เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 393
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
“ชิงเสว่!”
“คุณแม่!”
“พี่หลิน!”
เห็นหลินชิงเสว่เป็นลมล้มพับเพราะเสียเลือดมากไป สีหน้าของถังเฉากับหลินฉ่ายเวยก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากพร้อม ๆ กัน โอบตัวหลินชิงเสว่ที่หงายไปด้านหลัง เธอจึงไม่ได้ล้มลงบนพื้น
ถังเสี่ยวลี้ก็ยิ่งกอดเธอเอาไว้แน่น เปล่งเสียงร้องไห้ออกมา
“คุณพ่อคะ คุณแม่เป็นอะไรคะ?”
ถังเฉารีบปลอบขวัญเจ้าหนูน้อยทันที “คุณแม่ไม่เป็นอะไรค่ะ คุณแม่แค่เหนื่อยเกินไปเท่านั้นเองค่ะ”
“รีบส่งไปห้องผู้ป่วยเร็ว!”
“พูดจบ ก็พูดเสียงต่ำกับหลินฉ่ายเวย
หลินชิงเสว่ถูกย้ายไปยังห้องผู้ป่วยระดับสูงที่สุด ถังเฉากับถังเสี่ยวลี้ร่วมเดินทางไปด้วยตลอดทาง
มองดูหลินชิงเสว่ที่มีสีหน้าขาวซีด ถังเฉาก็ปวดใจจนถึงที่สุด สัมผัสแก้มของเธอเบา ๆ พูดพึมพำว่า “ชิงเสว่ ทำไมคุณถึงได้โง่ขนาดนี้นะ? ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องถ่ายเลือดมากขนาดนั้นแท้ ๆ…”
เขารู้ว่าเมื่อผ่านการถ่ายเลือดครั้งนี้ไป ต่อไปร่างกายของหลินชิงเสว่จะไม่แข็งแรงเหมือนดังก่อนไปอีกพักใหญ่
ด้วยเป็นสามีของหลินชิงเสว่ ถังเฉาจึงปวดใจมาก
ในตอนนี้เองที่ได้รับโทรศัพท์จากจ้าวเย็นหราน
“ถังเฉา ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ?”
“อยู่ที่โรงพยาบาลแล้วครับ มีอะไรเหรอ?”
ถังเฉาฟังความร้อนรนจากในน้ำเสียงของจ้าวเย็นหรานออก
“ที่นี่เกิดเรื่องแล้วค่ะ”
จ้าวเย็นหรานเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ “ตอนนี้ทั้งตระกูลจ้าวได้ถูกจ้าวจือชิวยึดครองไว้แล้วค่ะ พวกเขายังจับตัวหวางเยี่ยนไปด้วยค่ะ!”
ได้ยินอย่างนั้น คิ้วของถังเฉาก็ขมวดแน่น “ไม่ใช่ว่ายังมีตระกูลเย่ด้วยเหรอ ทำไมตระกูลจ้าวถึงได้ถูกยึดเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
“เดิมที ฉันได้นัดแนะกับเย่เทียนหลงไว้แล้วค่ะ ตระกูลเย่จะช่วยฉันเฝ้าระวังตระกูลจ้าวให้ แต่ว่า ตระกูลเย่กลับเจอเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย ปลีกตัวมาไม่ได้ค่ะ”
จ้าวเย็นหรานพยายามใช้คำพูดง่าย ๆ อย่างสุดกำลังมาเล่าเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด “หลังจากนั้นฉันถึงได้รู้ว่า เป็นสื่อเหลยที่ใช้อำนาจการเงินส่วนตัว ถูกหวางเยี่ยนค้นพบแล้วคิดจะขัดขวาง เธอก็เลยโดนจับตัวไป”
สีหน้าของถังเฉานิ่งสนิทราวกับผืนน้ำ เขาเข้าใจเหตุผลที่จ้าวเย็นหรานล้มเหลวแล้ว
ภายใต้สถานการณ์ที่เขาปลีกตัวไม่ได้ ที่พึ่งอาศัยที่ใหญ่ที่สุดของเธอก็คือตระกูลเย่ แต่หลังจากที่สื่อเหลยได้เลื่อนขั้น ก็ใช้อำนาจถ่วงตระกูลจ้าวเอาไว้ จ้าวเย็นหรานก็เท่ากับสูญเสียที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุด จะล้มเหลวก็สามารถเข้าใจได้
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ?” ถังเฉาเอ่ยถาม
“ตอนนี้พวกของจ้าวตงชิวกำลังตามหาฉันไปทั่ว ตอนนี้ฉันกำลังหนีไปหาคุณทางนั้นค่ะ!”
ถังเฉาครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็เอ่ยว่า “คุณรอผมที่ชั้นล่างของโรงพยาบาลนะครับ ผมจะรีบลงไป”
“ค่ะ!”
จ้าวเย็นหรานรีบวางสายโทรศัพท์ทันที
ถังเฉาร้องเรียกหลินฉ่ายเวยมา “ผมมีธุระต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย คุณช่วยผมดูแลเสี่ยวลี้หน่อยนะครับ”
พูดจบก็ย่อตัวลงพูดกับถังเสี่ยวลี้ “เสี่ยวลี้เล่นกับคุณน้าฉ่ายเวยสักครู่ดีไหมคะ เดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้วค่ะ”
ถังเสี่ยวลี้พยักหน้าทันที “เล่นครู่เดียวก็ได้ค่ะ แต่ว่ายังอยากรอคุณแม่ฟื้นขึ้นมากับคุณพ่อค่ะ”
“เพื่อนคนหนึ่งของคุณพ่อกำลังเจอกับอันตราย คุณพ่อต้องไปช่วยเขาค่ะ หนูก็คุยเป็นเพื่อนกับคุณน้าฉ่ายเวย ดีไหมคะ?”
ถังเสี่ยวลี้พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อต้องรีบกลับมานะคะ”
ถึงแม้เจ้าหนูน้อยจะอายุน้อย แต่ก็ฉลาดรู้ความมากแล้ว และก็ไม่ได้ขืนเอาไว้
พูดจบถังเฉาก็พยักหน้าให้หลินฉ่ายเวยอย่างเอาจริงเอาจัง แล้วก็ลงไปชั้นล่างอย่างรีบร้อน
รถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่ที่ประตูโรงพยาบาล ร่างงดงามร่างหนึ่งลงมาจากรถ ก็คือจ้าวเย็นหราน
“ถังเฉา!”
มองเห็นถังเฉา จ้าวเย็นหรานก็เดินเร็ว ๆ เข้ามาทันที ถอนหายใจสุดปอด
“เล่าสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลจ้าวให้ผมฟัง”
สีหน้าของถังเฉามืดครึ้มอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ดวงตามีประกายหนาวยะเยือกวาบผ่าน
เรื่องวันนี้ทำให้เขากลั้นความเดือดดาลไว้เต็มท้อง กำลังไม่มีที่ระบายพอดี
พวกตระกูลจ้าวเดนมนุษย์กลุ่มนั้น โชคไม่ดีที่จะต้องกลายมาเป็นเป้าหมายในการระบายอารมณ์ของถังเฉา
“ลูกนอกสมรสทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจ้าวจือชิว ล้วนรวมเป็นพันธมิตรกัน ให้ฉันบอกที่อยู่ของคุณ เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคุณ! ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ก็เลยหนีออกมาได้”
“หวางเยี่ยนถูกจับเป็นตัวประกันไปแล้ว ฉันยังต้องกลับไปช่วยเธอ แต่มีจุดหนึ่งที่แน่ใจได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะรวมตัวกันก่อกบฏ แต่พอถึงตอนที่กำหนดตัวผู้นำจริง ๆ จะต้องแตกกันอีกครั้งแน่”
“เข้าใจแล้ว ตอนนี้กลับตระกูลจ้าวกัน”
ถังเฉาพยักหน้า พูดจบก็โทรศัพท์ออกไปสายหนึ่ง แจ้งให้เฟิ่งหวงมาที่นี่
ได้ฟังคำพูดของถังเฉา หัวใจของจ้าวเย็นหรานก็เต้นอย่างบ้าคลั่ง “ตอนนี้ทั้งตระกูลจ้าวถูกลูกนอกสมรสยึดไว้หมดแล้ว คุณยังจะไปอีก?”
ถังเฉายิ้มอย่างเย็นชา “พวกเขากำลังตามหาผมไม่ใช่หรือ? ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้พวกเขาสมดังปรารถนา”
เพิ่งจะสิ้นเสียง โรลส์-รอยซ์สีดำคันหนึ่งก็จอดอยู่ด้านหน้าของทั้งสองคนอย่างมั่นคง
เฟิ่งหวงที่สวมชุดหนังทั้งตัวเดินลงมา มาอยู่ตรงหน้าของถังเฉาโดยมองข้ามจ้าวเย็นหรานไปตรง ๆ
“รองหัวหน้าคะ เชิญขึ้นรถค่ะ”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างเย็นชา จากนั้นก็บอกใบ้ให้จ้าวเย็นหรานขึ้นรถมาด้วยกัน
จ้าวเย็นหรานตะลึงอยู่นาน มองเฟิ่งหวง ทันใดนั้นก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถังเฉาถึงกล้าบุกเข้าไปที่ตระกูลจ้าว
เพราะว่าเขาไม่ได้เห็นตระกูลจ้าวอยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง อีกทั้ง… ทุกครั้งที่ผู้หญิงชุดหนังคนนี้ปรากฏตัว ก็จะต้องมีผู้บาดเจ็บล้มตาย
……
อีกด้านหนึ่ง ห้องผู้ป่วยชั้นบนสุดของโรงพยาบาล
หลินชิงเสว่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา หลินฉ่ายเวยกำลังเล่านิทานให้ถังเสี่ยวลี้ฟัง
ในตอนนี้เอง คุณหมอคนหนึ่งที่สวมชุดกาวน์สีขาวกับโจวเหม่ยหยูนก็เข็นหลินเจิ้นสงที่เสียบสายระโยงระยางไว้ทั้งตัวเข้ามา
หลินฉ่ายเวยวางหนังสือนิทานทันที คว้ามือของคุณหมอไว้แน่นแล้วเอ่ยถามว่า “คุณพ่อฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
คุณหมอมีสีหน้าเคร่งขรึม “รักษาชีวิตไว้ได้ แต่มีกระสุนนัดหนึ่งที่ทำให้อวัยวะภายในเสียหาย จะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ อยู่ที่ความปรารถนาที่จะมีชีวิตของเขาแล้ว”
ตูม!
พอคำนี้พูดออกมา หลินฉ่ายเวยก็นิ่งไปทันที ทันใดนั้นก็คว้าเสื้อผ้าของคุณหมอแล้วตะคอกด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านว่า “นี่มันหมายความว่ายังไง? พี่หลินถ่ายเลือดไปตั้งสองถุงใหญ่ แทบจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว คุณกลับมาบอกฉันว่าให้ดูความปรารถนาที่จะมีชีวิต คุณเป็นหมอนะ ไม่ใช่ร่างทรง จะมาพูดจาไม่รับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้นะคะ!”
พอโจวเหม่ยหยูนที่อยู่ข้าง ๆ ได้ฟังก็ดึงตัวหลินฉ่ายเวยไว้ทันที “ลูก จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ คุณหมอก็พยายามสุดความสามารถแล้ว จะโทษเขาไม่ได้”
คุณหมอคนนั้นมองโจวเหม่ยหยูนอย่างซาบซึ้งทันที “เป็นคุณหญิงท่านนี้ที่มีเหตุผล”
พูดจบก็มองหลินฉ่ายเวยด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณหนูท่านนี้ ผมสามารถรับรองกับคุณได้ ขอเพียงผู้ป่วยมีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นกลับมา พวกเราจะไม่ปล่อยปละละเลยแน่ครับ!”
หลินฉ่ายเวยเงียบไม่พูดไม่จา เบ้าตาแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าเมื่อก่อนคุณพ่อดูแลเธอทุก ๆ ด้าน น้ำตาก็ยิ่งไหลแหมะ ๆ ลงมา
“ฉันขอไปอยู่เงียบ ๆ ข้างนอกสักครู่”
พูดจบเธอก็วิ่งออกไป
ดังนั้น ในห้องผู้ป่วยก็เหลือเพียงโจวเหม่ยหยูนกับถังเสี่ยวลี้สองคน
ถังเสี่ยวลี้ดูเหมือนจะกลัวโจวเหม่ยหยูนอยู่บ้าง ไม่พูดไม่จา เพียงแค่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง อ่านหนังสือนิทานด้วยตัวเองไป
ในห้องเงียบสงัด เงียบจนตัวโจวเหม่ยหยูนเองรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
เธอมองหลินเจิ้นสงกับหลินชิงเสว่ที่ล้วนแต่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทันใดนั้นก็ยิ้มขึ้นมาด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม
“ตอนตั้งใจหา หาแทบตายกลับหาไม่เจอ ตอนที่ไม่ได้ตั้งใจหากลับได้เจอโดยบังเอิญจริง ๆ ตอนนี้ดีแล้ว ไปตายกันเสียทั้งสองคน!”
พูดตามความจริง เรื่องคืนนี้จนถึงตอนนี้โจวเหม่ยหยูนก็ยังรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังอยู่พักหนึ่ง
โดยเฉพาะภาพที่หลินเจิ้นสงนอนจมกองเลือดอยู่ สลักอยู่ในสมองของเธออย่างล้ำลึก
ที่แท้ในใจของเธออยากจะ แค่กำจัดหนึ่งในหลินเจิ้นสงกับหลินชิงเสว่ ความลับของตระกูลหลินจะได้ไม่รั่วไหล ตอนนี้ทั้งสองคนกลับนอนอยู่เป็นเตียงผู้ป่วย
“แกพาลไม่ใช่เหรอ แกตบฉันไม่ใช่เหรอ? พาลฉันอีกสิ สวะ! พวกไร้ค่า!”
ตอนนี้ในห้องมีเธอเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียว สีหน้าเปลี่ยนเป็นอำมหิตอย่างรวดเร็ว ตบลงบนใบหน้าของหลินเจิ้นสงอย่างโหดเหี้ยม
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ แกจำลูกสาวของแกได้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?
ยังคิดจะทำความรู้จักกับลูกสาวของแก? ถุย! ฝันไปเถอะ!”
โจวเหม่ยหยูนด่าสาดเสียเทเสีย ดูราวกับระบายความไม่พอใจในใจทั้งหมดออกมาอย่างไรอย่างนั้น ในดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
“แกยังลืมเมียเก่าของแกไม่ได้ไม่ใช่เหรอ แกก็ลงนรกไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับนังผู้หญิงชั่วนั่นเถอะ ทรัพย์สินเงินทองของแก เป็นของฉันทั้งหมด!”
โจวเหม่ยหยูนยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิม บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มบ้าคลั่ง ถังเสี่ยวลี้ยิ่งมองยิ่งหวาดกลัว อดไม่ได้ที่จะกุมมือของหลินชิงเสว่เอาไว้
“จริงสิ แล้วยังมีเด็กนรกนี่อีก หน้าเหมือนผู้หญิงคนนั้นอย่างกับแกะ ชั่วเหมือนกัน!”
ทันใดนั้นโจวเหม่ยหยูนก็เดินมาถึงด้านข้างของหลินชิงเสว่ที่ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ใบหน้าซีดขาว มุมปากหยิ่งยโส
“ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าแกเป็นลูกสาวของเขากับเมียเก่า แต่ว่าไม่เป็นไร ตกมาอยู่ในมือของฉัน ฉันจะให้แกได้อยู่ดีเหรอ?”
พูดจบ โจวเหม่ยหยูนก็ง้างมือขึ้นมา จะตบลงไปที่ใบหน้าของหลินชิงเสว่
ถังเสี่ยวลี้ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“คุณยาย อย่านะ อย่าตบคุณแม่นะ!”