เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 502
“เย่หรูอี้?”
ถังเฉานิ่งไปสักพัก ไม่มีคุ้นเคยในสมองเลยสักนิด
ปฏิเสธไปทันทีว่า “ไม่พบ”
หลินฉ่ายเวยจึงโทรศัพท์ออก แจ้งกับทางเคาน์เตอร์หน้าประตูว่าไม่พบ
ไม่นาน หลินฉ่ายเวยก็เข้ามารอบ
รอบนี้สีหน้าไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นัก
“ประธานถังคะ เย่หรูอี้คนนั้นบอกว่า ชื่อเดิมของเธอคือซ่งหรูอี้……”
”ซ่งหรูอี้?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของถังเฉาก็มีความตกใจมากเช่นกัน
เขารู้ว่าเดิมทีซ่งหรูอี้ไม่ใช่คนของตระกูลซ่ง แต่เป็นเด็กกำพร้าที่ตระกูลซ่งรับเลี้ยงไว้
แซ่จริงๆคืออะไร เขาเองก็ไม่รู้
ไม่คิดเลยว่าจะแซ่เย่!
ถังเฉาจึงพูดได้เพียง “ให้เธอเข้ามา”
ถังเฉานั่งรอเงียบๆในห้องทำงาน ไม่นาน ประตูเปิดออก
เย่หรูอี้ที่ใส่เสื้อกี่เพ้าสีม่วงเดินเข้ามาอย่างสง่างาม
ด้านหลังมีคนแก่คนหนึ่งตามมา และมีคนวัยกลางคนที่ใส่สูทและเสื้อคอจีนจีนสีดำอีกสองคน
“ถังเฉา เราเจอกันอีกแล้ว”
เย่หรูอี้นั่งลงตรงหน้าของถังเฉาอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ มีความซับซ้อนและรอยยิ้มยินดี
“ซ่งหรูอี้….”
หลังจากที่แยกจากตระกูลซ่ง วันเวลาผ่านไปสักพักแล้ว
เจอกันอีกครั้งนี้ สายตาของถังเฉามีความกังวลเล็กน้อย
หลินฉ่ายเวยที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มองซ่งหรูอี้ด้วยสีหน้าตกใจ
หน้าตาของเธอไม่ได้เปลี่ยน เสื้อผ้าที่ใส่ก็ยังเป็นกี่เพ้าสีม่วงรัดรูปเหมือนเดิม
แต่ถังเฉากลับรู้สึกว่าตัวเธอมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
บนตัวเธอมีราศีอย่างหนึ่งที่เมื่อก่อนไม่เคยมีเพิ่มเข้ามา
นั่นก็คือความสง่าสูงส่ง
ความสง่าที่แผ่กระจายออกมาทั่วร่าง เหมือนกับเจ้าหญิงของประเทศแห่งหนึ่ง แสดงสวยงามให้ทั่วโลก
แล้วสายตาของถังเฉาก็มองไปยังคนแก่ผมหงอกที่อยู่ด้านหลัง
ที่จริงแล้ว ในวินาทีที่คนแก่คนนั้นเข้ามา ถังเฉาก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง ในใจมั่นใจว่าเขาคือยอดฝีมือ
สามารถได้รับการคุ้มครองจากผู้แข็งแกร่งระดับสูงแบบนี้ ฐานะของซ่งหรูอี้จะต้องสูงส่งมากแน่ๆ
เย่อู๋เหินก็มองถังเฉาอย่างระแวดระวังเช่นกัน
จากตัวของชายหนุ่มคนนี้ เขารู้สึกได้ถึงความกว้างใหญ่ดั่งท้องฟ้ามหาสมุทร และขยับเข้าไปใกล้ซ่งหรูอี้นิดหน่อยเพื่อปกป้องอย่างไม่รู้ตัว
ซ่งหรูอี้หัวเราะเบาๆ “ฉันไม่ใช่ซ่งหรูอี้แล้ว ฉันแซ่เย่ มาจากตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ตระกูลเย่!”
ถังเฉาท่าทางเคร่งขรึม
ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ตระกูลเย่
เขาได้ยินอีกตระกูลหนึ่งในตระกูลหลวงอีกแล้ว แซ่เย่
ได้ยินเพียงเย่หรูอี้หัวเราะเยาะคำหนึ่ง “แต่ว่า ถ้าหากว่าเป็นนาย เรียกฉันว่าซ่งหรูอี้เหมือนเดิมต่อไปก็ไม่เป็นไร ฉันตอบทั้งนั้น”
“เรียกเธอว่าเย่หรูอี้ดีกว่า”
ถังเฉารีบปฏิเสธ
ตั้งแต่วินาทีนี้ต่อไป เขาเข้าใจแล้ว
ซ่งหรูอี้ที่ผ่านมาได้ตายไปแล้ว
ที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้เป็นคนใหม่
“เธอมาหาฉันมีเรื่องอะไรงั้นหรอ?”
ถังเฉาถามอย่างระวัง
ถึงแม้เขาจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงแล้ว แต่ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้ เขาก็ไม่กล้าไม่ให้ความสำคัญ
บอกได้คำเดียวว่า ผู้หญิงที่สามารถทำลายบริษัทของหลินชิงเสว่ได้
อันตรายมาก
เย่หรูอี้หัวเราะเยาะ “นายดูนายสิ ก็ยังระแวดระวังใส่ฉันเหมือนเดิม สบายใจได้ เรื่องเมื่อครั้งก่อน ฉันไม่มีทางทำเป็นครั้งที่สองแล้ว”
เย่หรูอี้ยังอยากรื้อฟื้นอดีตกับถังเฉา แต่ว่าเริ่นจวินตงที่อยู่ด้านหลังนั้นมองถังเฉาด้วยสีหน้าตกใจแล้ว
นี่ก็คือเจ้าของที่แท้จริงของจวี้เฟิงกรุ๊ป แล้วยังเป็นหนึ่งในคนของลี่จิงกรุ๊ปสาขาเจียงเฉิง!
หงเทียนหยาก็ยิ่งทนไม่ไหวแล้ว ตัดบทสนทนารื้อฟื้นอดีตของถังเฉาและเย่หรูอี้ อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยว่า “คุณหนูเย่ครับ นี่ก็คือ ‘ยอดฝีมือ’ ที่คุณหา? ผมอยากรู้ว่าเขาสามารถฆ่าไก่ตัวหนึ่งตายด้วยมือเปล่าได้มั้ยครับ?”
ในน้ำเสียง มีความประชดอย่างไม่ปิดบังสักนิด
สายตาก็ยิ่งมองไปที่ถังเฉาอย่างดูถูก
เย่อู๋เหินไม่พูดอะไร
หงเทียนหยายังฝึกแรงภายในไม่ได้ ไม่เข้าใจโลกของยุทธภพภายในว่าเป็นยังไง
ตอนนี้ถังเฉาไม่ได้ปลดปล่อยพลัง ดังนั้นในสายตาของหงเทียนหยา ถังเฉาจึงเป็นแค่คนธรรมดา
สายตาของเย่หรูอี้เย็นชาเล็กน้อย มองไปที่หงเทียนหยา “เขาก็คือคนที่ฉันหา ทำไม นายมีปัญหาหรอ?”
หงเทียนหยาหัวเราะ “คนที่คุณหนูเย่เลือกมา ผมจะกล้ามีปัญหาได้ยังไงละครับ?”
“เป็นคุณหนูเย่จริงๆ คนที่เลือกมานั้น ‘แข็งแกร่ง’ จริงๆด้วย ทุกว่าใช่มั้ย?”
แล้วหงเทียนหยาก็มองไปที่พวกดีเด่นด้านหลัง และหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าๆๆ……”
ทันใดนั้นพวกของสมาคมการต่อสู้เจียงเฉิงต่างก็หัวเราะ
“สายตาของคุณหนูเย่พิเศษจริงๆ หาได้ยากในคนทั่วไปจริงๆครับ!”
“ผมอวยพรให้คุณหนูเย่ได้รับชัยชนะในงานประชุมแดนเหนือ สู้เผื่ออันดับล่างนะครับ ฮ่าๆๆ……”
“เขาถือมีดไหวมั้ย?เคยฆ่าคนมั้ยครับ?”
คำยั่วยุเต็มไปหมด ส่งไปหาเย่หรูอี้อย่างมากมาย
ถึงแม้สีหน้าของเย่หรูอี้จะโมโห แต่ก็ไม่ได้เถียงกลับ เพียงแค่มองตรงไปที่ถังเฉา
“นายจะช่วยฉัน ใช่มั้ย?”
ถึงแม้ว่าถังเฉาจะไม่รู้ว่าเย่หรูอี้หาเขาเพราะมีเรื่องอะไร หรือจากบทสนทนาของหงเทียนหยา พอคาดเดาได้นิดหน่อย
“เธออยากให้ฉันเป็นตัวแทนตระกูลเย่เข้าแข่งขันงานประชุมแดนเหนือ?”
เย่หรูอี้พยักหน้าอย่างหนักแน่น “นายคนเดียว ก็ชนะพวกเขาทั้งหมดแล้ว”
เมื่อคำนี้ออกมา พวกหงเทียนหยาก็หัวเราะหนักกว่าเดิม
ถังเฉาเองก็หัวเราะ
เขาคาดการณ์ไว้แล้วว่างานประชุมแดนเหนือในครั้งนี้ตระกูลแต่ละบ้านจะจัดยังไง
ตระกูลร่ำรวยของเมืองเจียงเฉิงเองต่างก็มียอดฝีมือ จึงไม่กังวล
พวกตระกูลเล็กๆ ถ้าอยากได้หน้า ก็ต้องเสียเงินอย่างมากเพื่อจ้างยอดฝีมือ
ส่วนเก้าตระกูลหลวงในเยี่ยนจิง ล้วนไม่อยากส่งยอดฝีมือของตัวเองเข้าแข่งขัน เพราะถ้าหากเกิดการตายก็จะสูญเสียอย่างมาก
ดังนั้น พวกเขาจะจ้างผู้แข็งแกร่งจากต่างถิ่น เพื่อออกรบแทนพวกเขา
ถ้าใครได้ที่หนึ่ง ก็จะได้ฉายาผู้พิทักษ์แห่งแดนเหนือ ปกป้องฝ่ายหนึ่ง
ถ้าหากคัดเลือกผู้พิทักษ์แห่งแดนเหนือออกมาแล้ว ตะวันออก ใต้ ตะวันตก เหนือ แดนใหญ่ทั้งสี่ ทำการคัดเลือกสุดท้าย ผู้ชนะได้รับฉายา ‘เจ้ามังกร’
ยังไงซะ งานประชุมแดนเหนือที่ว่านี้ หลายตระกูลมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงออกให้ผู้คนเห็น แต่ในสายตาขอถังเฉา ไม่แตกต่างอะไรกับการเล่นพ่อแม่ลูกของเด็กๆเลย
เขาก็คือเจ้ามังกร
เจ้ามังกรไปร่วมงานแบบนี้มีที่ไหนกัน?
“ขอโทษด้วย ฉันไม่สนใจ”
ถังเฉาปฏิเสธอย่างสุภาพ “เธอหาคนอื่นเถอะ”
“ฮ่าๆๆ…….”
ถังเฉาเพิ่งปฏิเสธ พวกหงเทียนหยาก็ส่งเสียงหัวเราะแสบหูออกมาอีกครั้ง
“คุณหนูเย่ครับ กว่าจะเจอ ‘ยอดฝีมือ’ ที่ชอบได้ แล้วยังถูกปฏิเสธ ฐานะคุณหนูตระกูลเย่ของคุณใช้ไม่ได้ผลนี่ครับ!”
“เขามันกลัวตาย แต่ว่าก็ฉลาดดี ที่ไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้”
เย่หรูอี้ก็ยังนั่งอยู่ตรงหน้าถังเฉาเหมือนเดิม ใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้ม
แต่ว่า ถังเฉามองเห็นเล็บของเธอ จิกเข้าไปในเนื้ออย่างลึกแล้ว
เงียบไปสักพัก เขาเหลือบมองเย่อู๋เหิน “ผู้ใหญ่ข้างตัวเธอคนนี้ เป็นยอดฝีมือ ทำไมเธอถึงไม่ให้เขาเข้าร่วมแข่งขันแทนเธอ?”
เย่หรูอี้กัดฟันพูดว่า “คนในบ้านให้คำสั่งตายกับฉันมาว่า ห้ามเชิญยอดฝีมือของตระกูลเย่ออกสู้”
ตอนนี้ถังเฉาถึงได้เข้าใจ ที่แท้ก็เพราะเย่หรูอี้กลับสู่ตระกูลและถูกเบียดเบียน
ในตอนนี้ หงเทียนหยาเดินเข้ามาพูดกับเย่หรูอี้ว่า “คุณหนูเย่ครับ ก่อนหน้านี้ทำเป็นหยิ่งใส่พวกผม ถ้าตอนนี้อยากจะหันกลับมา คุณก็เอื้อมไม่ถึงแล้วนะครับ”
เย่หรูอี้ลุกขึ้น เตรียมจะจากไป
แต่อยู่ๆถังเฉากลับเรียกเธอไว้ “ช้าก่อน!”
เย่หรูอี้หันหลังมามองเขา รอเขาพูด
เห็นเพียงสายตาของถังเฉามองไปยังหงเทียนหยา และพูดช้าๆว่า “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าร่วมเรื่องเด็กเล่นของเด็กน้อยแบบนี้ แต่สำหรับพวกหมาพวกแมวที่ไม่มีมาตรฐานแบบพวกนาย ก็ไม่มีทางชนะได้”
“เย่หรูอี้ก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่ พวกนายหัวเราะเยาะเธอได้ยังไง?”