เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 373
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
หลังจากพูดจบคำเหล่านี้ ใบหน้าของเฉิงเพ่ยก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ราวกับว่าเป็นเกียรติที่ได้รู้จักตระกูลอันดับต้นๆของเมืองเจียงเฉิน ขณะเดียวกัน แววตาก็มองไปที่ถังเฉาและหลินชิงเสว่ด้วยความดูถูก
ไม่เพียงแต่ถังเฉาเท่านั้น เธอยังดูถูกหลินชิงเสว่ด้วย
เมื่อหลายปีก่อนหลินชิงเสว่แฝงตัวเธอทำให้เฉิงเพ่ยไม่พอใจเรื่องนี้มาก รู้สึกว่า หลินชิงเสว่ไม่สมควรที่จะเป็นประธานของกรุ๊ปนี้ แต่ว่าความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม อยู่ที่เมืองเจียงเฉิง เธอเป็นเหมือนปลาได้น้ำ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะจะต้องแก้แค้นหลินชิงเสว่ละก็ เธอได้หยั่งรากในเมืองเจียงเฉินนานแล้ว
หลายปีมานี้ เธอได้รู้จักกับผู้นำของตระกูลใหญ่ไม่น้อย และรู้จักนิสัยของคนเหล่านั้นดี
คนรวยมีกฎเกณฑ์ของคนรวย และไม่อนุญาตให้หญิงสองคนมีสามีคนเดียวกัน แต่ถ้าเล่นๆก็พอได้ ขอเพียงไม่ก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตออกมา ก็ไม่มีอะไร
เฉิงเพ่ยควบคุมความอดทนขีดสุดได้ดีมาก ยังสร้างความสัมพันธ์ที่สำคัญ แล้วก็ไม่วุ่นวายไปถึงคนรวย ไปๆมาๆ เธอกลายเป็นคนรักของผู้นำหลายตระกูล
นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงมากับหลินชิงเสว่ ก็เพื่อจะมาทำให้ถังเฉากับหลินชิงเสว่ อับอายขายหน้าในงานประชุมครั้งนี้
คำพูดของเฉิงเพ่ย ทำให้หลินชิงเสว่สีหน้าเปลี่ยนเป็นเขม่ง ทำให้เฉิงเพ่ยยิ่งได้ใจ แต่ว่าขณะที่กำลังมองไปทางถังเฉา ทันใดนั้นสีหน้าเธอถึงกับชะงัก
เห็นแต่สีหน้าถังเฉาแทบจะไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อย ในทางกลับกันมุมปากของเขายกขึ้นและพูดอย่างใจเย็น “นี่ก็คือ ‘ตระกูลใหญ่’ ที่คุณหมายถึงเหรอ?”
สำหรับเขาแล้ว ตระกูลเฉิน ตระกูลจางและตระกูลหลี่ นั้นยังเทียบไม่ได้กับมดตัวหนึ่ง แค่ยกมือก็สามารถทำลายได้แล้ว
สิ่งเดียวที่ทำให้ถังเฉาประหลาดใจก็คือ เมืองเจียงเฉินถึงกับมีตระกูลข้าราชบริพารนี้ด้วย
ที่เรียกกันว่าตระกูลข้าราชบริพาร ก็คือครอบครัวขนาดเล็กจำนวนมากต้องพึ่งพาตระกูลใหญ่ในการดำรงชีวิต และในแต่ละปีพวกเขาจะเอาผลกำไรประจำปี30%ออกไป เพื่อมอบให้แก่ตระกูลใหญ่ เพื่อแลกกับการพัฒนาของพวกเขา
เมื่อคิดเช่นนี้ สีหน้าที่เยาะแย้ยของถังเฉาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
“ไอ้เศษสวะ รู้เรื่องอะไร”
ถึงแม้เฉิงเพ่ยจะโกรธ แต่เธอก็ไม่ได้โมโหแต่ยังคงใช้สายตามองเขาด้วยความดูถูก และยังคงแสดงความเย่อหยิ่ง “อย่างคุณเป็นแค่ไอ้เศษสวะที่พึ่งพาเมีย มีสิทธิอะไรที่จะพบกับผู้นำตระกูลเฉิน ตระกูลจาง และตระกูลหลี่ ไม่เลยได้ยินก็เป็นเรื่องปกติ”
“เฉิงเพ่ย ระวังคำพูดของคุณหน่อย!”
ได้ยินเฉิงเพ่ยดูถูกสามีของเธอ หลินชิงเสว่สีหน้าเย็นชา
แต่ถังเฉากลับไม่สนใจสักนิด และยิ้มอย่างแผ่วเบา “ในเมื่อคุณพูดว่าตระกูลเฉิน ตระกูลจาง และตระกูลหลี่เป็นตระกูลข้าราชบริพารของตระกูลหู งั้นมีเรื่องหนึ่งคุณเคยได้ยินมั้ย?”
ชะงักครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ “ตระกูลหูเกือบจะถูกทำลาย สุดท้ายผู้นำตระกูลหูได้ฆ่าหลานชายแท้ๆด้วยตัวเอง เพื่อยุติภัยพิบัติครั้งนี้ !”
หลังจากคำพูดนี้ออกมา หลินชิงเสว่ตกใจทันที เพราะเธอรู้ดีว่าถังเฉาไปเมืองเจียงเฉิง ก็เพื่อเรื่องของหูอีซาน…
สามีของเธอ เกือบจะทำลายตระกูลหูจนพินาจ?
เฉิงเพ่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง “มีเรื่องนี้ด้วยเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเฉาก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไร และสีหน้าของเขาก็ยิ่งดูสนุกมากขึ้น
แต่เฉิงเพ่ยกลับไม่คิดจะหาเรื่องพัวพันกับถังเฉาอีก “ประธานหลิน พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ การประชุมกำลังจะเริ่มแล้ว”
พูดจบ เธอดึงหลินชิงเสว่รีบเดินเข้าไปข้างใน
หลินชิงเสว่หันมองถังเฉา ด้วยท่าทางที่ขอโทษ “ที่รักคุณรอที่นี่สักครู่นะ เมื่อจบการประชุม ฉันจะรีบมาหาคุณทันที”
ถังเฉาตอบรับด้วยความดีใจ
เฉิงเพ่ยยิ้มอย่างเย็นชา และพูดในใจว่า คุณยังจะมาหาไอ้เศษสวะนี้? เกรงว่าหลังจบ คุณคงนอนอยู่บนเตียงของผู้นำมากมายแล้ว…
ถังเฉารออยู่ที่ชั้นล่างสักครู่ ทันใดนั้นมีโรลส์-รอยซ์สีดำจอดที่หน้าประตู มีชายวัยกลางคนที่มีคิวโค้งเรียวเหมือนดาย ดวงตาเป็นประกายดุจดวงดาวเดินลงมา
เมื่อเห็นถังเฉารออยู่หน้าประตู ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที “คุณถัง!”
ถังเฉาหันมองและยิ้ม “ผู้นำเซี่ย”
คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้นำของตระกูลเซี่ย เซี่ยสิงจู๋
เขามองไปที่ถังเฉาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ” คุณถังทำไมถึงอยู่ที่นี่?”
ถังเฉาโบกมือ “ภรรยาของผมมาคุยธุรกิจ ที่นี่ ผมอยู่ที่นี่เพื่อรอเธอ”
“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”
เซี่ยสิงจู๋ตระหนักได้ในทันทีว่า ภรรยาของถังเฉาเป็นประธานสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหมิงจู หากต้อนรับให้ดีๆ ก็จะทำให้คุณถัง รู้สึกดี…
ดังนั้นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายิ่งลึกซึ้งขึ้น “คุณถังท่านกับภรรยายากนักที่จะมาเมืองเจียงเฉิงสักครั้ง ในฐานะเป็นเจ้าของถิ่น โปรดให้โอกาสผมได้ต้อนรับสักครั้ง มิฉะนั้น จิตใต้สำนึกของผมจะรู้สึกไม่สงบ!”
ถังเฉาตกใจหลังจากนั้นก็ยิ้ม “พอดี ผมกับภรรยากำลังมองหาสถานที่ทานอาหารท้องถิ่น”
เซี่ยสิงจู๋ดูมีความสุขในทันใด “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มาที่โรงแรมโจวจี้ ภายใต้ในนามตระกูลเซี่ยของผมเถอะ!”
ถังเฉาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตกลงอย่างยินดี
ขณะเดียวกัน ชั้นบนสุดของอาคารสำนักงาน
ภายใต้การนำของเฉิงเพ่ย หลินชิงเสว่เดินเข้าไปในห้องประชุม
ผลักประตูออก ก็เห็นกลุ่มคนวัยกลางคนจำนวนมากแต่งกายด้วยชุดจีน ถึงแม้พวกเขาจะดูอ้วนหน่อย แต่พวกเขาก็แข็งแรงมาก ก็คือผู้นำที่ใหญ่โตจากเจียงเฉิงที่เฉิงเพ่ยเชิญมา
“ผู้นำทุกท่าน ขออภัย ที่พวกเรามาสาย”
“ขอแนะนำตัว นี่คือประธานกรุ๊ปของพวกเรา ประธานหลิน”
ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง เฉิงเพ่ยก็เหมือนปลาได้น้ำ ทักทายกับผู้นำจากตระกูลต่างๆ
ผู้นำแต่ละคนต่างก็จ้องมองไปที่หลินชิงเสว่ที่อยู่ข้างๆเฉิงเพ่ย ทุกคน สายตาส่องประกายเป็นแถว
รูปร่างหน้าตาของเฉิงเพ่ยดี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหลินชิงเสว่ ก็แตกต่างราวฟ้ากับดิน
ขณะนี้พวกเขาต่างก็ยืนขึ้นและจับมือกับหลินชิงเสว่
“ผมชื่อเฉินจื่อเหาเป็นผู้นำตระกลูเฉิน ”
“ผมชื่อจางเทียนเหอเป็นผู้นำตระกูลจาง”
“ผมชื่อหลี่ซื่อไห่เป็นผู้นำตระกูลหลี่”
ในนั้น ในบรรดาตระกูลทั้งหลายถือว่าสามตระกูลนี้ดีที่สุด
หลินชิงเสว่จับมืออย่างสุภาพ พอสัมผัส จากนั้นยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เริ่มการประชุมเถอะ นี่คือใบสัญญาโครงการของสำนักงานการก่อสร้าง…”
พูดจบหลินชิงเสว่ก็จะเอาใบสัญญา เฉินจื่อเหา จางเทียนเหอ หลี่ซื่อไห่ สามคนชำเลืองสบตากัน และดวงตาของพวกเขาก็หรี่ลง
“ประธานหลิน เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก พวกเราค่อยพูดถึงภายหลัง”
หลินชิงเสว่หยุดมือลงและถามว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับธุรกิจ แล้วอะไรถึงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ล่ะ?”
เฉิงเพ่ยแอบดีใจ แต่สีหน้ากลับยิ้มและพูดว่า “ประธานหลิน อยู่ที่นี่ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดี เรื่องมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น”
“ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตที่มีหน้ามีตาในเมืองเจียงเฉิง มีอะไรที่ไม่สามารถกินไปคุยไปล่ะ? ประธานหลินคุณควรชงแก้วกับผู้นำให้มากหน่อย พอพวกผู้นำดีใจ ก็จะตกลงคุณเอง?”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉิงเพ่ย หลินชิงเสว่สีหน้าเปลี่ยน ทำไมจะไม่รู้ความคิดของเธอ?
“ขอโทษที ตอนเที่ยงฉันต้องไปทานข้าวกับสามี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีการประชุมแล้ว”
เธอลุกขึ้นและจากไปโดยไม่ลังเล
การประชุมครั้งนี้มีขึ้น เพียงเพื่อทำให้โครงการของสำนักงานการก่อสร้างดีขึ้น แต่ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะต้องลำบากตัวเองดื่มไวน์เพื่อเอาใจผู้นำพวกนี้
แต่ว่า ทันทีที่หลินชิงเสว่ยืนขึ้น ผู้นำตระกูลเฉินเฉินจื่อเหาใจก็หรี่ตาและหัวเราะ“ประธานหลิน นี่ไม่เหมาะสมมั้ง? นี่เป็นเพราะผมเห็นแก่หน้าประธานเฉิง ดังนั้นผมจึงต้องเสียเวลามากที่เชิญผู้นำเหล่านี้มา เพื่อให้โครงการของสำนักงานการก่อสร้างของกรุ๊ปของพวกคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น”
“พวกเราเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณหลินมานาน อยากทานอาหารด้วยและอยากทำความรู้จักมานานแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นธุรกิจ คุณหลินคงจะไม่ปฏิเสธนะ”
“ประธานหลิน คุณต้องคิดให้ดีนะ พลาดแล้วพลาดเลย”
จางเทียนเหอกับหลี่ซื่อไห่ก็พูดตามเช่นกัน
แม้ว่าผู้นำคนอื่นๆ จะไม่พูด แต่ก็มองหลินชิงเสว่ด้วยท่าทางขี้เล่น ไม่กลัวที่เธอจะจากไปแม้แต่น้อย
เพราะเมื่อไหร่ที่หลินชิงเสว่จากไป งั้นต่อไปในอนาคต เธอก็อย่าหวังจะได้เจรจาเรื่องความร่วมมือในเมืองเจียงเฉิงอีกต่อไป !
สีหน้าของหลินชิงเสว่ดูไม่ได้เลย และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยการขัดแย้ง
เธอรับปากถังเฉาแล้วว่าจะรับประทานอาหารกลางวันกับเขา แต่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นผลประโยชน์ของกรุ๊ป
“ประธานหลิน ก็แค่ทานอาหารมื้อเดียว หรือคุณไม่ไว้วางใจผู้นำทั้งหลายนี้เหรอ?”
ในขณะนี้เฉิงเพ่ยยืนขึ้นพูดพอดี
คำพูดนี้ปิดตายทางถอยของหลินชิงเสว่อย่างสิ้นเชิง
เฉินจื่อเหาโบกมือและพูดอย่างกล้าหาญ
“โอเค ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นผมเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหาร ไปกินข้าวโรงแรมโจวจี้!”
“ได้รับเกียรติจากประธานสาวงามอันดับหนึ่งอย่างคุณหลิน อาหารมื้อนี้คงทานได้อย่างมีความสุขมาก ฮ่าฮ่าฮ่า…”
จางเทียนเหอกับหลี่ซื่อไห่ก็หัวเราะฮ่าฮ่าเช่นกัน
เป็นเช่นนี้ ถูกเฉิงเพ่ยผลัก หลินชิงเสว่ถูกบังคับให้ตามเธอลงไปข้างล่าง
เห็นชิงเสว่ออกมา ถังเฉาก็รีบเดินหน้ามา แต่เห็นหลินชิงเสว่ถูกผู้นำหลายคนล้อมรอบเดินผ่านเขาไป
หลินชิงเสว่รู้สึกไม่สบายใจ หันไปมองถังเฉา แววตาของเธอเต็มไปด้วยคำขอโทษและอาวรณ์
ทันใดนั้นถังเฉาก็เข้าใจอะไรบางอย่าง สีหน้าก็เย็นชาขึ้นในชั่วพริบตา
เฉินเพ่ยก็มองเขาอย่างดูถูก “ภรรยาของคุณไปโรงแรมโจวจี้กับผู้นำตระกูลใหญ่ต่างๆแล้ว ไอ้เศษสวะอย่างคุณก็รอที่นี่ต่อไปเถอะ!”
พูดจบ ก็ถุยน้ำลายใส่พื้นอย่างแรง