เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 511
เสียงนี้ เป็นเสียงที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั้งหมด
ผู้หญิงคนหนึ่งสวมแว่นตาท่าทางมีการศึกษาสูง เดินเข้ามาด้วยอารมณ์เดือดดาล
รูปร่างไม่สูงมากนัก แต่นับได้ว่ามีท่าท่างกระฉับกระเฉง รูปร่างหน้าตางดงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กลับแสดงจุดยืน ขัดขวางเรื่องทั้งหมดอยู่คนเดียว
แต่ว่า สิ่งที่ถังเฉาประหลาดใจไม่ใช่สิ่งนี้ แต่เป็นสถานะของผู้หญิงคนนี้
หูจิ้งซู ตระกูลหูนั่นเอง
เธอก็อยู่ที่นี่
หูจิ้งซูมาถึง ถังเฉาก็ไม่จำเป็นต้องออกหน้าแล้ว
แต่เพราะเรื่องนี้ ความคิดเห็นในใจของเขาที่มีต่อหูจิ้งซูเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“คุณเป็นใคร?”
เด็กเหล่านั้น ไม่มีทีท่าหวาดกลัวหูจิ้งซูแม้แต่น้อย เด็กคนที่เป็นหัวโจก ยังกลับชี้หน้าด่าหูจิ้งซูเสียด้วยซ้ำ
หูจิ้งซู แสดงสีหน้าสงบนิ่ง: “พวกหนูเป็นลูกใคร คนตั้งมากมาย กล้ารังแกเด็กผู้หญิงตัวคนเดียว ทำเกินไปหน่อยแล้ว!”
“พวกเราเป็นลูกของใคร……”
บรรดาเด็กทุกคน ต่างก็หัวเราะ
แต่ว่า เสียงหัวเราะนั้น เป็นน้ำเสียงที่เหยียดหยามมาก
เด็กคนที่เป็นหัวโจกชี้ไปที่เพื่อนด้วยกันพูดว่า: “บอกเขาสิ พวกเรามาจากตระกูลไหน”
หลังจากนั้น มีเด็กอายุน้อยคนหนึ่ง เดินมายืนตรงด้านหน้าหูจิ้งซูพูดว่า: “ฟังให้ดี ๆ พวกเรามาจากเยี่ยนจิง เป็นลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ฉันชื่อหลินจื่อหานมาจากตระกูลหลิน!”
“เขาชื่อฉินซวน มาจากตระกูลฉิน และเขามาจากตระกูลถัง!”
หลินจื่อหานชี้ไปทางเด็กคนที่เป็นหัวหน้าโจกอายุมากสุด
เฮ้ย!
“ลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเหรอ?”
ได้ยินคำพูด สีหน้าหูจิ้งซูเปลี่ยนไปในทันที ถอยหลังกลับโดยไม่รู้สึกตัว
คนที่ยืนมุงดูอยู่รอบ ๆ ยิ่งตกใจสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“มิน่าล่ะ ดูท่าทีเย่อหยิ่ง ถือตัว ที่แท้ก็เป็น ลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตู……”
“นับว่าเป็นโชคร้ายของเด็กหญิงคนนั้น ยั่วโมโหคนอื่นก็พอทำเนา ดันไปยั่วโมโหลูกหลานของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเสียนี่……”
“พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่นี่ แสดงว่าผู้ปกครองของพวกเขาก็ต้องอยู่ไม่ไกล”
“รีบไปกันเถอะ อย่ายุ่งเรื่องของพวกเขาจะดีกว่า”
เมื่อรู้ถึงสถานะของเด็กเหล่านี้ว่าเป็นลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตู คนที่มุงดูส่วนใหญ่ ไม่กล้าที่จะเข้าไปห้าม มิหนำซ้ำ แค่มองก็ไม่กล้ามอง หันหลังและเดินจากไป
พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูพูดคำเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขา บ้านแตกสาแหรกขาดได้แล้ว
ถังเฉาสะกิดชายวัยกลางคน คนหนึ่ง สอบถามว่า: “คุณลุง รบกวนถามหน่อย เมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรเหรอ?”
เขาอยากจะรู้ ทำไมถังเสี่ยวลี้ ถึงได้ทะเลาะกับลูกหลานของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู และเกือบจะโดนตบตี
ในแววตาของชายวัยกลางคน สงวนท่าทีพูดว่า: “ฉันก็ไม่ค่อยชัดเจน ประมาณว่าเด็กที่ชื่อฉินซวนคนนั้นกับเด็กตระกูลหลินคนนั้น กำลังสนทนาเรื่องราวในครอบครัวของพวกเขา อะไรนะ น้าสาวคนเล็กของเขาที่ได้ตัดขาดกับตระกูลไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ไปอยู่กับคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง และยังมีลูกต่ำ ๆ ด้วยกันอีกหนึ่งคน……”
“เด็กหญิงคนนั้นได้ยินเข้า จึงโต้แย้งเป็นวักเป็นเวร ผลสุดท้ายก็ถูกพวกเขาล้อมไว้”
พูดมาถึงตรงนี้ ชายวัยกลางคนพูดย้ำอีกว่า: “คุณน่ะ อย่าไปแส่หาเรื่องเลย รีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเถอะ ผู้ปกครองของเด็ก ๆเหล่านั้น อยู่ละแวกนี้ ทุกคนล้วนมาจากตระกูลหลวงของเมืองเยี่ยนจิง!”
“ขอบคุณมาก”
ถังเฉา ยิ้มและกล่าวขอบคุณ ขณะที่หันหลังกลับในวินาทีนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนมาขึงขังทันที
กล้าตบตีลูกสาวของเขา รนหาที่ตาย
อีกด้านหนึ่ง บรรดาเด็กทุกคนได้เผยสถานะของตนเอง ต่างก็มองหูจิ้งซู ด้วยสายตาเหยียดหยาม
“เด็กคนนี้ก็คือลูกของน้าเล็กคนเพศยากับไอ้คนไร้ประโยชน์ พวกเราต้องการสั่งสอนสักครั้ง ให้รู้ว่าใครเป็นใคร ทางที่ดีคุณก็อย่ามายุ่งเลย!”
ฉินซวนเด็กคนที่เป็นหัวโจก กับเด็กคนอื่น แม้จะไม่พูดอะไร แต่ยังคงหัวเราะเยาะมองไปทางหูจิ้งซู
หูจิ้งซู ใบหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล: “แม้พวกเธอจะเป็นลูกหลานของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู แต่ก็ไม่สามารถรังแกเด็กผู้หญิง ยิ่งกว่านั้น เธอก็ยังเป็น……”
หูจิ้งซูพูดไม่ออก จึงหันหลังกลับไปมองถังเสี่ยวลี้
เธอแอบสืบข้อมูลและประวัติของหลินชิงเสว่ รู้อยู่แล้วว่าถังเสี่ยวลี้ เป็นลูกสาวของรุ่นพี่หลินชิงเสว่
หูจิ้งซูเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มมันสมองคนสำคัญของตระกูลหู ภายใต้อารมณ์ฉุนเฉียวในตอนนี้แน่นอนว่าต้องดูมีอำนาจ
ลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเหล่านี้ เป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ จึงตกใจกับท่าทางที่มีอำนาจของหูจิ้งซู
สีหน้าเปลี่ยนในทันที
“คุณ กล้าที่จะแส่หาเรื่องเหรอ……?”
“คุณรอเดี๋ยวก่อน!”
ฉินซวนพาพวกวิ่งหนี แต่กลับสะดุดหินก้อนหนึ่งบนพื้น ล้มลุกคลุกคลาน
เด็กคนอื่นที่วิ่งตามมาต่างก็ล้มลุกคลุกคลานตามกัน หัวเข่าถลอกเป็นแผล
“เจ็บจัง……”
ฉินซวนเจ็บปวดมาก จู่ ๆเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง ร้องไห้เสียงดังขึ้นทันที
ฉินซวนร้องไห้ เด็กคนอื่นร้องไห้เสียงดังตามไปด้วย
ครู่เดียว เสี่ยงร้องดังแสบแก้วหู ดึงความสนใจผู้คนรอบข้าง
รวมถึงพ่อแม่ของพวกเขาด้วย
“เกิดเรื่องอะไรเหรอ?”
สองสามีภรรยาสวมเสื้อผ้าไหมหรูหราเดินเข้ามา สอบถามด้วยสีหน้าขึงขัง
ซึ่งเป็นพ่อแม่ของฉินซวน
“จื่อหาน เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
สองสามีภรรยาเดินมาอีกคู่หนึ่ง เข้าไปอุ้มหลินจื่อหานที่ล้มอยู่บนพื้น
“ใครรังแกลูก บอกพ่อแม่มาเดี๋ยวนี้ พ่อจะจัดการให้ลูกเอง!”
หลินจื่อหาน รีบชี้นิ้วไปทางหูจิ้งซูกับถังเสี่ยวลี้: “คุณพ่อคุณแม่ พวกคุณคงไม่รู้ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็คือลูกสาวของน้าชิงเสว่กับผู้ชายป่าเถื่อนคนนั้น ส่วน ผู้หญิงคนนั้น ก็ช่วยเหลือเด็กหญิงต่ำต้อย ผลักพวกเราล้งลงกับพื้น!”
“อะไรนะ?”
ได้ยินคำพูดนี้ พ่อแม่ของพวกเขา สีหน้าถมึงทึงขึ้นมาในทันที
พ่อแม่ตระกูลฉินและตระกูลถัง ก็แสดงท่าทีเช่นนี้เหมือนกัน มองไปทางหูจิ้งซูกับถังเสี่ยวลี้ ด้วยสายตาขึงขัง
ถังเฉา ที่อยู่ไม่ไกลนัก เผยแววตาเยือกเย็น
เขามองเห็นได้อย่างชัดเจน เด็กเหล่านั้นสะดุดล้มเอง
หูจิ้งซูรีบพูดอธิบาย: “ไม่มี พวกเขาสะดุดล้มกันเอง……”
“แกพูดจาเลอะเทอะ!”
ยังไม่ทันพูดจบความ ก็ถูกพ่อแม่ของหลินจื่อหานพูดตัดบท
พวกเขาขบเคี้ยวฟันมองดูหูจิ้งซูด้วยท่าทีดุดัน: “ลูกของพวกเราต่างก็พูดตรงกัน งั้นคุณต้องเป็นคนผลักแน่นอน หรือว่าพวกเขาสามารถหกล้มเองได้ด้วยเหรอ?”
“ฉันว่าคุณคงจะเบื่อชีวิตแล้วสินะ กล้าลงมือกับลูกหลานตระกูลฉินของพวกเรา คุณมาจากตระกูลไหน?”
สีหน้าหูจิ้งซูบูดบึ้ง ถังเสี่ยวลี้ยิ่งแบะปากใส่ และคิดถึงคุณพ่อ
“ยังไม่รีบพูดอีกเหรอ?”
แม่ของฉินซวนเดินมาด้านหน้าหูจิ้งซู ตบหน้าเธอเข้าอย่างจัง
แก้มของหูจิ้งซูปวดแสบปวดร้อน ตอบกลับด้วยท่าทีหงุดหงิด
“ฉันเป็นคนของตระกูลหูของเมืองเจียงเฉิง”
ผู้ปกครองสามครอบครัวของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูใบหน้าแสดงถึงความเหยียดหยาม: “ฉันคิดว่าเป็นใครที่ไหน ที่แท้เป็นคนตระกูลหู”
ก่อนที่จะมาที่เจียงเฉิง พวกเขาได้สืบข้อมูลไว้ครบถ้วนแล้ว รู้มาว่าเมืองเจียงเฉิงมีตระกูลใหญ่ทั้งหมดสามตระกูลใหญ่ ตระกูลหูก็คือหนึ่งในนั้น
“แค่ตระกูลหูเล็ก ๆ กล้าลงมือลูกของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูของพวกเรา คงจะเบื่อชีวิตมากสินะ!”
“ยังไม่รีบพาเด็กต่ำต้อยคนนั้น คุกเข่าต่อหน้าลูกของพวกเราพร้อมกันเดี๋ยวนี้!”
ผู้ปกครองทุกคนส่งเสียงดังด้วยท่าทีเหยียดหยาม เหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่จะต้องทำให้ได้
หูจิ้งซูปกป้องถังเสี่ยวลี้ไว้ข้างกาย กัดริมฝีปาก ไม่คิดจะประนีประนอม
ผู้ปกครองตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเหล่านั้นยิ่งเดือดดาล: “ไม่คุกเข่าใช่ไหม ได้ รอให้คนของพวกเราไปตระกูลหูเสียก่อน เรื่องจะบานปลายไม่ง่ายขนาดนี้นะ”
“ไม่ต้อง!”
สีหน้าหูจิ้งซูเปลี่ยนทันที ที่นี่ผู้ปกครองตระกูลหลวงในเยี่ยนตูมากันครบทุกคน เธอเพียงคนเดียว ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านได้
เธอจึงทำได้เพียงประนีประนอม
“ตกลง ฉันคุกเข่า!”
หูจิ้งซู กัดฟันกรอด ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ ร่างของเธอค่อย ๆคุกเข่าลง
หลินจื่อหาน ฉินซวน และเด็กคนอื่น ต่างก็หัวเราะเยาะเสียงดัง
และในขณะนั้นเอง กลับมีมือเข้ามาจับหัวไหล่ของเธอไว้จนแน่น เพื่อไม่ให้เธอคุกเข่ากับพื้น
หูจิ้งซู หันหน้าไปมอง เหมือนดั่งเห็นดาวนำโชคเข้ามากู้สถานการณ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี
“ถังเฉา?”
“พ่อ!”
ถังเสี่ยวลี้เองก็แสดงสีหน้าดีใจ สีหน้าไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ถังเฉา เดินตรงเข้ามาอยู่ด้านหน้าพวกเธอ กวาดสายตาดูตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเหล่านั้นช้า ๆ
“ลูกสาวของผมให้พวกคุณรังแกง่าย ๆได้เหรอ?”