เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 445
เหล้าเย็นๆกระเซ็นสาดใส่หน้าฉินสวูตงทันที
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ดนตรีก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
ฉินสวูตงหลับตา สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วเช็ดเหล้าบนใบหน้าของเขา
เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของเขาก็มืดมนอย่างมาก
“นังผู้หญิงน่ารังเกียจ แกกล้าสาดเหล้าใส่ฉัน…”
สีหน้าของคนบ้าดนตรีดูเย็นชา มองไปที่ฉินสวูตงก่อนจะพูดออกมาอย่างช้าๆว่า “ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้เลยนะ!”
ในน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง ยิ่งมีรัศมีแห่งความอาฆาตต้องการฆ่ามากขึ้นไปอีก
“งั้นตอนนี้ก็มีแล้วแหละ”
ฉินสวูตงมองไปที่ฉินเจียนเวยด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “เย็นวันนี้ หล่อนไม่เพียงแต่จะต้องเทเหล้าให้ฉัน แต่หล่อนต้องอยู่กับฉันทั้งคืนอีกด้วย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินสวูตง ดวงตาของคนบ้าดนตรีนั้นเย็นชาอย่างหาที่สุดไม่ได้
คนบ้าดนตรีนั้นไม่ค่อยโกรธอะไรสักเท่าไหร่ แต่อย่าให้ได้มีอารมณ์ขึ้นมาล่ะ ไม่อย่างงั้นจะมีผลที่เลวร้ายตามมาอย่างแน่นอน
ลู่โป๋หานที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกประหลาดใจอยู่เช่นกัน
เขาเองก็ต้องการที่จะพูดคุยกับฉินสวูตง แต่ก็ไม่ได้มีความกล้าหาญมากขนาดนั้น
นั่นคือคนบ้าดนตรี เป็นหนึ่งในเจ็ดของชีชือ
เดิมทีลู่โป๋หานต้องการเอาชนะใจคนบ้าดนตรีก่อน จากนั้นก็จะค่อยๆก้าวความสัมพันธ์ไปข้างหน้าทีละน้อย
เพื่อนรักคนนี้ดี แต่ก็โหดร้ายขนาดหนัก….
ฉินสิบเจ็ดเองก็ได้พูดห้ามไว้ “คุณชาย อย่าเลยครับ หล่อนเป็นหนึ่งในเจ็ดของชีชือนะครับ”
“ชีชือแล้วไง?อย่างมาก หล่อนก็แค่แสดงดีแล้วพวกนายโดนครอบงำก็แค่นั้น”
ฉินสวูตงดูถูกเหยียดหยาม “แค่คนเร่แสดงศิลปกายกรรม จะพูดไร้สาระเยอะอะไรขนาดนั้น?ถ้าหล่อนรับใช้ฉันอย่างดี ไม่แน่นะ ฉันอาจจะเปิดปากพูดกับนายท่านให้หล่อนกลับเข้ามาในตระกูลก็เป็นได้”
สีหน้าของคนบ้าดนตรีเย็นชา “ฉันไม่สนใจเรื่องการกลับเข้าไปในตระกูลแม้แต่น้อย แต่นาย ถ้ายังจะพูดอะไรหมาๆแบบนี้ ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินสวูตงก็รู้สึกยินดี
“เป็นแค่นักแสดง จะมาทำอะไรไม่เกรงใจฉันงั้นเหรอ?จะใช้ฟลุตตีฉันหรือไง?”
เพี๊ยะ!
วินาทีต่อมา เสียงตบก็ได้ดังขึ้น
คนบ้าดนตรีตบเข้าไปที่ใบหน้าของฉินสวูตงอย่างจัง
ด้วยแรงที่มหาศาล นั่นทำให้ใบหน้าครึ่งซีกของเขานั้นบวมฉึ่ง
ดวงตาของลู่โป๋หานนั้นเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ เขาก้าวถอยหลังออกมาโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่เคยคิดว่า คนบ้าดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก เวลาที่ต้องลงมือจะดูชัดเจนได้ถึงเพียงนี้
ฉินสวูตง เองก็ตะลึงอยู่ชั่วครู่ เขาไม่ได้คิดว่าคนบ้าดนตรีจะตบเขาจริงๆ ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างมาก
“แกมันหญิงเลว กล้าตบฉันงั้นเหรอ เรียกคนมาซะ มาจับตัวนังนี่ไว้!”
เมื่อได้ยินเสียงคำรามนี้ ประตูชั้นที่นั่งพิเศษของห้องถัดไปก็กรูคนที่ดูแข็งแกร่งออกมาจำนวนมาก
ทันใดนั้นคนบ้าดนตรีก็ได้ถูกล้อมเอาไว้อย่างสมบูรณ์
ใบหน้าซีกหนึ่งของฉินสวูตงกำลังเอาน้ำแข็งประคบ ส่วนอีกด้านปรากฏรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า
“ฉินเจียนเวย ฉันจะให้โอกาสแกเลือก จะอยู่เป็นเพื่อนฉัน หรือจะให้ร่างกายได้รับความเจ็บปวดสักหน่อย”
คนบ้าดนตรีเงียบ ดวงตาที่สวยงามของเขากวาดสายตาผู้ชมด้วยท่าทางเย็นชา
“แม่ง มัดหล่อนขึ้นมา!”
จากนั้น ฉินสวูตงก็ชี้ไปที่หล่อนและตะโกนออกไปเสียงดัง
พวกคนร่างยักษ์ก็วิ่งเข้ามาหาคนบ้าดนตรีทันที
ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของฉินสวูตง แต่ยิ้มไปยิ้มมา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถยิ้มได้อีกต่อไป
ในสายตาของเขา คนบ้าดนตรีคือผู้หญิงที่อ่อนแอ ต้องถูกจับได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงนั้นเกินความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง
ปัง ปัง ปัง!
คนบ้าดนตรีตัวเบาราวกับนกนางแอ่น คนคุ้มกันของเขาล้มลงทีละคนขณะที่แขนเสื้อของหล่อนกำลังเต้นรำ
“นี่มัน…”
ฉินสวูตงและลู่โป๋หานมองดูสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ
ท่าทีองฉินสิบเจ็ดดูจริงจังขึ้น พร้อมกับขยับมาทางด้านหน้าของฉินสวูตง
“คุณชายระวังนะครับ คนบ้าดนตรีก็เป็นเด็กฝึกของตระกูลเช่นกัน”
สีหน้าของคนบ้าดนตรีนั้นเย็นชา ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
หล่อนเป็นถึงหนึ่งในเจ็ดชีชือ หล่อนจะไม่มีวิธีป้องกันตัวเองได้อย่างไรกัน?
แม้ว่าจะไม่ได้บ้าบู๊เท่าอู่ตงหยาง แต่คนธรรมดาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหล่อนสักเท่าไหร่
“ฉันถึงได้พูดไงล่ะว่าทำไมถึงกล้ามาที่นี่คนเดียว ที่แท้ก็เป็นคนกล้าหาญที่มีทักษะสูงนี่เอง”
สีหน้าของฉินสวูตงซีดทันที จ้องมองไปที่คนบ้าดนตรีและพูดว่า “แต่ แล้วมันจะยังไงล่ะ คุณปู่สิบเจ็ด จับหล่อนไว้!”
คนบ้าดนตรีมองไปที่ชายชราฉินสิบเจ็ดทันที แม้ว่าเขาจะมีผมขาวอยู่เต็มหัวไปหมด แต่หล่อนก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่แผ่มาจากตัวเขา
ฉินสิบเจ็ดไม่ขยับ ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม พร้อมกับมองไปที่คนบ้าดนตรี
“คุณผู้หญิงบ้าดนตรี แม้ว่าคุณจะแข็งแกร่งกว่าคนปกติมาก แต่หากได้พบกับยอดฝีมือที่แท้จริง มันก็ทำให้คุณตกอยู่ในหายนะได้เช่นกัน”
“แม้ว่าคุณชายจะขออะไรอย่างไม่มีเหตุผล แต่มันก็แค่การอยู่เป็นเพื่อนข้ามคืนเท่านั้น แค่ดื่มเหล้าเป็นเพื่อน มันต้องขนาดนี้เลยหรือไง?”
หลังจากที่ฉินสิบเจ็ดพูดจบ เขาก็จ้องตรงมาที่หล่อน
“คนบ้าดนตรีดื่มได้ เพียงแต่จะไม่ดื่มจากคนที่เจตนาคาดเดาไม่ได้!”
การแสดงออกของคนบ้าดนตรีนั้นไม่แยแสและพูดอย่างเย็นชา
ฉินสิบเจ็ดถอนหายใจเบาๆ “ในเมื่อคุณผู้หญิงบ้าดนตรีไม่ให้ความร่วมมือ งั้นก็อย่ามาโทษผมนะครับ”
ชวา!
วินาทีต่อมา ร่างของเขาก็หายไปทันที
ในพื้นที่ชั้นพิเศษอันเล็กนี้ กลับมองไม่เห็นแม้แต่เงาของฉินสิบเจ็ด
มันแสดงให้เห็นความเร็วขั้นสุดของเขา
ร่างของคนบ้าดนตรีตึงเครียด หัวใจของหล่อนค่อยๆดิ่งลง
เมื่อตอนที่เห็นฉินสิบเจ็ดปล่อยพลังออกมา หล่อนก็รู้ตั้งนานแล้วว่าหล่อนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่อย่างไรก็ตาม หล่อนจะไม่มีการประนีประนอมให้เด็ดขาด!
ฟิ่วฟิ่ว!
คนบ้าดนตรีสัมผัสได้ถึงเสียงที่พลุ่งพล่านในอากาศ แต่ก็ยังไม่สามารถจับร่องรอยของฉินสิบเจ็ดได้
ในชั่วพริบตาคนบ้าดนตรีรู้สึกถึงความเย็นวาบทางด้านหลังหลัง รูม่านตาของเขาก็ขยายออก
หล่อนรีบพุ่งไปซ่อนตัวตรงประตู
“จะไปไหน!”
ฉินสิบเจ็ดตะโกน พร้อมกับเร่งความเร็วเข้าไปคว้าตัวของคนบ้าดนตรีเอาไว้
คนบ้าดนตรีที่รับรู้ถึงลางร้าย จึงยกมือขึ้นมาต่อต้านเอาไว้โดยไม่รู้ตัว
บูม!
ขณะนั้นเอง ด้านนอกของที่นั่งชั้นพิเศษก็มีเสียงกระแทกดังออกมา
ตุบ!
วินาทีต่อมา ประตูของที่นั่งชั้นพิเศษก็ถูกเตะเข้ามาจากด้านนอก คนทั้งหมดกระเด็นลอยมาด้านใน
กระเด็นลอยมาโดนฉินสิบเจ็ดเข้าอย่างจัง
ทันใดนั้นร่างของเขาก็ถูกกระแทกอย่างแรง เหมือนว่าวที่ขาดออกจากกันและลอยตีลังกาไปมา
บูม!
กระเบื้องซีเมนต์ถูกทุบออกจากผนังในห้องที่นั่งชั้นพิเศษ เลือดสดๆไหลหยดลงมาทีละหยด
ฉากนี้ทำให้ทุกคนในที่นั่งชั้นพิเศษตะลึง
ผ่านแสงสลัว พวกเขาเห็นร่างของคนสามคนยืนอยู่ที่ประตู
“แกเป็นใครกัน?”
ฉินสวูตง รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
เมื่อคนบ้าดนตรีเห็นคนที่ประตู ใบหน้าก็มีความสุขขึ้นมา
“รองหัวหน้า!”
“อาจารย์!”
ถังชิงเหอรีบเข้ามา และเขาก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่มีรอยแผลเป็นบนร่างกายของคนบ้าดนตรี
“ฉินสวูตง!”
หลินชิงเสว่จ้องไปที่ฉินสวูตง
“องค์หญิงตระกูลหลิน!”
ใบหน้าของฉินสวูตงดูน่าเกลียดขึ้น
ในบรรดาเก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตู ตระกูลหลินเป็นตระกูลล่าสุดที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรไปยั่วยุตระกูลหลินเด็ดขาด
เพราะในตระกูลหลินมีหลินรั่วหวี
ซึ่งบังเอิญเป็นพ่อของหินชิงเสว่ซะด้วย
แต่ในไม่ช้า เขาก็หันมามองที่ถังเฉา ร่างกายของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“ผมเคยได้ยินมาสักระยะแล้วว่า คุณหลินต้องแต่งกับคนของตระกูลฉิน แต่ก็ถูกยกเลิกออกไปกะทันหัน คนคนนี้คือนายใช่ไหม?”
“ฉันเอง ทำไมเหรอ?”
ใบหน้าของถังเฉาไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ
“นายกล้ามากเลยนะ!”
ใบหน้าของฉินสวูตงเต็มไปด้วยความเคืองโกรธ “กล้ามาทำลายเรื่องดีๆของตระกูลฉิน ไม่กลัวว่าจะโดนตระกูลฉินแก้แค้นหรือไงกัน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินสวูตง ถังเฉาก็ยิ้มออกมาเบาๆ
“ดูเหมือนว่าตระกูลหลวงในเยี่ยนตูจะไม่ผลิตอะไรอย่างอื่นออกมาเลยนอกจากพวกโง่เง่า”
วินาทีต่อมา คำพูดของถังเฉาก็เย็นชามากขึ้นไปอีก “ขาทั้งสองข้างของฉินผู่หยางโดนฉันหักไปแล้ว แกเป็นอะไรล่ะ ถึงคู่ควรในการมาแก้แค้นฉัน?