องเข้ามาในงาน เพื่อที่จะรับรองความปลอดภัย จำเป็นจะต้องค้นตัวต่อหน้าสาธารณชน!”
“ใช่”
ลู่โป๋หานก็พูดอย่างคล้อยตามอยู่ด้านข้าง “ถ้าหากค้นบัตรผ่านประตูไม่เจอ คุณก็รอฝ่ายประมูลลงโทษสถานหนักได้เลย!”
ทั้งสองมองหน้ากันและกัน ต่างก็หัวเราะอย่างมั่นอกมั่นใจ
เพราะว่าพวกเขาต่างก็เคยมอบบัตรผ่านประตูให้กับถังเฉา แต่ล้วนถูกปฏิเสธ
คำพูดเหม็นเน่านี้พวกเขาล้วนจำได้ เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าถังเฉาไม่มีบัตรผ่านประตูโดยสิ้นเชิง ต้องแอบเข้ามาแน่