เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 405
“รองหัวหน้า ตั้งแต่จากกันที่ภาคเหนือ ก็เป็นเวลานานพอสมควร สบายดีไหมครับ?”
ผู้บ้าการแพทย์ที่นั่งอยู่ข้างหลัง ถามด้วยรอยยิ้ม
เมื่อระลึกถึงช่วงเวลาที่อยู่กองทัพ ถังเฉาก็ยกมุมปากของเขาขึ้น ปรากฏรอยยิ้มออกมา
“ไม่เลวนะ มีภรรยาที่รักผม ยังมีลูกสาววัย 5 ขวบหนึ่งคน ”
พูดจบ เขาหันกลับมามองผู้บ้าการแพทย์ “พวกคุณก็ไม่จำเป็นต้องเรียกผมว่ารองหัวหน้า ผมเกษียณแล้ว ชีชือผมก็สลายออกหมดละ ตอนนี้คุณเป็นอิสระแล้ว”
ผู้บ้าการแพทย์ได้ยินเช่นนี้ กลับเงียบไปครู่หนึ่ง
เจ้ามังกรเกษียณ คือการสูญเสียของกองทัพปราณมังกร คือการสูญเสียของประเทศ
โชคดีปัจจุบันในดินแดนทางเหนือ มีกองพลที่ไร้เทียมทาน และไม่มีใครกล้าก่ออาชญากร
ตอนถังเฉาเกษียณ ไม่ได้รบกวนใครทั้งนั้นก็แค่สลายชีชือเท่านั้น แต่ว่ากลุ่มชีชือไม่ยอมจากไป ใช้วิธีของตนเองเพื่อรับใช้เจ้ามังกร
“กฎไม่ควรละทิ้ง เมื่อตอนรองหัวหน้าช่วยชีวิตพวกเราทั้งเจ็ดคน พวกเราก็สาบานแล้วว่า เราจะปฏิบัติติดตามจนวันตาย!”
สีหน้าผู้บ้าการแพทย์จริงจังมาก และพูดว่า “พวกเราทุกคนกำลังสืบสวนเหตุการณ์เมื่อสามปีที่แล้วอยู่”
ในหัวใจของถังเฉามีไออุ่นผ่านเข้ามา แต่ก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “องค์กรนั้นอันตรายเกินไป พวกคุณอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องมากเกินไป”
ผู้บ้าการแพทย์เงียบไม่พูด หันศีรษะไปที่เจียงไป๋เสว่ ปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า
ถังเฉาจัดการให้เขากับเจียงไป๋เสว่นั่งแถวหลัง ซึ่งมีความหมายที่ลึกซึ้ง
“ไป่เสว่ ผมรู้ว่าหลายปีมานี้คุณไม่ได้สุขสบายมาก แต่ว่า คุณต้องเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ประตูบ้านก็เปิดรอคุณเสมอ”
สีหน้าของเจียงไป๋เสว่ก็ยิ่งเย็นชาลง และหันหน้าหนี “เกี่ยวอะไรกับคุณ?”
ผู้บ้าการแพทย์ก็ไม่ได้สนใจ แต่หยุดพูด แค่ให้เธอรับรู้แล้วก็พอ
ถังเฉาเห็นเหตุการณ์ ในใจก็ถอนหายใจ
ดูเหมือนว่า ไป๋เสว่ยังคงไม่ยอมอภัยให้กับครอบครัวของเธอ
ผู้บ้าการแพทย์ชื่อเจียงสือเหนียน เจียงไป๋เสว่ก็แซ่เจียงเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง แค่มองก็รู้
นี่ก็คือที่ถังเฉารู้เมื่อตอนเขาอยู่กองทัพปราณมังกร บางครั้งสิ่งต่างๆในโลกก็เป็นเรื่องบังเอิญแบบบี้แหละ
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป พวกเขาก็มาถึงโรงพยาบาล
เจียงไป๋เสว่ไม่อยากอยู่แม้แต่วินาทีเดียว ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทักทายสักคำ
เมื่อมองดูรถของเจียงไป๋เสว่ไปไกล รอยยิ้มที่ขมขื่นก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของผู้บ้าการแพทย์ จากนั้นก็มองไปที่ถังเฉา
“รองหัวหน้า ผมมีเรื่องอยากขอร้อง”
ถังเฉารู้ดีว่าเป็นเรื่องของเจียงไป๋เสว่ ดังนั้นเขาจึงรีบถามว่า “เรื่องอะไร?”
“ผมหวังว่ารองหัวหน้าจะสามารถดูแลเสี่ยวเสว่ให้ดี ”
เจียงสือเหนียนถอนหายใจ ด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “เสี่ยวเสว่ยังคงเกลียดวิชาชีพตระกูลเจียงของผม คนในครอบครัวก็ไม่ยอมรับเธอ เพราะเหตุนี้เธอจึงเข้าร่วมกองทัพ”
“เดิมทีคิดว่าการเข้าร่วมกองทัพจะได้ดี คิดไม่ถึงเมื่อสามปีก่อน จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นชีวิตของเสี่ยวเสว่ ช่างน่าอนาถจริงๆ
ถังเฉากับเฟิ่งหวงต่างนิ่งเงียบ เจียงไป๋เสว่ไม่เคยพูดถึงชาติกำเนิดของตัวเองเลย ก็คือหลังจากที่พวกเขาได้รู้จักผู้บ้าการแพทย์ พวกเขาถึงรู้ว่า ที่แท้เจียงไป๋เสว่มาจากตระกูลใหญ่แห่งเยี่ยนจิง
คืออะไร ทำให้กุลสตรีไปเกณฑ์ทหาร?
เจียงสือเหนียนไม่ได้พูด เจียงไป๋เสว่ยิ่งไม่ยอมเปิดเผยความในใจ
ถังเฉาไม่เหมาะที่จะถามมาก เพียงแต่แสดงสีหน้าเคร่งขรึม “วางใจเถอะ ผมจะดูแลไป๋เสว่ให้ดี พายุฝนฟ้าคะนองในคืนสามปีที่แล้ว ผมต้องหาคำตอบให้เธออย่างแน่นอน !”
เสียงของเขาดังสนั่น และท่าทีที่แน่วแน่เพียงพอที่จะเห็นความมุ่งมั่นของเขา
ถ้างั้นผมก็ขอบคุณรองหัวหน้า แทนเสี่ยวเสว่ครับ”
ผู้บ้าการแพทย์พูดแล้วก็ทำความเคารพ แต่ถูกถังเฉาขัดขวางไว้ “ผมให้คุณเพื่อรักษาพ่อของผม ถ้าต้องขอบคุณ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณ !”
“ไม่ควรรอช้า พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ”
ทางโรงพยาบาล ก็ได้รับข่าวเช่นกัน และคณบดีได้นำกลุ่มผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงมาต้อนรับ
กับบ้าการค้ามีชื่อเสียงในโลกธุรกิจ และคนบ้าดนตรีก็มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ผู้บ้าการแพทย์ก็มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์ด้วย
ไม่เพียงแต่เขาเชี่ยวชาญในการรักษาแบบจีนและแบบตะวันตกเท่านั้น เขายังเป็นที่รู้จักในนาม ‘ราชาแพทย์วัยหนุ่ม’
บุคคลสำคัญเช่นนี้ สามารถมาเยือนโรงพยาบาลระดับ A ได้ จะไม่ทำให้คณบดีตื่นเต้นได้อย่างไร?
“ยินดีต้อนรับท่านหมอผู้บ้าการแพทย์ มาเยือนโรงพยาบาลของเราด้วยตัวเอง!”
ผู้บ้าการแพทย์พยักหน้า และหลังจากจบการถามตอบอย่างเป็นทางการแล้ว เขาก็ได้รับรายงานอาการป่วยของหลินเจิ้นสง
ดูอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยิ้มและพูดกับถังเฉาว่า “อาการของผู้ป่วยไม่ซับซ้อนมาก ถึงแม้จะหมดสติ แต่เขาก็มีจิตสำนึกในตนเอง และเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องภายนอก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเฉาก็ดีใจมาก “ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นไปหาผู้ป่วยกันเถอะ!”
“ดี! ”
กลุ่มคนเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยที่หลินเจิ้นสงและหลินชิงเสว่อยู่
ที่ทำให้คนน่าแปลกก็คือ นอกจากหลินฉ่ายเวยกับถังเสี่ยวลี้แล้ว ยังมีโจวเหม่ยหยูนก็อยู่ที่นั่นด้วย
มองแวบเดียว ผู้บ้าการแพทย์ก็เห็นหลินชิงเสว่ที่นั่งเล่นอยู่กับถังเสี่ยวลี้บนเตียงผู้ป่วย ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป
หลินชิงเสว่ก็เห็นผู้บ้าการแพทย์ เธอตะลึงครู่หนึ่ง
ดูจากปฏิกิริยาของทั้งสองคน ดูเหมือนพวกเขาจะรู้จักกันมาก่อน
“รองหัวหน้า นี่คือภรรยาของคุณเหรอครับ?”
ใบหน้าผู้บ้าการแพทย์แสดงความดีใจออกมา มุ่งถามถังเฉา
ถังเฉาพยักหน้า แล้วลดเสียงต่ำลง “อยู่ข้างนอกก็ไม่ต้องเรียกรองหัวหน้าแล้ว”
ต่อมาเขาก็แนะนำให้หลินชิงเสว่ “ชิงเสว่ นี่คือที่ผมเคยบอกคุณ ผู้บ้าการแพทย์ที่สามารถทำให้พ่อของผมฟื้น ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามราชาแพทย์วัยหนุ่ม’
หลังจากถังพูดจบ โจวเหม่ยหยูนก็ตัวสั่นไปทั้งตัว ด้วยท่าทางหวาดกลัว
“สวัสดีค่ะ”
หลินชิงเสว่รีบยื่นมือออกมาทันที
“สวัสดีครับ”
ผู้บ้าการแพทย์จับมือกับหลินชิงเสว่อย่างเปิดเผย และยิ้ม “ได้ยินมานานแล้วว่าภรรยาของคุณถังมีความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ ได้เห็นวันนี้ เป็นอย่างที่พูดจริงๆ”
จากนั้นเขาก็มองไปที่ถังเฉา และหัวเราะเสียงดัง “คนเก่งกาจที่อยู่ในเมือง หงส์คู่โบยบิน สามีภรรยาเข้ากันได้ดีบรรเลงดนตรีอย่างมีความสุข”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของถังเฉา “ไม่ได้เจอคุณมาระยะหนึ่งแล้ว คุณนี่ฝีปากก้าวหน้านะ รีบช่วยดูพ่อของผมเถอะ”
ขณะเดียวกัน ก็เหลือบตามองเป็นพิเศษ
เมื่อกี้เขาเห็นชัดๆว่าหลินชิงเสว่กับผู้บ้าการแพทย์รู้จักกัน ดูจากตรงนี้แล้ว เห็นได้ว่าเบื้องหลังของตระกูลเจียงก็มาจากเยี่ยนจิง
เจียงสือเหนียนไม่ลังเลอีกต่อไป กำลังเตรียมจะตรวจ
“ไม่ได้ ! ”
ทันใดนั้น โจวเหม่ยหยูนยืนขึ้นและพูด ทั้งตัวขวางอยู่ข้างหน้าของผู้บ้าการแพทย์ “คุณเป็นใคร ถือสิทธิ์อะไรมาตรวจสามีของฉัน คุณมีใบอนุญาตทางการแพทย์หรือเปล่า ถ้ามีอะไรผิดพลาด ฉันจะฟ้องคุณ !”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ผู้บ้าการแพทย์ยังตั้งสติไม่ได้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น หันมามองราวกับกำลังถามถังเฉา
สีหน้าของถังเฉาก็เย็นชาลงเรื่อยๆ เมื่อครู่เขาก็แนะนำผู้บ้าการแพทย์ไปแล้ว แต่โจวเหม่ยหยูนยังขวางอยู่ข้างหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการที่จะรักษาหลินเจิ้นสงให้หาย
“แม่ ทำอะไร ยังไม่รีบหลีกไป!”
หลินฉ่ายเวยรีบดึงโจวเหม่ยหยูนออกไป “คนเขาเป็นหมอที่มีชื่อเสียง มาเพื่อรักษาคุณพ่อ !”
แน่นอนโจวเหม่ยหยูนรู้ดีว่าผู้บ้าการแพทย์เป็นหมอที่มีชื่อเสียง ก็เพราะเหตุนี้ เธอยิ่งยอมไม่ได้ที่จะให้ผู้บ้าการแพทย์รักษา!
ถ้าหากหลินเจิ้นสงตื่นขึ้นมา งั้นเธอก็เสียแรงเปล่าละสิ?
ขณะเดียวกัน เธอก็กลัวมากเช่นกัน หากการกระทำล้มเหลว มีใครเข้ามาแทรกแซงในการสืบสวน และสืบสาวมาถึงตัวเธอ ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็คงจบสิ้น
พอนึกถึงตรงนี้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้เลย ทันใดนั้นเธอก็ชี้ไปที่ผู้บ้าการแพทย์ และกรีดร้อง
“ไม่ได้ ฉันไม่เชื่อเขา ถ้าหากเขาเป็นตัวปลอม มาทำร้ายเจิ้นสงจะทำยังไง?”