เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 377
เมื่อวานเป็นครั้งที่สองที่ตีฝ่าแนวป้องกันสุดท้าย หลินชิงเสว่ถอดเสื้อของถังเฉาด้วยตัวเธอเอง จากนั้นเธอบังเอิญไปเห็นตราเหรียญทองคำในกระเป๋าเสื้อของเขาเข้า
ตอนนั้น เธอคิดว่ามันคือของที่ระลึก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับมัน นึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นตราเหรียญประจำตระกูลที่มีมูลค่ากว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้าน
เพื่อที่จะทำการยืนยัน เธอจงใจที่จะหารูปในเว็บไซต์เพื่อทำการเปรียบเทียบกัน ผลลัพธ์คือมันเหมือนกันทุกประการ!
คำพูดของเธอดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
หลังจากที่เอื่อยเฉื่อยอยู่ครู่หนึ่ง เฉินจื่อเหา จางเทียนเหอ หลี่ซื่อไห่และคนอื่นๆต่างจ้องไปที่ถังเฉา “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?ตราเหรียญอยู่กับนายงั้นเหรอ?”
ถังเฉารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้ววางไว้บนโต๊ะ
“ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ตนเหรียญตระกูลถัง!”
ทันใดนั้น ผู้นำตระกูลต่างพากันตกตะลึง แม้แต่ตะเกียบในมือก็ทำตกลงพื้นโดยไม่ทันรู้ตัว
ดวงตาของเฉิงเพ่ยเองก็ดูเฉื่อยชาเช่นกัน แม้ว่าหล่อนจะไม่รู้ว่าตราเหรียญประจำตระกูลของเยี่ยนตูนั้นคืออะไร แต่หล่อนก็เข้าใจได้เลยว่า ของที่ทำให้ผู้คนต่างพากันอิจฉาตาร้อนนี้ คงจะเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้อย่างแน่นอน
ในเวลานี้ ของชิ้นนั้นได้อยู่กับถังเฉา จะไม่ทำให้หล่อนประหลาดใจได้อย่างไรกัน?
หลินชิงเสว่กลั่นกรองปฏิกิริยาของพวกเขา จากนั้นจ้องมองไปที่ถังเฉา หัวใจของเธอเต้นแรงและเร็วเป็นอย่างมาก
เธอรู้ดีว่า ตัวตนของถังเฉานั้นไม่ได้มาจากตระกูลหลินอย่างแน่นอน เขาเป็นเพียงลูกชายบุญธรรมของตระกูลหลิน ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา
แต่ในเวลานี้ เธอคาดเดาถึงตัวตนของถังเฉาอย่างใจกล้า
ถังเฉาแซ่ถัง ในบรรดาเก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตู ก็มีตระกูลถังอยู่ด้วย บนโลกใบนี้จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
แม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าบนโลกนี้มีคนแซ่ถังมากมายนัก แม้แต่ในเยี่ยนจิงเอง คนที่มีแซ่เหมือนกับเก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตูก็มีไม่น้อย แต่ว่า มันมีกฎเหล็กอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือ ใครก็ตามที่มีแซ่เดียวกันแต่มิใช่คนในตระกูลหลวง หากผู้นั้นได้ใช้นามของตระกูลหลวงไปหลอกลวงผู้อื่น มันผู้นั้นจะต้องโดนฆ่าอย่างไร้ความปราณี!
ถังเฉาซื้อตราเหรียญนี้มาในราคาที่สูง ไม่ต้องพูดอะไร ความหมายมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะจับมือถังเฉาเอาไว้แน่น พร้อมกับถ้าเบาๆว่า “เป็นของนายงั้นเหรอ?”
ถังเฉายิ้ม พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ “นี่เป็นเพียงของเล่นเล็กน้อยที่ผมได้ไปประมูลมาน่ะ”
ดวงตาของหลินชิงเสว่นั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หากถังเฉาเป็นคนของตระกูลถัง งั้นคนในตระกูลของเธอ ก็ไม่สามารถไปต่อต้านพวกเขาได้
เพราะว่ามันไม่เหมือนตระกูลหลินที่ถูกก่อตั้งไปเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ตระกูลถังเป็นตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ที่มีมรดกตกทอดมาอย่างลึกซึ้ง
เมื่อเห็นแววตาของหลินชิงเสว่หดหู่ ถังเฉาจึงได้ปลอบเธออย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องกังวลไป รู้เพียงแค่ว่าผมจะไม่ได้มาจากตระกูลถัง และผมก็ไม่เคยสนใจคนของตระกูลถังอยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ?”
ทันทีที่คำพวกนี้หลุดออกมา สายตาของผู้นำตระกูลทุกคนในตอนนี้ไม่ได้ดูถูกถังเฉาเหมือนก่อน มันกลายเป็นความเคารพน่าเกรงขาม พวกเขารู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย
แม้ว่าถังเฉาจะดูเหมือนเป็นอย่างที่เฉิงเพ่ยพูด แต่เขาก็เป็นแค่ลูกเขยบ้านๆ แต่ในตอนนี้ ด้วยตราเหรียญตระกูลถังเหรียญนี้ มันก็ได้ทำให้เขาเหนือกว่าทุกคนแล้ว
อีกทั้งแต่ก่อนพวกเขาก็มีความคิดที่จะจัดการกับภรรยาของเขา เมื่อนึกถึงตรงนี้ หัวของพวกเขาก็ชาไปหมด หัวใจเต้นแรงมากขึ้น
“ถัง ถังเฉา แกคือลูกเศรษฐีที่ลึกลับคนนั้นเหรอ?”
ร่างกายของเฉินจื่อเหาสั่นสะท้าน เสียงของเขาแห้งเหือดไปหมด ราวกับว่าเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก
สำหรับเฉิงเพ่ย หล่อนรู้สึกหวาดกลัว
หนึ่งพันห้าร้อยล้าน หล่อนเป็นเพียงรองประธานของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป แม้ว่าหล่อนจะขายมัน หล่อนก็ยังไม่สามารถมีเงินถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านได้
ถังเฉาไม่ได้ตอบไปโดยตรง ได้แต่ยิ้มออกไป “ถ้าพวกนายคิดว่าใช่ ก็ใช่แหละ”
ประโยคนี้ ทำให้ผู้นำตระกูลต่างพากันมั่นใจในสิ่งที่ตนคิด ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัว เมื่อพวกเขาคิดว่าจะทำร้ายคนตระกูลถังจากตระกูลหลวงในเยี่ยนตู พวกเขาล่ะอยากจะตีหัวตัวเองให้ตายไปให้รู้แล้วรู้รอด
เฉิงเพ่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่ถังเฉาและพูดว่า “นี่มันของปลอม!”
เธอพูดอย่างมั่นใจ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึง
รวมถึงถังเฉา ที่มองหล่อนพร้อมกับยิ้มออกมา “หล่อนรู้ได้ยังไงว่านี่เป็นของปลอม?”
เห็นเพียงใบหน้าที่ดูถูกดูแคลนของเฉิงเพ่ย “ไม่เห็นที่ข่าวรายงานหรือไง ตราเหรียญนี้ถูกประมูลไปในราคากว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านโดยลูกเศรษฐีที่ลึกลับรายหนึ่ง แกเป็นลูกเศรษฐีที่ลึกลับหรือไง?มีเงินถึงพันห้าร้อยล้านเหรอ?แกก็เป็นแค่ลูกเขยบ้านๆ คิดจะทำตัวหมาป่าหางโตงั้นเหรอ?”
“ถ้าไม่ใช่ความคิดที่ฉันคิดขึ้นมาได้อย่างกะทันหันล่ะก็ ฉันคงโดนแกหลอกไปแล้ว!”
เฉิงเพ่ยพูดโน้มน้าวออกมาเรื่อยๆ ยิ่งพูดจิตใจก็ยิ่งสงบมากขึ้น พูดได้อย่างอกผายไหล่ผึ่งด้วยความมั่นใจ
เมื่อผู้นำตระกูลได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็ตกตะลึงและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ฉันกลัวแทบตาย เกือบเชื่อแล้วไหมล่ะ”
“ไม่เลวเลย แกเป็นสามีของคุณหลิน เงินก็คงเอามาจากคุณหลิน ว่าแต่คุณหลินมีเงินถึงพันห้าร้อยล้านงั้นเหรอ?”
แม้ว่าหลินชิงเสว่จะเป็นประธานของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป มูลค่าทางตลาดของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปก็คงเกินห้าพันล้าน แต่มันเป็นเพียงแค่มูลค่าทางตลาดซึ่งผันผวนไปมาอยู่แล้ว เงินสดที่หลินชิงเสว่สามารถยักยอกได้จริงๆ ก็มีเพียงประมาณหนึ่งพันล้านเท่านั้น ซึ่งเธอจึงไม่ปัญญามาซื้อตราเหรียญนี้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ผู้นำตระกูลทั้งหมดก็เย้ยหยัน
เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่เชื่อ หลินชิงเสว่ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย “ตราเหรียญประจำตระกูลของเยี่ยนตูนี่เป็นของจริงนะ!”
“คุณหลิน คุณไม่ต้องปกป้องสามีของคุณหรอก เขาเป็นคนโกหกที่จะหลอกลวงคุณด้วยของจอมปลอมนี่!”
“อย่างไรก็ตาม มันดูสมจริงมาก ดูลวดลายมันสิ เหมือนกันเห็นๆ”
“ถังเฉา ตอนนี้ฉันจะดูว่าแกจะพูดอะไรอีกไหม?”
เฉินจื่อเหา หลี่ซื่อไห่และเฉิงเพ่ยกล่าวสลับกันไปมา ราวกับไก่ชนที่สู้เพื่อชัยชนะ
หลินชิงเสว่ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรไปอยู่พักหนึ่ง เธอไม่สามารถพูดได้ว่าเธอมาจากตระกูลหลวงในเยี่ยนตู รู้ไหมว่านี่คือเรื่องจริง?
ถังเฉานั้นยังดูสบายดีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ดวงตาก็อยู่บนตัวพวกนาย ฉันจะไปพูดอะไรได้ล่ะ”
“ดูสิ เขายอมรับแล้ว…”
ขณะที่เฉิงเพ่ยกำลังจะโอ้อวดหลินชิงเสว่ ทันใดนั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองหันไปมองถังเฉา “นี่ด่าฉันว่าไม่มีตางั้นเหรอ?”
เฉินจื่อเหา จางเทียนเหอและคนอื่นๆต่างพูดตรงๆกันมากขึ้น มองไปที่หลินชิงเสว่พร้อมกับพูดว่า “ประธานหลิน ไม่คิดเลยว่าสามีของคุณจะเป็นคนแบบนี้ พวกเราผิดหวังจริงๆ”
“คุณให้ความสำคัญกับคนแบบนี้ มันทำให้เราเกิดความสงสัยในตัวคุณเสียจริง โครงการบริษัทของพวกคุณ ตราบใดที่มีพวกเราอยู่ อย่าหวังที่จะได้เข้าสู่การตลาดเจียงเฉิง!”
“ตระกูลหลี่ก็เหมือนกัน!”
เฉินจื่อเหา จางเทียนเหอ หลี่ซื่อไห่ต่างก็แสดงความคิดเห็นออกมา ส่วนผู้นำตระกูลอื่น ๆ ก็ต่างพากันเห็นด้วย
หลินชิงเสว่กำหมัดแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง “พวกคุณกลับไปกลับมาแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
“ประธานหลิน ดูเหมือนว่าคุณจะทำพลาดไปนะครับ”
เฉินจื่อเหาเยาะเย้ย “ที่นี่คือเจียงเฉิง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามพวกเราเป็นคนตัดสินเอง”
“ถ้าคุณตามเรามา แล้วเราอารมณ์ดีขึ้น ไม่แน่อาจจะตกลงกับคุณก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่มีพวกเราอยู่ในสายตาล่ะก็… ตอนนี้ก็ไสหัวออกไปจากเมืองเจียงเฉิงได้เลย!”
เฉิงเพ่ยเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยลืมไปเลยว่าเธอเองเป็นรองประธานของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปเช่นกัน
เมื่อฟังพวกเขาพูด ใบหน้าของหลินชิงเสว่ก็ซีด ร่างกายสั่นไปด้วยความโกรธ
“แต่ว่าก็ยังพอมีวิธีอยู่นะ ที่เราสามารถตกลงให้โครงการของคุณเข้าสู่เจียงเฉิงได้”
เฉินจื่อเหาหันกลับมาและพูดอย่างช้าๆ “ตราบใดที่คุณมอบตำแหน่งให้กับเฉิงเพ่ย ฉันก็จะยอมถอนคำพูดก่อนหน้านี้คืน!”
ในเวลานี้เอง ถังเฉาวางตะเกียบในมือลง ดวงตาปรากฏความเฉียบคม
หลังจากที่รอมานาน หางจิ้งจอกก็ได้ปรากฏออกมาเสียที