เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 364
จ้าวเย็นหรานคิดไม่ถึงเลยว่าของประมูลชิ้นแรกจะเป็นโสมพันปีที่เธอต้องการ
ตอนนี้จึงไม่ลังเล กดปุ่มแข่งขันประมูลลงไปตรง ๆ
มองฉากนี้แล้วถังเฉาก็ส่ายศีรษะเบา ๆ
สุดท้ายแล้ว จ้าวเย็นหรานยังไม่ค่อยเข้าใจงานประมูลแบบนี้เท่าไหร่
ของที่นำมาประมูลในงานประมูลจะมีการเรียงลำดับ ล้วนแต่กำหนดลำดับจากมูลค่าของสินค้าจากสูงไปต่ำ คนที่สามารถเข้าร่วมได้ ไม่ร่ำรวยก็ต้องสูงศักดิ์
ถึงแม้ว่าโสมพันปีจะมีมูลค่ามาก แต่ว่ามูลค่าไม่นับว่าสูงเกินไป เทียบกับภาพวาดพู่กันโบราณแล้วนับเป็นอะไรไม่ได้เลย แน่นอนต้องอยู่อันดับแรก
“สองล้านหนึ่งแสน!”
จ้าวเย็นหรานใส่จำนวนเงินไปทันที
เดิมคิดว่าจะไม่มีใครมาแย่งกับตน ไม่คิดเลยว่าผ่านไปแค่สามวินาที ห้องวีไอพีชั้นบนก็เพิ่มราคาแล้ว
“สามล้าน!”
“สื่อเหลย!”
ในดวงตางดงามของจ้าวเย็นหรานเต็มไปด้วยความเดือดดาล
ผ่านกระจกโปร่งแสงของชั้นสอง สามารถมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง แสยะยิ้มมองเธอ
ก็คือสื่อเหลย
“จ้าวเย็นหราน ฉันรู้ว่าเธอกำลังดีดลูกคิดอะไรอยู่ ไม่ใช่ว่าคิดจะประมูลเอาโสมพันปีนี้มา ยืดเวลาได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นเหรอ? ฉันไม่ยอมให้เธอสมปรารถนาแน่!”
ดวงตาของเขามีเลือดขึ้น บนใบหน้าแสยะยิ้มแห่งการแก้แค้น “แต่งให้คนอื่น เป็นโชคชะตาของเธอ เธอเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
ในห้องวีไอพีมีไมโครโฟน สามารถถ่ายทอดเสียงจากข้างในออกมาสู่ภายนอกได้โดยตรง ได้ยินคำพูดของสื่อเหลยแล้ว ใบหน้าของจ้าวเย็นหรานก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ไม่มีการตอบรับ เพิ่มราคาต่อ
“สี่ล้าน!”
สื่อเหลยไม่ลังเลใจเลยสักนิด เพิ่มราคาตามไป
“ห้าล้าน!”
ทั่วทั้งงาน นอกจากการประชันราคาของทั้งสองคนแล้ว คนอื่นที่เหลือ นึกไม่ถึงว่าไม่มีใครร่วมประชันราคาด้วย
โสมพันปีหนึ่งกิ่งจิ๊บจ๊อย พวกเขาไม่ให้ความสำคัญเลยสักนิด เป้าหมายทั้งหมดของคนส่วนใหญ่อยู่ข้างหลัง
“เจ็ดล้าน!”
“แปดล้าน!”
“สิบล้าน!”
“…”
หลังจากประชันราคาจนถึงสิบล้าน จ้าวเย็นหรานก็ไม่ส่งเสียงแล้ว สีหน้าไม่น่ามองอยู่บ้าง
ก่อนจะมาเมืองเจียงเฉิง จ้าวเย็นหรานคิดว่าเพียงแค่ซื้อโสมพันปีหนึ่งกิ่ง สิบล้านก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นในบัตรจึงมีเงินอยู่เท่านั้น
ตอนนี้สื่อเหลยเพิ่มราคาจนถึงสิบล้านหยวนแล้ว เท่ากับเงินที่เธอมี
ถ้าหากจะเพิ่มราคาอีก จำเป็นจะต้องใช้เงินเยอะกว่าสิบล้าน ปัญหาคือเธอเอามาอีกไม่ได้แล้ว
“ใช้ของฉันสิ”
หวางเยี่ยนส่งบัตรออกไป จ้าวเย็นหรานมองไปที่เธออย่างประหลาดใจ
หวางเยี่ยนยิ้มออกมา “ถ้าหากไม่ใช่เธอละก็ ตอนนี้ฉันน่าจะโดนบังคับให้แต่งกับสื่อเหลยแล้ว ในนี้มีอยู่สามล้าน น่าจะช่วยได้นิดหน่อย”
ถังเฉาอดที่จะมองเธอหลายครั้งไม่ได้ ยกเรื่องอื่นไว้ก่อน เธอคนนี้ก็ไม่เลวเลยนะ
“ขอบใจนะ!”
จ้าวเย็นหรานขอบคุณในทันที
สีหน้าของสื่อเหลยกลับเต็มไปด้วยความมืดครึ้ม จ้องหวางเยี่ยนอย่างแน่วแน่ “หญิงชั่วนี้ คิดว่าเอาเงินให้เธอ ฉันก็จะซื้อไม่ไหวแล้วเหรอ?”
ยังไม่รอให้จ้าวเย็นหรานเพิ่มราคา เขาก็เพิ่มราคาต่อ
“สิบห้าล้าน!”
“…”
จ้าวเย็นหรานกับหวางเยี่ยนนิ่งงันไป คิดไม่ถึงเลยว่าสื่อเหลยจะจ่ายสิบห้าล้านเพื่อที่จะซื้อโสมพันปีกิ่งเดียว
พิธีกรประมูลยิ้มจนหุบปากไม่ลง “คุณผู้ชายที่ชั้นสองให้ราคาสิบห้าล้านหยวน มีใครให้มากกว่านี้ไหมคะ?”
โสมพันปีหนึ่งกิ่ง อย่างมากก็เพิ่งถึงห้าล้านก็จบลงแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะดึงดันปั่นราคาไปจนถึงสิบห้าล้าน นี่มันกำไรสิบล้านหยวนเต็ม ๆ เลยนะ ค่าคอมมิชชั่นของเธอ เพิ่มขึ้นมาหลายแสนในพริบตา
สีหน้าของจ้าวเย็นหรานไม่น่ามองจนถึงขีดสุด เอ่ยถามว่า “นายไปเอาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน?”
ถ้าหากอาศัยแค่ตระกูลจ้าว เขาเอาเงินมามากขนาดนั้นไม่ได้โดยสิ้นเชิง
ผลลัพธ์ที่เหลือมีเพียงหนึ่งเดียว มีผู้ช่วยเหลือเขาทางการเงิน
สื่อเหลยหัวเราะเสียงเย็นออกมา “ฉันไม่เอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน เธออย่ามายุ่งเลย เธอแค่จำเป็นจะต้องรู้ว่า เธอสู้ราคาไม่ชนะฉันก็พอ ฮ่า ๆ ๆ…”
พูดจบก็หัวเราะเสียงดังออกมา
เห็นจ้าวเย็นหรานมีท่าทางเสียหน้า นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีความรู้สึกชื่นมื่นที่ล้างแค้นใหญ่ได้สำเร็จ
ตอนนี้เขาถูกตระกูลเซี่ยกับตระกูลลู่ละทิ้งแล้ว และก็สูญเสียความสามารถที่จะไปแย่งตำแหน่งผู้นำไปโดยสิ้นเชิง ในสมองของเขามีเพียงความคิดเดียว นั่นก็คือแก้แค้น
ของที่เขาไม่ได้ จ้าวเย็นหราน… ก็อย่าได้คิดจะได้มันเลย
“ยี่สิบล้าน”
ในตอนที่สื่อเหลยหัวเราะจนจะเป็นบ้านั่นเอง ฉับพลันก็มีเสียงเรียบเรื่อยเสียงหนึ่งของผู้ชายดังขึ้นมา
ทันใดนั้น เสียงของเขาก็ขาดหายไปอย่างฉับพลัน ทั้งงานเงียบเหมือนตาย
ทุกคนเอาสายตาไปวางไว้บนร่างของถังเฉาที่เพิ่งจะส่งเสียงออกมาเมื่อครู่
“ระยำเอ๊ย แกอีกแล้ว…”
แก้มของสื่อเหลยกระตุกอย่างรุนแรง บนหน้าผากหลั่งเหงื่อออกมาห่าใหญ่
ต่อให้เมื่อก่อนเซี่ยหรูหลงกับลู่โป๋หานให้ความช่วยเหลือเขาทางด้านการเงิน ก็แค่ยี่สิบห้าล้านเท่านั้น
ถังเฉาเสนอราคาสูงเท่าจุดวิกฤตที่เขาสามารถรับได้ในรวดเดียว ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความกดดันมหาศาล
“ถังเฉา ขอบคุณนะ…”
ใบหน้าของจ้าวเย็นหรานเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ ถ้าหากเงื่อนไขอนุญาตแล้วละก็ เธอจะยอมอุทิศชีวิตให้เสียที่นี่เลย
“ยี่สิบห้าล้าน!”
ทว่าพริบตาถัดมา สื่อเหลยก็เพิ่มราคาอีก
เขาแทบจะตะโกนคำไม่กี่คำนี้ออกมา
สายตาของทุกคนตกลงบนร่างของถังเฉาอีกครั้ง อยากจะดูว่าเขาจะเพิ่มราคาได้อีกไหม
“ห้าสิบล้าน”
ถังเฉาตะโกนราคาออกมาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
บึ้ม!
พอคำนี้ลั่นออกมาทั่วทั้งงานก็ตกตะลึง
พิธีกรประมูลสาวสวยบนเวทีอ้าปากน้อย ๆ อย่างเสียกิริยา เบิกดวงตาโตสวยงาม มองถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
คนอื่น ๆ ก็เหมือนไร้วิญญาณกันไปพักหนึ่ง เพิ่มราคาขึ้นหนึ่งเท่าในรวดเดียว ไม่เหลือหนทางรอดชีวิตกับคนอื่นแล้ว?
โดยเฉพาะหลังจากตะโกนราคานี้ออกมา ถังเฉายังคงมีสีหน้าราบเรียบ ราวกับว่าที่เขาตะโกนออกมาไม่ใช่ห้าสิบล้าน แต่เป็นห้าสิบหยวนเท่านั้น…
สื่อเหลยยืนอึ้งอยู่หน้าหน้าต่างกระจก ใบหน้าเต็มไปด้วยความยากที่จะเชื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบเห็นการเพิ่มราคาขึ้นหนึ่งเท่า
ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงก่อตัวขึ้นมาเอง
แต่ด้วยความรวดเร็ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาอีกครั้ง ตะโกนด้วยความเดือดดาลว่า “ผมไม่เชื่อว่าคุณจะสามารถเอาเงินห้าสิบล้านออกมาได้ ถ้าหากว่าเขาเพียงแค่ร่วมประชันราคาส่ง ๆ ล่ะ!”
“ให้เขาจ่ายเงิน ถ้าหากจ่ายไม่ไหวก็โยนเขาออกไป!”
“บังอาจ!”
หานเทียนเจิ้งที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นยืนทันที ตะโกนด้วยความเดือดดาลด้วยใบหน้ามืดครึ้มว่า “นายกล้าสงสัยคุณถังงั้นเหรอ?”
พิธีกรประมูลสาวสวยจัดการรูปลักษณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุณผู้ชายท่านนี้ เชิญมาชำระเงินด้านหลังเวทีค่ะ”
ในเวลานั้น ก็มีผู้ชายสวมชุดสูทหนึ่งคนเดินมาถึงด้านหน้าของถังเฉา ในมือถือถาดสีดำหนึ่งถาดเอาไว้
ถังเฉามองเฟิ่งหวงแวบหนึ่ง เฟิ่งหวงเข้าใจได้ในทันที ล้วงแบล็กการ์ดที่มีเกียรติสูงสุดใบหนึ่งออกมาวางไว้บนถาดสีดำ
ชายในชุดสูทค้อมกาย แล้วก็จากไป
สิบนาทีก็ถือถาดสีดำกลับมาอีก สองมือส่งแบล็กการ์ดคืนให้กับเฟิ่งหวง
“คุณหนูท่านนี้ ตัดเงินในบัตรแล้ว ยังเหลืออยู่…”
พนักงานธุรการรายงานตัวเลขออกมาพวกหนึ่ง คนรอบ ๆ ไม่ได้ยิน จ้าวเย็นหรานกับหวางเยี่ยนที่อยู่ด้านข้างกลับตกลงมาจากที่นั่งดังตุบ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง เรียกสติกลับมาไม่ได้อยู่นาน
เรื่องถูกส่งมาถึงหูของพิธีกรประมูลสาวสวยกับหานเทียนเจิ้ง ตอนนี้ทั้งสองก็ใจลอยขึ้นพักหนึ่ง
จากนั้น ท่าทีของทั้งสองคนก็เคารพนบนอบมากขึ้น
“ยินดีกับคุณผู้ชายท่านนี้ด้วยนะคะที่ได้รับสมบัติเข้าไปในกระเป๋า!”
พิธีกรประมูลสาวสวยเริ่มปรบมือ ในงานก็มีคนทยอยกันปรบมือตาม
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่ายอดเงินในบัตรเหลืออยู่เท่าไหร่ แต่ดูจากปฏิกิริยาของพิธีกรประมูลกับท่านหานแล้ว จะต้องมีร้อยล้านขึ้นไปแน่
มองดูฉากนี้แล้ว จากนั้นสื่อเหลยก็พูดพึมพำกับตัวเองด้วยดวงตาที่ไร้จิตวิญญาณทั้งคู่
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้…”
สายตาของหานเทียนเจิ้งมองสื่อเหลยอย่างดุดัน ทันใดนั้นมือใหญ่ ๆ ก็โบก “ไล่เขาออกไป ตีให้ขาหักทั้งสองข้างแล้วโยนออกไป!”
“อย่านะ! ท่านหาน ผมผิดไปแล้ว!”
สีหน้าของสื่อเหลยเปลี่ยนเป็นขาวซีดในทันที หันกลับไปคิดจะหนี
แต่ก็มีชายชุดดำพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ลากเอาตัวของสื่อเหลยออกไป
“อ๊ากกกก…”
จากนั้นก็มีเสียงร้องอย่างน่าเวทนาดังมาจากด้านนอก จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีก
พิธีกรประมูลสาวสวยหัวเราะออกมาอย่างน่ารัก “มีเรื่องแทรกเล็กน้อย ทำให้ทุกท่านต้องชมเรื่องตลกแล้ว แต่ว่า… นี่เป็นกฎระเบียบของพวกเรา ใครกล้าก่อเรื่อง ฝ่ายประมูลจะไม่ให้อภัยแน่นอน”
ทุกคนในงานล้วนมีสีหน้าเข้มงวด ประโยคนี้ไหนเลยจะไม่ใช่การเหน็บแนมพวกเขา?
“เอาล่ะ ประมูลกันต่อ ของประมูลชิ้นต่อไปก็คือ…”
ของประมูลชิ้นต่อมา ล้วนแต่เป็นภาพเขียนพู่กันจีน ราคาที่ปั่นกลับสู้โสมพันปีชิ้นแรกไม่ได้
ถังเฉาก็ไม่ได้เข้าร่วมประชันราคาอีก หลับตาพักผ่อน ราวกับหลับไปแล้ว
“ต่อไปเป็นรายการของประมูลชิ้นสุดท้ายของค่ำคืนนี้ค่ะ ตราสัญลักษณ์ของสาขาย่อยตระกูลถัง ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู”
พอพิธีกรประมูลสาวพูดออกมา ดวงตาที่ปิดสนิทของถังเฉาก็ลืมขึ้นมาในทันที
ในดวงตาสาดประกายสว่างวาบ