เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 50
บทที่ 50 แสดงความขอโทษอย่างจริงใจ
ฝันร้ายของตระกูลหลินก็ยังคงต่อเนื่องอยู่ หนี้สินสามสิบห้าล้าน กดดันจนทุกคนแถบหายใจไม่ออก
ไม่ว่าจะเป็นหลินเจิ้นสง หรือว่าเป็นหลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูน หรือเป็นหลินจ้อง โจวซูหัว ทุกคนก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ พยายามทุกวิถีทางเพื่อรวบรวมเงิน แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือเลย
เงินในบัญชีบริษัททุกฝากไว้ในธนาคารทั้งหมด แต่ตอนที่จะถอนออกมานั้น อนุมัติดันไม่ผ่าน เหตุผลเพราะทางธนาคารสงสัยบัญชีบริษัทสาขาย่อยของตระกูลหลินไม่สะอาด จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างเคร่งครัดก่อน ถึงจะอนุมัติให้ถอนออกได้
นี่เป็นขั้นตอนการที่ยุ่งยากมาก ไม่มีเวลาหนึ่งสัปดาห์ก็ทำไม่ได้แน่
บริษัทอื่นๆ ต่างก็ได้ปฏิเสธไปด้วย ราวกับตระกูลหลินเป็นหนูที่ข้ามถนน ทุกคนต่างพากันตี
สุดท้ายไปทำเรื่องกู้ยืมกับธนาคาร เนื่องด้วยไม่มีความน่าเชื่อถือพอ ไม่ได้รับการอนุมัติ
เวลาชั่วขณะหนึ่ง ตระกูลหลินดูเหมือนถูกคนทั้งโลกทอดทิ้ง ไม่มีคนช่วยเหลือไม่พอ ยังโดนบีบบังคับทุกที่ กดดัน ดูๆแล้วเวลาหนึ่งอาทิตย์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว จำนวนเงินที่ห่างจากสามสิบห้าล้าน ยังอีกเยอะ
นอกจากนี้ คนของจ้าวลิ่วก็ยังมาสั่งสอนตระกูลหลินเป็นครั้งคราว แม้ไม่ได้ทำลายจนมีเลือดนอง แต่ก็ทำให้ทุกคนในตระกูลหลินตกใจหนักไม่เบา
ไม่ส่งคนมาข่มขู่ ก็จะมาโยนก้อนหินตอนเที่ยงคืน ยังเขียนตัวหนังสือเลือดบนกำแพงบ้านพวกเขา หลายวันผ่านมา ทำให้ปราสาทเสื่อมโทรมไปแล้ว
สุดท้าย มีคนสังเกตเห็นว่ามีคนจูงใจแกล้งตระกูลหลิน แต่จะเป็นใครกันล่ะ?
ไม่มีใครทายถูก
ระยะห่างหนึ่งสัปดาห์ที่จะสิ้นสุดลง ยังเหลืออีกหนึ่งวัน
ทั้งตระกูลหลินโศกเศร้ามืดมนไปหมด ทุกคนต่างมีรอยคล้ำใต้ตา ป่วยเป็นภาวะซึมเศร้า
พวกเขาเหนื่อยมากพอแล้ว ตอนกลางวันวุ่นอยู่กับการรวบรวมเงินยุ่งจนเหมือนดั่งหัวถูกไฟไหม้ ตอนกลางคืนก็จะถูกระรานจากพวกนักเลงตระกูลจ้าวอีก แม้แต่เวลานอนยังไม่ได้นอนดีดี ชีวิตแบบนี้ก็ต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”จู่ๆหลินฉ่ายเวยก็ร้องกรี๊ดออกมาเพราะทนไม่ไหว
ไม่กี่วันผ่านมา สีหน้าของเธอโทรมลงไม่น้อย แม้กระทั่งแป้งรองพื้นก็ไม่กล้าทา เพราะสภาพเธอในตอนนี้ หากทาแป้งรองพื้นแล้วจะทำให้ยิ่งดูเหมือนผีผู้หญิง
ใบหน้าที่ซีดขาว ลูกตาที่ใหญ่ทะลักออกมาข้างนอก ในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด ผมเผ้ารกรุงรัง ตอนที่หลินฉ่ายเวยส่องกระจกนั้น สงสัยหลายครั้งว่าคนในกระจกไม่ใช่ตัวเอง
คนอื่นๆก็ดีไปไม่ถึงไหน ยิ่งเมื่อถึงตอนกลางคืน ผมของหลินจ้องร่วงเป็นกำๆ หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ห่างจากการหลุดร่วงของผมจนหมดไม่ไกลละ
“ฉันจะโทรหาไอ้ไร้ประโยชน์นั้นตอนนี้ เรื่องอะไรที่เขาทำผิด ต้องให้พวกเรามารับผิดชอบ?โกรธมากจริงๆ—-”
หลินฉ่ายเวยโกรธจนตัวสั่น หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปหาเบอร์หนึ่ง
ไม่นาน ก็มีคนรับสาย มีเสียงที่สงบนิ่งลอยมา:“ฮัลโหล”
“ไอ้ไร้ประโยชน์ เรื่องสามเรื่องที่นายสัญญาล่ะ?จัดการเรียบร้อยหรือยัง?”หลินฉ่ายเวยถามด้วยเสียงแข็ง
อีกฝั่งของโทรศัพท์นิ่งคิดไปสักพัก แล้วกล่าวว่า:“ห่างจากเวลาที่กำหนดยังเหลืออีกหนึ่งวัน ใจร้อนไปทำไม?”
“ฮึฮึ นายก็รู้เหรอว่ายังเหลือแค่หนึ่งวัน?ด้วยบุญของนาย ตระกูลหลินจบแล้ว จบกันหมดแล้ว!”
หลินฉ่ายเวยเหมือนการระบายอย่างนั้น ตะโกนเสียงดังเอะอะโวยวาย ทั่วทั้งใบหน้ากลายเป็นคับแค้นใจมาก:“ถังเฉา นายกลับมาเดี๋ยวนี้เลย แล้วไปกล่าวขอโทษที่ตระกูลหวาง ตอนนี้ เดี๋ยวนี้!”
ในสายนั้น น้ำเสียงของถังเฉาก็ยังคงเงียบนิ่ง:“ขอโทษ ตอนนี้ยังไม่มีเวลา โปรดยกโทษให้ฉันที่ทำตามคำสั่งไม่ได้ พรุ่งนี้ ฉันจะมาตระกูลหลินจัดการทุกอย่างโดยธรรมชาติ”
พูดจบ ก็ได้วางสายไป
“เขาว่ายังไง?”โจวเหม่ยหยูนถามด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“เขาว่า รอให้ถึงวันกำหนดพรุ่งนี้ ค่อยมา”
น้ำเสียงหลินฉ่ายเวยเย็นชาจนพูดไม่ออก:“รอเขามาถึง เรื่องทุกอย่างก็บานปลายหมดละ”
“ฉ่ายเวย หากไม่มีทางออกจริงๆ ก็แค่เอาบริษัทไปจำนอง ส่วนไอ้ไร้ประโยชน์นั่น……”
ทันใดนั้นท่าทางของโจวเหม่ยหยูนก็กลายเป็นเลวขึ้นมา:“เขาต้องไปติดคุก สิ่งที่พวกเราเสียไปคือบริษัท สิ่งที่เขาต้องได้คือ การติดคุก!”
คนอื่นๆในตระกูลหลิน สีหน้าของทุกคนต่างดูไม่ได้ แทบจะทนไม่ไหวที่จะฆ่าถังเฉาเร็วๆ
“ดูเหมือนว่าพวกเขาถูกบังคับจนเหลืออดแล้ว”
ด้วยสิ่งนี้แล้ว ถังเฉานั่งบนโซฟาอย่างสบายๆที่คฤหาสน์ซานสุ่ย พูดเบาๆ
“ใช่แล้ว”
เฟิ่งหวงก็เหมือนทุกครั้งไม่ได้แสดงอาการที่ใบหน้า
จากที่เธอดูแล้ว ความโง่ของตระกูลหลินมันโง่มาก ตามหาที่พึ่งจนแทบพลิกแผ่นดิน หากรู้ไหมว่า ที่พึ่งที่ใหญ่โตที่สุด ก็อยู่ข้างๆกาย แต่กลับเมินเฉยซะงั้น
ถังเฉาหัวเราะเบาๆ กล่าวถาม:“ตระกูลหวางกับฝั่งจ้าวลิ่วมีการตอบสนองอะไรไหม?”
“เก้าโมงเช้าพรุ่งนี้ ทั้งสองบ้านต้องขอโทษตรงเวลา”
“ดีมาก แปดโมงเช้าพรุ่งนี้ ไปตระกูลหลินกับฉันหน่อย” มุมปากถังเฉามีรอยเบาๆออกมาเล็กน้อย
เช้าวันรุ่งขึ้น สองคนกลับตระกูลหลินพร้อมกัน
ทุกคนในตระกูลหลิน เตรียมรอแต่เช้าละ
หลังที่ถังเฉาและเฟิ่งหวงเข้าบ้านนั้น หลินฉ่ายเวยปิดประตูลงทันที ราวกับกลัวว่าถังเฉาจะหนีไปงั้นแหละ
“ถังเฉา ระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ถึงกำหนดแล้ว เรื่องที่นายสัญญาล่ะ?”น้ำเสียงของหลินฉ่ายเวยไม่มีชีวิตชีวาเลย
มันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง วันนี้บริษัทตระกูลหลินนั้นรักษาไว้ไม่ได้แล้ว แต่ว่า หากตายก็ต้องหาคนมาแทน วันนี้ต้องส่งเขาเข้าคุกให้ได้!
จากนั้น ถังเฉาได้ตอบกลับอย่างใจเย็นว่า:“เรียบร้อยทุกอย่าง”
“ใช่เหรอ?”
หลินฉ่ายเวยได้ยินนั้น การหัวเราะเยาะเย้ยบนใบหน้ายิ่งเพิ่มขึ้น:“อย่างงั้น คนของตระกูลหวางและตระกูลจ้าวล่ะ?”
“ใกล้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงก็มาแล้ว”
“แสดง แสดงเข้าไปอีก”
หลินฉ่ายเวยกล่าวอย่างเย็นชาว่า:“ฉันว่าในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานายไม่ได้ทำอะไรเลยใช่ไหม?”
“คุณรู้ได้ยังไง ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรเลย?”ถังเฉาคิ้วขมวดขึ้น
ตอนนี้หลินฉ่ายเวยแน่ใจแล้วว่า หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมากับเรื่องที่เกิดกับตระกูลหลินถังเฉายังไม่รู้ ทันใดนั้นยิ่งหัวเราะเยาะเย้ยหนักไปอีก
“ดี ฉันจะบอกนายเองว่าช่วงที่ผ่านมากี่วันนี้เกิดอะไรขึ้น เป็นบุญวาสนานาย ทางศาลส่งมอบหนังสือศาลลงมา กำหนดให้พวกเราใช้เวลาภายในหนึ่งอาทิตย์เพื่อใช้หนี้สามสิบห้าล้าน ไม่ใช้หนี้ก็จะทางการบังคับโอนย้ายบริษัทสาขาย่อย และใบรับรองโฉนดที่ดินบ้านกับรถยนต์ พูดง่ายๆก็คือ พวกเราไม่มีแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอนแล้ว!”
“และยังมีอีก พวกเราก็ถูกการแก้แค้นคืนของตระกูลจ้าว ข้าวของที่สามารถในบ้าน โดนทุบไปหมดแล้ว รถโดนขุดจนเป็นลาย ยังเขียนตัวหนังสือเลือดบนกำแพงอีก”
ถังเฉาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์พวกนี้เลย กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบ:“ทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้นกลับคืนมา เมื่อทำเรื่องชั่วแล้ว ก็ต้องรับผลกรรมที่ตามมา ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่ ตระกูลหวางและตระกูลจ้าวอีกประเดี๋ยวก็มากล่าวขอโทษกับเรื่องที่ทำมาในช่วงกี่วันนี้”
“ถังเฉา นี่มันเวลาไหนแล้ว นายยังจะหลอกพวกเราอีกเหรอ?”
โจวเหม่ยหยูนถูกทำให้โกรธแล้วหัวเราะ ชี้ไปที่ถังเฉา:“ตระกูลหวางและตระกูลจ้าว หากมาในวันนี้ แต่ไม่ได้มาขอโทษ แต่กลับมาทวงหนี้!พวกนี้ เป็นเพราะนายคนเดียว!”
“ถังเฉา เดี๋ยวคนที่ศาลมา นายก็ไปกับพวกเขาเลย”
เฟิ่งหวงที่อยู่ด้านหลังสีหน้ากลายเป็นเย็นชา ถังเฉายังคงสงบเงียบ กล่าว:“ฉันบอกแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงครึ่ง ห่างเก้าโมงยังเหลืออีกครึ่งชั่วโมง หรือว่า เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงพวกคุณก็รอไม่ไหว?”
“ได้ ทุกคน พวกเรารออีกครึ่งชั่วโมง!”
หลินจ้องสีหน้าที่เต็มไปด้วยไม่พอใจ สายตาที่คับแค้นจ้องไปที่ถังเฉา กล่าว: “หลังครึ่งชั่วโมง หากตระกูลหวางและตระกูลจ้าวไม่มา หรือว่ามา แต่ไม่มาขอโทษ นายไม่เพียงแต่จะปล่อยวางจากตระกูลหลิน ยังต้องไปติดคุกด้วย!”
“ไม่มีปัญหา”ถังเฉาพยักหน้า ยังลากเก้าอี้มาหนึ่งตัว นั่งลงอย่างกับไม่มีไรเกิดขึ้นงั้นแหละ
เห็นสภาพถังเฉานี้แล้ว หลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูนสองคนโกรธจนคันปาก แต่แค่นึกถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ เขาก็ต้องเข้าคุก ได้หัวเราะเย็นชาออกมา
ใบหน้าของหลินเจิ้นสงเต็มไปด้วยสีหน้าที่กังวล เขาไม่รู้ว่าความมั่นใจของถังเฉานี้มาจากไหน เมื่อวานตระกูลหวางและตระกูลจ้าวเพิ่งมาหาเรื่องไป จะเป็นไปได้ยังไงว่ามาขอโทษวันนี้
เวลาผ่านไปทีละน้อย สุดท้าย ก็ไม่มีใครมา
หลินฉ่ายเวยลุกขึ้นมา เสียงดังด้วยสายตาเย็นชา:“ถังเฉา อย่ามาขายที่หน้าตรงนี้เลย ยังเหลืออีกหนึ่งนาที ก็จะเก้าโมงแล้ว นายมีอะไรจะพูดอีกไหม……”
หลินฉ่ายเวยยังพูดไม่จบ ข้างนอกก็มีรถขับเข้ามากี่คัน
รถเบนซ์หนึ่งแถว รถ audi หนึ่งแถว แยกเป็นสองแถว จอดอยู่ที่ลานใหญ่ของตระกูลหลิน
คนสองกลุ่มลงมาจากรถ
ทุกคนในตระกูลหลินมองไป ทันใดนั้นตกใจกลัวจนหน้าซีด ตระกูลกวาง ตระกูลจ้าว มาจริงๆด้วย!
และ สีหน้าทุกคนก็ดูเคร่งขรึม พาคนมากลุ่มใหญ่ ดูแล้วก็รู้ว่ามาไม่ดีแน่……
หวางหมิ่นเหมินและจ้าวลิ่วยืนตรงหน้าสุด ท่าทางดุร้ายมาถึงตรงหน้าผู้คนตระกูลหลิน สายตามองทุกคนไปรอบๆ สุดท้ายก็หยุดตรงหน้าหลินเจิ้นสง
เสียงฟู่หนึ่งที โจวเหม่ยหยูนดึงหลินฉ่ายเวยคุกเข่าตรงหน้าของหวางหมิ่นเหมินและจ้าวลิ่ว ตกใจจนน้ำตาไหลออกมาเลย
“เถ้าแก่หวาง ท่านลิ่ว เขาเป็นตัวการณ์หลักของเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลินเลย พวกเราขอร้องล่ะ ปล่อยตระกูลหลินไปเถอะ!”
หลินฉ่ายเวยก็ตกใจจนโกรธมากก้ไม่กล้าออกเสียง ตระกูลหวางและตระกูลจ้าว วันนี้สมาชิกทั้งหมดได้ออกมา ในกลุ่มคน ไม่เพียงจะเห็นหวางเยี่ย ยังเห็นผู้หญิงของจ้าวลิ่ว หลิ่วเซียน
จากนั้น หวางหมิ่นเหมินกับจ้าวลิ่วต่างมองไปที่หลินฉ่ายเวยแม่ลูกอย่างเย็นชา แต่ก็มองข้ามไป
พวกเขาตรงไปหยุดที่หน้าของหลินเจิ้นสง จากนั้นหันกลับมองคนของตัวเอง พยักหน้าเล็กน้อย
พรึ่บ—-
ในเวลาต่อมา ทุกคนได้กุ้มหัวคำนับเก้าสิบองศากับหลินเจิ้นสง เสียงดังมาก
“คุณหลิน ขอโทษครับ!”