เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 4
เงียบ
เงียบสงัดเหมือนตายแล้ว
คนทั้งหมดที่อยู่ที่ในสถานการณ์ นอกจากถังเฉา ต่างพากันอึ้งอ้าปากค้าง มองดูหญิงสาวที่เซ็กซี่ที่อยู่ด้านหลังของถังเฉาด้วยความเหลือเชื่อ ในหัวมีความคิดสี่อย่างโผล่ขึ้นมา
เธอคือใคร
เธอเข้ามาจากทางไหน
ทำไมเธอถึงเก่งขนาดนี้
เธอเป็นอะไรกับถังเฉา
ทั้งสี่คำถามนี้ไม่มีคำตอบ สีหน้าของทุกคนนั้นถูกความกลัวเข้ามาแทนที่
เมื่อกี้พวกเขาเห็นไม่ชัดว่าเธอลงมือยังไง การ์ดทั้งหมดของซ่งหมิงเวยได้ถูกจัดการหมดแล้ว
อีกอย่าง บริเวณข้อต่อที่ทุกคนถูกทำร้าย มองดูไม่ยาก ว่าผู้หญิงคนนี้นั้นยังคงมีเมตตาบ้างอยู่
ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆล่ะก็ พวกเขาคงตายไปแล้ว
นึกถึงตอนนี้ หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูนและคนบ้านหลินทุกคน ต่างมองดูถังเฉาด้วยความตกใจ
เพราะว่าท่าทางเมื่อกี้ของหญิงสาว เห็นได้ชัดว่าปกป้องถังเฉา จะบอกว่าทั้งสองไม่เกี่ยวข้องกัน ตีพวกเขาให้ตายก็ไม่เชื่อ
“ จัดการเขาหรอ ฉันว่าแกคงอยู่จนเบื่อแล้วล่ะ”
น้ำเสียงของเฟิ่งหวงเย็นชา ดวงตาที่แดงสด มองดูซ่งหมิงเวยเหมือนมองดูคนตาย
“แก…… แกเป็นใคร”
ซ่งหมิงเวยตกใจจนขาสั่น ถึงขั้นพูดติดอ่าง
เป็นเพราะเมื่อกี้นี้ เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นของความตาย
“เธอมาได้ยังไง”
จากนั้น ถังเฉาก็ขมวดคิ้วแน่น พูดเบาๆ “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ออกไป”
คำตำหนินี้ยิ่งทำให้ทุกคนกลัวมากขึ้น หลินฉ่ายเวยจ้องมองที่ถังเฉา แล้วทำท่าทางให้เงียบ
ฆาตรกรที่ไม่รู้จักมาขนาดนี้ เกิดถังเฉายั่วให้เธอโมโห แล้วฆ่าทุกคนทิ้งจะทำยังไง
อย่างไรก็ตาม เหนือความคิดของทุกคน เฟิ่งหวงไม่ใช่แค่ไม่โมโห แต่ยังก้มหัวอีกด้วย
“ค่ะ”
ตอบรับหนึ่งเสียง แล้วเฟิ่งหวงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนไม่เคยมายังไงอย่างงั้น
ฮูกก……
เฟิ่งหวงไปแล้ว แต่คนบ้านหลินยังคงอึ้งทึ่งอยู่ ไม่ได้หายไป แต่กลับกลัวเข้าไปใหญ่
หลินฉ่ายเวย、โจวเหม่ยหยูนและ ทุกคนในบ้านหลินมองไปที่แววตาของถังเฉา ไม่ได้ขยะแขยง ไม่ได้รังเกียจ แต่กลับมีความอึ้งและนับถืออยู่
ซ่งหมิงเวยสั่นไปทั้งตัว บนหน้าผากนั้นมีเม็ดเหงื่อเม็ดใหญ่อยู่
แค่คำเดียว ก็ทำให้ฆาตรกรหญิงคนนั้นไปได้แล้ว หรือว่า เป็นลูกน้องของถังเฉา
“เสี่ยว เสี่ยวเฉา แม่ถามแกหน่อย ว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้ คือลูกน้องของแกหรอ”บนหน้าของโจวเหม่ยหยูนมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น แล้วถามอย่างเกรงกลัว
โจวเหม่ยหลิง、โจวซูหัวและหลายๆคนต่างพากันตื่นเต้น กลัวถังเฉาจะบอกว่าใช่ ก่อนหน้านี้พวกเขาพูดคำหยาบคายไปตั้งเยอะ ยังไล่เขาไปอีก ถ้าถูกหมายหัวล่ะก็……
“แม่ครับ เมื่อกี้คงทำให้ตกใจกันสินะครับ”
ถังเฉารีบพยุงโจวเหม่ยหยูนและหลินฉ่ายเวยขึ้น ยิ้มแล้วพูดว่า “เธอนับว่าเป็นคนปกป้องผมล่ะมั้งครับ ผมเป็นพยานในคดีสำคัญน่ะครับ”
อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง”
“ฉันว่าแล้ว ว่าเสี่ยวเฉาจะอยู่ดีขนาดนั้นได้ยังไง ถึงมีผู้หญิงที่เก่งขนาดนี้มาเป็นลูกน้อง เหอะเหอะ เหอะเหอะเหอะ……”
เห็นว่าถังเฉาไม่ยอมรับ โจวเหม่ยหยูนและทุกคนต่างมองหน้ากัน ยิ้มเจื่อนๆถือว่าโล่งใจแล้ว
ผู้หญิงที่ดูแล้วก็รู้ว่าเก่ง เป็นแค่คนดูแลของถังเฉา เหมือนว่าถังเฉาจะเป็นพยานสำคัญในคดีใหญ่มั้ง ในทีวีก็มีบ่อยไม่ใช่หรือไง เพื่อไม่ให้พยานสำคัญโดนฆ่า เลยให้คนมีฝีมือเก่งมาปกป้อง……
“ พยานปากสำคัญหรอ”
หลินฉ่ายเวยกลับสงสัย “นายคงไม่ได้เป็นพยานมาตลอดห้าปีหรอกนะ”
“เอ่อ ก็ถือว่าใช่นะ”
“อ๋อ……”
หลินฉ่ายเวยถึงโล่งใจ นี่ก็สามารถอธิบายได้ว่าทำไมพอถังเฉากลับมาก็เป็นนักต่อสู้ได้เลย
จริงๆแล้ว ถังเฉาไม่ได้โกหก
เฟิ่งหวงเป็นเงาของเขา เงากับร่างกายนั้นห่างกันไม่ได้ ต่างคนต่างขาดกันไม่ได้ ในจุดนี้ มันเกินความสัมพันธ์หัวหน้าลูกน้องไปแล้ว
ส่วนเขาก็เป็นพยานสำคัญในคดีระดับนานาชาติ เพื่อค้นหาเบาะแสของ ‘หว่างเหลี่ยง’ จากนั้นก็ปลดประจำการ
เพียงแต่ว่า เขาไม่อยากดึงผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องก็เท่านั้น
ซ่งหมิงเวยเห็นบ้านหลินคุยกันจนลุกเป็นไฟ เลยคิดจะแอบๆออกมาจากบ้านหลิน เขาจะเอาข่าวนี้ไปบอกพี่สาวของเขา
แต่ว่า เพิ่งจะเดินไปได้ก้าวเล็ก ก็โดนตบเบาๆที่ไหล่แล้ว”
“คุณชายซ่งครับ คุณอยากจะไปไหนหรอ”
เสียงหัวเราะของถังเฉาดังขึ้น
ทันใดนั้น ซ่งหมิงเวยก็ตกใจจน จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เสียงพรึบดังขึ้น แล้วก็โดนถังเฉาตบจนลงไปกองกับพื้น
“เข้าใจผิดแล้ว นี่เป็นการเข้าใจผิดทั้งหมด……”
ซ่งหมิงเวยเผยรอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าร้องไห้ออกมา มองขึ้นไปหาถังเฉาแล้วพูด
“อ๋อ เข้าใจผิดหรอ แต่ฉันไม่รู้สึกว่าเข้าใจผิดเลยนะ”
ถังเฉาก็ก้มลงตรงหน้าซ่งหมิงเวย ยิ้มอ่อนโยน แต่กลับไม่มีความอบอุ่นเลย “ซ่งหรูอี้ไม่ใช่พี่สาวของนายหรอ”
“ฉันไม่สนิทกับเธอ ฉันกับเธอเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้อง ไม่ใช่พี่น้องจริงๆ……”
“นายอยากจะมาจับฉันไม่ใช่รึไง”
“ได้ยังไงล่ะ ที่ฉันมาก็เพื่ออยากชวนนายไปดื่ม ที่หอคอยหมิงจูมีร้านเปิดใหม่ร้านนึง……”
“นายบอกว่าฉันต้องคุกเข้าก้มหัวให้นาย”
ปึง——
ปึง——
ปึง——
ถังเฉาเพิ่งจะพูดจบ ซ่งหมิงเวยก็ไม่ลังเลที่จะคุกเข่าต่อหน้าเขา จากนั้นก็ก้มคารวะสามที
ครั้งหนึ่งแรงกว่าครั้งหนึ่ง คารวะสามที หน้าผากของซ่งหมิงเวยก็ช้ำเลือด
“ลูกพี่ใหญ่ พี่ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ……”
กลิ่นเหม็นจากเป้ากางเกงของซ่งหมิงเวยโชยมา คนบ้านหลินต่างพากันเอามือปิดจมูกกันหมด
ซ่งหมิงเวยโดนถังเขาทำให้ตกใจจนหวาดกลัวไปแล้ว
เขาเป็นคนนึงในส่วนน้อยของบ้านซ่งที่รู้เรื่อง ความสัมพันธ์ของถังเฉากับบ้านซ่ง เมื่อตกอยู่ในกำมือของถังเฉาแล้ว ก็เหมือนตายทั้งเป็น
ถังเฉามองดูซ่งหมิงเวยด้วยแววตาที่สงสัย จับไปที่คางไม่หยุด
ตัวเองก็ไม่ได้น่ากลัวขนาด แต่กลับทำคนตกใจจนฉี่ราด
ทันใดนั้น ก็ไม่ได้ข่มขู่แล้ว ก็ตรงเข้าประเด็นทันที “ฉันจะถามอีกหนึ่งครั้ง เรื่องการป่วยของพ่อฉัน เกี่ยวกับแกรึเปล่า”
ตอนที่ถามนั้น แววตาของถังเฉามีความอยากฆ่าอยู่ หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูนและคนในบ้านหลินก็พากันอึ้งไปหมด มองดูซ่งหมิงเวยเป็นระยะ
เจิ้งฮ่าวยืนอยู่ข้างหลินฉ่ายเวยอย่างไม่เป็นธรรมชาติ น้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ
“ไม่” ซ่งหมิงเวยพูดอย่างไม่ลังเล
เจิ้งฮ่าวถอนหายใจเฮือกใหญ่
“หรอ”
ถังเฉาหัวเราะยิ้มเฉยชา ต่อมา ดวงตาของเขาก็มีความดุร้ายขึ้น
จู่ๆเขาก็ลงมือ คว้าไปที่หน้าของซ่งหมิงเวย ลากเขาขึ้นมาจากพื้น
จากนั้น ภายใต้ แววตาที่หวาดกลัวของคนบ้านหลิน จับที่หัวของเขา แล้วทุ่มไปที่กำแพงอย่างแรงๆ
ปึง!
ได้ยินแค่เสียงดังขึ้น ใบหน้าของซ่งหมิงเวยเต็มไปด้วยเลือด ไหลออกมาไม่หยุด
“ไม่เกี่ยวหรอ” น้ำเสียงถังเฉาเยือกเย็นราวกับจะกวาดล้างมนุษย์
“…..”
ซ่งหมิงเวยถูกทุ่มจนเวียนหัวไปหมด ไม่ได้ตอบทันที
ปึง!
ถังเฉาชนไปอีกหนึ่งทีชกจนดั้งจมูกเขาหัก
“ครั้งหน้าที่ชน ก็คงจะเป็นเหล็กแล้วล่ะ” ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ซ่งหมิงเวยสั่นสะท้านไปทีนึง
หลินฉ่ายเวย、โจวเหม่ยหยูนต่างก็กลัวตาย แต่แววตานั้ยังคงอยู่ที่ตัวของซ่งหมิงเวย
เขามองดูถังเฉาด้วยความกล้ว ยกมือขึ้นอย่างสั่นกลัว ชี้ไปที่เจิ้งฮ่าว
สายตาของทุกคนต่างพากันมองไปทางเจิ้งฮ่าว
ในตอนนั้น สีหน้าของเจิ้งฮ่าว ก็เปลี่ยนเป็นไม่มีสี