เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 438
“คนบ้าดนตรี?”
ได้ยินข่าวนี้ถังเฉาก็ตกตะลึงไปพักหนึ่ง
เขาไม่ได้สั่งให้คนบ้าดนตรีมาเสียหน่อย
ตั้งแต่เขาปลดประจำการมาห้าปีก็ล้มเลิกชีชือไปแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสมัครใจจะติดตามตน แต่ถ้าหากไม่ถึงสถานการณ์ที่จำใจจะต้องทำละก็ ถังเฉาไม่มีทางไปหาพวกเขาแน่
“ใช่ค่ะ”
เฟิ่งหวงพูดอยู่ในโทรศัพท์
“เดิมทีเธอมีคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิคอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง แต่ว่าเปลี่ยนการตัดสินใจชั่วคราว เปลี่ยนสถานที่เป็นเมืองหมิงจู ตอนนี้มาถึงเมืองหมิงจูแล้วค่ะ”
ถังเฉาเงียบอยู่พักหนึ่ง เอ่ยว่า “พรุ่งนี้จัดเวลาให้ผมได้ไปเจอเธอหน่อย”
วางสายไปแล้ว เขาใจลอยมองไปยังแสงรัตติกาลที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนแรก เหตุใดเขาถึงเดาความหมายของคนบ้าดนตรีไม่ออกกันนะ?
กลับมาถึงบ้านแล้ว ถังเฉากำลังจะส่งเสียง
ทันใดนั้นกลิ่นหอม ๆ ก็พุ่งเข้ามาจู่โจมทันที
จากนั้นร่างหอมนุ่มอบอุ่นก็โผเข้ามาในอ้อมอกของตน สองแขนโอบอยู่บนร่างของเขาแน่น
ถังเฉาประหลาดใจ ตกตะลึงอยู่หลายวินาที จากนั้นบนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยน รุกเข้าไปกอดหลินชิงเสว่ด้วยตัวเอง
“ทำไมยังไม่นอนครับ?”
เขาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“กำลังรอคุณอยู่ค่ะ”
ดวงตาของหลินชิงเสว่แดงนิด ๆ “เสี่ยวลี้หลับไปแล้วค่ะ ฉันวางใจไม่ได้ ก็เลยรอคุณกลับมาโดยตลอด”
นิ่งอยู่พักหนึ่ง หลินชิงเสว่ก็เอ่ยถามขึ้นอีกว่า “ในบ้านเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
แน่นอนว่าถังเฉารู้ว่าบ้านนั้นหมายถึงอะไร
“โจวเหม่ยหยูนจิตใจชั่วร้ายไม่เปลี่ยน เรื่องแดงออกมาแล้วยังคิดจะร่วมมือกับตระกูลโจวมาลงมือกับคุณอีก ตอนนี้ถูกจับกุมไปยุติคดีแล้วครับ”
ได้ยินอย่างนั้นหลินชิงเสว่ก็ตกอยู่ในความเงียบ
ครอบครัวดี ๆ ครอบครัวหนึ่งก็ยังต้องเดินมาถึงจุดสิ้นสุด
นี่สำหรับหลินชิงเสว่ที่แต่งงานสร้างครอบครัวมีลูกแล้ว ถือเป็นเรื่องที่สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งเรื่องหนึ่ง
“ทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วย?”
หลินชิงเสว่เอ่ยถามขึ้นทันทีว่า “ฉันเป็นแค่ลูกสาวคนโตของคุณพ่อ ทำไมเธอต้องมองฉันเป็นศัตรูด้วย?”
ถังเฉารู้ว่าในใจของหลินชิงเสว่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพียงแต่… การทะเลาะเบาะแว้งเรื่องผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องในนั้นมีอยู่เยอะเกินไป ต่อให้ไม่ได้ทำอะไรก็ยังถูกคนอื่นมองว่าเป็นตัวถ่วงความเจริญได้
“ไม่เป็นไรแล้วครับ ต่อไปจะไม่มีใครมาคุกคามคุณได้แล้วนะครับ”
ถังเฉาส่งสายตาอ่อนโยนไปให้หลินชิงเสว่ “โจวเหม่ยหยูนถูกจับไปแล้ว ทั้งตระกูลโจวล่มสลาย ถือเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งสำหรับพวกเรานะครับ”
หลินชิงเสว่ ‘อืม’ ขึ้นมาหนึ่งคำ “ขอเพียงแค่คนไม่เป็นไร ทั้งหมดก็ไม่เป็นไร”
“นั่นไม่ได้!”
ถังเฉาส่ายศีรษะ เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “วิกฤตการณ์ก็เท่ากับวิกฤตการณ์ ไม่แน่ว่าผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปแล้ว ลี่จิงกรุ๊ปจะเข้มแข็งเกรียงไกรขึ้น
ถังเฉาไม่ได้เอาเรื่องที่คนบ้าดนตรีมาที่นี่บอกกับหลินชิงเสว่
เดิมที เขาตั้งใจว่าจะใช้วิธีการของตัวเองมาแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ไม่ได้คิดถึงคนบ้าดนตรีเลย เขาก็เลยเปลี่ยนแผน
วันต่อมา ชั้นบนสุดของอาคารกั๋วจี้
ถังเฉาพาหลินชิงเสว่มาที่ห้องทำงานของเขา
“คุณจะพาฉันมาพบใครคะ?”
หลินชิงเสว่มีสีหน้าไม่แน่ใจ
นอกจากหลินชิงเสว่แล้ว เขายังแจ้งกับถังชิงเหอจากบริษัทการบันเทิงเจาเหอ
หญิงสาวทั้งสองต่างมีสีหน้างุนงง
ถังเฉาดื่มชาไปอึกหนึ่ง “รอมาแล้วก็จะรู้เอง”
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ถังเฉากดรับ พยักหน้า “ให้เธอเข้ามาเถอะ”
หลังจากนั้นประตูห้องทำงานก็เปิดออก ผู้หญิงผมยาวคลุมไหล่สวมชุดคลุมยาวสีขาวมีเสน่ห์คนหนึ่งเดินเข้ามา
แวบแรกที่เห็นเธอ หลินชิงเสว่กับถังชิงเหอก็ล้วนตกตะลึงงัน
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากเท่าไหร่ แต่เป็นเสน่ห์บนตัวเธอ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันอย่างพวกเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะตะลึง
ดวงตาดุจดวงดาว ใบหน้าดุจดวงจันทร์สุกสกาว
เพียงยิ้มเซียนยังตะลึง เลือนรางดั่งเทพ
คนยังไม่ทันเข้าใกล้ กลิ่นหอมเย็นก็พุ่งเข้ามาปะทะหน้า
ผ้าไหมโปร่งบางหนึ่งชิ้นปกคลุมใบหน้า โผล่ออกมาเพียงดวงตานิ่งสงบหนึ่งคู่
เด็กผู้หญิงที่สาวชุดคลุมสีขาวเช่นเดียวกันสองคนตามติดอยู่ด้านหลังของเธอ เหมือนดังภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมร่ายรำมาด้านหน้ากับบงกชกุมารที่ติดตาม
“คนบ้าดนตรี?”
“อาจารย์!”
หลินชิงเสว่กับถังชิงเหอร้องออกมาด้วยความตะลึงทั้งคู่ ใบหน้าปรากฏสีหน้ายินดี
ผู้ที่มาก็คือฉินเจียนเวยคนบ้าดนตรี หนึ่งในชีชือ
เห็นสิ่งเล็กแล้วรู้ถึงสิ่งใหญ่ ๆ ทั้งประเทศไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงของคนบ้าดนตรี
ไม่มีเพลงที่เธอบรรเลงไม่ได้ สิบบทเพลงที่มีชื่อของเสินโจว(หมายถึงประเทษจีน) เธอสามารถบรรเลงได้ตามใจนึก
มีข่าวลือเล่าว่า บทเพลง ‘จอมใจบ้านมีดบิน’ บรรเลงจบ เสียงดนตรีอันไพเราะยังติดหูอยู่ถึงสามวัน
ฉินเจียนเวยทำความเคารพน้อย ๆ ไปทางหลินชิงเสว่กับถังเฉา น้ำเสียงกังวาน “คุณคนนี้… เป็นภรรยาของรองหัวหน้าสินะคะ?”
หลินชิงเสว่ประหลาดใจเล็กน้อย ภรรยาของรองหัวหน้า? พูดถึงตนเองหรือ?
เธออดไม่ได้ที่จะมองไปยังถังเฉา ทบทวนความรู้ความเข้าใจที่เธอมีต่อถังเฉาอีกครั้ง
ฉินเจียนเวยก็มองไปทางถังชิงเหออีก “ชิงเหอ ได้ขี้เกียจทำการบ้านบ้างไหม? นิสัยใจร้อนบ้างหรือเปล่า?”
“ศิษย์มิกล้า”
ถังชิงเหอคอตกทันที
สิ่งที่เรียกว่าการบ้านก็คือความสามารถด้านดนตรีที่ฉินเจียนเวยสอนให้กับเธอ ถึงตอนนี้จะกลายเป็นประธานของ บริษัทการบันเทิงเจาเหอแล้ว แต่ในทุกวันก็ยังไม่กล้าเกียจคร้าน
ฉินเจียนเวยพยักหน้าน้อย ๆ “เช่นนี้ก็ดีมาก”
หลินชิงเสว่สั่นจนพูดไม่ออกไปแล้ว มีคนมากมายยอมเสียเงินมากมายแต่ก็ยังไม่ได้ตัวคนบ้าดนตรี นึกไม่ถึงว่าจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่?
ฉินเจียนเวยมองไปที่ถังเฉาอีกครั้ง ยิ้มบาง ๆ พลางเอ่ยว่า “รองหัวหน้า ฉันรู้สถานการณ์โดยรวมแล้วค่ะ ไม่สู้… สถานที่ในการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็กำหนดเป็นที่นี่ไปเลย?”
ถังเฉามีเพียงคำเดียว
“ได้”
ดำเนินการทั้งหมดเสร็จสิ้น ฉินเจียนเวยก็จากไปแล้ว
ทิ้งหลินชิงเสว่ให้ช็อกอยู่คนเดียว
คนบ้าดนตรี… จะเปิดคอนเสิร์ตในลี่จิงกรุ๊ป?
ถ้าอยากเป็นเช่นนี้จริง ๆ ไม่เพียงสามารถแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้อย่างราบรื่นได้เท่านั้น แต่ชื่อเสียงของลี่จิงยังจะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งประเทศ
ถึงอย่างไรงานคอนเสิร์ตทุกครั้งของคนบ้าดนตรีก็จะดึงดูดคนใหญ่คนโตที่มีบทบาทสำคัญทั่วประเทศมาเข้าชม
เธอมองไปยังถังเฉาอีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง “คุณบอกฉันมานะคะ ตกลงคุณกับคนบ้าดนตรีมีความสัมพันธ์อย่างไรต่อกันกันแน่? ตอบมาอย่างจริงจังด้วยค่ะ!”
ถังเฉาเอ่ยตอบไปว่า “เธอเคยเป็นลูกน้องของผม”
หลินชิงเสว่มีสีหน้าอึมครึม “คุณล้อฉันเล่นอีกแล้วนะคะ”
ถึงแม้ว่าฐานะที่แท้จริงของถังเฉาอาจจะสูงศักดิ์กว่าเธอ แต่ว่าถ้าหากจะบอกว่าชีชือเป็นลูกน้องของถังเฉาละก็ เธอไม่มีทางเชื่ออย่างเด็ดขาด
ด้วยเหตุนี้ถังเฉาจึงยิ้มอย่างจนปัญญา
ช่วยไม่ได้ พูดความจริงภรรยาก็ไม่เชื่อนี่!
“แย่แล้ว!”
ในตอนนี้เอง หลี่เถ่วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “ประธานหลินครับ ประธานซือจากสำนักงานการก่อสร้างมาอีกแล้วครับ!”
หลินชิงเสว่ลุกขึ้นยืนทันที “เชิญเขาเข้ามา!”
บนใบหน้าของเธอมีความกลัดกลุ้ม
ซือเหวินปินมา ต้องมารับช่วงต่อบริษัทแน่
ถังเฉาตามหลินชิงเสว่มาสำนักงานลี่จิงกรุ๊ปด้วยกัน เห็นเพียงว่าซือเหวินปินกำลังยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างอยู่ที่นั่น
เห็นพวกเขาเข้ามาก็ถือโอกาสโยนเอกสารฉบับหนึ่งออกไป
“ประธานหลิน ทางฝ่ายคุณสร้างความสูญเสียใหญ่ทางธุรกิจให้กับพวกเรา นอกจากจะต้องชดเชยด้วยลี่จิงกรุ๊ปที่มีมูลค่าห้าพันล้านแล้ว ยังจำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยอีกสิบเปอร์เซ็นต์ด้วย ก็คือค่าชดเชยที่ผิดสัญญาห้าร้อยล้าน”
“กำหนดเวลาให้พวกคุณชำระเงินคืนภายในสัปดาห์นี้ ไม่อย่างนั้นก็รอสาสน์จากทนายความได้เลย!”
“นี่เป็นสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ คุณดูสิว่ามีปัญหาไหม ไม่มีปัญหาก็เซ็นชื่อเถอะ”
สีหน้าของหลินชิงเสว่ไม่น่ามองจนถึงที่สุด “ประธานซือ ยังมีวิธีอื่นอีกไหมคะ ลี่จิงกรุ๊ปเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะยกให้พวกคุณ แต่ว่าเงินทั้งหมดหกพันล้านฉันจะชดเชยให้พวกคุณค่ะ”
ปัง!
พอซือเหวินปินตบโต๊ะ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธ “หลินชิงเสว่ เธอต่อรองราคาเหมือนที่นี่เป็นตลาดสดเลยสินะ? เจ้าของอาคารเอาโครงการของสำนักงานการก่อสร้างส่งให้พวกคุณทำ เพราะเห็นพวกคุณสำคัญ แต่พวกคุณกลับทำมันพัง!”
“ไม่เจรจา จำเป็นต้องเอาบริษัทมาให้พวกเรา!”
ท่าทางเผด็จการของซือเหวินปินทำให้หลินชิงเสว่รู้สึกลำบากใจ
ในเวลาเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของที่นี่ทำให้แผนกอื่น ๆ ตกใจ ฟางหย่านำพาระดับกลางถึงระดับสูงของลี่จิงกรุ๊ปมากมายเข้ามา
“ประธานหลิน มีอะไรหรือคะ?”
“มีอะไร? ผมจะเอาบริษัทไป ประธานหลินของพวกคุณไม่ให้”
ซือเหวินปินยิ้มเย็น “ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร พวกเราดำเนินการตามขั้นตอนของศาล ถ้าหากคืนไม่ได้ภายในระยะเวลาที่ระบุเอาไว้ พวกคุณทุกคนจะต้องเข้าคุกทั้งหมด!”
เสียงดังกังวานของซือเหวินปินทำให้สีหน้าของพวกฟางหย่าเปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง
ในตอนนี้ถังเฉาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ชิงเสว่ เอาบริษัทให้พวกเขาไปเถอะ”