เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 446
น้ำเสียงของถังเฉาเย็นชาสุดขีด อุณหภูมิทั้งห้องวีไอพี ก็เปลี่ยนเป็นหนาวเย็นลงทันที
แต่หลังจากที่ถังเฉาพูดจบไปสักพัก ก็ไม่มีใครพูด
ทุกคนในนั้น ล้วนมองมาทางถังเฉาด้วยสายตาที่คาดไม่ถึง
รวมถึงหลินชิงเสว่ ก็เหมือนกับค้นพบโลกใหม่ของประเทศจีน มองไปทางเขาอย่างสงสัย
“ขาของฉินผู่หยาง คุณเป็นคนตีหักเหรอ?”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างเย็นชา “นั่นเป็นเรื่องของเมื่อห้าปีก่อนแล้ว”
หลินชิงเสว่ใจเต้นทันที นั้นไม่ใช่ปีแรกที่ถังเฉาหายตัวไปเหรอ?
หลินชิงเสว่รู้ดีว่าห้าปีนี้ถังเฉาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ห้าปีก่อน ซึ่งเป็นปีแรกของการดำเนินชีวิตในกองทัพ
ก่อนหน้านี้หลินชิงเสว่ยังแปลกใจว่าทำไมระยะเวลาห้าปีสั้นๆ ถังเฉาถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว
นี่คือการเปลี่ยนแปลงของจิตใจครั้งยิ่งใหญ่
เขาโหดร้ายกับศัตรูมาก แต่กลับอ่อนโยนกับญาติของเขา
ตั้งแต่ห้าปีก่อน ก็เป็นอย่างนี้
ฉินผู่หยางอยู่ที่ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูก็ไม่มีคนกล้าล่วงเกินเ ถังเฉากลับหักขาเขาในทันที
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาหักขาของฉินผู่หยาง แล้วยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดี
ฉินสวูตงสีหน้าก็เต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง
“ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
ฉินผู่หยางอยู่ในตระกูลฉิน ไม่เพียงเป็นเสาหลักของครอบครัวฉินกวนฉีเท่านั้น
และก็ไม่มีใครรู้ว่าขาของเขาหักได้อย่างไร เพราะทุกครั้งที่พูดถึง เขาก็จะโกรธจนบ้าคลั่ง
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่า ขาของลูกพี่ลูกน้องของเขา ถึงกับถูกถังเฉาตีหัก
แต่คนบ้าดนตรีกลับสีหน้านิ่งสงบ เห็นได้ชัดว่า เขารู้ความลับนี้มาหลายปีแล้ว
แต่เพราะความลับนี้ เธอถึงตัดสินใจติดตามถังเฉา
เวลานี้ ถังเฉามองมา ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ทำไมคุณถึงต้องไปกับเขา? แล้วฉินกวนฉีเป็นใคร?”
เรื่องทั้งหมดเขาฟังที่ถังชิงเหอพูดมาหมดแล้ว คนบ้าดนตรีเรียกฉินสิบเจ็ดเป็นพ่อบ้านฉินกวนฉี หลังจากนั้นพูดหนึ่งประโยคตัดกิเลสในใจ แล้วก็ไปกับเขา
เห็นได้ชัดว่า ที่เธอไปก็เพราะฉินกวนฉี
คนบ้าดนตรีเฉยเมยไม่พูดอะไร
แต่กลับเป็นหลินชิงเสว่อธิบายว่า “ฉินกวนฉีเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉินผู่หยาง เป็นคนหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลฉินในเยี่ยนตู ได้ข่าวว่า ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้”
“จริงเหรอ……”
ถังเฉาหรี่ตาลง
จากที่พูดมา เขาคงเป็นศัตรูตัวฉกาจ
อย่างน้อยก็ไอ้ทึ่มทั่วไปไม่สามารถเทียบได้แน่
ขณะนี้คนบ้าดนตรีมองไปที่ถังเฉา “รองหัวหน้านี่เป็นบุญคุณความแค้นระหว่างฉันกับเขา มีเพียงเราสองคนเท่านั้น ที่จะยุติลงได้”
ดูออกถึงความแน่วแน่ในสายตาของคนบ้าดนตรี ถังเฉาก็ไม่ได้ถามว่าเป็นเรื่องอะไร เพียงพูดว่า “ผมจะไม่ขัดขวางคุณ แต่ว่าออกไปจากนี่ก่อนค่อยว่ากัน”
ตุบตุบตุบ!
ขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป จู่ๆก็มีเสียงก้อนหินหล่นลงมาจากในห้องวีไอพี
ตามด้วยเสียงต่ำและแอบซ่อนความอาฆาตในน้ำเสียงนั้นดังขึ้น
“มาแล้ว พวกคุณยังคิดว่าจะไปได้อีกเหรอ?”
ทุกคนมองไปตามเสียง เห็นแต่ฉินสิบเจ็ดซึ่งควรจะสลบอยู่ แต่กลับลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
กระดูกคิ้วของเขาแตก มีบาดแผลที่ลึกมาก และขณะนี้เลือดก็ไหลไม่หยุด ดุร้ายน่ากลัวมาก
และดวงตาทั้งคู่ของเขา กำลังจ้องมองไปที่ถังเฉา ความอาฆาตในตัวของเขาเผยให้เห็นได้อย่างชัดเจน
ความเจ็บปวดกระตุ้นให้เลือดพุ่ง เมื่อครู่ตอนถังเฉาเตะประตู ทำให้เขาบาดเจ็บไม่น้อย
แต่ว่า ก็ได้กระตุ้นความโกรธของเขาอย่างสิ้นเชิง แค้นจนแทบอยากฆ่าถังเฉาในทันที
ฉินสวูตงเดิมทีที่ถูกถังเฉาทำให้ตกใจจนพูดไม่ออก ขณะนี้เห็นฉินสิบเจ็ดลุกขึ้นได้อีกครั้ง วินาทีนั้นเขาก็กล้าหาญขึ้นมาทันทีแล้วหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“ใช่ คุณตีคนของตระกูลฉินในเยี่ยนตู ยังคิดอยากออกไปอีกเหรอ?”
หลินชิงเสว่สีหน้าเย็นชาลง “แล้วพวกคุณต้องการอะไร ถ้าหากลงมือในนามตระกูลฉิง ฉันรับเอง”
ทันใดนั้นสีหน้าของฉินสวูตงอดกลั้นจนดูไม่ได้
หลินชิงเสว่สมกับที่เป็นคนฉลาดที่สุดในตระกูลฉิง พูดคำเดียว การต่อสู้ระหว่างครอบครัวต่างๆก็เกิดขึ้นทันที
คนหนึ่งเป็นองค์หญิงคนโตของตระกูลหลิน และอีกคนเป็นเพียงคุณชายของตระกูลฉิน ไม่มีทางเป็นแกนนำของครอบครัว เขาไม่มีความกล้าพอ
ถังเฉายิ้มเล็กน้อย จากสายสืบที่มีความสามารถของตระกูลหลิน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทราบฐานะที่แท้จริงของหลินชิงเสว่
แต่คำโกหกนี้โกหกมาเกือบสามสิบปีแล้ว จะเปิดเผยได้อย่างไร?
ดังนั้น หลินชิงเสว่ยังคงเป็นองค์หญิงคนโตของตระกูลหลิน ไม่มีใครกล้าเปิดโปงเธอ
เมื่อเห็นฉินสวูตงไม่พูด หลินชิงเสว่ก็ยิ่งยิ้มเย็นชามากขึ้น
“นี่คือเมืองหมิงจู เชื่อไหมถ้าฉันใช้อำนาจฆ่าคุณ ตระกูลฉินก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ?”
ในขณะนี้ ดวงตาของหลินชิงเสว่เย็นชาจนไร้ที่ติ
น้อยมากที่เธอจะอารมณ์เสีย แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอโกรธไม่เป็น
ตรงกันข้าม อารมณ์ของเธอนั้นรุนแรงยิ่งกว่าผู้หญิงทั่วไปอีก เพียงแต่น้อยมากที่เธอจะระบายออกมา
จุดนี้ ถังเฉาที่เพิ่งกลับมาเมืองหมิงจูเข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง
“คุณหลิน ขอบคุณค่ะ”
คนบ้าดนตรีแสดงความขอบคุณต่อหลินชิงเสว่ ที่ออกหน้าเพื่อเธอ
หลินชิงเสว่ส่ายศรีษะ “สมควรค่ะ คุณหนูคนบ้าดนตรีเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยฉันไปมาก ฉันจะปล่อยให้คุณหนูคนบ้าดนตรีถูกคนรังแกได้อย่างไร”
แต่ว่า ฉิงสิบเจ็ดกลับมองพวกเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “ไม่ใช่ทั้งนั้น ด้วยนามของนักบู๊”
ประโยคนี้ ทำให้ฉินสวูตงดีใจเหมือนเป็นบ้าทันที
หากในนามของครอบครัว สถานะของเขากับหลินชิงเสว่ห่างกันมาก ไม่ต้องให้เธอลงมือ ครอบครัวก็คงจัดการเขาแล้ว
แต่นักบู๊ก็จะไม่เหมือนกัน ฉินสิบเจ็ดเป็นพ่อบ้านคนสนิทข้างกายของฉินกวนฉี ด้วยความแข็งแกร่งที่โดดเด่นกว่าใคร พวกเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่?
สำหรับที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ฉินสวูตงคิดโดยตรงว่าเป็นเพราะโชคไม่ดี จึงถูกประตูกระแทก
หลินชิงเสว่สีหน้าดูกังวลเช่นกัน ความแข็งแกร่งของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู นั้นทรงพลังมาก
แต่ว่า ถังเฉากลับส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ด้วยท่าทางที่ล้อเล่น
“ผมเตือนคุณอย่าพูดแบบนี้จะดีกว่า เพราะว่า คุณไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียว”
ถังเฉาเตือนด้วยความหวังดี แต่พอเข้าหูของฉินสิบเจ็ด กลับกลายเป็นการเยาะเย้ย
“ไอ้หนุ่มหยิ่งยโส ก็แค่โชคดี เปิดประตูโดนผมนิดหน่อย คุณเลยคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้วสินะ?”
ดวงตาของฉินสิบเจ็ดมืดมน น้ำเสียงแฝงด้วยความอาฆาต
รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาค่อยๆจางลง “ในฐานะนักบู๊ คุณไม่รู้หรือว่า บังเอิญแค่ครั้งเดียว ก็เพียงพอที่จะแสดงถึงความแข็งแกร่ง?”
“ตลก!”
สีหน้าของฉินสิบเจ็ดแสดงออกถึงความดูถูก “ความหมายของคุณคือ โชคก็เป็นความแข็งแกร่งเช่นกันเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเฉาก็หมดความสนใจที่จะพูดคุยกับเขาจริงๆ
ความแข็งแกร่งต่างกัน อาณาจักรของเขา ฝ่ายตรงข้ามแค่สัมผัสยังไม่เคย
ฉินสิบเจ็ดคิดว่าถังเฉาสำนึกผิด หัวเราะอย่างเย็นชา “ตอนนี้รู้จักกลัว? สายไปแล้ว!”
วินาทีต่อมา เขาพุ่งตรงไปยังถังเฉา
“ระ……”
หลินชิงเสว่กำลังจะเตือน แต่’ ระวัง’ สองคำนี้ยังไม่ทันพูดจบ ถังเฉาก็ลงมือแล้ว
เขาเอื้อมมือออกไปราวกับสายฟ้าแลบ และจับคอของฉินสิบเจ็ดอย่างแม่นยำ
จากนั้นเขาก็บิดแรงโดยไม่ลังเล
คลิก!
เสียงคอหักดังขึ้นทันที
ฉินสิบเจ็ดยังไม่ทันได้กรีดร้องก็ถูกถังเฉาหักคอแล้ว
ฉากนี้ ยิ่งทำให้ฉินสวูตงกับ ลู่โป๋หานตกตะลึงอย่างสุดขีด
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ถึงกลับไม่สามารถฝ่าฟันไปได้แม้แต่หนึ่งกระบวนท่าเดียว!
หลินชิงเสว่รู้สึกประหลาดใจจนพูดไม่ออก มีแต่คนบ้าดนตรีเท่านั้นที่ใบหน้าสงบนิ่ง
เห็นได้ชัดว่าฉากดังกล่าวนี้เธอเห็นจนชินแล้ว
ขณะนี้ ถังเฉามองไปที่ฉินสวูตงด้วยสายตาเย็นชา “ผมได้ยินมาว่า คุณมีความคิดไม่ดีกับคนบ้าดนตรีเหรอ?”
ทันใดนั้น เขาเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง ตู้มทีเดียวนั่งซุบลงกับพื้น
สีหน้าของฉินสวูตงแข็งทื่อ แต่บนใบหน้าของเขาก็ยังฝืนยิ้มอยู่
วินาทีต่อมา เขาก็หยิบป้ายคำสั่งสีแดงออกมาจากอกของเขา คำรามความโกรธราวกับได้กระบี่อาญาสิทธิ์
“นี่คือป้ายคำสั่งที่เจ้ามังกรแดนเหนือออกให้ด้วยตัวเอง มีสิทธิ์ฆ่าก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง คุณกล้าฆ่าผมเหรอ?”
เมื่อเห็นป้ายคำสั่งนี้ ตัวถังเฉาเองก็ชะงักไปชั่วครู่ นี่เป็นโทเค็นเจ้ามังกรของเขาเองไม่ใช่เหรอ?