เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 407
“ญาติสนิท?!”
คำพูดของผู้บ้าการแพทย์ ทำให้ทุกคนประหลาดใจ
แขนขาของโจวเหม่ยหยูนชาไปหมด ฟันของหล่อนกระทบกันด้วยความสั่นกลัว
หลินฉ่ายเวยร้องอุทานออกมาว่า “ญาติสนิท ไม่ใช่ฉันหรือไง?”
ความหมายของผู้บ้าการแพทย์นั้นแน่ชัด ในบางสถานการณ์ ไม่ใช่แค่ยากับฝีมือการรักษาโรคเท่านั้น แต่ความปรารถนาของผู้ป่วยเองก็มีความสำคัญเช่นกัน
มักจะมีผู้ป่วยโคม่าบางรายที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยากระตุ้น ก็สามารถตื่นขึ้นมาเองได้ จากการที่มีญาติคอยติดตาม
นี่เป็นความรักของคนในครอบครัวที่มักกล่าวได้ว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ความปรารถนาที่เรียกภายในใจ ได้ถูกส่งเข้าไปยังสมองของผู้ป่วยโคม่าและปลุกจิตสำนึกของเขาให้ตื่นขึ้น
หลินเจิ้นสงเองก็เช่นกัน
หลินฉ่ายเวยกำมือของหลินเจิ้นสงเอาไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะอยู่เคียงข้างพ่อ!”
“ประธานหลิน ส่วนเรื่องที่บริษัท ฉันอยากพักร้อนไปช่วงหนึ่งค่ะ”
หลินชิงเสว่ตอบตกลงอย่างง่ายดาย เมื่อรู้ว่าหลินเจิ้นสงหายจากอาการป่วย เธอเองก็ดีใจเป็นอย่างมาก
ถังเฉาไม่ได้มองโลกในแง่ดีนัก ความสนใจของพวกหล่อนต่างมุ่งเน้นไปที่คำว่า‘ญาติสนิท’สองคำนี้เท่านั้น แต่กลับเพิกเฉยส่วนที่สำคัญที่สุด
คิดถึงมากที่สุด
ใครเป็นญาติที่พ่อนั้นคิดถึงมากที่สุด?
หลินฉ่ายเวยเหรอ?
ปฏิกิริยาแรกของทุกคน แน่นอนว่าต้องเป็นหลินฉ่ายเวยอยู่แล้ว
แต่ ถังเฉาผู้ที่รู้เรื่องมากกว่าทุกคน กลับไม่คิดเช่นนั้น
ในสายตาของเขา เขากลับมองไปที่หลินชิงเสว่
ปัญหาใครเป็นคนผูกก็ต้องเป็นคนแก้เอง เขามีลางสังหรณ์ว่าความลับที่น่าตกใจที่ปกปิดมาตลอด กำลังจะถูกเปิดเผยออกมา…..
“ตอนนี้ผมจะใช้เข็มเงินในการกระตุ้นประสาทของเขา!”
ผู้บ้าการแพทย์หยิบเข็มเงินออกมา แล้วแทงไปตามจุดต่างๆบนร่างกายของหลินเจิ้นสงอย่างไม่ลังเล
เมื่อมองจากตาเปล่า นิ้วของหลินเจิ้นสงนั้นดูขยับเล็กน้อย
ทุกคนมองดูฉากนี้ สีหน้าของพวกเขาเริ่มตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
มีเพียงแค่โจวเหม่ยหยูน ที่ใบหน้านั้นดูตื่นตระหนก ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตนไป
ทำไมหล่อนถึงไม่เคยคิดเลยว่า เหตุการณ์ที่มั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ท้ายสุดจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
ไม่รู้ว่าถังเฉาไปเชิญหมอเทวดานี้มาจากไหนกัน ไม่เพียงบอกได้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของหลินเจิ้นสง แต่ยังรวมถึงการรักษาให้หายอีกด้วย
หลังจากไปไปมามา หล่อนก็ทำไปเหนื่อยเปล่าจริงๆ
“ไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปต้องสืบหาต้นตอมาเจอฉันแน่ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!”
ในมุมที่ไม่มีใครสังเกตเห็น สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนนั้นดูดุร้ายเป็นอย่างมาก
ไม่นานนัก ผู้บ้าการแพทย์ก็ได้เก็บเข็มของเขา มองไปที่ถังเฉาพร้อมกับยิ้มและพูดว่า “รองหัวหน้า ผมได้กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งหมดของร่างกายให้แล้วรอบหนึ่ง ตราบใดที่มีญาติสนิทที่เขาคิดถึงมากที่สุดอยู่ข้างกาย ก็สามารถใช้พลังแห่งรักนั้นปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาได้!”
“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักครับ”
ถังเฉาตบไปที่ไหล่ของเขา
“เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้วครับ นี่ถือเป็นสิ่งวิเศษที่สามารถรักษาชีวิตคนได้”
ใบหน้าของเจียงสือเหนียนก็แสดงรอยยิ้มออกมาเช่นกัน “ไม่ว่าเครื่องมือจะละเอียดแม่นยำแค่ไหน ไม่ว่ายาจะมีประสิทธิภาพดีอย่างไร บางครั้งมันไม่มีประโยชน์เท่ากับการโทรหาคนที่เรารักสักคน นี่อาจจะเป็นเสน่ห์ของความรักทางสายเลือดก็เป็นได้”
คำพูดที่ผู้บ้าการแพทย์ได้พูดออกมานั้นมาจากใจ ถังเฉาเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
“ช่วงนี้ ผมจะมาอยู่ที่หมิงจูสักสองสามวัน รอจนกว่าพ่อเขาจะตื่นแล้วค่อยออกเดินทางต่อ”
ผู้บ้าการแพทย์พูดขึ้นมาอีกครั้ง
ถังเฉากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ขอบคุณครับ!”
หลินชิงเสว่และหลินฉ่ายเวยต่างลุกจากเตียงลงมาแสดงความขอบคุณ
“แล้วจากนั้นจะไปไหนต่อล่ะครับ?” ถังเฉาถาม
ผู้บ้าการแพทย์ยิ้มเล็กน้อย “ไปรักษาผู้ป่วยรายต่อไปน่ะ”
ถังเฉาก็เข้าใจได้ทันที ว่าเขาจะไปช่วยซ่งเทียนซาน
เขาไม่ได้กีดกัน เพียงพูดเบาๆออกไปว่า “ผมจะไปกับคุณด้วย”
ขณะที่เขาเดินออกจากห้องของคนไข้ ถังเฉาได้หยุดและหันศีรษะกลับมาทันที “รอพ่อตื่นขึ้นมา เราจะเริ่มสืบหาความจริงในเรื่องนี้ทันทีและหาว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้พวกมันมีชีวิตที่ดีเป็นแน่!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนในห้องคนไข้ก็รู้สึกถึงเจตนาฆ่าของถังเฉา
สายตาของถังเฉาจ้องมองไปที่โจวเหม่ยหยูนโดยที่ไม่รู้ว่าเขานั้นตั้งใจจ้องมองหรือไม่
คำพูดที่เขาพูดออกมา จงใจบอกให้โจวเหม่ยหยูนฟัง
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสงสัยในตัวของโจวเหม่ยหยูน แต่ปฏิกิริยาที่น่าสงสัยของหล่อนในวันนี้ทำให้ถังเฉาสงสัยขึ้นมา
ใครก็ตามที่มาทำร้ายคนที่เขารัก เขาจะไม่มีวันปล่อยให้พวกมันมีชีวิตที่ดีเป็นแน่!
หลังจากที่ถังเฉาออกไป หลินฉ่ายเวยก็รีบดึงโจวเหม่ยหยูนออกมาทันทีด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “แม่ บอกกับฉันมาตามตรง เรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อ แม่มีส่วนเกี่ยวข้องไหม?”
ทันใดนั้น สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “นี่แกสงสัยฉันเหรอ?”
การคุกคามของถังเฉา ทำให้หล่อนรู้สึกกระสับกระส่าย อีกทั้งยังมีคำถามจากหลินฉ่ายเวยอีก โจวเหม่ยหยูนรู้สึกถึงภัยพิบัติที่กำลังคืบคลานเข้ามา
“ไม่ใช่ว่าฉันสงสัยในตัวแม่หรอกนะ แต่แม่ ทุกการกระทำของแม่ มันยากที่ไม่ทำให้ทุกคนสงสัย”
ขณะที่หลินฉ่ายเวยพูด ดวงตาของเธอก็เริ่มแดงขึ้น “เดิมที ฆาตกรพุ่งเป้าไปที่พี่หลินต่างหาก แต่เพราะพ่อยืนบังลูกกระสุนให้พี่หลิน พ่อถึงได้ต้องมาโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล แต่แม่กลับใช้ประโยชน์จากการที่เราไม่ได้ให้ความสนใจ ไปลงมือพี่หลินกับเสี่ยวลี้ แถมยังไม่ให้หมอเทวดามาดูอาการของพ่ออีก แม่ บางครั้งฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่!”
เธอจงใจลดเสียงลง เพราะไม่ต้องการที่จะให้มีใครมาได้ยิน นอกจากนี้ เธอยังสงสัยอีกว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับโจวเหม่ยหยูนอย่างแน่นอน
“ฉ่ายเวย ทำไมแกต้องมาสงสัยแม่ด้วย?”
โจวเหม่ยหยูนร้องไห้ออกมา ไม่ได้เป็นเพราะละอายใจ แต่เป็นเพราะตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมาต่างหาก น้ำมูกและน้ำตาไหลออกมา “ฉันเป็นแม่ของแก เป็นอดีตภรรยาของหลินเจิ้นสง มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องไปฆ่าหลินเจิ้นสงกัน?ไม่ใช่ว่ากลัวพวกนักต้มตุ๋นพวกนั้นทำร้ายเขาหรอกเหรอ?”
“แถมยังมีผู้หญิงคนนั้นอีก ฉันเห็นหล่อนก็รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าแล้ว แต่ก่อนหล่อนทำให้พวกเราลำบากกันยังไง เธอไม่รู้หรอกเหรอ ฉันแค่อยากจะไล่หล่อนออกไปจากบ้านเราให้เร็วที่สุด มันผิดด้วยเหรอ?”
โจวเหม่ยหยูนพูดอย่างเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างมาก หากไม่รู้ล่ะก็คงคิดว่าหล่อนเป็นเหยื่อซะเอง ชั่วครู่หลินฉ่ายเวยก็ใจอ่อนลง พร้อมกับจับมือของโจวเหม่ยหยูนไว้ “ถ้าอย่างนั้น แม่ งั้นพวกเรามาอยู่เป็นเพื่อนพ่อกันดีกว่า หมอเทวดาพูดว่าตราบใดที่เป็นการเรียกของคนที่รัก เมื่อมีความหวัง เขาจะตื่นขึ้นมา!”
“อืม แม่มีธุระนิดหน่อย แกเข้าไปก่อนเถอะ”
โจวเหม่ยหยูนเช็ดน้ำตา จัดการตัวเองให้เรียบร้อย พร้อมกับพูดกับหลินฉ่ายเวย
เมื่อพูดจบ ก็รีบลงมาจากโรงพยาบาล หาสถานที่ที่ไม่มีคนอยู่ แล้วกดเบอร์โทรออก
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด…..
ในไม่ช้า โทรศัพท์ก็ถูกเชื่อมต่อ เป็นน้ำเสียงที่ดูแข็งทื่อของชายคนหนึ่งเข้ามา
“มีเรื่องอะไร?”
“เกิดเรื่องกับฉันแล้วน่ะสิ”
โจวเหม่ยหยูนลดเสียงลงและเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
ตอนนี้ หล่อนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อีกต่อไป ได้เพียงแค่หันไปขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายเท่านั้น
ท้ายที่สุด คนที่เสนอให้มาร่วมมือกัน ก็คือเขานี่แหละ
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ชายคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หรือจะบอกว่า…ล้มเหลวมางั้นเหรอ?”
โจวเหม่ยหยูนรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก รีบพูดออกไปอย่างรวดเร็วว่า “ตอนนี้ควรทำยังไงดี ฉันโดนคนสงสัยไปแล้วด้วย ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันต้องถูกหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยแน่ๆ!”
จู่ๆ น้ำเสียงของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นหยอกล้อทันที “คุณโจว ดูเหมือนว่าคุณจะพูดผิดเรื่องแล้วนะ”
“สถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้เกินความคาดหมายของเราหรอกนะ การตื่นของหลินเจิ้นสงเป็นสิ่งที่เราต้องการ”
“ว่าไงนะ?”
ทันใดนั้น โจวเหม่ยหยูนก็รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า หล่อนงุนงง
ชายคนนั้นยิ้มและพูดว่า “จุดประสงค์ของเราคือเปิดเผยความลับตระกูลหลินของคุณต่อสาธารณะเท่านั้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อเนื่อง ส่วนคุณ ก็แค่ทำทั้งหมดนี้ให้เราเท่านั้น”
“ทุ่มเงินล้านเพื่อจ้างฆาตกรก็เป็นตัวคุณเอง เกี่ยวอะไรกับพวกเราล่ะ?”
ทันใดนั้น รูม่านตาของโจวเหม่ยหยูนก็หดตัวลงทันที
ตอนนี้หล่อนพอจะเข้าใจแล้วว่าแท้จริงแล้วตนกำลังถูกหลอกใช้